![](https://image.dek-d.com/contentimg/2014/nong/technic/4(1).png)
สุนทรภู่เป็นกวีในช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) จนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ผลงานที่มีชื่อเสียงและต้องมีประจำในแบบเรียนภาษาไทยก็เช่น กลอนนิทานพระอภัยมณี สิงหไกรภพ นิราศสอนหญิง นิราศเมืองแกลง ขุนช้างขุนแผน ฯลฯ พี่น้องเชื่อว่าทุกคนรู้ประวัติท่านดีอยู่แล้วล่ะ (เพราะโดนอาจารย์ให้จัดบอร์ดหน้าชั้นเรียนกันใช่ไหม) เพราะงั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง มาทำกิจกรรมกันดีกว่า
รู้ประวัติท่าน ไม่สู้รู้วิชา วันสุนทรภู่นี้หลายคนคงโดนอาจารย์ให้แต่งกลอน อย่าเพิ่งเบื่อกันเสียก่อนนะ กิจกรรมที่พี่น้องเอามาให้นี้ก็เป็นแต่งกลอนเหมือนกัน แต่ในเมื่อปัจจุบันนี้เรามักเสพสื่อที่เป็นร้อยแก้วมากกว่าร้อยกรอง พี่น้องว่ามันน่าจะสนุกดีถ้าเราเอานิยายที่เราอ่านกันอยู่ทุกวันมาทำเป็นร้อยกรองเสีย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2014/nong/BG%26Icon/writer03.png)
คนที่แต่งได้งามชดช้อยราวกับนกยูงรำแพนจะมีของรางวัลเป็นนิยายเรื่อง เงามยุรา พร้อมที่คั่นหนังสือสวยๆ เอาไปอ่านเรื่องเต็มต่อเลย
![](https://image.dek-d.com/contentimg/2014/nong/technic/cover_mayura.jpg)
นงนุชเฝ้ามองด้วยความตื่นตะลึง ยิ่งเห็นร่างสะโอดสะองในชุดแปลกตาเคลื่อนผ่านไปมาราวกับเงาดำ ใจก็เต้นระทึกด้วยความอยากรู้ กระทั่งเงานั้นเคลื่อนออกจากหมู่ผ้าที่โรยตัวบดบัง มายืนอยู่ปลายเตียงต่อหน้าหิ้งบูชาผีปู่ย่าซึ่งประดับด้วยขนนกยูง นงนุชจึงได้แต่อ้าปากค้างด้วยความคาดไม่ถึง
ที่นงนุชเห็นอยู่คือหญิงสาวร่างระหงในชุดคล้ายสตรีพม่า คาดอกด้วยผ้าไหมสีเขียวคล้ายผ้าที่โรยห้อยลงมาจากขื่อ ตัวซิ่นไหมพื้นเขียวที่นุ่งต่อตีนยาวลากพื้น ทั้งผืนปักลวดลายแววหางนกยูง ยามสะท้อนแสงโคมสลัวดูระยิบระยับราวดวงตานับพันกำลังกะพริบมองมายังหล่อนที่ลอบดู ตามตัวประดับด้วยชุดไข่มุกอันประกอบด้วยสายสร้อยคอยาวระย้าและสร้อยข้อมือ
เรือนผมยาวถูกรวบมวยแล้วทิ้งชายยาวไว้ข้างไหล่ ปักประดับด้วยปิ่นทองคำที่มีลักษณะคล้ายขนนกยูงสามอัน ส่วนใบหน้าผู้ฟ้อนรำนั้น นงนุชไม่เห็น เพราะถูกกำบังไว้ด้วยหน้ากากขาวเขียนลวดลายคิ้วตาและริมฝีปากสีแดงชาดกำลังคลี่ยิ้ม
ประกาศผล
มีคนได้รางวัล 2 คนสำหรับกิจกรรมนี้ คนแรกคือ Premolar ร้อยเรียงบทประพันธ์ได้ดีมาก ถอดความโดยยังคงเนื้อหาต้นฉบับอยู่ อ่านแล้วไม่รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด ส่วนคนที่สอง คาตานะวดี พรรณนาได้เห็นภาพตามต้นฉบับ แม้จะไม่ได้ใช้คำวิลิศมาหราเท่าคนอื่น แต่อ่านเพลินดี และมีแทรกความคิดเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดจากการตีความเองด้วย
ทั้งนี้ ยกเครดิตให้คนแรกหน่อยนึงเพราะอุตสาหะเลือกคำที่สละสลวยมาใช้ได้ดีกว่า จึงได้รางวัลเป็นหนังสือ เงามยุรา ไป แต่อีกคนเดี๋ยวมีของปลอบใจให้นะคะ
ส่วนคนอื่นๆ ที่ไม่ได้รางวัลไม่ต้องเสียใจไป จริงๆ อยากแจกให้ทุกคนที่มาร่วมสนุก แต่หาหนังสือที่เข้ากับกิจกรรมนี้ได้ไม่พอ ก็เลยแจกได้แค่ 2 รางวัลนี้จ้า
24 ความคิดเห็น
น่าสนๆๆๆๆ>w
ไว้ถ้าว่างจะมาร่วมเล่นนะคะ:D
=====
ดิทเพิ่ม*** ไม่ว่างแต่อยากแต่ง=..=
เอาไปก่อนนิดนึง;w;
==
แพรพรรณผ้าร้อยห้อยลงจากขื่อ
จะเปรียบคือผ้าม่านสีเขียวสวย
ต้องแสงไฟในตะเกียงจากแก้วกรวย
ดั่งใบกล้วยต้องแสงอาทิตย์อุทัย
=
ม่านสีสวยแวววับขยับเขยื้อน
เงาดำเคลื่อนเลื่อนผ่านผ้าม่านไหม
XXXXXXXXXX
สนใจค่ะ แต่ไม่เคยร่วมกิจกรรมมาก่อนเลย
สงสัยว่า ถ้าแต่งเสร็จแล้วให้ส่งที่ไหนยังไงค่ะ -0-
กลอนจากน้อง PAT ค่ะพี่น้อง ให้คะแนนหนูเยอะๆนะ หนูเพิ่งอยู่ ป.6 เองค่า ^^
" หน้ากากขาว บังหน้า นางดวงแก้ว
ลาไปแล้ว ยังคงทิ้ง ปริศนา
เห็นภูษา อาภรณ์ บนกายา
ลายปักษา งามยิ่งกว่า ผ้าผืนใด
ขอบอกกล่าว หญิงสาว เจ้าสเน่ห์
อย่ามากเล่ห์ เหมือนนกยูง รำแพนหาง
ความงามคง ลดลง จนจืดจาง
เกิดเป็นนาง อย่าเอาอย่าง นกยูงเอย"
แต่งแค่ 10 นาที ติชมได้นะคะ ^^ ขอบคุณสำหรับกิจกรรมสนุกๆค่ะ
ยากอ่า ลองดูก่อนนะ
ภายในห้องของแม่ครูคำเฮือนนี้ หลากมากมีผ้ายาวที่ผูกห้อย
ยาวมาจากขื่อคานทิ้งชายย้อย ลงมาน้อยกองอยู่ ณ บนพื้น
แต่ละผืนโรยสับเป็นผ้าม่าน กำบังร่างใครที่เดิน.....
ต่อไม่ได้อ่าา ยากจัง
สู้ๆค่ะ ยัยหัวหยอง
ริ้วผ้าไหมไสวปลิวดั่งผ้าม่าน ลงจากคานทางด้านบนเป็นระย้า
มีหลายผืนเขียวอร่ามตามกันมา ดั่งเป็นผ้าม่านบังฉากจากตาคน
ผ้าสีเขียวสะท้อนแสงตะเกียงจ้า ใครผ่านมาล้วนต้องตาและฉงน
น้องนงนุชยืนจ้องราวโดนเวทย์มนต์ มองร่างคนจากหลังผ้าว่าเป็นใคร
ร่างนั้นเคลื่อนจากหลังฉากอย่างช้าช้า จนเข้ามาให้เห็นอย่างชิดใกล้
นงนุชจ้องมองดูเธออย่างตั้งใจ เธอเป็นใครใยสวยปานเทพธิดา
ขนนกยูงประดับปิ่นทองคำพราย ชุดกรุยกรายดั่งหญิงสาวชาวพม่า
สร้อยไข่มุกแลข้อมือที่สวมมา บ่งบอกว่าเธอใช่หญิงรำทั่วไป
ส่วนใบหน้าปิดไว้ด้วยหน้ากากขาว เรือนผมยาวรวบเป็นมวยไว้ข้างไหล่
หญิงสาวยิ้มให้นงนุชอย่างละไม เหมือนบอกให้รู้ว่าฉันมาดี
แต่งเองตามที่เข้าใจ ไม่รู้จะเพราะเข้าตากรรมการหรือเปล่า
ในห้องหับ แม่ครูคำ เฮือนหลังจ้อย มีผ้าห้อย โรยตัว ลงจากขื่อ
แต่ละผืน แต่ละผ้า สีสันคือ ผ้าทอมือ พื้นเขียว ละลานตา
นงนุชเฝ้า มองจ้อง ตะลึงตื่น ใจระรื่น เริงเร้า เฝ้ามองหา
ยามเมื่อเงา สะโอดอง ย่างกรายมา ผ่านหมู่ผ้า หน้าหิ้ง ตรงปลายเตียง
ภาพที่เห็น ตรงหน้า ช่างงามงด คือสตรี สวยหมดจด คาดอกเฉียง
นุ่งห่มแต่ง ตามพม่า น่ามองเมียง ผืนผ้าเรียง ตัวถัก ปักลวดลาย
เป็นแพนหาง นกยูง ระยิบยับ สีเขียวจับ ล้อแสง แสนเฉิดฉาย
ราวดวงตา นับพันเพริศ พรรณราย กะพริบหมาย ลอบมอง มายังเธอ
บนเรือนร่าง ประดับ ด้วยไข่มุก สีสดสัน แสบสุก ใสเสมอ
ระย้าย้อย เป็นสร้อย สรรค์เลิศเลอ ราวเผยอ แย้มรับ กับแสงไฟ
ปิ่นทองคำ เป็นขนนก ยูงแสนสวย ผมรวบมวย ทิ้งชาย ไว้คลอไหล่
ใบหน้าผู้ รำฟ้อน เป็นอย่างไร นงนุชนั้น บอกไม่ได้ เพราะถูกบัง
ด้วยหน้ากาก ขาวเขียน เป็นรอยริ้ว รูปเส้นคิ้ว ดวงตา ราววางผัง
ปากแดงดุจ ทาชาด คลี่ยิ้มยัง งามสะพรั่ง พรักพร้อม น่าชื่นชม
๏ห้องแม่ครูภูษาระโยงย้อย
สลับร้อยเรียงผ่านเป็นม่านกั้น
ล้วนไหมสีมรกตแสนสดสัน
เมลืองพลันสั่นล้อล่อแสงตะเกียง
๏นงนุชเพ่งพินิจพิศพรึงเพริศ
เงาสตรีงามเลิศไร้ซุ่มเสียง
ดำเนินผ่านพลันหยุด ณ ปลายเตียง
เบื้องหน้าหิ้งปู่ย่าเคียงขนมยุเรศ
๏ร่างระหงทรงเครื่องนางรามัญ
ห่มเขียวพรายลายวรรณดุจพันเนตร
กระพริบกระเพื่อมเลื่อมลับจับสังเกต
งามวิเศษมุกระยับประดับกาย
๏มีปิ่นทองครองประดับปักเกศา
นางร่ายรำร่อนร่าแสนเฉิดฉาย
พักตร์แม่ปิดด้วยหน้ากากวาดลวดลาย
เนตรขนงโอษฐ์คล้ายจะคลี่ยิ้ม
บนขื่อคา ระย้า ภูษาห้อย แล้วเรียงร้อย สับหว่าง ดั่งกางกั้น
รึกลัวใคร จะเห็น เช่นใดกัน ทั้งที่มัน สะกดตา เหลืออาลัย
ผ้าสีเขียว สวยสะพรั่ง ดั่งหยอกแกล้ง ยิ่งต้องแสง ตะเกียงสวย ในกรวยใส
ผ้านั้นยิ่ง สุกปลั่ง ดั่งตั้งใจ เกินสิ่งใด ปานเปรียบ มาเทียบเคียง
นงนุชยิ่ง ตะลึงเหลือ เมื่อเห็นว่า ร่างแปลกตา เคลื่อนขยับ ไร้สรรพเสียง
พลันเงานั้น เคลื่อนย้าย มาปลายเตียง ที่ตั้งเรียง หน้าหิ้ง สิ่งบูชา
เงาประหลาด คือนาง ร่างระหง แปลกก็ตรง ชุดที่ใส่ คล้ายพม่า
คาดอกด้วย ผืนไหม สีไข่กา ดั่งภูษา บนขื่อ สีคือกัน
ตัวซิ่นไหม สวยเสลา ยาวลากพื้น ( ไม่กลัวลื่น ล้มไป หรือไรนั่น )
ปักลายหาง มยุรา วิลาวัณย์ ดั่งดวงตา นับพัน มันเมียงมอง
ตามตัวประดับไปด้วยไข่มุก ที่งามสุกสกาวเกินป่าวก้อง
ทั้งสร้อยคอระย้างามกว่าทอง ที่ข้อมือทั้งสองก็ต้องใจ
ทั้งเรือนผมดำเงายาวสลวย ถูกรวบมวย ทิ้งชายบาง ที่ข้างไหล่
ประดับปิ่น ทองคำ งามวิไล ที่ดูไป คล้ายขน มยุรา
แต่ขี้เหร่หรือไรเกินไถ่ถาม จะงดงามเพียงใด ไม่เห็นหน้า
เพราะนางใส่หน้ากากเขียนปากตา คลี่ยิ้มมา..เพราะอันใด ร้ายหรือดี
/// คุ่นคิดคิกวเพเนยด!@#$%&^&*(#$%#@^$%&พหกย
ถ้ากลอนมันยาวเหยียดขี้เกียจอ่านก็กดผ่านก็ได้ไม่ได้ว่าแต่ถ้าใครสังเกตแล้วเมตตาใช้มือขวาคลิกไลค์ไม่ว่ากัน
ผืนไหมชายระย้า ตราบดิน
มรกตเงาถวิล ม่านแก้ว
แสงวับจับประกายบิน ไหมแม่ คำเฮือน
แลปลั่งงามเพริศแพร้ว ทั่วห้องจับใจ
นงนุชมองส่องด้วย แววตา ตื่นใจ
เห็นร่างสะองปริศนา แยบผ้า
เงาค่อยเคลื่อนผ่านมา สถิตอยู่ ปลายเตียง
นงนุชมิทราบหว้า ร่างนั้นคือใคร
สตรีสวมซิ่นพื้น เขียวอร่าม
ยาวแอร่มแฝงเงาคราม จรดหล้า
ลายขนนกยูงงาม แลเด่น นารีพม่า
สร้อยมุกห้อยระย้า สะท้อนแสงโคม
มยุรามยุเรศแพร้ว พรายเดือน
หน้ากากขาวบิดเบือน บดหน้า
มวยผมปิ่นปักเสมือน ขนนก โมรี
ยิ้มคลี่รำฟ้อนฟ้า เจิดจ้าเปลวไฟ
ยากมากกก แต่งด้วยโคลงสี่สุภาพค่ะ (ชอบไม่เหมือนเพื่อนอีก 555+) เพิ่งจะเคยแต่งเป็นครั้งแรก ใช้เวลา2วันเลยทีเดียว บทที่2แอบใช้โทโทษด้วยอ่ะ ฮือออ หาคำไม่ได้ ส่วนตัวชอบอ่านโคลงสี่สุภาพ แต่ก็ไม่เคยลองแต่งเหมือนกัน หวังว่าเนื้อหาจะยังโอเค และเข้าตากรรมการบ้าง แม้จะไม่เพราะก็ตามที (ได้โปรดเห็นใจในความลองของ ของหนูด้วยเถิดดด)
โพสท์เช็กชื่อไว้หนึ่งที ไปแต่งก่อน เดี๋ยวดึกๆ กลับมาโพสท์ค่ะ![ยิ้ม](/assets/article/images/sticker/yy-01.png)
เปลวประทีปก่องอำ- ไพแฮ
ผืนม่านแพรเขียวระยา พ่าเขียว
มองเงาหนึ่งกรีดกรายพราง ปลายตั่ง
นางเบิ่งตาพิศน้า แลเห็น อรไท
นงพะงาร่างระ- หงส์จูง ทอเขียว
สวมซิ่นไหมคลุมตีน ต่อมอน
แววหางนกยูง วาววับ
พรางน่ากากซ้อนฟ้อน มยุรา
เป็นการแต่งที่รับร้อนมาก![เสียใจ](/assets/article/images/sticker/bb-03.png)
จัดมาแล้วค่ะ ด้วยกลอนแปด
ขออนุญาตไม่เคาะเว้นวรรคการอ่านเป็นท่อนๆ นะคะ มันดูไม่งามค่ะ แหะๆ
อ่านคำโดยแบ่งเป็นทีละ 3 2 3 หรือ 3 3 3 ค่ะ
แต่งสุดฝีมือแว้ววว
--------------------------
พิศภายในหับห้องของแม่ครู ตะลึงดูด้วยหลบเร้นอย่างไร้เสียง
ใจระทึกตึกตักยากเรียบเรียง หาถ้อยเคียงพรรณนาเปรียบสิ่งใด
ผืนผ้าไหมทิ้งชายปลายที่พื้น ผูกยาวยื่นจากขื่อคานต้องแสงไสว
เขียวเมลืองระยับจับตรึงหทัย โรยตัวให้สับหว่างกางกำบัง
เงาดำผ่านวับแวมหลังผืนผ้า นงนุชอ้าปากค้างสุดกักกั้น
ร่างระหงทรงชุดดุจรามัญ เยื้องย่างพลันหยุดลงตรงปลายเตียง
คือนงคราญนางหนึ่งวิไลเลิศ อาภรณ์เฉิดเพริศแพร้วแพรวพราวเพี้ยง
อัจฉรามาฟ้อนรำน่ามองเมียง อยู่ข้างเคียงแท่นบรวงสรวงหิ้งบูชา
แลภูษาซิ่นเขียวเลื่อมรุจิเรข เฉกเช่นเสกสร้างด้วยมนต์ยากสรรหา
แสงตะเกียงทอทาบพร่าพรายตา ด้วยลายผ้าประเทียบเปรียบแววโมรี
ดั่งนัยเนตรนับพันจดจับจ้อง กะพริบมองเพ่งตอบผู้หลบลี้
ประดับด้วยสายสร้อยมุกร้อยเรียงดี ห้อยเป็นศรีอยู่ทั้งศอและข้อกร
เหลือบเรือนเกศทรงโฉมมุ่นมวยไว้ แล้วทิ้งให้เลียบอังสาแห่งสมร
ปักไว้ด้วยปิ่นสุวรรณอลงกรณ์ ขนหางงอนทั้งสามคือมยุรา
เพ่งดวงหน้ากัญญาไม่อาจเห็น กำบังเป็นหน้ากากขาวยากค้นหา
วาดลวดลายร้อยรับรูปคิ้วตา ริมโอษฐ์อ้าแย้มยิ้มสีชาดงาม
ขอแนะนำค่ะว่า เราไม่จำเป็นต้องเขียนบทกลอนให้ชนะใคร มันจะทำให้คิดไม่ออก แต่ต้องลองใส่หัวใจของคนแต่งเข้าไปในกลอน และอย่ากดดันตัวเองด้วยคำพูดที่ว่า ฉันต้องเขียนให้ดี มันคือการแสดงความจริงใจที่แท้จริงและมันจะทำให้ผู้อ่านได้เห็นถึงคุณค่าของบทกลอน และอีกอย่าง ให้เลือกกลอนที่ตนเองถนัดที่สุด
PATzaB ขอนำเคล็ดลับการแต่งกลอนเล็กๆน้อยๆให้กับผู้เข้าประกวดคนอื่นค่ะ^^
ด้วยความยินดีค่ะ ^^
แต่ละคนแต่งกันเก่งจัง แหะๆ![เขิลจุง](/assets/article/images/sticker/bb-08.png)
/แล้วจะเลือกใครดีเนี่ย...........
![เย้](/assets/article/images/sticker/bb-06.png)
ปล. หมดเขตเที่ยงคืนวันนี้แล้วนะ ใครที่ยังแต่งอยู่ รีบแปะด่วน
กรวยแก้วเติมน้ำมันจุดต่างตะเกียง
เห็นแค่เพียงเงาแสงอย่างสลัว
ส่องทาทาบอาบผนังถ้วนทั่ว
เกือบมองมัวในห้องแม่ครูคำเฮือน
ไหมเขียวถักทอไร้ลวดลาย
เป็นผ้าผูกทิ้งปลายจากขื่อเขื่อน
กว้างหนึ่งฟุตทอดยาวกองพื้นเรือน
เรียงสับหว่างแลเหมือนม่านกำบัง
ท่ามกลางไฟสะท้อนแสงสุกปลั่ง
ยิ่งเมลืองมลังทุกผืนผ้า
ล้อเล่นแสงเด่นชัดงามจับตา
ให้มองหาดังล่อหลอกแอบซ่อนคน
นงนุชตื่นเฝ้าเพ่งพิศมอง
เห็นแสงส่องวับแวมวูบไหว
เหมือนเงาดำเหมือนใครเคลื่อนผ่านไป
ระทึกใจยิ่งจ้องต้องการดู
เงาเคลื่อนออกจากมวลผ้าทั้งหมู่
หยุดนิ่งอยู่หิ้งบูชาผีปู่ย่า
ณ ปลายเตียงชัดเจนเต็มสองตา
นงนุชอ้าปากค้างตะลานตะลึง
เห็นถนัดเป็นร่างสะโอดสะอง
สูงระหงในชุดสุดสวยซึ้ง
รูปแบบอย่างคล้ายพม่าคาดอกตรึง
ด้วยผ้าไหมคล้ายคลึงขื่อโยงยืน
สีเขียวส่องรวมซิ่นที่นุ่งไว้
คือผ้าไหมต่อตีนยาวลากพื้น
ระยิบระยับท่ามกลางแสงกลางคืน
ลายทั้งผืนปักคล้ายหางนกยูง
สะท้อนแววลวดลายคล้ายแววตา
กะพริบมานับพันพลันจ้องมอง
เครื่องประดับเข้าชุดชิ้นทั้งสอง
คอข้อมือสวมคล้องสร้อยมุกยาว
เรือนผมรวบมุ่นมวยด้วยปิ่นปัก
ดูคล้ายลักษณะขนยูงแพนหาง
เป็นทองคำสามอันแยกสามทาง
ชายผมยาวปล่อยหางลงไหล่มา
ริมฝีปากสีแดงชาดคลี่ยิ้มส่ง
บนหน้ากากขาวอนงค์ซ่อนใบหน้า
เขียนลวดลายตรงตำแหน่งเป็นคิ้วตา
ไม่รู้ว่านางฟ้อนรำคือผู้ใด
---------------------------------------------------
จบแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ ^^
รบกวนประกาศผลตอนเย็นนะคะ จะกลับมาดูให้ทันเลย
ปูเสื่อรอ โหยๆ อ่านกลอนบางคนแล้วแบบ...ยอมแพ้อ่ะ แต่ก็อยากรู้ใครจะได้หนอ ตรงกับใจเรามั้ย