7 ปรัชญาน่าสนใจชวนคิดต่อ จากสตาร์วอร์ส

สตาร์วอร์สกำลังจะฉายแล้ว
ทบทวนสิ่งดีๆ จากหนังเรื่องนี้ ก่อนไปดูของจริงกันดีกว่า

 


 
เชื่อว่าแฟนคลับหลายๆ คน คงตื่นเต้นกับสตาร์วอร์สภาคใหม่ “อุบัติการณ์แห่งพลัง” หรือ Force Awaken” ที่กำลังจะเข้าฉายในวันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม 2558 นี้ ถ้าใครเคยดูหนังหรืออ่านหนังสือมา ก็จะรู้ว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับแค่สงครามอวกาศ แต่ยังพูดถึงวิธีการดำเนินชีวิต และปรัชญาการเมืองการปกครองด้วย  
 
เพื่อเป็นการต้อนรับหนังเรื่องนี้ เราได้รวบรวมคำคมดีๆ มาฝากกันค่ะ ลองไปอ่านกันดูนะคะ
 

ความจริงไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว

Many of the truths that we cling to depend on our point of view.
ความจริงขึ้นอยู่กับมุมมอง
โอบี-วัน เคโนบี้
 
หนึ่งในสุดยอดคำคมจากสตาร์วอร์ส และเป็นความจริงที่ทุกคนบนโลกนี้ควรรู้ ใช่แล้ว... ความจริงของเรา อาจไม่ใช่ความจริงของคนอื่น และความจริงที่เราเชื่อ ก็อาจไม่ใช่ความจริงเสมอไป... เวลาเปลี่ยน คนเปลี่ยน มุมมองเปลี่ยน ความจริงอาจไม่ใช่ความจริงอีกแล้วก็เป็นได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ น้ำสำหรับเรา คือเครื่องดื่ม แต่น้ำสำหรับปลา หมายถึงอากาศ เพราะฉะนั้น ความจริงจึงขึ้นอยู่กับมุมมอง
 
ทุกวันนี้ เราเห็นสงครามมากมายเกิดขึ้น ก็เพราะทุกคนต่างมีความจริงของตัวเอง ทุกคนรักในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ และมองว่า “ความจริงของคนอื่น” ไม่ใช่ความจริง แต่ยึดถือใน “ความจริง” ของตัวเอง ว่าเป็น “ความจริงสูงสุด” บางที คนเราควรเรียนรู้ที่จะเชื่อใน “ความจริง” ของคนอื่นบ้าง โลกอาจสงบสุขมากกว่านี้
 

พลังด้านมืดเกิดจากความกลัว

Fear is the path to the Dark Side. Fear leads to anger, anger leads to hate, hate leads to suffering. 
ความกลัวคือหนทางไปสู่ด้านมืด ความกลัวนำไปสู่ความโกรธ ความโกรธนำไปสู่ความเกลียด ความเกลียดนำไปสู่ความเจ็บปวด
โยด้า
 
ทุกวันนี้ เราใช้ชีวิตอยู่กับความกลัว โดยเฉพาะเรื่องของการก่อการร้าย (ล่าสุดเกิดเหตุระเบิดที่ฝรั่งเศส) ต่างฝ่ายต่างก็กลัวกันไปกลัวกันมา เมื่อเกิดความกลัว ก็นำไปสู่ความโกรธเกลียด และสุดท้ายก็กลายเป็นความรุนแรง ปิดท้ายด้วยความเจ็บปวด
 
ความกลัวในระดับที่พอดี ไม่ถือว่าเลวร้าย แต่เมื่อใดที่เรากลัวมากเกินไป จนกลายเป็นต้องการทำลายฝ่ายตรงข้าม อันนั้นคือความกลัวที่มากเกินไป ความคิดที่ว่าอีกฝ่ายคือศัตรูที่เราต้องทำลาย นำไปสู่ด้านมืดในจิตใจ ความกลัว เป็นต้นเหตุให้เกิดสงคราม ให้คนต่อสู้กัน ทำให้เราเจ็บปวด เครียด และกังวล แต่มนุษย์ก็ยังเสพติดอยู่กับความกลัว
 
บางที มนุษย์น่าจะลองเปิดใจ เมตตากันและกัน เห็นอกเห็นใจกันให้มากขึ้น เพื่อลดความคิดด้านมืดในจิตใจลง  
 

 

มนุษย์ควรยืนหยัดด้วยตัวเอง  

There’s no mystical energy field that controls my destiny.
ไม่มีพลังลึกลับใดๆ ควบคุมชะตาชีวิตของเราได้
ฮาน โซโล
 
