จากนักเขียนแนวแฟนตาซี
สู่โรแมนติกดราม่าเข้มข้นจนได้เป็นละคร
เบญจามินทร์
เบญจามินทร์ : สวัสดีค่ะเพื่อนๆ หรือจะน้องๆ ดี (ฮา) เบญจามินทร์ มีชื่อจริงว่า กาญจนา อนันต์ หรือเรียกพี่เดลก็ได้ค่ะ
เบญจามินทร์ : รู้ว่าตัวเองอยากเป็นนักเขียนก็ตอนไปเดินเลือกซื้อหนังสือในร้านหนังสือ เห็นคนพูดคุยกันเรื่องนักเขียน ตามหาหนังสือของนักเขียนผ่านนามปากกา เห็นความเท่ของชื่อบนปกหนังสือ เลยรู้สึกว่าอยากให้คนอื่นมาตามหานามปากกาเราบ้าง อยากเห็นนามปากกาเรามาอยู่ในร้านหนังสือบ้าง เลยคิดอยากเขียนค่ะ
เบญจามินทร์ : นานมากๆ แล้วค่ะ เป็นสิบๆ ปีได้นะ เรื่องแรกที่ลงคือรัตนมณีแห่งดวงดาวค่ะ
เบญจามินทร์ : รัตนมณีแห่งดวงดาว, อมตภพ (สองเล่มจบ), ลำนำรักจักราศี, อาณาจักรรัก, ดวงหทัยครุฑรามันตุ์, ปีกแก้วแห่งนครา, คีย์ของหัวใจ, ฝากรักไว้ข้างบ้าน, สลักใจในสายหมอกและแรงตะวัน
เบญจามินทร์ : เริ่มจากคุยกับเพื่อนว่าอยากเขียนนิยายแนวๆ ตบจูบ แต่จะทำยังไงให้มันดูแตกต่าง เราเองก็ไม่ชอบความรุนแรง ไม่ชอบพระเอกลงมือกับนางเอก แล้วเราจะเขียนแนวนี้ได้ยังไง จะสร้างตัวละครแบบไหน ระหว่างคิดๆ ก็เห็นข่าวเด็กถูกพี่เลี้ยงทำร้ายเป็นเวลานาน กว่าพ่อแม่จะรู้เด็กก็เจ็บหนัก ข่าวช่วงนั้นดังมาก มีนักวิชาการมาพูด มาแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ต่างบอกตรงกันว่า เป็นห่วงเด็ก เพราะต่อให้แผลที่ตัวเขาหาย แต่เด็กพวกนี้จะมีแผลที่จิตใจ พวกเขาต้องได้รับการดูแลอย่างเข้าใจ คอยให้ความรักเพื่อให้เขาผ่านมันไปได้ คำถามคือ ถ้าเด็กไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้องล่ะ เขาจะโตมาเป็นคนแบบไหน คำตอบที่เราได้คือสุริเยนทร์ ตัวละครในแรงตะวันค่ะ
เบญจามินทร์ : เริ่มจากส่งเรื่องประกวดโครงการพลอตเด่นเป็นละคร ที่ทางสถาพรบุ๊คส์ร่วมมือกับช่อง3 แต่ไปถึงแค่รอบ 30 พลอตค่ะ หลังตกรอบก็ยังเขียนต่อ พร้อมกับส่งอีเมลไปปรึกษาบ.ก. ว่าเราจะส่งเรื่องนี้ให้พิจารณาได้มั้ย ทางนั้นก็ตอบมาว่าส่งมาได้เลย ระหว่างที่เขียนเพื่อนที่เป็นคนเขียนบทก็มีข่าวมาบอกว่า มีผู้จัดกำลังหาบทประพันธ์ไปทำละครให้ลองส่งพลอตแรงตะวันให้เขาดู พอส่งไปสรุปทางนั้นชอบ เสนอช่องผ่าน ก็เลยได้ทำละครค่ะ
เบญจามินทร์ : ส่วนที่ต่างจากนิยายก็มีเยอะเหมือนกันค่ะ หลักๆ ละครมีความสัมพันธ์ของรุ่นพ่อ ปมแย่งคนรัก มีการฆาตกรรมเข้ามาเพิ่ม...ด้วยนิยายเราเขียนเน้นที่คู่หลัก พอไปทำละคร มันต้องมีรายละเอียดมากขึ้น ต้องทำคู่สอง คู่สาม จึงจำเป็นต้องมีการเพิ่มและการโยกตัวละครไปบ้างค่ะ เพื่อความเหมาะสม แต่ทางผู้จัดก็บอกเราและขออนุญาตไว้แล้วค่ะ
เบญจามินทร์ : ไม่รู้เรียกว่าแรงบันดาลใจมั้ย เรียกว่าความอยากมากกว่าค่ะ อยากเขียนแนวแรงๆ เจ้าพ่อ มาเฟีย ที่พระเอกและนางเอกแรงใส่กัน ราวกับว่าถ้าแพ้ก็คือตาย บวกกับอยากก้าวข้ามกำแพงของตัวเอง ที่ปกติไม่ชอบพระเอกที่เอะอะใช้กำลังกับนางเอก เรียกว่าเกลียดพระเอกแบบนี้ที่สุด คำถามคือเราจะเขียนให้คนรักตัวละครแบบที่มีนิสัยแบบนี้ได้มั้ย เราจะรักคนแบบนี้ได้ยังไง ก็เลยสร้างสุริเยนทร์ขึ้นมา ผู้ชายที่ภาพภายนอกเป็นคนป่าเถื่อน แต่ภายในเขาน่าสงสารมาก สุดท้ายเราก็รักเขาได้
เบญจามินทร์ : ชอบสุริเยนทร์ค่ะ เพราะเขาน่าสงสาร เราสงสารเขา ส่วนวิสุทธิ์ในละครกับในนิยายแตกต่างกันค่ะ ในนิยายคือเขาเป็นคนอบอุ่น น่ารัก เป็นคนที่คอยห้ามสุริเยนทร์ มองโลกตรงข้ามกับสุริเยนทร์เลย แต่ในละคร มีการโยกออกไปเป็นคนรู้จักไร่ติดกัน ที่รุ่นพ่อเคยมีความแค้นกันทำให้เหม็นขี้หน้ากัน
เบญจามินทร์ : มาเฟียหรือเจ้าพ่อสุริเยนทร์ เป็นมาเฟียรันทดค่ะ(ฮา) ชีวิตนางดูน่าสงสาร เพราะเปลี่ยนจากเด็กขี้โรค หวาดกลัว ขี้แยมาเป็นเจ้าพ่อโหดๆ เถื่อนๆ เขาเป็นคนที่ต้องการความรักที่สุด แต่ไม่รู้ว่าจะแสดงออกยังไง ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงให้คนรัก ใช้ชีวิตโดยสัญชาตญาณ เหมือนสัตว์ป่าค่ะ
เบญจามินทร์ : อย่าตัดสินคนแค่คุณได้ยินเขาเล่ามา...ถ้ารอบตัวคุณมีเด็ก ดูแลเขาให้ดีค่ะ ปกป้องเขาอย่าให้เขาโตมากับภาพความรุนแรง...การถือทิฐิอยากเอาชนะคนในครอบครัวไม่เคยสร้างผลดีกับใคร เพราะวันหนึ่งถ้าเขาไม่อยู่ให้เราเอาชนะแล้ว คนที่จะเสียใจที่สุดคือเรา
เบญจามินทร์ : อุปสรรค์ใหญ่ๆ คือความไม่มีวินัย ขี้เกียจ (ฮา) เอาชนะโดยเอาความอยากมาล่อตัวเองค่ะ อยากไปงานหนังสือต้องรีบเขียนจะได้มีหนังสือออก อยากได้โทรศัพท์ใหม่ต้องเขียนจะได้มีเงินไปซื้อ อยากมีปกมาอวดเพื่อนๆ ก็ต้องเขียนให้จบแล้วส่งพิจารณาไวๆ ประมาณนี้ค่ะ ><
เบญจามินทร์ : ปรับการอ่านหนังสือ การดูหนัง ปกติไม่ได้ชอบดูละครเท่าไหร่ ก็หันมาดูมากขึ้นค่ะ แล้วด้วยความที่เราชอบจินตนาการ ชอบความเว่อวังอลังการก็ต้องคอยบอกตัวเองว่า โรแมนติกดราม่าคือชีวิตคนจริงๆ ที่มีตัวตนจริงๆ ต้องดูความสมเหตุสมผลด้วย
เบญจามินทร์ : เราโตขึ้น รู้มากขึ้น คิดมากขึ้น ก็ส่งผลให้เขียนงานยากขึ้นด้วย เพราะเราต้องระวังหลายๆ อย่าง จะเขียนเอามันเหมือนตอนเด็กๆ ไม่ได้แล้ว
1.อ่านให้มาก หาคำใส่สมองไว้เยอะๆ
2.เขียนในสิ่งที่เราชอบ เราเข้าใจ เขียนให้เราอ่านเองแล้วสนุกเพราะเราเป็นคนอ่านคนแรกเราต้อง สนุกก่อน
3.ภูมิใจในสิ่งที่เราทำ ชมตัวเองบ่อยๆ ฉันเก่ง ฉันสวย ฉันทำได้ เพราะมันคือการให้กำลังใจตัวเองที่ดี ที่สุด (ฮา)
เบญจามินทร์ : เป็นโรแมนติกแฟนตาซี แนวครุฑนาค เป็นเหตุการณ์สามภพชาติ ที่พระเอกเคยทำผิดกับนางเอกไว้ เลยตามมาครั้งครอง จากชาติหนึ่ง เป็นสอง และจบที่ภพปัจจุบันค่ะ เรื่องนี้เน้นหวานๆ ซึ้งๆ ค่ะ ทดลองอ่าน
เบญจามินทร์ : ยังไม่ได้ถามทางสำนักพิมพ์เลยว่าเดือนไหนแน่นอน แต่คิดว่าไม่น่าจะนานเกินรอค่ะ
เบญจามินทร์ : ตอนนี้กำลังซุ่มเขียนนิยายเรื่อง “หนี้รักในกรงไฟ” แนวโรแมนติกดราม่าแต่ไม่หนักเท่าแรงตะวัน เป็นแนวๆ เลี้ยงต้อย พระเอกมีความลับที่ต้องปกปิดนางเอก จึงปลอมตัวเป็นอีกคนเข้ามาดูแลนางเอกที่ชีวิตน่าสงสารมาก ครอบครัวถูกฆาตกรรมยกครัว ต้องไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า
เบญจามินทร์ : ฝากเรื่องแรงตะวันทั้งรูปแบบหนังสือทั้งรูปแบบละครและก็ฝากนิยายเรื่อง ''สัตยนาคินทร์'' ที่กำลังจะวางแผงเร็วๆ นี้ด้วยค่ะ ^^
61 ความคิดเห็น
เราเป็นคนที่รับมือกับเรื่องพวกนี้ยากค่ะ ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยทำให้ใครโกรธ แต่เคยมีครั้งหนึ่งกับเพื่อน เราก็จะคุยกับเขาดีๆ เอาน้ำเย็นเข้าลูบค่ะ ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดจริงหรือไม่จริงจนเถียงกันก็จะเถียงกลับเอาให้มันไปให้สุด จากนั้นเราก็จะโอนอ่อนเอาดื้อๆ ประมาณว่ายกธงขาวในวินาทีสุดท้าย 555+
ผิดไม่ผิดก็ขอโทษไว้ก่อน ให้เขาพูดความคิดของตัวเองไปเรื่อยๆ จนหมด อารมณ์จะค่อยๆ เย็นลง เราจะนั่งเงียบฟังอย่างเดียว พอคิดว่าอารมณ์เริ่มเย็นแล้วเราก็จะเริ่มคุยด้วยดีๆ ค่ะ จะพยายามใช้น้ำเสียงให้ดูอ่อนลง ยิ้มให้มากและบ่อยขึ้นทุกๆ ครั้งที่ปริปาก เราเชื่อมั่นว่ารอยยิ้มที่จริงใจจะช่วยให้คนใจเย็นขึ้นได้ค่ะ ถึงรอยยิ้มเรามันจะไม่ถึงขั้นสว่างไสวเหมือนมีดวงอาทิตย์มาปรากฏตัวตรงหน้าก็ตาม (ฮา) ระหว่างนั้นก็อาจจะจับมือเขาไปด้วย กอดเขาไปด้วย อ้อนนิดนึง (.///.) #ต๊ายย 555+
สิ่งแรกที่ต้องทำคือพากันไปวัด ฝึกสมาธิ อยู่กับบรรยากาศร่มเย็น แล้วพาไปเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ค่อยๆ ปรับทัศนคติของทั้งตัวเราเองและแฟนของเรา เมื่อมีสติ ใจเย็น เมื่อเจอกับสถานการณ์แบบไหน สิ่งแรกเลยคือลดกระแสความต้านทาน เมื่อสิ่งที่แรงเข้ามากระทบ แต่เมื่อเราใจเย็นแรงกระทบกระทั่งย่อมไม่เกิด ส่วนคนที่แรงมาเมื่อได้ระบายแล้ว มาถึงจุดหนึ่ง เค้าก็จะซอฟท์ลงเองค่ะ
คนที่โมโหร้ายนั้นมีจิตใจที่อ่อนแอมากค่ะก็เลยแสดงออกมาแบบนี้ เวลาที่มีปัญหาหรือทะเลาะกันเราต้องรอให้เค้าใจเย็นลงสักนิดแล้วชวนไปที่ที่สงบ มีธรรมชาติ เค้าจะได้รู้สึกสดชื่นปลอดโปร่ง แล้วค่อยพูดคุยค่อยจากันอย่างใจเย็น☺️