เพิ่มเติมแรงบันดาลใจด้วย
14 คำคมจากนักเขียนในตำนาน ฮารูกิ มูราคามิ

 
สวัสดีชาวนักเขียนเด็กดีทุกคนค่ะ สำหรับวันนี้ แอดมินขอเอาใจแฟนคลับ “ฮารูกิ มูราคามิ” สักหน่อย ด้วยการรวบรวม 14 คำคมยอดฮิตของนักเขียนท่านนี้มาให้อ่านกัน เผื่อว่าจะใช้เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนางานเขียนของเราได้บ้างเนอะ
 

 
“ตัวละครของผมไม่ใช่คนพิเศษ พวกเขาเป็นแค่คนที่มีเรื่องราวในตัวเอง และอยากถ่ายทอดให้คนอื่นฟัง เพียงแต่ไม่รู้วิธีการ ก็เลยต้องพูดกับตัวเองไปก่อน”  
 
“เวลาเขียนนิยาย หลายครั้ง เสียงเพลงบางเพลงจะดังขึ้นในหัว... และผมเขียนนิยายตามอารมณ์ของเพลงนั้นๆ”
 
“ผมไม่ค่อยวางแผนการเขียน ส่วนใหญ่จะรอจนกว่าเรื่องราวจะปะติดปะต่อในหัว ผมไม่บังคับตัวเองให้เขียน และจะไม่เขียนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น” 
 
“นักเขียนทุกคนมีเทคนิคส่วนตัวและความถนัดที่ไม่เหมือนคนอื่น มีเรื่องที่เขียนได้และเขียนไม่ได้ มีเรื่องที่ชอบเขียนและไม่ชอบเขียน สำหรับผม บอกตรงๆ ว่าไม่ถนัดเขียนเรื่องสงครามหรือประวัติศาสตร์ ถ้าต้องเขียน ก็จะฝืนใจมากและทำได้ไม่ดีเท่าแนวอื่นๆ”
 
“จะเขียนหนังสือ ต้องมีสมาธิ”
 

 
“ทั้งชีวิต เขียนหนังสือได้แค่ 12 เล่ม ผมก็พอใจแล้ว ถ้ามากกว่านั้น ถือว่าเป็นโบนัส”
 
“บนโลกนี้ ไม่มีคำว่าการเขียนที่สมบูรณ์แบบ ไม่แม้แต่คำว่าใกล้เคียงด้วยซ้ำ จงเขียนในแบบของคุณเอง”
 
“คนทั่วไปต้องนอนหลับก่อนจึงจะฝันได้ แต่นักเขียน เป็นอาชีพที่ต้องหัดฝันตลอดเวลา ไม่ว่ายามหลับหรือตื่น”
     
“ทุกครั้งที่มีเรื่องอยากบอกให้คนอื่นรู้ ผมมักจะเลือกเขียนหนังสือเสมอ บางคนบอกว่างานเขียนเกิดจากจินตนาการ สำหรับผม มันเกิดจากการสังเกต และความรู้สึกอยากบอกเล่า...”
 
“หน้าที่ของนักเขียนคือ สังเกตผู้คนและสังเกตโลก แต่ไม่ได้หมายความว่าให้ไปตัดสินใคร เวลาเขียนถึงตัวละครใดๆ ก็ตาม ผมจะพยายามไม่ด่วนสรุป แต่จะหาทางเลือกให้พวกเขา และพยายามทำทุกทางเพื่อให้พวกเขารู้จักและเข้าใจโลกมากขึ้น” 
 

 
“ผมไม่รู้ว่านักเขียนคนอื่นใช้วิธีแบบไหน แต่สำหรับผม การเขียนมาตื่นตอนเช้าๆ โดยเฉพาะช่วงตีสาม นี่แหละ สมองไหลลื่นที่สุด”
 
“เวลาเขียนถึงตัวละครอายุน้อย เช่น เด็กชายวัย 15 ผมใช้วิธีย้อนกลับไปคิดถึงช่วงวันเก่าๆ ตอนที่ผมอายุเท่านั้น พยายามจดจำทุกอย่าง สัมผัสทุกความรู้สึกที่เราเคยเป็น ณ ตอนนั้น แล้วถ่ายทอดออกมาให้ชัดเจนและได้อารมณ์ที่สุด”
 
“ทุกครั้งที่เริ่มเขียน ผมไม่รู้บทสรุปในทันที และไม่รู้ด้วยว่าตอนจบจะลงเอยอย่างไร ผมปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ของเรื่อง”
 
“ทุกครั้งเวลาเขียนหนังสือเรื่องใหม่ๆ ผมพยายามปรับบทบาทเสมอ บางครั้ง ผมก็เบื่อกับตัวตนของตัวเอง หรือพล็อตเก่าๆ ซ้ำๆ ซากๆ การเขียนอะไรที่ฉีกแนว แตกต่าง มันก็เหมือนผมได้หลุดพ้นจากการเป็นตัวเอง นักเขียนได้เปรียบที่สุดก็ตรงนี้ อาชีพของเราทำให้เราได้ทำอะไรที่หลากหลายและแตกต่าง”  
 
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
  
พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
กำลังโหลด
SoulBladeMaster Member 10 พ.ค. 59 09:05 น. 3

เป็นแรงบันดาลสำหรับนักเขียน คนที่ไม่มั่นใจตัวเองและคนที่ยังไม่มีเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

ได้ดีมากเลยนะครับ ^^

0
กำลังโหลด
ppapapa Member 10 พ.ค. 59 11:15 น. 4

เวลาอ่านหนังสือของมุราคามิแล้ว ต้องมีสมุดเอาไว้ข้างๆ ตัวละครชอบคิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากๆ ต้องจดตลอดเวลาจนอ่านไม่ปะติดปะต่อ เหมือนดูเดอะ แมทริกซ์เลยค่ะ ต้องดูไปหยุดไป นั่งจดคำพูดที่พูดออกมา 555 รักมุราคามิมาก มีทุกเล่ม เก็บทุกปก 

1
กำลังโหลด
dragonmeat Member 10 พ.ค. 59 17:47 น. 5

เราคิดเหมือนท่านหลายอย่างเลย โดยเฉพาะที่เป็นนักเขียนต้องหัดฝันทั้งยามหลับและยามตื่น แล้วก็ไม่วางแผน แต่ให้เรื่องราวปะติดปะต่อในหัวเอง  เป็นบทความที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากๆเลยค่ะรักเลย

0
กำลังโหลด

8 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
SoulBladeMaster Member 10 พ.ค. 59 09:05 น. 3

เป็นแรงบันดาลสำหรับนักเขียน คนที่ไม่มั่นใจตัวเองและคนที่ยังไม่มีเป้าหมายที่ตั้งใจไว้

ได้ดีมากเลยนะครับ ^^

0
กำลังโหลด
ppapapa Member 10 พ.ค. 59 11:15 น. 4

เวลาอ่านหนังสือของมุราคามิแล้ว ต้องมีสมุดเอาไว้ข้างๆ ตัวละครชอบคิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์มากๆ ต้องจดตลอดเวลาจนอ่านไม่ปะติดปะต่อ เหมือนดูเดอะ แมทริกซ์เลยค่ะ ต้องดูไปหยุดไป นั่งจดคำพูดที่พูดออกมา 555 รักมุราคามิมาก มีทุกเล่ม เก็บทุกปก 

1
กำลังโหลด
dragonmeat Member 10 พ.ค. 59 17:47 น. 5

เราคิดเหมือนท่านหลายอย่างเลย โดยเฉพาะที่เป็นนักเขียนต้องหัดฝันทั้งยามหลับและยามตื่น แล้วก็ไม่วางแผน แต่ให้เรื่องราวปะติดปะต่อในหัวเอง  เป็นบทความที่สร้างแรงบันดาลใจได้ดีมากๆเลยค่ะรักเลย

0
กำลังโหลด
Smile in wonderland Member 10 พ.ค. 59 18:23 น. 6

มันค่อนข้างจะตรงกับเรานะ ตรงที่...ปล่อยให้อารมณ์พาไป ไม่ค่อยได้วางแผนเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าตอนจบจะเป็นยังไงกันแน่ แค่ให้ 'อารมณ์' พาไป ช่วยได้มากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ นะค่ะ

0
กำลังโหลด
2074 5 ก.ย. 59 15:52 น. 7
งานเขียนเขาค่อยข้างจะมี Passion สูง เเละที่มูคารามิเขียนงานโดยที่ไม่ต้องวางเเผนได้เพราะ งานเขียนเขาเป็นอะไรที่ต้องใช้อารมณ์สูงมาก ถ้าอ่านงานเขาบางครั้งเราไม่เข้าใจอะไรเลย เเต่บางครั้งก็ด่ำดิ่งเเละรู้สึกสัมผัสได้จนอธิบายออกมาไม่ถูก เป็นคนที่ค่อนข้างเขียนอะไรที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้จริง งานเขาไม่ได้ลึกมาก เเต่บางครั้งรู้สึกว่างานเขาเปราะบางมากเหลือเกิน จริงๆ ถ้ายิ่งห้วงอารมณ์ ณ ตอนนั้นตรงกับหนังสือของเขาสักเล่ม น่าจะด่ำดิ่งมากถึงมากที่สุด เคยอ่าน Norwegian Wood มันหนักมากถึงมากที่สุดในความคิดเรา เเต่มันดิ่งกับตัวเรามาก ความไม่เข้าใจของพระเอกที่มีต่อตัวละครต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ความรู้สึกของนางเอก (หมายถึงคนสุดท้ายที่อยู่กับพระเอก) ว่าทำไมสุดท้ายเเล้วฆ่าตัวตาย เราไมได้เป็นโรคซึมเศร้า เเต่เป็นโรคหวาดระเเวง กินยาเยอะมาก ตอนทีอ่านเหมือนโดนฉุดชีวิตขึ้นมาจากโคลนที่ค่อยๆ ดูดเราลงไป เราเข้าใจตัวละครที่เป็นโรคซึมเศร้าในเรื่องมาก เเละเข้าใจมุมมองของพระเอกที่มองด้วย อ่านไปคืออึดอัดมาก ไม่อยากจะอ่านต่อเเล้ว บางคนอาจจะบอกว่าเนื่อย ก็อาจจะใช่ เเต่งานเขาเหมือนน้ำซึม มันค่อยๆ ลึกเข้ามาในใจ มันมีความทรมานเเทรกซึมเข้าความรู้สึกเเทบจะตลอดทั้งเรือง อาจเพราะเราเข้าใจเเละสัมผัสกับสิ่งนั้นอยู่ คล้ายกับว่ากำลังโดนจู่โจมความคิด ทำให้หวนคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างที่เป็นเเปลอยู่ในใจ เเต่พออ่านจบ คือถอนหายใจหนักมาก เป็นงานที่คิดว่าคงไม่อานซ้ำอีกเเล้ว เเบบไม่อยากสัมผัสความรู้สึกนั้นอีก
0
กำลังโหลด
ตะวันครามม Member 24 มิ.ย. 60 21:27 น. 8

ผมกำลังคิดหนักเรื่องการเขียนนิยาย แต่ได้มาอ่านคำคมเหล่านี้แล้วผมรู้สึกมีแรงบันดาลใจจริงๆครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด