10 คำคมกระแทกใจจากนิยาย
"แฮร์รี่ พอตเตอร์"
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวไรเตอร์ทุกคน กลับมาพบกับพี่น้ำผึ้งอีกแล้วนะคะ ในวันนี้พี่ก็มาพร้อมกับเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ นวนิยายขวัญใจคนทั่วโลกรวมทั้งพี่ ไม่รู้ว่ามีใครเคยเป็นเหมือนกันบ้างหรือเปล่า ทุกครั้งที่เรากลับไปอ่านนิยายเล่มโปรด เรามักจะตกตะกอนหรือได้แง่คิดบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเรามากกว่าเดิม พี่เองก็เป็นแบบนี้นะคะ ดังนั้นตอนที่พี่ได้อ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์อีกครั้ง พี่ก็ได้แง่คิดอีกแล้ว วันนี้พี่ก็เลยมาพร้อมกับคำคมดีๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันของเราค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น เลื่อนลงมาดูเลย ^o^
“ถึงผู้มอบความรักจะจากไปแล้ว แต่ความรักก็จะคอยคุ้มครองปกป้องรักษาเราตลอดไป”
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ภาคศิลาอาถรรพ์ หน้า 360
นอกจากจะเป็นพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ยังเป็นเจ้าพ่อคำคมอีกด้วยนะคะกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์คนนี้ แน่นอนว่าพี่เห็นด้วยกับคำพูดนี้มากๆ เลยค่ะ เพราะในชีวิตจริงแล้วนั้นไม่มีใครสามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ แม้แต่พ่อแม่ของเราก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นแม้ว่าคนที่เรารักจะจากไป สิ่งดีๆ ที่เขาเคยมอบให้เราไม่ว่าจะเป็นความรัก ความห่วงใยยังคงอยู่กับเราเสมอค่ะ เชื่อมั้ยคะว่าในยามที่เราท้อแท้หรือสิ้นหวัง แค่เพียงเรานึกถึงคนที่เรารักและคนที่รักเรา เราก็จะมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไปค่ะ ^o^
“ถ้าสงสัย จงไปห้องสมุด”
รอน วีสลีย์ ภาคห้องแห่งความลับ หน้า 307
นานๆ ทีรอนจะมีคำคมเจ๋งๆ เอ๊ย ไม่ใช่ละ อันนี้เป็นหนึ่งในคำคมที่พี่ประทับใจมากๆ เลยล่ะค่ะ มันจริงอย่างที่รอนพูดเลย ไม่ว่าเราสงสัยอะไร (ที่ไม่ใช่เรื่องชาวบ้าน) สิ่งที่เราควรทำคือการพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ดีที่สุดก่อนจะไปถามคนอื่น เราควรทำให้สุดความสามารถด้วยการค้นหาข้อมูลจากในหนังสือ แต่ถ้าเป็นสมัยนี้แค่น้องๆ เปิดกูเกิ้ลก็คงได้คำตอบแล้วใช่มั้ยล่ะ เอาไว้ถ้ามันถึงทางตันจริงๆ อย่างเช่นว่าหาในหนังสือหรือในอินเตอร์เน็ตไม่เจอ ค่อยไปถามคนอื่นจะดีกว่าค่ะ การทำแบบนี้แสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นคนที่มีความมุมานะพยายาม ไม่ใช่รอเอาแต่คำตอบจากคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียว
“อย่าวางใจอะไรที่คิดได้ด้วยตัวมันเอง ถ้าลูกไม่เห็นว่ามันเอาสมองของมันไว้ที่ไหน!”
อาเธอร์ วีสลีย์ ภาคนักโทษแห่งอัซคาบัน หน้า 236
อันนี้แอบต้องตีความกันนิดนึงนะคะ สำหรับพี่ พี่ตีความได้ว่าเราไม่ควรไว้ใจใครทั้งนั้น เพราะต่างคนต่างมีความคิด เราไม่สามารถควบคุมความคิดใครได้ ซึ่งเราจะเชื่อใจคนๆ นั้นได้ก็ต่อเมื่อเราแน่ใจแล้วว่าเขาดีต่อเราจริงๆ ค่ะ

ซีเรียส แบล็ก
ขอบคุณภาพจาก : harrypotter.com
“เหตุผลเดียวที่ฉันไม่สูญเสียสติไปก็คือ ฉันรู้ว่าตัวเองบริสุทธิ์
ซีเรีส แบล็ก ภาคนักโทษแห่งอัซคาบัน หน้า 442
พี่ว่าแท้จริงแล้วผู้คุมวิญญาณที่เจ.เค.โรว์ลิ่งต้องการสื่อถึงไม่ใช่ปีศาจร้ายที่ไหนหรอกค่ะ แต่เป็นความคิดด้านลบของตัวเองต่างหาก สำหรับพี่ การที่เรามีสติอยู่เสมอและรู้ว่าเราเป็นใคร เรากำลังทำอะไร เป้าหมายเราเป็นยังไง นั้นเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลยนะคะ เพราะมันทำให้เรามีจุดยืน ยังคงมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่กลืนหายไปในสังคมได้ง่ายๆ เช่นน้องๆ อยากเป็นนักเขียน แต่ถ้าเราไม่มีความหนักแน่นในจุดยืนของเรา พอมีใครเป่าหูเราเยอะๆ เราก็อาจจะทิ้งความฝันตัวเองไปง่ายดายเลยค่ะ ดังนั้นมีสติเข้าไว้ค่ะ แค่นี้ผู้คุมวิญญาณก็ไม่อาจดึงดูดความสุขและทำลายชีวิตเราได้แล้วค่ะ ^^
“เธอเป็นเพื่อนของผมด้วย! แล้วผมก็ไม่ต้องการให้คนอื่นๆ ตายด้วย”
แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคถ้วยแห่งอัคนี หน้า 567
ยังจำฉากใต้น้ำได้ดีเลยค่ะ ตอนที่แฮร์รี่ต้องช่วยรอนขึ้นมาจากน้ำ แล้วแถมยังเจอเพื่อนสนิทของเขา เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ที่จมอยู่ใต้น้ำเช่นกัน แน่นอนว่าแฮร์รี่ไม่ยอมทิ้งเพื่อนไปง่ายๆ ไม่ว่ายังไงก็ต้องพาเฮร์ไมโอนี่ขึ้นมาให้ได้ ใช่แล้วค่ะ... ความรักเพื่อนเป็นคุณสมบัติหนึ่งที่เด่นชัดของแฮร์รี่ พอตเตอร์ และพี่ก็ประทับใจมากๆ เลย เพื่อนกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ทิ้งกันหรอกนะคะ ว่ามั้ย?
“คุณให้ความสำคัญกับสิ่งที่เรียกว่าสายบริสุทธิ์มากเกินไป คุณเป็นเช่นนี้มาตลอด!
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ภาคถ้วยแห่งอัคนี หน้า 800
คมได้อีกกับคำพูดของดัมเบิลดอร์คนเดิม ใช่ค่ะ คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะปฏิบัติตัวได้ค่ะ ดังนั้นเวลาเราคบใครเป็นเพื่อน เราไม่ควรตัดสินคนจากชาติกำเนิดของเขา แต่ควรดูพฤติกรรมของเขาหรือสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบันค่ะ

ลอร์ด โวลเดอร์มอร์
ขอบคุณภาพจาก : harrypotter.com
“ดีที่สุดที่จะรู้ว่าศัตรูพูดว่าอะไร”
เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ ภาคภาคีนกฟินิกซ์ หน้า 280
อันนี้จริงแท้แน่นอนเลยค่ะ ซุนวูจากสามก๊กเคยกล่าวไว้ว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง แน่นอนว่าประโยคที่สาวเฮอร์พูดก็มาในทำนองนี้เลย พี่มองว่าสำหรับคำพูดนี้ไม่ได้มีประโยชน์แต่เพียงแค่ศัตรูนะคะ แต่ยังใช้ในกรณีอื่นๆ ได้อีกเช่น เวลาเราไปสัมภาษณ์เรียนต่อมหาวิทยาลัย สิ่งที่เราควรทำการบ้านไปก็คือรู้ข้อมูลของคณะนั้นๆ และมหาวิทยาลัย รวมทั้งการลิสต์คำถาม – คำตอบเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมค่ะ หรือจะเป็นการที่เราเขียนนิยายสักเรื่อง สิ่งที่ควรทำก็คือทำความเข้าใจตัวละครให้มากที่สุด เพราะจะทำให้เราเขียนนิยายออกมาได้ไหลลื่นนั่นเองค่ะ
“แล้วทฤษฎีจะมีประโยชน์อะไรในโลกจริงๆ เหรอครับ”
แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาคภาคีนกฟินิกซ์ หน้า 305
คำพูดฟังดูกวนประสาทจากแฮร์รี่คำพูดนี้ทำให้พี่ตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างค่ะ พี่ว่าทุกอย่างบนโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน หรือแม้กระทั่งการเขียนนิยาย ล้วนแล้วแต่มีทฤษฎีรองรับทั้งนั้นแหละค่ะ เพียงแต่มันจะไร้ประโยชน์มากเลยถ้าน้องปล่อยมันไว้อยู่อย่างนั้นโดยไม่คิดจะใช้มัน สิ่งที่พี่จะบอกก็คือทฤษฎีจะไม่มีประโยชน์อะไรถ้าเราไม่นำทฤษฎีนั้นไปใช้ค่ะ นี่คือสิ่งที่พี่ตีความได้ แล้วน้องๆ ล่ะคะ ตีความได้ว่ายังไง?
“ความยิ่งใหญ่จูงใจให้เกิดความริษยา ความริษยาก่อเจตนาร้าย
ลอร์ด โวลเดอร์มอร์ ภาคเจ้าชายเลือดผสม หน้า 462
โอ้โห นานๆ ทีเจ้าแห่งศาสตร์มืดจะมีคำคมกับเขาบ้าง (ฮา) อันนี้คือเรื่องจริงเลยนะคะ คนเรามักจะอิจฉาเวลาเห็นคนได้ดีกว่า ทำให้เกิดความหมั่นไส้ ยิ่งเดี๋ยวนี้เป็นยุคดิจิตอล ย่อมเกิดการ bully หรือการถล่มด่าลงบนโซเชียล ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ เลยล่ะค่ะ
“ชีวิตมนุษย์ทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกัน และสมควรจะได้รับการปกป้อง”
คิงส์ลี่ย์ ชักเคิลโบลต์ ภาคเครื่องรางยมทูต หน้า 405
หนึ่งในสมาชิกภาคีนกฟินิกซ์ที่ภายหลังจากจบสงครามได้รับตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งพี่เห็นด้วยกับคำพูดของคิงส์ลี่ย์มากเลยนะคะ พี่มองว่ามนุษย์ทุกคนเมื่อได้เกิดมาแล้วย่อมมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ทุกคนมีคุณค่า และทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครองเท่าๆ กันค่ะ

คิงส์ลี่ย์ ชักเคิลโบลต์ และภาคีนกฟินิกซ์
ขอบคุณรูปภาพจาก : harrypotter.wikia.com
เป็นอย่างไรบ้างคะกับคำคมที่พี่น้ำผึ้งนำมาฝากในวันนี้ หวังว่าน้องๆ คงได้ข้อคิดไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของน้องไม่มากก็น้อยนะคะ นับว่าแฮร์รี่ พอตเตอร์เป็นหนังสือชุดหนึ่งที่แฝงแง่คิดไว้เยอะมากเลยค่ะ เรียกได้ว่าคำคมที่พี่นำมาฝากในวันนี้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ และถ้าใครสนใจอ่านคำคมเหล่านี้ต่อ พี่ได้รวบรวมไว้ที่บทความ 10 ข้อคิดจากดัมเบิลดอร์ที่จะช่วยให้เราสตรองขึ้น หรือจะเป็น 12 คำคมจากตัวละครขวัญใจ “หัวขโมยแห่งบารามอส” ส่วนใครอยากได้คำคมจากนิยายเรื่องไหน อย่าลืมทิ้งคอมเมนต์ไว้ด้านล่างเลยนะคะน้องๆ แล้วเจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ สำหรับวันนี้ขอลาก่อน สวัสดีค่ะ ^_^


11 ความคิดเห็น
โดนใจมาก โดยเฉพาะ "ทฤษฎีจะมีประโยชน์อะไรในโลกจริง"
Potterhead รายงานตัวจ้าา
แฮร์รี่ช่วยรอนวีสลีย์นะค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะ แก้ไขให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
แฮร์รี่ ช่วยรอนนะคะ ☺
สวัสดีค่ะ แก้ไขให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
แก้ไขค่ะ
ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ไม่มีคนชื่อ เจนนี่ วีสลีย์ค่ะ เธอชื่อ จินนี่ วีสลีย์ ภาษาอังกฤษ Ginny Weasley
ต่อมานะคะ
คนที่โดนจับเป็นตัวประกันใต้น้ำมี
1. รอน วีสลีย์ (ตัวประกันของแฮร์รี่)
2. เฮอร์ไมโอนี่ เกรนเจอร์ (ตัวประกันของครัม)
3. โช แชง (ตัวประกันของเซดริก)
4. กาเบรียล เดอลากูร์ (ตัวประกันของเฟลอร์)
จริงๆคือ แฮร์รี่ไปถึงตัวประกันคนแรกและตั้งใจจะพารอนและเฮอร์ไมโอนี่กลับมา แต่พวกเงือกไม่ให้ แฮร์รี่จึงรอให้ทุกคนมาพาตัวประกันกลับไปให้หมดก่อน
ซึ่งพอถึงเวลาจริงๆ เฟลอร์โดนกรินดีโลว์ทำร้ายจนต้องออกจากการแข่งขัน แฮร์รี่ที่เห็นว่าเวลาจะหมดแล้วจึงตัดสินใจพาทั้ง รอน และ กาเบรียล กลับมาด้วย
สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะ พอดีตอนเขียนพี่ก็เบลอๆ หน่อย แก้ไขให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ผู้คุมวิญญาณ คือ ตัวแทนของอาการโรคซึมเศร้าที่เจเคโรวลิ่งเคยเป็นค่ะ (เคยอ่านเจอมา)
ที่อาเธอร์พ่อของรอนพูดเป็นภาค2นะคะตอนห้องแห่งความลับคะ. ตอนที่แฮร์รี่ทำลายสมุดของทอม. ริดเดิล ได้อ่ะคะ
อย่าวางใจอะไรที่คิดได้ด้วยตัวมันเอง ถ้าลูกไม่เห็นว่ามันเอาสมองของมันไว้ที่ไหน
อยู่ในบทที่ 10 ตอนแผนที่ตัวกวน แฮร์รี่พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน เล่ม 3 หน้า 236 ค่ะ :)
หวัดดีคับ
"Always"
severus snape
"Always"
severus snape
อยากได้ภาษาอังกฤษกำกับด้วยค่ะ ภาษาไทยอ่านแล้วตีความลำบาก