วันนี้ขอมาแปลก ด้วยกระแสภาพยนตร์ซินเดอเรลลาเวอร์ชันคนแสดงของวอลท์ ดิสนีย์ ทำให้นักวิจารณ์หลายคนเริ่มหันกลับมาเปิดประเด็นเกี่ยวกับนิทานซินเดอเรลลาอีกครั้ง พี่น้องเลยอยากพูดถึงเรื่องราวของสาวน้อยขี้เถ้าที่ใครๆ ก็มองว่ามันคือ "นิทานเพ้อฝันของเด็กผู้หญิง" สักหน่อย
ซินเดอเรลลามาจากไหน?
เรื่องราวของซินเดอเรลลามีมาตั้งแต่ร้อยปีก่อนคริสตกาลเสียอีก ตำนานแรกของซินเดอเรลลาเป็นเรื่องของทาสสาวชาวกรีกชื่อ โรโดพิส ที่ไปอาบน้ำแล้วโดนนกอินทรีคาบรองเท้าไปหย่อนไว้กับกษัตริย์เมมฟิส เขาหลงใหลในความงามของรองเท้า (?) และแปลกใจกับเหตุการณ์ประหลาดนี้จึงสั่งทหารให้ออกตามหาเจ้าของรองเท้า พอได้เจอโรโดพิส ทั้งคู่ก็แต่งงานกัน
cr: pinterest.com
แต่เวอร์ชั่นที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเห็นจะเป็นของวอลท์ ดิสนีย์ ซึ่งก็ดัดแปลงมาจากเวอร์ชั่นของนักเขียนชาวฝรั่งเศส แปร์โรต์อีกที เป็นเวอร์ชั่นที่เพิ่มนางฟ้าแม่ทูนหัวและรองเท้าแก้วเข้าไป กลายเป็นภาพจำของคนทั้งโลก
สิ่งหนึ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดก็คือ ซินเดอเรลลาเป็นนิทานสำหรับเด็ก ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่ แม้จะมีองค์ประกอบที่ดูเพ้อฝัน มีเวทมนตร์เหนือจริง แต่มันเป็นแค่ตำนานพื้นบ้านที่ผู้ใหญ่สมัยก่อนเล่ากัน หรือแม้แต่เรื่องของแปร์โรต์เองก็ใช้เล่าในราชสำนักเพื่อความบันเทิง จนมาถึงยุคของดิสนีย์ที่ซินเดอเรลลามีกลุ่มเป้าหมายใหม่เป็นเด็กผู้หญิงทั้งนั้น
เราได้อะไรจากเรื่องราวของนางสาวขี้เถ้า
ถึงแม้จะเป็นตำนานพื้นบ้านที่เล่ากันปากต่อปากเพื่อความบันเทิงและดัดแปลงไปหลายเวอร์ชัน แต่ซินเดอเรลลาทุกเวอร์ชันจะสะท้อนให้เห็นความคิดของคนในยุคนั้น และทัศนคติของคนแต่งเอง มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละยุคสมัยนำเสนอซินเดอเรลลาอย่างไรบ้าง
1. ฐานะของผู้หญิงในสังคม
ประเด็นหลักๆ ที่ถกเถียงกันได้ทุกยุคทุกสมัยคือ 'ฐานะของผู้หญิงในสังคม' ที่ตำนานซินเดอเรลลาแสดงออกมา
เด็กๆ ที่เกิดมาในยุคศตวรรษที่ 21 อาจไม่รู้ว่าช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้หญิงแทบไม่มีบทบาทใดๆ ในสังคม แทบทุกประเทศมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ เรียนรู้การเป็นผู้หญิงที่ดีตามประเพณีของสังคมนั้นๆ เช่น เรียนทำอาหารจากแม่ เรียนเย็บปักถักร้อย จัดดอกไม้ ไม่ต้องเรียนหนังสือแบบผู้ชาย เมื่อโตขึ้นหน้าที่ของผู้หญิงคือการยกฐานะของตนและครอบครัวด้วยการแต่งงานกับผู้ที่เหมาะสม และมีลูก ทำตัวเป็นภรรยาที่ดี เชื่อฟังสามีทุกกระเบียดนิ้ว
cr: telegraph.co.uk
เมื่อเข้าสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ชายส่วนใหญ่ถูกส่งไปรบ ทำให้ขาดแคลนแรงงานตามโรงงานต่างๆ เลยมีการเกณฑ์ผู้หญิงไปเข้าโรงงานแทน นั่นเป็นครั้งแรกที่ผู้หญิงได้มีส่วนขับเคลื่อนสังคม ทำให้ผู้หญิงหลายคนเปิดโลก และเริ่มเรียกร้องสิทธิของตนเอง ทำไมผู้หญิงจะเรียนหนังสือแบบผู้ชายไม่ได้ ทำไมผู้หญิงจะเป็นผู้นำแบบผู้ชายบ้างไม่ได้
cr: japanpowered.com
เมื่อโลกเข้าสู่ยุคแห่งสิทธิเสรีภาพ ผู้หญิงก็เริ่มลืมตาอ้าปากได้ด้วยตัวเอง และกลายเป็นยุคที่เราอยู่กันในปัจจุบัน
ซินเดอเรลลายุคแรกๆ นำเสนอผู้หญิงแบบนั้น สาวน้อยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ถูกรังแก และไม่มีฐานะทางสังคม ต้องรอให้คนอื่นมาช่วยเสมอ ทางออกของเธอคือการแต่งงานกับเจ้าชายที่มีฐานะสูงกว่าเพื่อยกระดับตนเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก ก็สมัยนั้นคนเขียนเขานึกภาพผู้หญิงแข็งแรงกว่าผู้ชายไม่ออก ยึดติดกับภาพผู้ชายเป็นวีรบุรุษเสมอ
ฮอลลีวู้ดพยายามทำหนังซินเดอเรลลาที่เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันมากขึ้น ที่ต้องเปลี่ยนแน่ๆ คือคาแรคเตอร์ตัวละครอย่างซินเดอเรลลา เช่น
แดเนียล ใน Ever After ที่ลุกขึ้นสู้กับพี่สาวไม่แท้ของตัวเอง และแม้ว่าเธอจะโดนขายให้ปิแยร์ เจ้าของที่จอมหื่น แต่เธอก็หนีออกมาได้โดยไม่ต้องให้ใครช่วย
cr: Twentieth Century Fox via fanpop.com
หนังเรื่องนี้แม้จะลงเอยที่แดเนียลได้แต่งงานกับเจ้าชายตามแบบซินเดอเรลลายุคแรก แต่ผู้เขียนบทเพิ่มเนื้อหาที่ดูสมเหตุสมผลมากขึ้น แดเนียลไม่ได้เฝ้าฝันว่าจะต้องแต่งงานกับเจ้าชาย แต่การพบกันและได้พูดคุยกันทำให้ทั้งคู่รู้จักกันและกันมากขึ้นและกลายเป็นความรักในที่สุด
แซม ใน A Cinderella Story ก็ต่อสู้เพื่อความฝันในการเข้าเรียนที่พรินซ์ตันของตัวเอง จนท้ายที่สุดเธอเจอพินัยกรรมของพ่อที่จากไป ทำให้เธอได้ทรัพย์สินที่ควรเป็นของเธอคืนมา และใช้มันเป็นทุนในการเรียนต่อ รวมทั้งดูแลร้านอาหารต่อไป
cr: Warner Bros. via cinemagia.ro
เรียกได้ว่าซินเดอเรลลายุคใหม่ไม่จำเป็นต้องรอให้ใครมาช่วยบ่อยๆ อีกต่อไป (บางทีเธอยังต้องช่วยเจ้าชายเลยด้วยซ้ำ) และไม่ได้เพ้อฝันแบบไร้เหตุผล แต่เรียนรู้ที่จะสู้เพื่อตัวเองให้มากขึ้น แม้จะต้องล้มเหลวบ้างก็ตาม
2. แม่เลี้ยงใจร้าย
"แม่เลี้ยงต้องใจร้าย" เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อๆ กันในซินเดอเรลลาทุกเวอร์ชัน (บางทีก็เป็นพ่อแท้ๆ ของซินเดอเรลลาที่ใจร้าย) เป็นไปได้หรือที่แม่เลี้ยงจะดีกว่าแม่ที่แท้จริง แน่นอนว่ามีโอกาส แต่ไม่บ่อยนัก
ภาพลักษณ์แม่เลี้ยงใจร้ายในเรื่องซินเดอเรลลาทำให้หลายคนหวาดหวั่น และแม้ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครเปลี่ยนภาพนี้ได้ แต่ซินเดอเรลลายุคใหม่พยายามทำให้เรา 'เข้าใจ' แม่เลี้ยงมากขึ้น ไม่ใช่แค่เกิดมาเพื่อเป็นคนไม่ดี แต่ให้เรารู้ภูมิหลังของแม่เลี้ยงว่าเธอเจออะไรมา เช่น แม่เลี้ยงใจร้ายในซินเดอเรลลาเวอร์ชั่นคนแสดงของดิสนีย์ที่แสดงโดย เคท แบลนเชตต์
cr: Walt Disney Pictures via turntherightcorner.com
เราได้รู้ว่าแม่เลี้ยงต้องทนกับการสูญเสียสามีแรกของตน และแม้จะมีครอบครัวใหม่ แต่ก็ไม่อาจได้รับความรักเหมือนเดิม ความรักลูกประกอบกับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจที่ชีวิตตนนั้นต้องล้มเหลวตลอด ทำให้เธอพยายามผลักดันลูกสาวทั้งสองให้ได้ดี
พอได้รู้เรื่องอีกด้านแล้ว ถ้าเป็นเรา เราจะให้อภัยแม่เลี้ยงคนนี้ไหมคะ?
3. ความรักแบบชั่ววูบของเจ้าชาย
ในตำนานนั้นความรักของเจ้าชายไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ เพราะแค่ได้เห็นซินเดอเรลลาในชุดงามๆ ก็ตกหลุมรักจนอยากแต่งงานด้วยแล้ว แถมบางเวอร์ชันที่เจ้าชายออกมาตามหาซินเดอเรลลาด้วยตัวเองก็ดันจำหน้านางไม่ได้ ต้องทดสอบด้วยการให้สวมรองเท้าแก้วอีก อะไรกันเนี่ย!
แต่เวอร์ชันปัจจุบัน คนเขียนก็พยายามทำให้ความรักระหว่างซินเดอเรลลากับเจ้าชายมีอะไรมากกว่าการหลงเสน่ห์ชั่ววูบ เช่น ให้เวลาทั้งสองคนได้ทำความรู้จักกันก่อนถึงงานเต้นรำ เจ้าชายอาจจะประทับใจในทัศนคติของซินเดอเรลลา มากกว่าแค่หลงใหลในรูปร่างหน้าตา
cr: Lionsgate via fanpop.com
หรือบางเวอร์ชันอาจถึงขั้นตัดเจ้าชายออกไปเลย แล้วเอาหนุ่มรับใช้บ้านๆ มาเป็นพระเอกแทน เช่น ในอนิเมชั่นเรื่อง Happily N'Ever After ล้อเลียนเจ้าชายชาร์มมิ่งด้วยการสร้างคาแรคเตอร์ให้เป็นคนที่หลงใหลในบทบาทเจ้าชาย ต้องคอยเปิดคู่มือการเป็นเจ้าชายเสมอ ภาคทฤษฎีได้ แต่ภาคปฏิบัติล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง คนที่ได้ใจเอลล่า (นางเอกของเรื่อง) คือ ริค หนุ่มล้างจานในวังที่แอบชอบเอลล่าอยู่ห่างๆ จนกระทั่งเกิดเรื่องวุ่นวายในราชอาณาจักร เขาจึงได้แสดงความสามารถของตัวเอง
เจ้าชายไม่จำเป็นต้องดีพร้อมเสมอไปจริงๆ
แค่ตำนานพื้นบ้านมีผลกับสังคมขนาดนี้เลยหรือ
มันคงไม่เป็นอะไรเลยถ้าหากดิสนีย์ไม่สร้างภาพตำนานนี้ให้กลายเป็นนิทานสำหรับเด็กไปแล้ว เมื่อกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็ก งานชิ้นนั้นก็จะโดนโจมตีหนักกว่าใครเพื่อน เพราะผู้ใหญ่กลัวว่าเดี๋ยวเด็กจะจำอะไรผิดๆ ไป เช่น พล็อตที่ยังคงภาพผู้หญิงที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ นางเอกเอวคอดเสียจนกลัวว่าเด็กจะเลียนแบบ ฯลฯ
แต่เวลาเสพสื่อพวกนี้เราต้องอย่าคิดอะไรแบบสุดโต่ง ผู้หญิงจะให้ผู้ชายมาช่วยก็ไม่ได้เสียหายอะไร จะเอาตัวรอดเองก็ไม่ผิดอะไร เลือกแบบไหนก็ได้ที่ตัวเองพอใจ ตราบใดที่มันไม่ทำให้ตัวเองและคนอื่นเดือดร้อน
ผู้หญิงที่ยึดมั่นในหน้าที่ของผู้หญิง ต้องเป็นแม่บ้านแม่เรือน ต้องทำกับข้าวเป็น ต้องปรนนิบัติสามีก็ไม่ผิด ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แล้วให้ผู้ชายทำงานบ้านแทนก็ไม่ผิด
ซินเดอเรลลาเวอร์ชันคนแสดงของดิสนีย์อาจจะมีแต่ความเชื่อเดิมๆ ที่ไม่เข้ากับยุคปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเชื่อเดิมนั้นมันผิด มันเป็นแค่ 'มุมมองหนึ่ง' ของคนในสมัยนั้น ไหนๆ ค่ายอื่นเขาก็สร้างซินเดอเรลลายุคใหม่ให้เราคิดกันไปเยอะแล้ว ก็กลับมาดูซินเดอเรลลาแบบดั้งเดิมดูบ้างจะเป็นไรไป
นักเขียนคนไหนในเด็กดีที่อยากเอาซินเดอเรลลามารีเมคอีกครั้ง ก็ต้องเลือกว่าจะเล่าใหม่ในมุมเดิม หรือเล่าในมุมใหม่ไปเลย แต่ไม่มีทางไหนถูกหรือผิดหรอกค่ะ แค่เล่าในแบบของเราก็พอ
จบบริบูรณ์
ภาพประกอบบทความจาก Walt Disney Pictures
17 ความคิดเห็น
ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรหรอกนะ แต่พอมาอ่านบทความนี้แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า เออ มันก็จริงแฮะ คือมันมีอะไรหลายๆอย่างทำให้เราลืมมองไปว่า เอลล่าดูอ่อนแอเกินไปรึเปล่า ทำไมเจ้าชายถึงหลงรูปของเอลล่าตั้งแต่ครั้งแรกขนาดนั้น หรือความใจร้ายของแม่เลี้ยง ซึ่งเอาจริงๆแล้วในสมัยนี้ก็อาจจะมีอยู่บ้างแต่ก็ไม่ใช่ถึงกับแบบนั้นแล้ว
ซินเดอเรลล่าอาจจะมาเป็นนิทานสอนหญิงในฝั่งยุโรปก็ได้นะ แบบว่าไม่จำเป็นต้องมีฐานะดี แค่ทำตัวดีๆก็จะได้สิ่งที่ดีๆตอบแทนมา อะไรแบบนั้น แต่ความจริงคือซินเดอเรลล่าได้ผลตอบแทนจากการที่ต้องทนรับทรมานจากการจิกหัวใช้ของแม่เลี้ยงใจร้ายกับพี่น้องต่างแม่ ซึ่งมันอาจจะดูไม่สมเหตุสมผลซักเท่าไหร่ อาจจะพูดได้ว่าทนทรมาน ต่อไปก็จะสบายเอง...
แต่จริงๆพูดถึงซินเดอเรลล่า ไทยเองก็มีเหมือนกันนะ "ปลาบู่ทอง" ไง คอนเซปของซินเดอเรลล่าคือการมี นางเอกที่น่าสงสาร เจ้าชายรูปงาม แม่เลี้ยงใจร้ายกับพี่น้องต่างแม่อีกสองสามคน ซึ่งปลาบู่ทองที่เป็นเรื่องเล่าแบบไทยๆก็ตรงกับคอนเซปเหล่านี้พอดิบพอดีเลย แต่เราว่าเรื่องราวของปลาบู่ทองมีอะไรมากกว่าการเป็นซินเดอเรลล่านะ เพราะนางเอกต้องทนทรมานจากการเสียแม่ไปตั้งสามครั้ง(แม่ ปลาบู่ทอง ต้นมะเขือ) แล้วยังต้องโดนทารุณอีก แล้วก็เรื่องที่แม่เลี้ยงจะฆ่าให้ตาย รวมทั้งการที่เอื้อย พี่ต่างแม่ ปลอมตัวเข้าไปในวังเป็นนางเอกแทนอีก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็อยากจะจบคอมเม้นท์ว่า ซินเดอเรลล่าในปัจจุบันอาจจะไม่ต้องมีรองเท้าแก้ว ไม่มีแม่เลี้ยงใจร้าย และอาจจะไม่ต้องทำงานอยู่หลังครัวแล้ว แต่ซินเดอเรลล่าที่แท้จริงคือการเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจบริสุทธ์ พร้อมจะสู้ด้วยความกล้าหาญ อดทนกับสิ่งไม่ดีที่รอบล้อม และที่สำคัญคือรักษาความเป็นไทยในตัวหญิงไทยให้ได้มากที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เริ่มน้อยลงไปทุกทีในปัจจุบันนี้ งั้นเรามาร่วมเป็นซินเดอเรลล่าดีๆให้สังคมไทยกันเถอะนะ สังคมไทยจะได้น่าอยู่ขึ้น ^^
ปล.เราแต่งนิยายเกี่ยวกับซินเดอเรลล่าและนิทานอีกหลายเรื่องเลย ฝากเข้าไปอ่านกันด้วยนะ [ ikon fanfic #ficdarkparable http://my.dek-d.com/dekdee/writer/view.php?id=1183210 ]
อาจจะเป็นเพราะยุคสมัยมันเปลี่ยนไปเลยทำให้ เรารู้สึกว่านางเอกที่ต้องรอให้พระเอกมาช่วย ทำอะไรไม่ได้ มีแค่อดทน ใจสู้ แต่ทำอะไรไม่ได้ มันน่ารำคาญ.....- -;;
แบบที่รับได้คือระดับที่นางเอกพอปกป้องตัวเองได้ มีความสามารถ แค่นั้นจบ แต่ก็นั่นแหละ เพราะทุกสิ่งเป็นแบบที่เราคิดไม่ได้ เนื่องจากกว่าจะแต่งนิยายแต่ละเรื่องมันโคตรยาก นอกจากจะรังสรรค์เอง(เรื่องมากชะมัดเลยตู) แต่เราก็ยังชอบพระเอกที่เมพ เทพ ทรูอยู่ดีแหละ (เริ่มเข้าใจว่าเราชอบผู้ชายเพอร์เฟค ซึ่งมันมีแค่ในการ์ตูนเท่านั้นแหละ.....)
แต่เดิม หัวใจของเรื่องซินเดอเรลล่า น่าจะเป็นเรื่องการเชื่อมั่นในความดี โดยให้ธงว่า "แม้วันนี้อาจจะลำบากทุกข์ทรมาน แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคนที่ทำดีต้องได้รับผลตอบแทนที่ดีในตอนท้ายแน่นอน"
แต่ในการเอามาเล่าให้เด็กฟัง เอามาสอนเด็กๆ เราก็ต้องช่วยเน้นช่วยขยายความกันหน่อย บางทีเล่าเน้นผิดจุด เด็กอาจไปจำติดเกี่ยวกับเรื่องความรักโรแมนติกชั่วข้ามคืน หรือแม้แต่การเฝ้ารอเจ้าชายมาเปลี่ยนแปลงชีวิต
คนรับสาร หรือคนอ่าน จะได้รับสารอย่างไร เชื่อว่าน้ำเสียงของคนเล่าและวิธีการเล่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ
ส่วนตัวก็เขียนเรื่องที่ดึงเอาคาแรคเตอร์ซินเดอเรลล่าและเรื่องราวระหว่างเธอ แม่เลี้ยง และเจ้าชาย มาเขียนใหม่ในแบบของตัวเองเหมือนกันค่ะ อยากแชร์นะ แต่เพราะเรื่องนี้เลือกเขียนให้เป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากกว่า ไม่แปะลิงก์ละกันค่ะ
ผมถูกใจบรรทัดสุดท้ายครับ!
ชอบบทความนี้มากค่ะ^_^
เป็นบทความที่น่าสนใจมาก ทำให้รู้เลยว่ามันมีอะไรแฝงอยู่ เพราะบางทีเราดูไปก็ไม่รู้ความหมายของมันจนกว่าจะมีคนมาถามหรือมาบอก ต้องขอบคุณมากๆครับ
จากที่ดูในเวอร์ชั่น 2015 ที่เอลล่ายอมอยู่บ้านหลังนั้นยอมถูกให้คนรังแกก็เพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อ
ขอปรบมือให้ประโยคนี้ดังๆค่ะ
"ผู้หญิงที่ยึดมั่นในหน้าที่ของผู้หญิง ต้องเป็นแม่บ้านแม่เรือน ต้องทำกับข้าวเป็น ต้องปรนนิบัติสามีก็ไม่ผิด ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แล้วให้ผู้ชายทำงานบ้านแทนก็ไม่ผิด"
เราเป็นคนนึงที่ชอบซินเดอเรลลามาตั้งแต่เด็กๆ ให้เลือกเจ้าหญิงดิสนีย์อันดับหนึ่งในใจเราก็ยกให้ซินเดอเรลลาค่ะ เหตุผลที่เราเลือกเธอคือ เพราะเธอเชื่อว่าหากทำดี เธอจะได้รับสิ่งดีๆ มองลึกๆแล้วอาจจะน่ารังเกียจที่ซินเดอเรลลาหวังผลดีจากสิ่งดีๆที่ทำ แต่ในเมื่อกรรมคือผลของการกระทำ ทำดีแล้วก็ต้องหวังว่าจะได้ดีสิ เราเลยคิดว่าซินเดอเรลลาน่ายกย่องด้วยซ้ำไปที่อยู่ในสภาพกดดันแบบนั้นแต่เธอยังตั้งมั่นจะเป็นคนดีอยู่ได้
ที่บอกว่าปรบมือให้เพราะ เมื่อใครๆทราบว่าซินเดอเรลลาเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์อันดับหนึ่งในใจเรา จะเกิดคำถามตามมาว่า --ทำไมล่ะ? ไม่เห็นมีอะไรดีเลย วันๆเอาแต่เพ้อฝัน นั่งสวยๆแล้วก็ได้เป็นเจ้าหญิง-- เราโดนถามแบบนี้มาตลอด แม้จะอธิบายว่าเราชอบที่ความคิดดีคิดบวก แต่ก็ไม่เคยมีคนฟังคนไหนพอใจคำตอบของเรา หลังๆพอมีคนถาม เราก็จะแค่บอกว่าชอบ แต่ไม่อยากบอกเหตุผลแล้วค่ะ
จนมาเจอบทความนี้ ขอปรบมือให้ประโยคข้างต้นอีกที เพราะมุมมองแต่ละคนไม่เหมือนกัน คนส่วนใหญ่เลือกที่จะมองว่าซินเดอเรลลาไม่มีดีอะไรนอกจากสวย อืม...มันก็เป็นเรื่องของเค้าเนอะ เพราะมันเป็นมุมมองของเค้า และถ้าเราอธิบายแล้วเค้าก็ยังไม่พอใจอีก ก็คงได้แต่บอกตัวเองว่าเรื่องของเค้า ถึงอย่างไรความชอบที่เรามีแต่ซินเดอเรลลาก็ยังคงอยู่ เรายังนับถือความดีคิดดีของเธอเหมือนเดิม นี่ก็เป็นมุมมองของเรา ไม่มีใครถูกใครผิดเลย
ขอบคุณมากค่ะ เราชอบบทความนี้มากจริงๆ เหมือนช่วยดึงอะไรซักอย่างที่แทงใจเรามาตลอดออกไปเลย :)