"ความดีมีจริงมั้ย" หาคำตอบได้ใน "ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน" พระราชนิพนธ์แปลในสมเด็จพระเทพฯ


ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน
วรรณกรรมแปล ลำดับที่ ๙
ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี



สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีไรเตอร์ทุกคน วันนี้พี่หญิงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับพระอัจฉริยภาพของพระบรมวงศานุวงศ์ของปวงชนชาวไทยกันให้มากขึ้น กับวรรณแปลจีนในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

เชื่อว่า ชาวไทยทุกคนรับรู้กันดีอยู่แล้วว่า สมเด็จพระเทพฯ เป็นผู้ทรงปรีชาสามารถยิ่งด้านอักษรศาสตร์ (พระองค์ทรงจบอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วย) ท่านทรงสนพระทัยและให้ความสำคัญกับภาษา และวัฒนธรรมของจีนอย่างมาก เมื่อผสานกับพระอัจฉริยภาพด้านการประพันธ์ จึงบังเกิดเป็นพระราชนิพนธ์แปลจากวรรณกรรมจีนที่ทรงคุณยิ่ง ซึ่งพี่หญิงมีความยินดีอย่างมากที่พาทุกคนไปสัมผัสกับผลงานอันทรงคุณค่านี้

วรรณกรรมเรื่องนั้นชื่อว่า "ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน" นั่นเอง


ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน


ผู้เขียน เถี่ยหนิง

ผู้แปล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

พิมพ์ครั้งแรก มีนาคม ๒๕๕๗

ผู้จัดพิมพ์ สำนักพิมพ์นามมีบุ๊คส์พับลิเคชั่น


ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน เป็นนวนิยายจีนร่วมสมัย มีผู้เขียนคือ เถี่ยหนิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนำบทประพันธ์นี้มาแปลเป็นภาษาไทย เพื่อให้คนไทยทั้งประเทศได้อ่าน

นิยายเรื่องนี้ จัดอยู่ในหมวดนิยายรัก แต่มีจุดเด่นคือเนื้อเรื่องได้สะท้อนวิถีชีวิต สังคม ประเพณี และวัฒนธรรมของประเทศจีนในยุคเปลี่ยนผ่านวัฒนธรรมอย่างละเอียด มีการเปรียบเทียบค่านิยมและคุณธรรมในยุคเก่ากับสังคมแบบใหม่ โดยฉากของการดำเนินเรื่องคือ "ฟู่หม่าหูท่ง" ตรอกซอยเล็กๆของจีนในกรุงปักกิ่ง ที่ข้างทางจะเป็นบ้านเรือนแบบโบราณเตี้ยๆ ติดกัน (ลักษณะคล้ายๆ ห้องแถว) 

 


ภาพหูท่งในกรุงปักกิ่ง


“ไป๋ต้าสิ่ง” นางเอกของเรื่อง ถูกสร้างบทบาทเสียใหม่ ไม่เหมือนนางเอกในอุดมคติของจีนทั่วๆ ไป ซึ่งต้องมีความงามเป็นเลิศและทรงคุณธรรม นางเอกของเราคนนี้ ความดีของนางอยู่ที่ "ใจ" นักเขียนได้สร้างสถานการณ์หลากหลาย ทำให้เธอต้องทนทุกข์ต่อความผิดหวัง และการถูกเอารัดเอาเปรียบหลายต่อหลายหน เพื่อทดสอบความเข้มแข็งของ "ใจ" 

เรื่องนี้ เล่าผ่านสรรพนามบุรุษที่ 1 ตัวละคร "ฉัน" ในที่นี้ คือลูกพี่ลูกน้องของ "ไป๋ต้าสิ่ง" เจ้าตัวจะเล่าเรื่องของ "ไป๋ต้าสิ่ง" ให้เราฟัง เนื้อเรื่องเริ่มตั้งแต่เด็กหญิงตัวน้อยอายุได้ 10 ขวบ ตกหลุมรักดาราหนุ่มข้างบ้าน ที่เห็นเธอเป็นเพียงเด็กน้อย ไม่แปลกอะไรที่เธอจะผิดหวัง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรก แม้เมื่อเธอเติบโต เข้าทำงาน เธอก็ยังต้องเจ็บปวดจากความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

จุดเด่นของ "ไป๋ต้าสิ่ง" ผ่านมุมมองของ "ลูกพี่ลูกน้อง" ของเธอคือ หญิงสาวผู้นี้เป็นคนดีและมีจิตใจงดงาม ตั้งแต่เล็กจนโต เธอยอมเสียเปรียบผู้อื่นหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนเรื่องใหญ่ๆ และเธอไม่เคยโกรธหรือแม้แต่กล่าวโทษใคร เธอสูญเสียผู้ชายคนแล้วคนเล่าให้กับผู้หญิงอื่น แต่เธอก็ยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง และยังคงเสียสละเพื่อผู้อื่นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 


พี่หญิงขอยกตัวอย่าง... ฉากที่น้องสาวและน้องเขยมาขอบ้านที่เธออาศัยอยู่ในตรอกฟู่หม่า ตอนแรกเธอโกรธและแสดงความไม่พอใจชัดเจน แต่เมื่อกลับมาคิดดูแล้ว เธอกลับเปลี่ยนเป็นโทษตัวเอง และยอมยกบ้านให้กับน้องสาวและน้องเขย ส่วนตัวเองไปดูแลแม่แทนทั้งสองเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าแม้แต่คนในครอบครัวก็ยังเอาเปรียบเธอ


ผู้เขียนยังบอกเล่าเรื่องราวของ ไป๋ต้าสิ่ง อีกมากมาย หญิงสาวคนนี้พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อรักษาผลประโยชน์ให้ตัวเองหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ หลายครั้งเธอคร่ำครวญว่าไม่อยากเป็นแบบที่ตัวเองเป็นอยู่ เธออยากเป็นคนอื่นมากกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนจบของเรื่องนั้น ไป๋ต้าสิ่ง ก็ได้พบความรักที่แท้จริง เมื่อคนรักเก่าที่เคยทอดทิ้งเธอไป หวนกลับมาคุกเข่าขอเธอให้แต่งงานกับเขา และแม้เธอจะยังไม่แน่ใจ เธอก็ตกลงแต่งงานกับเขา

อ่านถึงตอนจบ พี่หญิงก็ยังพบความคลุมเครือของเนื้อเรื่องอีกมาก และยังสงสัยไม่เข้าใจอยู่จนถึงตอนนี้ว่าเหตุผลที่ไป๋ต้าสิ่งยินยอมแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เป็นเพราะคุณธรรมในใจ เพราะความเห็นอกเห็นใจ หรือเป็นเพราะนิสัย "ปฏิเสธคนไม่เป็น" ของเธอกันแน่ ในชีวิตจริงนั้น เธอต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวและไม่สามารถทำได้ 

และนี่เอง คงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง "ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน" ไป๋ต้าสิ่งจะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน และเธอมีความสุขจริงหรือในสิ่งที่เธอเป็นอยู่...? 
 

หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว จะเห็นได้ถึงความขัดแย้งในตนเองอย่างมากของไป๋ต้าสิ่ง ในเรื่องถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคนดี มีคุณธรรมในแบบอุดมคติ (เป็นคนดี มีคุณธรรม มีความเสียสละ ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม เป็นรูปแบบคนดีในอุดมคติตามแบบที่ทุกคนคาดหวัง ) แต่ตัวเธอเองกลับไม่พอใจที่ตัวเองเป็นแบบนั้น จวบจนกระทั่งจบเรื่อง ถึงแม้เนื้อเรื่องจะจบลงด้วยดี เธอก็ยังตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ดีว่า “ตลอดกาลน่ะนานแค่ไหน” เป็นคำถามที่สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการเป็นคนดีในอุดมคติในปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอรู้ตัวดีว่าที่ผ่านมาเธอโดนเอาเปรียบอย่างมากมาโดยตลอด (อ่านไปแล้วทำให้คิดว่าที่เธอยังใช้ชีวิตและประสบความสำเร็จได้โดยปกติดีนั้นเป็นรื่องน่าเหลือเชื่อมาก) และเธอก็ไม่อยากที่จะเป็นคนดีแบบนี้ตลอดไป อ่านเรื่องนี้จบแล้ว ทำให้พี่หญิงต้องหันกลับมากดูสังคมในปัจจุบัน แล้วก็เลยเริ่มตั้งคำถามกับคำว่า “คนดี” และ “ความดี” สองคำนี้ จะดำรงอยู่ในสังคมได้นานสักแค่ไหน และรูปแบบของความดีที่เราคาดหวัง มันสามารถมีในสังคมยุคนี้ได้ หรือเป็นเพียงมายาคติ ที่ทุกคนคาดหวังแต่ไม่สามารถเป็นจริงได้กันแน่...? 

เป็นหนังสือที่ให้ข้อสงสัยและทำให้เราต้องหันมาพิจารณาคำว่า "ความดี" อย่างจริงจังมากขึ้นค่ะ 


(ในเรื่อง อ้างถึงความดีในอุดมคติของคนจีนที่ได้รับอิทธิพลแนวคิด ความดีในอุดมคติในหลักจริยศาสตร์ของ ขงจื้อ เหยิน อี้ หลี่ ซี หยู๋ หรือ หลักความเมตตา หลักความชอบธรรม หลักความรอบรู้ หลักความเป็นผู้น่าเชื่อถือ จะสังเกตได้ว่าไป๋ต้าสิ่งมีสิ่งเหล่านี้ครบถวน)

 


พี่หญิง

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด