ว่ากันว่า อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่ทุกคนใฝ่ฝันกันมากที่สุด แต่คนที่พร้อมจะลงมือทำมีไม่ถึงครึ่ง และพี่แบงค์ก็เชื่อว่าน้องๆ นักเขียน Dek-D.com หลายคนก็มีความฝันที่จะประกอบอาชีพนักเขียนนิยาย ก็ขอแสดงความชื่นชมน้องๆ ทุกคนที่มีความใฝ่ฝันแบบนี้นะครับ แต่ก่อนที่น้องจะฝันไปไกล น้องต้องตอบคำถาม 5 ข้อนี้ให้ได้ก่อนนะว่า... 1. พร้อมที่จะเปลี่ยนนิสัยและวิถีชีวิตหรือเปล่า เพราะการทำอาชีพเป็นนักเขียนนิยาย น้องจะเรื่อยเปื่อยเฉื่อยแฉะแบบเมื่อก่อนไม่ได้ เพราะขึ้นชื่อว่า "อาชีพ" ก็แปลว่าน้องต้อง "ทำงาน" ซึ่งต้องมีตารางเวลาทำงานและระเบียบวินัยเป็นของตัวเองเหมือนกับที่ทำงานที่อื่นๆ เพียงแต่ตัวน้องคือ "เจ้านาย" ของตัวเอง 2. พร้อมที่จะปรับแนวคิดและทัศนคติของตัวเองหรือเปล่า การเขียนนิยายถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง แต่เมื่อไหร่ที่ศิลปะนั้นกลายเป็น "ศิลปะเพื่อการพาณิชย์" นั่นแปลว่าน้องต้องสามารถเข้าใจแนวทางการทำงานของสำนักพิมพ์แต่ละแห่งซึ่งมีไม่เหมือนกัน จะติสแตกกับบ.ก.ไม่ได้ ถ้าเขาต้องการให้ปรับแก้ยังไง ก็ควรหาทางจูนความคิดของเรากับเขาให้ตรงกัน 3. ชอบอ่าน ชอบเขียน มากแค่ไหน เป็นปัญหาอย่างหนึ่งของน้องๆ ในช่วงมัธยม ซึ่งเป็นวัยกำลังค้นหาตัวเองและหลงตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเราชอบอะไรกันแน่ และสิ่งที่เราชอบนั้นเราชอบมันจริงๆหรือเปล่า นักเขียนอาชีพ ต้องสามารถอ่านหนังสือได้ทุกประเภท แม้แต่หนังสือที่ไม่ได้ชื่นชอบเป็นพิเศษ ชอบเขียนหนังสือทุกวัน ชนิดที่เรียกว่าไม่เขียนไม่ได้เลย ถ้าน้องยังไม่ถึงขั้นนั้น น้องจะลำบากมาก ถ้าจะยึดอาชีพนักเขียน ในตอนนี้น้องอาจจะกำลังสนุกกับการเขียนนิยาย และคิดว่าฉันเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียนเท่านั้น แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง น้องอาจจะค้นพบว่าจริงๆ แล้วเราแค่ชอบเขียนเล่นๆ ให้เพื่อนอ่านขำๆ ก็ได้ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง น้องยังมีเวลาค้นหาตัวเองอีกเยอะ พี่เชื่อว่าวันหนึ่งน้องต้องตอบข้อนี้ได้แน่ๆ 4. ช่างจด ช่างสังเกต และใฝ่หาความรู้หรือเปล่า การหาข้อมูลของผู้ทำอาชีพนักเขียนนิยาย เขาไม่ได้แค่หาข้อมูลจากในเว็บกูเกิลเท่านั้น แต่ยังต้องจดบันทึกสิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว รวมไปถึงหาข้อมูลจากแหล่งความรู้นอกสถานที่ เช่น หอสมุดแห่งชาติ พิพิทธภัณฑ์ นิทรรศการ หรือขอสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้วย และจำเอาไว้เสมอว่าน้องต้องทำตัวใหม่เหมือนฟองน้ำ ที่ดูดซับความรู้อยู่เสมอ 5. "ประกันความเสี่ยง" มีมั้ย? ไม่ได้แปลว่าน้องต้องไปทำประกันภัยนะครับ ประกันความเสี่ยงในที่นี้หมายถึง อะไรก็ตามที่จะช่วยให้น้องใช้ชีวิตได้โดยที่ไม่ขัดสนเรื่องค่าใช้จ่าย เช่น มีเงินเก็บสะสม มีรายได้เสริม ครอบครัวสนับสนุน (หรือมีแฟนช่วยเลี้ยงดู ก็ว่ากันไป) ที่ต้องมีประกันความเสี่ยงนั่นเป็นเพราะอาชีพนักเขียนไม่ได้มีรายได้ที่เข้ามาสม่ำเสมอเหมือนกันอาชีพอื่นๆ ถ้าน้องไม่ได้เป็นนักเขียนระดับ Bestseller ตลอดกาลอย่างทมยันตี กิ่งฉัตร ณารา หรือเจเคโรลลิ่ง เกิดวันหนึ่งน้องหยุดเขียนขึ้นมา น้องก็จะไม่มีเงินไว้กินไว้ใช้กันพอดี  ที่พี่แบงค์เขียนบทความนี้ ไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่สนับสนุนให้น้องเป็นนักเขียนนิยายมืออาชีพนะครับ แต่พี่ต้องการจะชี้แนะให้น้องได้รู้ว่า การเขียนนิยายเป็นอาชีพนั้น น้องต้องทุ่มเทมากแค่ไหน อย่างที่บอกครับ การเป็นนักเขียนนิยายนั้นใครๆ ก็เป็นได้ แต่คนที่จะมายืนตรงจุดสูงสุดได้ มีไม่กี่คนครับ อยากให้น้องลองมองตัวเองกันให้มาก ถ้าน้องมีความมุ่งมั่นจริงๆ พี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้น้องทำความฝันนั้นให้เป็นจริงครับ แต่ถ้าน้องยังไม่แน่ใจตัวเอง ก็ขอให้น้องสนุกกับการเขียนนิยายในตอนนี้ดีกว่า ว่าแต่น้องๆ ล่ะครับ ตอบคำถามเหล่านี้ได้หรือยัง?  |
ตอบคำถามนี้ให้ได้ก่อนนะ ถ้าฝันจะเขียนนิยายเป็นอาชีพ
พี่แบงค์
- Community Master
Community Master ประจำเว็บไซต์ Dek-D.com
94 ความคิดเห็น
ผู้รักอิสระอย่างหนู เป็นนักเขียนไม่ได้สินะ T^T
ออกไปทางงานอดิเรกกับอาชีพเสริมมากกว่า=w=
:)
พร้อมที่จะเปลี่ยน พร้อมที่จะปรับ แต่โอกาศมันไม่เอื้ออำนวย ^^ แต่ก็ขอสู้ต่อไป ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเพียงนักเขียนฝึกหัดเล่นๆ แต่จะพยายามปรับปรุงและผ่านมันไปให้ได้ค่ะ ^^
เป็นข้อคิดที่ดีมากๆเลยค่ะ
มาลองนั่งคิดนอนคิดดู ก็คิดว่าชอบแนวนี้จริงๆ อยากเป็นนักเขียนจริงๆ ค่ะ
เพราะเราก็อ่านหนังสือเยอะอยู่แล้ว