ถ้าใครดูสตาร์วอร์ส ก็จะรู้ว่า ฮาน โซโล (ที่เล่นโดยแฮริสัน ฟอร์ด) เป็นตัวละครที่โดดเดี่ยวและเป็นตัวของตัวเองมาก ข้อดีคือ เขารับผิดชอบทุกการกระทำของตัวเอง จะสุขหรือทุกข์ ก็อยู่ที่ตัวเอง ตัวละครตัวนี้ ไม่โทษโชคชะตา ไม่หวังพึ่งพระเจ้า หรือสิ่งที่ไม่มีตัวตน เขาหวังพึ่งตัวเองเท่านั้น มองแง่หนึ่ง มันก็เป็นจุดเข้มแข็ง ถ้าทุกคนคิดแบบฮาน โซโลได้ ก็เท่ากับว่าทุกคนรับผิดชอบตัวเอง แต่ด้านลบหรือข้อเสียมันก็มี ถ้าวันไหนเราทุกข์หนัก กำลังใจอาจจะลดถอย และการอยู่คนเดียวก็อาจทำให้เราต้องอ่อนล้า เจ็บปวด  
 

การปกครองที่ดี มีจริงหรือ...?

What if the democracy we thought we were serving no longer exists, and the Republic has become the very evil we’ve been fighting to destroy?
ถ้าหากประชาธิปไตยที่เราเคยคิดว่ามีจริง ไม่มีอยู่แล้ว และรัฐบาลกลายเป็นศัตรูที่เราต้องโค่นล้มล่ะ...?
แพดเม่ อมิดาลา
 
นอกจากจะเป็นหนังสงครามอวกาศ สตาร์วอร์ส ยังนำเสนอแนวคิดทางการเมืองการปกครองได้อย่างน่าสนใจ จากคำพูดของ เจ้าหญิงแพดเม่ คิดว่า จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับชาวอเมริกัน คงตั้งคำถามถึงความหมายของประชาธิปไตยในโลกปัจจุบัน (หรือก็คือประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกาเอง) ว่า... มันเป็นประชาธิปไตยจริงแน่หรือ ระบบการเมืองที่เป็นอยู่ มันดีต่อประชาชนแล้วจริงหรือไม่ และระบบการปกครองที่ใช่ มันอยู่ที่ไหนกันแน่
 
ซึ่งคำตอบจริงๆ แล้ว มันคงเป็นคำว่า “ไม่มี”    
 

 

อย่าสงสัยในตัวเอง

Do or do not… there is no try.
แค่สองคำ ทำหรือไม่ทำ ไม่มีการ “ลอง”
โยด้า  
 
คำคมนี้ สอนให้เราเชื่อมั่นในตัวเอง และชัดเจนเด็ดขาด อย่ามัวแต่ลังเลว่าจะเอายังไง ถ้าต้องทำ ก็ทำเลย หรือไม่งั้นก็ไม่ต้องทำ เชื่อกันว่าอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือ “การมีความสุข” อาจฟังดูแปลกแต่จริง เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่มักไม่เชื่อว่าตัวเอง “ดีพอ” แต่มักจะสงสัยในตัวเองอยู่เสมอ และชอบคิดว่า ถ้าตอนนั้น ฉันทำแบบนั้น บางที ชีวิตฉันอาจไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ก็ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะมานั่งคิดเสียดายสิ่งที่ไม่ได้ทำ ก็อย่างที่บอก แค่สองคำ ทำหรือไม่ทำ เท่านั้นแหละ
 

อำนาจเหมือนขนมหวาน

Don’t you see? We don’t have to run away anymore! I am more powerful than the Chancellor, I… I can overthrow him! And together, you and I can rule the galaxy! Make things the way we want them to be!
เราไม่จำเป็นต้องหนีอีกแล้ว ฉันมีอำนาจยิ่งกว่าผู้มีอำนาจคนไหนๆ และเมื่อรวมพลังกัน เราจะปกครองกาแล็กซี่ และสร้างมันให้เป็นอย่างที่ต้องการ
อนาคิน สกายวอล์กเกอร์
 
สำหรับคนที่ดูสตาร์วอร์ส คงรู้อยู่แล้วว่า อนาคินพ่ายแพ้ต่อสิ่งที่เรียกว่า “อำนาจ” และทำให้เขากลายเป็น ดาร์ธเวเดอร์ โดยเนื้อแท้ อนาคินหวังสิ่งที่ดีที่สุดให้กับกาแล็กซี่ เขาเป็นเจไดที่ทรงอำนาจที่สุด และคาดหวังว่าจะใช้พลังอำนาจนั้นเพื่อสร้างสิ่งที่ดีกว่า ท้ายที่สุด เมื่ออำนาจของเขาเพิ่มมากขึ้นทุกที เขาอยู่เหนือทุกคน เหนือทุกสิ่ง และกลายเป็น “ผู้ทรงอำนาจสูงสุด”
 
ความล้ำลึกของสตาร์วอร์สอยู่ที่ตรงนี้ จากคนที่เจตนาดี หวังทำสิ่งดีๆ กลับกลายเป็นพ่ายแพ้ต่อด้านมืดในจิตใจตัวเอง ความตั้งใจดีที่มากเกินไป อาจกลายเป็นความเลวร้ายได้ พลังอำนาจที่มากเกินไป ความทะเยอทะยานที่มากเกินไป ทั้งหมดนี้ อาจจบลงที่หายนะ ถ้าไม่รู้จักควบคุมตัวเองให้ดีพอ
 

 

ความตายอยู่เหนือทุกสิ่ง

Well, I should be! Some day I will be… I will be the most powerful Jedi ever. I promise you. I will even learn to stop people from dying.
สักวันหนึ่ง ฉันจะกลายเป็นเจไดที่ทรงอำนาจที่สุด และจะเรียนรู้ที่จะหยุดยั้งความตาย
อนาคิน สกายวอล์กเกอร์
 
คำคมสุดท้ายที่ยกมา มาจากอนาคิน ผู้พ่ายแพ้ต่ออำนาจกลายเป็นดาร์ธเวเดอร์ ประโยคนี้ คือบทเรียนที่สอนเราเกี่ยวกับเรื่องความตาย มนุษย์เรา ไม่ว่าจะทรงอำนาจแค่ไหน แข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายแล้ว ก็หนีไม่พ้นความตาย เราไม่อาจหยุดยั้งมันได้ ต่อให้เรายิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม บางที สิ่งที่เราต้องทำก็คือยอมรับความจริง อย่าปฏิเสธหรือพยายามเอาชนะสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อย่างที่อนาคินพยายามทำ เรียนรู้ที่จะตายอย่างสงบ และเป็นตัวของตัวเอง  
 
อตินเอง

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนและภาพจาก


 
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ปลาซาบะซัง Member 4 ม.ค. 59 20:15 น. 3-1
แปลว่าคำพูดนี้จะขัดกับหลักของโคนันที่พูดมาเป็นสิบกว่าปี "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว"
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

12 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
ปลาซาบะซัง Member 4 ม.ค. 59 20:15 น. 3-1
แปลว่าคำพูดนี้จะขัดกับหลักของโคนันที่พูดมาเป็นสิบกว่าปี "ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว"
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
คนรุ่นเก่า 9 ธ.ค. 58 23:26 น. 5
I am your father ประโยคเดียว คนดูอึ้งกันไปสิบวินาที ใครจะคิดว่าตัวร้ายใส่หน้ากากที่ดูเลวที่สุด เคยเป็นเจได และเป็นพ่อของตัวเอกอย่างลุคด้วย
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
สตาร์วอร์ 11 ธ.ค. 58 19:45 น. 8
ส่วนตัวข้อสุดท้ายรู้สึกไม่เห้นด้วยนิดๆเพราะว่าไม่น่อนาคตอาจจะมีคนบางคนที่สามารถหนีความตายได้ก็ได้ถ้าตามหลักวิทยาศาตร์ยังไงร่างกายมนุษย์ก็ไม่ได้สร้างมาจากพระเจ้าหรือปาฏิหาริย์อะไรอยู่แล้วแค่ว่ายังไขปริศนาไม่ได้เท่านั้นว่าคนเราเกิดมาได้ยังไง ผมว่าถ้ารู้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นอาจจะแก้จุดจบได้ก็ได้ใครจะไปรู้ทั้งหมดคือความคิดเห็นส่วนตัวนะครับเขิลจุง
0
กำลังโหลด
toonwo115 Member 12 ธ.ค. 58 15:40 น. 9

สงครามไม่เคยทำให้ใครยิ่งใหญ่........ของอาจานโยดาไม่มีอ่ะ

ส่วนตัวผมขอแย้งนะ

นโปเลียนล่ะ อเล็กซานเดอล่ะ เจงกิสข่านล่ะ โอดะล่ะ พวกเขาก็ยิ่งใหญ่เพราะสงครามนะ

แน่นอน

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด