ช่ วงนี้กระแสหนังสือทำมือกำลังมาแรง ถึงขั้นมีการรวมตัวกันเปิดตลาดนัดหนังสือทำมือตามสถานที่ต่างๆ เพื่อให้นักเขียนหรือศิลปินอิสระได้มาวางขายผลงานของตัวเองโดยไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างสำนักพิมพ์ รวมทั้งเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากขึ้นทำให้เกิดทางเลือกใหม่สำหรับคนที่อยากพิมพ์ผลงานของตัวเองเพียงเล็กน้อย
วันนี้พี่น้องได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพิมพ์ Fast Books ให้เข้าไปดูขั้นตอนการทำหนังสือ ตั้งแต่ส่งไฟล์ต้นฉบับให้โรงพิมพ์จนกระทั่งแพคหนังสือด้วยห่อสุญญากาศ ใครที่กำลังสนใจจะพิมพ์นิยายหรือแฟนฟิคของตัวเอง ต้องไม่พลาดบทความนี้!
โรงพิมพ์ Fast Books ที่พี่น้องไปนั้นอยู่ที่ซอยเพชรเกษม 102 ค่ะ เมื่อสิบปีก่อนนั้นยังเป็นโรงพิมพ์แบบออฟเซ็ท แต่เนื่องจากคุณเทอดทูล เจ้าของโรงพิมพ์เล็งเห็นว่ายังมีคนที่ต้องการพิมพ์งานจำนวนน้อย และต้องการงานด่วนอยู่ ซึ่งโรงพิมพ์แบบ
ออฟเซ็ทตอบโจทย์สองปัญหานี้ไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาทำโรงพิมพ์แบบดิจิตอลแทน
วันนี้พี่น้องได้รับความอนุเคราะห์จากโรงพิมพ์ Fast Books ให้เข้าไปดูขั้นตอนการทำหนังสือ ตั้งแต่ส่งไฟล์ต้นฉบับให้โรงพิมพ์จนกระทั่งแพคหนังสือด้วยห่อสุญญากาศ ใครที่กำลังสนใจจะพิมพ์นิยายหรือแฟนฟิคของตัวเอง ต้องไม่พลาดบทความนี้!
โรงพิมพ์ Fast Books ที่พี่น้องไปนั้นอยู่ที่ซอยเพชรเกษม 102 ค่ะ เมื่อสิบปีก่อนนั้นยังเป็นโรงพิมพ์แบบออฟเซ็ท แต่เนื่องจากคุณเทอดทูล เจ้าของโรงพิมพ์เล็งเห็นว่ายังมีคนที่ต้องการพิมพ์งานจำนวนน้อย และต้องการงานด่วนอยู่ ซึ่งโรงพิมพ์แบบ
ออฟเซ็ทตอบโจทย์สองปัญหานี้ไม่ได้ จึงเปลี่ยนมาทำโรงพิมพ์แบบดิจิตอลแทน
ดิจิตอล VS ออฟเซ็ท
พี่น้องต้องอธิบายก่อนว่าโรงพิมพ์ที่พิมพ์หนังสือต่างๆ เขาจะมีอยู่ 2 แบบค่ะ คือแบบ
ออฟเซ็ท (Off-Set) ที่ต้องมีการทำเพลท (แม่พิมพ์) เอาเพลทไปเข้าเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ ผ่านกระบวนการทำสีแล้วพิมพ์ลงบนกระดาษ ในขณะที่การพิมพ์แบบดิจิตอลเหมือนเราสั่งปริ๊นท์งานจากเครื่องปริ๊นท์ที่บ้าน ไม่ต้องทำเพลทหรือนั่งผสมสีเอง
ออฟเซ็ท (Off-Set) ที่ต้องมีการทำเพลท (แม่พิมพ์) เอาเพลทไปเข้าเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ ผ่านกระบวนการทำสีแล้วพิมพ์ลงบนกระดาษ ในขณะที่การพิมพ์แบบดิจิตอลเหมือนเราสั่งปริ๊นท์งานจากเครื่องปริ๊นท์ที่บ้าน ไม่ต้องทำเพลทหรือนั่งผสมสีเอง
แน่นอนว่าการสั่งพิมพ์ ยิ่งสั่งมาก ต้นทุนค่ากระดาษและค่าดำเนินการต่างๆ ก็จะถูกลงไปตามขั้นบันได แต่ในการพิมพ์ครั้งแรก การพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ทต้องใช้เพลท จึงบวกค่าทำเพลทเข้าไปด้วย ทำให้ราคาตั้งต้นสูงกว่าแบบระบบดิจิตอล
แต่เมื่อสั่งพิมพ์ครั้งที่ 2 เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าทำเพลทอีกแล้ว ก็จะคิดแค่ค่ากระดาษและค่าดำเนินการอื่นๆ ยิ่งสั่งเยอะ ก็ยิ่งลดต้นทุนเยอะทวีขึ้นไป ในขณะที่ระบบดิจิตอลแม้จะสั่งเยอะขึ้น แต่ก็ไม่สามารถลดต้นทุนได้มากเท่า เพราะยังคงใช้วัสดุอุปกรณ์เท่าเดิม
แต่เมื่อสั่งพิมพ์ครั้งที่ 2 เราก็ไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าทำเพลทอีกแล้ว ก็จะคิดแค่ค่ากระดาษและค่าดำเนินการอื่นๆ ยิ่งสั่งเยอะ ก็ยิ่งลดต้นทุนเยอะทวีขึ้นไป ในขณะที่ระบบดิจิตอลแม้จะสั่งเยอะขึ้น แต่ก็ไม่สามารถลดต้นทุนได้มากเท่า เพราะยังคงใช้วัสดุอุปกรณ์เท่าเดิม
บางคนพอได้ยินว่า "ถ้าพิมพ์น้อยให้สั่งพิมพ์แบบดิจิตอล" ก็จะคิดว่าการพิมพ์แบบดิจิตอลต้นทุนถูกกว่า แต่จริงๆ การพิมพ์แบบออฟเซ็ตต้นทุนต่อเล่มถูกกว่า เพียงแต่นักเขียนบางคนก็ไม่ได้ต้องการหนังสือเป็นพันๆ เล่มขนาดนั้น การสั่งพิมพ์กับโรงพิมพ์ดิจิตอลจึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า
ข้อดีของระบบดิจิตอล
หลายคนอาจสงสัยว่าการพิมพ์สองแบบนี้คุณภาพงานต่างกันไหม การพิมพ์ดิจิตอลมีข้อจำกัดอะไรหรือเปล่า โรงพิมพ์ Fast Books มีคำตอบค่ะ
คุณภาพ
การพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลนั้น คนส่วนใหญ่จะคิดว่าได้งานที่มีคุณภาพไม่เท่ากับการพิมพ์แบบออฟเซ็ท ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดค่ะ จริงๆ แล้วการพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลจะมีคุณภาพหรือไม่ขึ้นอยู่กับไฟล์งานที่ส่งเข้ามาแต่แรก และโอกาสสีเพี้ยนก็มีน้อย เนื่องจากการผสมสีควบคุมด้วยระบบดิจิตอล ใช้สีผงซึ่งไม่ซึมในกระดาษ ไม่ทำให้เกิดสีตุ่นเหมือนพิมพ์ด้วยออฟเซ็ท แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่พิมพ์สีพิเศษบางสีไม่ได้ เช่น สีเจ็บๆ อย่างสีสะท้อนแสง สีแบบไฟนีออน
ความสะดวก
นอกจากนี้การพิมพ์แบบดิจิตอลจะมีข้อดีเรื่องการแก้ไขงานหลังส่งให้โรงพิมพ์ไปแล้ว เช่น สั่งพิมพ์ไปแล้วมาพบทีหลังว่ามีพิมพ์ผิด ถ้าเป็นแบบออฟเซ็ท เวลาจะแก้ทีต้องเปลี่ยนเพลททั้งแผง (เปลี่ยนแค่หน้าใดหน้าหนึ่งไม่ได้) ต้องจ่ายค่าทำเพลทใหม่ แต่ถ้าเป็นระบบดิจิตอล แค่ส่งไฟล์ที่แก้ไขแล้ว ก็สั่งพิมพ์ใหม่ได้ทันที
เวลา
เนื่องจากการพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลนั้นไม่จำเป็นต้องทำเพลท ผสมสี แค่ปริ๊นท์เนื้อในกับปกออกมาก็จับเข้าเล่ม ไสกาว ตัดขอบ เสร็จเป็นเล่มได้เลย ตรงข้ามกับการพิมพ์ด้วยระบบออฟเซ็ท ที่ต้องทำเพลท ผสมสี พับยก ด้วยขั้นตอนที่น้อยกว่าทำให้ระบบดิจิตอลนั้นใช้เวลาพิมพ์หนังสือ 20 เล่มไม่ถึง 1 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่ระบบออฟเซ็ทต้องใช้เวลา 1 วันอย่างต่ำ เรื่องเวลาจึงเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของระบบดิจิตอลเลยค่ะ
ใครบ้างที่มาใช้บริการ?
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของ Fast Books พี่น้องก็เลยรู้ว่ามีนักเขียนในเว็บเรามาใช้บริการที่นี่ด้วยนะ เฉพาะในกลุ่มคนที่เขียนนิยาย ก็จะมีทั้ง
- นักเขียนอินดี้ ที่ไม่ตีพิมพ์งานกับสำนักพิมพ์แต่เลือกจะเผยแพร่หนังสือเอง ก็ใช้บริการ Print on Demand นั่นคือเปิดจองหนังสือ ให้โอนเงิน และสั่งพิมพ์หนังสือตามยอดจอง ไม่ต้องมานั่งคิดว่าจะพิมพ์กี่เล่มดี ไม่ต้องมาพะวงว่าพิมพ์มาแล้วจะขายได้ไหม ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่เก็บหนังสือ
- นักเขียนที่ต้องส่งผลงานเข้าประกวดในโครงการต่างๆ เช่น ซีไรต์ โครงการพวกนี้จะขอให้นักเขียนส่งต้นฉบับผลงานที่เป็นรูปเล่มแล้ว (หรือที่เรียกว่า mock-up) ให้กรรมการหลายท่าน ก็มาสั่งพิมพ์กับโรงพิมพ์เป็น 10 หรือ 20 เล่ม ไปเลยก็ได้
- สำนักพิมพ์เล็ก-ใหญ่ ก็อาศัยระบบดิจิตอลในการพิมพ์หนังสือเก่าที่ยังมีคนอยากได้ แต่ไม่คุ้มที่จะพิมพ์เป็นจำนวนมาก ก็สั่งพิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลแทน และพิมพ์ตามจำนวนที่สั่ง ไม่ต้องมาสต๊อกสินค้าเก่าอีก
จากตัวอักษรสู่งานพิมพ์
สำหรับน้องๆ ชาว Dek-D ที่คิดอยากมีงานเขียนของตัวเองเป็นเล่มๆ ขั้นตอนโดยทั่วไปของโรงพิมพ์ดิจิตอลจะประมาณนี้ค่ะ
สำหรับโรงพิมพ์ Fast Books จะมีบริการทำปกให้ โดยใช้รูปจาก Shutterstock
จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ และให้คำแนะนำเรื่องการจัดหน้าทำปกด้วยค่ะ
หลังจากตกลงเรื่องรายละเอียด ราคา และระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว
ทีนี้ก็จะถึงขั้นตอนเช็คความถูกต้องก่อนส่งพิมพ์จริงค่ะ
ทีนี้ก็ถึงเวลาสนุกแล้วค่ะ มาดูวิดีโอสาธิตการพิมพ์หนังสือแบบคมชัดระดับ HD กันเลย!
ตอนที่ไปถ่ายทำนี่ก็เจอผลงานของน้องๆ หลายคนที่เคยลงเว็บ Dek-D ด้วย และยังมี Art Book ของคุณ Prema ที่ตอนนี้ดังไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้วด้วย (พี่น้องปลื้มนักวาดคนนี้มากเลย)
เป็นยังไงกันบ้างคะ การพิมพ์หนังสือแค่ไม่กี่เล่มนั้นใช้เวลาไม่นานเลยสำหรับระบบดิจิตอล พอรู้แบบนี้แล้วเริ่มอยากลองพิมพ์หนังสือกันขึ้นมาเลยใช่ไหมคะ แต่ก่อนจะพิมพ์ผลงานได้ ต้องเขียนนิยายให้จบก่อนนะ
35 ความคิดเห็น
ถ้าอยากจะพิมพ์เย็บเข้าเป็นเล่มเข้าห่วงลวดเก็บเอาไว้อ่านเอง
ทำได้เหรอเปล่าคะ ถ้าหากไม่อยากส่งต้นฉบับบางเรื่องไปที่สำนักพิมพ์เพื่อพิจารณาตีพิมพ์
อยากได้โรงพิมพ์แบบที่ไม่มีขั้นต่ำจัง
เพราะไม่ได้จะพิมพ์ขาย แต่อยากเอาไว้แจกให้เพื่อนๆ TT
เราก็อยากทำ แต่ทำไม่มาก 555555555555555555
ขั้นตอนเป็นแบบนี้นี่เอง ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ขอบคุณบทความนี้มากค่ะ ได้ความรู้มากจริงๆ หนังสือที่อยู่ในคลิปมีวางขายมั้ยอ่ะ อยากได้ 555555
น่าสนใจมาก *0* ไม่เคยเห็นวีธีทำมาก่อนเลยอ่ะ //มีฟิคอยู่ในคลิปด้วยล่ะ สะดุดกะรูปแบคมาก 555
เห็นฟิคชานเเบควันทองป่ะน้านนนนนนนนนน 5555555555555555555555555555
เจ๋งอ่ะ
เห็นแล้วก็อยากลองเขียนไลท์โนเวลเลยแฮะ
สุดยอดมา T^T มาก ถ้าอยู่กรุงเทพจะไปอุดหนุน
เห็นแบบนี้แล้วอยากพิมพ์มั่งจัง -3- ต้องแต่ให้จบซินะ >3<
อยากทำมั้งแต่ต้องขอไปเขียนนิยายก่อนนะคะ
คือ..มีความคิดจะทำหนังสือฟิคคะ แต่บ้านอยู่ต่างจังหวัด
ไม่ทราบว่าจะมีบริการจัดส่งด้วยมั้ย แล้วหน้าปกจะมีการออกแบบให้ด้วยป่าว
สอบถามไว้ก่อน ยังแต่งฟิคไม่จบซักเรื่องเลย แห่ะๆๆ
สุดยอดดดดด
ได้ที่พิมพ์ฟิคแล้วค่ะ ปริ่ม T^T
พิมพ์แค่หนังสือหรือครับ? พวกแพคเกจจิ้ง โปสเตอร์ การ์ด(ขนาดเท่าการ์ดเกมส์) หรืออะไรต่างๆนี่เขาทำด้วยไหมครับ
ปล.ที่กล่าวมาคือส่วนหนึ่งของหนังสือหมดเลยครับ มีความคิดอยากรวมเล่มของตัวเองเมื่อแต่งจบน่ะครับ
ถ้าหากมีนิยายแต่งเสร็จ 6 เรื่อง อยากลองส่งพิมพ์เรื่องละ 3 เล่ม รวมเป็น 18 เล่มแบบไม่แยก หากเป็นเช่นนี้ ทางโรงพิมพ์จะคิดเงินยังไงครับ?
เมื่อตอนเย็นส่งไฟล์ไปแล้วค่ะ
เขียนจบตั้งแต่ 31 สิงหาแล้ว
ยังไม่ได้ส่งไฟล์หน้าปกไป
ติดต่อได้ที่ไหนหรอค่ะ??