โดนลอกเข้าซะแล้ว!!จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย?

By  คิงเพนกวิน

 

เมื่อไม่นานมานี้ดิฉันเพิ่งโดนก็อปปี้นิยายไปลงในเวบเด็กดี    โดยที่ผู้คัดลอกไม่ได้บอกกล่าวดิฉันแต่อย่างใด.....เป็นเหตุให้ดิฉันดำเนินคดีตามกฎหมาย   และเป็นกลายเป็นหัวข้อให้เม้าท์แตกทางอินเทอร์เน็ต(ในเวบพันทิป)อย่างครึกโครม   จนทาง

เวบพันทิปดอทคอมนั้น   ปักหมุดเรื่องนี้เอาไว้กรณีตัวอย่างเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นที่โดนละเมิดลิขสิทธิ์งานเขียนค่ะ

 

เรื่องราวของคดีการก็อปปี้ ลอก  นิยาย แฟนฟิค ชันและบทความ    ดูจะไม่หมดไปเสียที     หลังจากที่คดีของดิฉันจบลงมาหลายวันแล้วถึงค่อยได้มีแก่ใจมาเขียนเรื่องราวที่ผ่านมาได้    เพราะช่วงก่อนหน้านี้รู้สึกปวดหัวไม่อยากนึกถึงอีก    ระหว่างนี้ดิฉันก็เฝ้าแต่ภาวนาว่ากรณีของดิฉันจะกลายเป็นกรณีตัวอย่าง    เป็นการเชือดไก่ให้ลิงไม่มีสมองดู    แต่เปล่าเลย...เรื่องลอกยังมีต่อไปดิฉันไม่ใช่คนสุดท้ายแน่นอน   ตราบใดที่คนลอกยังไม่มีจิตสำนึก    ทีแรกดิฉันก็คิดว่าจะเขียนบทความนี้อย่างไรดี?  เป็นบันทึกเรื่องของตัวเองแต่ทำอย่างไรให้มีประโยชน์กับคนอื่นที่สุด   หลังจากคดีนี้แพร่ออกไปก็มีเพื่อนร่วมชะตากรรมหลายคนเข้ามาพูดคุยเล่าประสบการณ์ของตนเอง   บางคนเรื่องราวผ่านพ้นไปแล้ว   บางคนกำลังอยู่ระหว่างคดี   ก็มาขอปรึกษาว่าควรทำอย่างไรบ้าง    ทำให้ดิฉันตัดสินใจได้แล้วว่าเขียนอย่างไรดี ^_^

 

ก่อนอื่นต้องขอเล่าเรื่องของตัวเองก่อนแบบย่อๆ  เดิมทีนั้นดิฉันไม่ได้เริ่มอาชีพ

ด้วยการเขียนนิยาย    วันๆ ก็เขียนแต่การ์ตูน  แปลหนังสือการ์ตูนมั่ง  มีชีวิตอยู่กับการ์ตูนมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ   แล้ววันดีคืนดีก็ไปปิ๊งพระเอกในภาพยนตร์จีนเข้า...มันเป็นรักแรกพบค่ะ    ผู้ชายคนนั้นชื่อ "เจิ้งอี้เจี้ยน" เค้าเล่นเป็น "เนี่ยฟง" ในภาพยนตร์จีนกำลังภายอภิมหาเอฟเฟคเรื่อง "ฟงอวิ๋น"  ด้วยความปลื้มมากไปหน่อย    และคงไปกระตุ้นต่อมเข้า Y (ต่อมที่มีเฉพาะในหญิงสาวผู้นิยม Boys's love) เลยชอบเรื่องนี้มากเพราะนางเอกตายกลางเรื่องปล่อยให้พระเอกซึ่งรูปหล่อทั้งคู่    อยู่กันไปประสาพี่น้องร่วมสำนักโดยไม่มีชะนีมาขวาง...ช่างดีอะไรเช่นนี้ ..ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

จึงกลายมาเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิต(ที่เขียนจบ)  และจุดประกายเริ่มเป็นนักเขียน  คือเรื่อง "ฟงอวิ๋นฉบับเฮฮา" ซึ่งเป็นแฟนฟิคชันล้อเลียนภาพยนตร์ค่ะ   ดังนั้นดิฉันจึงมีความผูกพันกับฟงอวิ๋นฉบับเฮฮานี้เป็นพิเศษ    ใช้เวลาเขียนอยู่หลายเดือนตั้งแต่มีนาคม ปี 2002  ไปถึงสิ้นปี     และโพสลงในอินเทอร์เน็ตด้วยความที่มันเป็นเรื่องตลกเลยมีคนอ่านเยอะ   และมีเพื่อนๆเชียร์ให้ทำออกมาเป็นหนังสือทำมือ    เลยโทรไปขออนุญาต สนพ.บูรพัฒน์ (ใจดีมั่กๆ)ทำออกขายในงานการ์ตูนของสำนักพิมพ์ VBK  แล้วนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นการเขียนนิยายของดิฉัน(รวมทั้งค้นพบว่าแท้จริงแล้วดิฉันเป็นสาว Y หลังจากที่สับสนมานานในที่สุดดิฉันก็สว่างจิตเปิดเผยเสียที)  จากนิยายเรื่องแรกเป็นต้นมาดิฉันก็เริ่มมีงานอดิเรกการเขียนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปีนี้อยู่ดีๆ ก็มีคนมาบอกว่านิยายโดนลอก    เลยเข้าไปดูที่เกิดเหตุในเวบเด็กดีด้วยความงง...วู้...ตูดังแล้วมีคนลอก ..เฮ้ย...ไม่ใช่...ลอกทั้งดุ้นเลยนี่หว่า...เช็ด!!

 

แต่เนื่องจากนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนลอก....แต่เป็นครั้งที่ 4 แล้ว   ดิฉันจึงตัดสินใจว่าพอกันที...กรู..เอ้ย ดิฉันสุดทนแล้ว!!   เอาล่ะค่ะ...ตรงนี้เป็นจุดที่หากพบเห็นการลอกทุกท่านเก็บข้อมูลทันที 

 

1.เซฟหน้าจอนั้นไว้ด้วยปุ่มคำสั่ง Print Screen ทันที แล้วไปแปะในโปรแกรม

โฟโต้ชอป  หรือเพ้นท์ก็ได้ค่ะ   เก็บไว้ไฟล์ใหญ่ๆ ให้อ่านชัดๆ ด้วยนะคะ

 

2.เซฟรายละเอียดภายในทุกอย่าง  ทุกตอนที่โพส อย่างให้ตกสักตัวอักษร

 

3.ทำไฟล์เปรียบเทียบกับงานของเรา   และขุดหากระทู้ที่เราเคยโพสไว้ก่อนหน้านี้มาเทียบเป็นหลักฐานทางเวลาว่าใครโพสก่อน

 

4.อย่าเพิ่งแหกปากด่าใดๆ ทั้งสิ้น   แม้ว่าคุณจะโกรธมากแค่ไหนก็ตาม  อย่าด่าลงไปในอินเทอร์เน็ต   เดี๋ยวมันลบหลักฐานทิ้งล่ะก็แย่เลยนะ  ไม่มีอะไรไปแจ้งความกันล่ะทีนี้    และอย่าไปหวังว่าด่าไปแล้วจะขอให้ออกมาชี้แจงยอมรับผิดง่ายๆนั้น    ฝันไปเถอะค่ะ!!   ดิฉันไม่เคยเห็นนักลอกคนไหนยอมรับผิดทันทีที่ถูกจับได้    ถ้าสำนึกได้คงไม่มีการลอกตั้งแต่ต้น    จะมีแต่ตะแบงสีข้างว่าตนเองไม่ได้ลอกจนกระทั่งจำนนต่อหลักฐานนั่นแหละค่ะ    ซึ่งกว่าจะถึงตรงนั้นนี่ก็ด่ากันไปหูดับตับไหม้   กลายเป็นกระทู้ร้อนไปเรียบร้อยแล้ว    เสียอารมณ์เปล่าๆ ค่ะ   เก็บไว้ด่ามันรวดเดียวตอนตั้งกระทู้แจ้งความดีกว่าสะใจกว่าเป็นไหนๆ ค่ะเชื่อดิฉันเต๊อะ!!

 

5.ถ้าคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าจะทำฉันใดต่อไปดี    อย่าเพิ่งฟูมฟายว่าทำไมต้องลอกฉัน   ทำไมไม่ลอกคนอื่น   ความโชคร้ายทั้งโลกทำไมต้องวิ่งมาหาฉัน    โปรดระงับสติอารมณ์ไว้ก่อน    แล้วลองถามตัวเองก่อนว่า...ต้องการอะไรกับศึกครั้งนี้   มีความพอใจในระดับไหน?  เช่น

- ด่าประจาน  ก็พอใจแล้ว

- ให้มันลบเรื่องและขอโทษมา

- เอาเรื่องให้ถึงที่สุด

- เรียกค่าเสียหาย

เมื่อคิดออกแล้วก็เริ่มวางพ็อต   จงใช้ความสามารถของนักเขียนนิยายให้เป็นประโยชน์

คิดเสียว่าตัวเองเป็นพระเอก-นางเอก  ในเรื่องนี้     แล้วจัดการวางแผนพยายามทำให้ทุกอย่างอยู่ในพ็อตในที่กำหนดให้ได้    แม้จะมีอุปสรรคก็ต้องตีกรอบเอาให้อยู่   คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกค่ะ   นี่เป็นอีกบทพิสูจน์ของการเป็นนักเขียน

 

6. ถ้ายังคิดไม่ออกบอกไม่ถูกให้ย้อนกลับไปที่ข้อ 4 ใหม่  แล้วโทรหาใครสักคน   ที่ไม่ใช่คนที่จะมาเพิ่มอารมณ์โกรธให้เรา    แต่เป็นคนที่ใจเย็นและมีสติกว่าพอที่จะรับฟังเหตุการณ์และให้คำปรึกษาที่ดีได้    เช่น  พ่อแม่  ครอบครัว  รุ่นพี่  บก. ฯลฯ  เสร็จแล้วก็ย้อนกลับอ่านข้อ 5 อีกครั้งค่ะ

 

7.ไปแจ้งความสิเคอะ....ในเวลานั้นดิฉันคิดง่ายๆ ว่าถูกขโมยขึ้นบ้านก็แจ้งความเท่านั้นเอง   อย่าคิดว่านี่เป็นการทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่    เพราะว่าเราเป็นเจ้าทุกข์ต้องปกป้องสิทธิของตนเองไม่งั้นแมวที่ไหนจะมาปกป้องล่ะคะ?   ทีนี้การไปแจ้งความต้องเตรียมตัวนิดหน่อยค่ะ    ดังนี้

 

7.1 เตรียมเอกสาร   ปริ๊นไฟล์ลอกกะไฟล์เปรียบเทียบไปยืนยัน

 

7.2 บัตรประชาชนของตัวเอง  และชื่อของคนลอก  ไม่รู้ชื่อจริงไม่เป็นไรค่ะ  นามปากกาก็ได้

 

7.3 อย่ากลัวตำรวจ  อย่ากลัวที่จะต้องบอกเล่าเรื่องของเรา   อย่ากลัวเวลาคนรอบข้างมาเป่าหูให้เสียเซลฟ์ว่าฟ้องร้องไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก    ถ้างอมืองอตีนก็นั่งร้องไห้สมเพชตัวเองอยู่กะบ้านไปเถอะค่ะ     แล้วปล่อยให้คนผิดลอยนวลต่อไปอย่างลัลล้า    นิสัยคนไทยเรามักจะเลือกประนีประนอม หรือช่างมันเถอะ   ถือว่าฟาดเคราะห์ไป...แต่ถ้าปล่อยไปเรื่องนี้จะกลายเป็นแผลเป็นในใจเราเองไปตลอดชีวิต  คิดขึ้นมาครั้งใดก็อยากจะฟาดงวงฟาดงา   เวลานั้นย้อนกลับมาไม่ได้ดังนั้น....ฆ่ามันไปเถอะค่ะ(ไม่ใช่ฆ่าคนลอกนะ)    ฆ่าความรู้สึกเจ็บปวดนี้ด้วยการพิทักษ์สิทธิของตนเอง  

 

7.4 อย่าคิดมากว่าเรื่องของเราเป็นแฟนฟิคชัน  หรือเป็นเรื่อง Y เป็น เรื่อง

เลสเบี้ยน แล้วจะไม่รับฟ้อง    ก็คงจะเห็นว่าเรื่องของดิฉันเป็นแฟนฟิคชันก็ยังดำเนินคดีได้เช่นกันค่ะ    ถ้าอายตำรวจว่า Y ก็ไม่ต้องบอกเขาหรอกค่ะว่ามัน Yเพราะจุดหลักมันไม่ได้อยู่ที่ว่าเรื่องมีเนื้อเรื่องอย่างไร   แต่จุดหลักอยู่ที่ใครเป็นผู้เขียนที่แท้จริง ว่าใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ค่ะ

 

7.5 ถ้าไม่รู้กฎหมายก็ไม่เป็นไรอีกค่ะ   ก็ไปถามตำรวจนั่นแหละค่ะดีที่สุดที่ปรึกษาที่ดีเลิศ     ตอนดิฉันเองก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้เท่าไรก็เดินไปเล่าให้ตำรวจฟังว่ามันอย่างนี้ๆๆๆ นะคะ ทำไงดีคุณตำรวจก็จะให้คำปรึกษาว่าทำอะไรได้บ้าง?

 

แต่มีเคล็ดรับนิดหนึ่งนะคะ.....จงไปอย่างผู้ขอความช่วยเหลือพูดจากับคุณตำรวจด้วยความสุภาพอย่างใส่อารมณ์เขาไม่ใช่ขี้ข้าเรา   หลายคนมักคิดว่าตำรวจเป็นคนที่เราเสียภาษีให้การช่วยคดีเรานั่นเป็นหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว....ถ้าคิดแบบนั้นอาจจะไปทะเลาะกับตำรวจเสียเองก่อนจะได้ดำเนินคดี   ดังเช่น....หลายคดีๆ ที่เคยเห็น     ตำรวจเค้าก็เรื่องเยอะอยู่แล้ววันๆ มีแต่คนแบกความทุกข์ไปให้  ดังนั้น....ตำรวจจะบูดง่ายสักหน่อยถ้าให้คำปรึกษาแล้วแล้ว...เราตอบว่ายังไม่รู้เลยค่ะ  ว่าจะทำไงดี เพราะฉะนั้นขอให้คิดไปก่อนเลยว่าอยากทำอย่างไร  แล้วถามเขาว่าเราทำได้มั้ย? แบบนี้ดีกว่าค่ะ  รับรองว่าได้รับการดูแลที่ดีอย่างที่ดิฉันได้รับแน่ๆ 

 

หมายเหตุ: ถ้าเป็นคุณผู้หญิงช่วยแต่งตัวสวยๆ  ยิ้มหวานๆ เข้าไว้   แล้วพูดเพราะคุณตำรวจคะ...คุณตำรวจขา...ช่วยหนูหน่อยนะคะ....ปิ๊ง ปิ๊ง(สวยไม่สวยไม่ใช่ปัญหา   พูดจาเพราะๆ หวานๆ เข้าไว้....นี่คือสิ่งที่เราได้เปรียบเจ้าทุกข์ผู้ชายค่ะ   ดังนั้นยิ้มเข้าไปเถอะ...ถ้ายิ้มแล้วชัยชนะจะอยู่เคียงข้างเราค่ะ   เพราะถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจรับฟังแบบแกนๆ เราจะเพิ่มความกังวลมากขึ้น   แต่ถ้าเราสามารถทำให้เขาเต็มใจช่วยเหลือพลังใจเราก็เพิ่มขึ้นค่ะ)  บรรยากาศการสอบสวนจะดีขึ้นมากไม่เคร่งเครียด    ไม่โดนคำถามฟังแล้วปวดตูดที่ฟังอยากฟ้องหมิ่นเจ้าหน้านี้ไปด้วยอีกระทง ฯลฯ

 

8.เมื่อได้ใบแจ้งความแล้วก็นำใบนี้ไปให้กับเวบมาสเตอร์เวบนั้นๆ  ไม่ว่าจะเป็น เด็กดี  พันทิป  ฯลฯ  เพื่อขอข้อมูลคู่กรณี     ถ้าอยู่ๆ ไปแฮกเองผิด กม.ค่ะ  ทางนั้นอาจจะหัวหมอฟ้องเรากลับได้ว่าละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคล     ดังนั้นก่อนแฮกกรุณาไปแจ้งความก่อนแล้วค่อยแฮกมันค่ะ  

 

9.เมื่อได้ข้อมูลทุกอย่างแล้ว   ก็นำไปให้ตำรวจอีกครั้งเพื่อออกหมายเรียกคูกรณีมาเจรจาถ้าเรียกแล้วไม่มา 3 ครั้ง  เขาจะออกหมายจับค่ะ    ถ้าไม่มาก็คุกนะคะ^_^

 

10.คำเตือน...หลังรู้ตัวว่าโดนลอกกรุณาดำเนินการแจ้งความภายใน 3 เดือน ไม่อย่างนั้นคดีเป็นโมฆะ(แต่ขุดย้อนหลังมาฟ้องศาลได้ภายใน 3 ปีนับจากที่รู้)    สรุปว่าอย่าอืดอาดจัดการทุกอย่างให้เร็วที่สุด   ไม่อย่างนั้นเราเองจะเป็นฝ่ายเหนื่อยล้า    ส่วนผู้ต้องหาแรกๆ จะกลับเราหลังๆ มันอาจจะดื้อแพ่งได้ดังนั้น   พยายามทำทุกอย่างให้จบ 2 อาทิตย์อย่ายืดเยื้อกว่านี้ค่ะ 

 

ในกรณีของดิฉันคดีจบลงใน 11 วัน   อาจจะต่างจากข้อแนะนำออกไปนิดหน่อยเพราะว่าถ้าออกหมายเรียกแล้ว    ทางตำรวจจะส่งหมายนี้ไปที่บ้านผู้ต้องหาทางไปรษณีย์    ดิฉันคิดว่าคู่กรณีของดิฉันยังพอพูดคุยได้    จึงขอหมายเรียกนั้นมาสแกนส่งให้คู่กรณีเองโดยตั้งใจว่าถ้าไม่มาจะส่งไปที่บ้านล่ะนะ    เรื่องของดิฉันจบลงด้วยดีเพราะคู่กรณียอมมาเจรจาและทำหนังสือขอโทษยอมรับผิดทุกประการให้   ดิฉันจึงไม่ติดใจเอาความใดๆ    เพราะว่า....ถ้าเอาความกันแล้ว   คดีละเมิดลิขสิทธิ์ถือเป็นคดีอาญาค่ะไม่อาจยอมความกันภายหลังได้    ถ้าเรื่องถึงศาลแล้วเว้นแต่จะมีฝ่ายเจ้าทุกข์จะถอนฟ้อง     และผู้ละเมิดจะถูกลงประวัติไว้ในทะเบียนการศึกษา   ซึ่งมีผลต่อชีวิตในอนาคต  เช่น   ไม่สามารถรับราชการได้   หรือบริษัทใหญ่ๆ อาจไม่ต้องการรับพนักงานที่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อนค่ะ    

 

            ดังนั้นความมักง่ายสิ้นตื้นๆ ที่ต้องการของผู้อื่นไปประดับเวบตัวเอง  หรือต้อง

การคำชมเล็กๆ น้อยนั้น   อาจทำให้ต้องเสียใจทั้งชีวิตก็ได้ค่ะ    ดังนั้นคิดหนักๆ คิดนานๆ ก่อนจะลอก     การอ้างคำว่า "ไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย"  หรือ "ไม่ได้ตั้งใจ"  ใช้ให้การต่อหน้าตำรวจหรือศาลไม่ได้ค่ะ     ทั่วโลกนั้นมีกฎหมายเหมือนกันอย่างหนึ่งคือ   ห้ามกล่าวอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย   ยกเว้นคนๆ นั้นเป็นสติไม่สมประกอบ  ฟั่นเฟือน  ปัญญาอ่อน  หรือคนป่าไม่เคยรับการศึกษามาก่อน   อย่างเช่น  คุณทาร์ซาน  ถือว่ายกเว้นให้ค่ะ    พื้นฐานของกฎหมายนั้นมาจากคำว่าศีลธรรม     ถ้าถามศีลธรรมในตัวเองก็จะไม่ทำผิดกฎหมาย   หรือเอาอย่างง่ายๆ มันคือ "มารยาท" ค่ะ 

 

มีกรณีหนึ่งซึ่งขอยกมาพูดคุยตรงนี้นะคะ   กรณีของ  คุณพัณณิดา  ภูมิวัฒน์ นักเขียนวรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง    ถูกลอกจากหนังสือที่ตีพิมพ์แล้วไปลงในอินเทอร์เน็ตโดยสวมชื่อทับ     จนเจ้าตัวไปพบเข้าจึงได้อีเมล์ไปแจ้งเตือนโดยส่งกระทู้คิงเพนกวินกินเหยื่อ เอ้ย แจ้งความดำเนินคดีไปให้ดูเป็นตัวอย่าง     เพราะไม่อยากจะให้เป็นเรื่องใหญ่อีกฝ่ายเป็นแค่นักเรียนชั้นมัธยมต้นเท่านั้น      น้องคนนั้นเมล์ตอบมาด้วยประโยคสุดฮิตว่า "ไม่รู้ว่าทำผิดกฎหมายอยู่" <--เซ็งป้าด   และตบท้ายด้วยบอกว่าสบายใจได้ลบแล้วด้วยถ้อยคำง่ายๆ  ที่ดูจะไม่ค่อยสำนึกเท่าไรแค่กลัวโดนเอาเรื่องเท่านั้น    ดิฉันรู้สึกว่าคุณพัณณิดาเธอใจดีเหลือหลาย    ถ้าเป็นดิฉันจะฟ้องผู้ปกครองค่ะ....โดนแม่ตีแน่ๆ น้องหนู ฮ่า ฮ่า ฮ่า!! 

 

หรืออีกกรณีหนึ่งเป็นพี่สาวที่นับถือกันขอเรียกเธอว่า "พี่สาวเก้าหาง" ก็แล้วกันค่ะ  พี่สาวเก้าหางเล่าให้ฟังว่า  เพื่อนของเธอเขียนแฟนฟิคชันศิลปินวงโปรด F4     ซึ่งเป็นการเขียนให้อ่านกันในกลุ่มแฟนคลับเท่านั้นอยู่มาวันหนึ่งพี่สาวเก้าหางเดินมาบุญครอง  พบเห็นหนังสือของของเพื่อนๆ พิมพ์ออกมาเป็นเล่มอย่างงดงามวางขายในร้าน CD  โดยไม่ได้โดนสวมชื่อแอบอ้าง    แต่หยิบนิยายไปหากินเลยล่ะค่ะ    เมื่อแรกเธอตกใจมากถึงขั้นช็อคและวิตกว่าเป็นแฟนฟิคชันจะดำเนินคดีได้หรือไม่ซึ่งทำได้ค่ะ     จึงยกขบวนผู้โดนลอกทั้งหลายไปแจ้งความด้วยกัน    แต่ด้วยความเห็นแก่ตัวของคนบางกลุ่มที่กลัวเรื่องจะมาถึงตัว   ร้านค้าเหล่านั้นเก็บหนังสือขึ้นทำเหมือนไม่เคยมีวางขาย   ทำให้เรื่องราวเงียบหายไป   ส่วนตัวพวกพี่ๆ เองเจ็บใจ เสียทั้งเวลาและความรู้สึก   บางคนถึงกับเลิกเขียนไปเลยเพราะหมดกำลังใจ    แม้จะทำอะไรไม่ได้มากมายดังใจคิด    แต่อย่างน้อยก็พิทักษ์สิทธิ์ตัวเองได้ระดับหนึ่งกลุ่มคนชั่วร้ายนั่นก็ไม่กล้านำออกขายตัวอย่างที่ได้ยกมาทั้งหมดนี้รวมทั้งกรณีของดิฉันเองด้วย    แสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับความกระตือลือล้นของเจ้าของผลงานนั้นๆ    ถ้าเจ้าของผลงานไม่เอาเรื่องเอาราวหรือช่วยเหลือตัวเอง     ใครเลยจะปกป้องช่วยเหลือได้ตลอดรอดฝั่ง  

 

และมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้คนมักง่าย....ไร้จิตสำนึก  บ้างนั่นคือ.....ขอให้นึกถึงใจเขาใจเราบ้าง    ทั้งนี้ไม่ว่า

 

[ไม่ว่าจะนักเขียนนิยายอาชีพ หรือ นิยายทำด้วยใจรัก ย่อมมีค่าสำหรับผู้เขียนเสมอ  และคุณค่านั้นไม่อาจตีค่าเป็นเงินทองได้   เพราะมันเป็นคุณค่าทางความรู้สึกซึ่งประเมินราคาไม่ได้]

 

ดิฉันก็ได้แค่พูด  ได้แต่เขียนเตือน....ทั้งนี้ไม่มีโปรแกรมใดสามารถป้องกันการลอกได้ยกเว้นแต่...โปรแกรมชื่อจิตสำนึกเท่านั้น!!

 

ลิ๊งค์ที่เกี่ยวข้องค่ะ....เชิญไปทัศนศึกษาได้

วิธีดำเนินการและรายละเอียดต่างๆ อยู่ในกระทู้ค่ะ

 

กระทู้ต้นเรื่องหลังจากที่รู้ว่าโดนลอก

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4543562/W4543562.html

กระทู้ไปแจ้งความ

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4547016/W4547016.html

กระทู้ของ Char ผู้เสียหายร่วม

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4550376/W4550376.html

กระทู้หมายเรียก

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4556494/W4556494.html

กระทู้ปิดคดี

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W4578580/W4578580.html


คิงเพนกวิน

to_darkace@yahoo.com

6/09/06

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

86 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
watermelon_ka Member 22 พ.ย. 49 18:12 น. 5
ให้ความรู้อย่างยิ่ง

ชอบตอนที่บอกให้ข่มสติจังค่ะ เพราะว่าเป็นใครคนๆนั้นคงจะประจานเป็นอย่างแรก มายเนี่ยแหละคนนึง
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
GalL \' S ARCH+_*แฟนเดก\' ถาปัด Member 1 ธ.ค. 49 15:19 น. 14

เราก็เคยโดนอะ เค้ามาแนวแบบเป็นแฟนคลับเราพอเสร็จแล้วก็ออนเอ็มมาคุยกับเรา เสร็จแล้วก็เอาโครงเรื่องเราไปแต่งเป็นเรื่องใหม่ที่แม้แต่เด็ก 3 ขวบก็รู้ว่าโครงเรื่องอะแบบว่าของเราทั้งนั้น แบบว่าเป็นแนวแฮร์รี่ พอตเตอร์อะ กับทายาทของคนที่รู้ว่าใคร เราเสียความรู้สึกอย่างแรงเลย แบบว่าอะไรอะ ก็ไหนว่าเป็นแฟนไง แล้วทำแบบนี้อะนะ แล้วยังมีหน้ามาคุยกับเราแบบปกติมาก ๆ อะ เรานี่โกรธมากเลย แต่มันเป็นฟิคไม่รู้จะเอาเรื่องยังไง เราเลยไม่แต่งเรื่องของเราต่อเลยเพราะเสียทั้งความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้ เสียทั้งอารมณ์ที่อุตส่าห์แต่งจนจบเรื่องแล้วกำลังจะเอามาลง

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
les_so Member 3 ธ.ค. 49 11:58 น. 16
เราเคยไปโพสต์ในกระทู้ต่างๆให้กำลังใจคิงเพนกวินแล้วนะจ๊ะ



ดีใจด้วยที่เรียกสิทธิ์กลับคืนมาได้ ถึงอีกฝ่ายจะเป็นเพื่อนก็เหอะ...


อย่างนี้เรียกว่าเพื่อนอยุ่หรอ???~
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
~แนนซ่า~ Member 5 ธ.ค. 49 16:06 น. 19

เราเเนนมาเยี่ยมเราบ้างก็ได้นะค่ะอิอิน่ารักมากๆๆมาเลยค่ะไม่ต้องผิดวังนะค่ะเพลงไม่รู้เปงไรเด๋วจะแก้ไขให้นะค่ะไม่ต้องกางโวนนะค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด