Dr.Pop กับบทบาทใหม่เพื่อช่วยปลดล็อคชีวิตคน #ไปใช้ชีวิตซะ


"Dr.Pop" กับบทบาทใหม่เพื่อช่วยปลดล็อคชีวิตคน 
#ไปใช้ชีวิตซะ

 

สวัสดีน้องๆ ชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา พี่น้ำผึ้งได้ไปงานหนังสือและมีโอกาสได้เข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของ "Dr.Pop" หรือ "ดร.ป๊อบ" นักเขียนนวนิยายแนวไซไฟแฟนตาซีชื่อดังแห่งยุคที่แจ้งเกิดจากเว็บไซต์เด็กดีของเราค่ะ 
 

ถ้าพูดถึงดร.ป๊อบ หลายคนก็คงนึกถึงนักเขียนนิยายกันใช่มั้ยคะ แต่น้องๆ รู้มั้ยคะว่าอีกมุมหนึ่งของเขาคือการมีบทบาทเป็นโค้ชและอาจารย์สอนจิตวิทยาภาษาสื่อประสาท และในวันนี้เขาก็ได้ออกหนังสือเล่มใหม่ "ไปใช้ชีวิตซะ" ซึ่งเป็นแนว How-To พัฒนาตนเองค่ะ ครั้งนี้พี่น้ำผึ้งไม่พลาดรีบชวนดร.ป๊อบมาพูดคุยกับน้องๆ ชาวเด็กดีค่ะ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาพบกับดร.ป๊อบเลยดีกว่าค่ะ ^___^

 

ดร.ป๊อบกับหนังสือเล่มใหม่ "ไปใช้ชีวิตซะ"

 

สวัสดีค่ะพี่ป๊อบ เห็นว่าตอนนี้พี่ป๊อบได้ออกหนังสือเล่มใหม่ อยากให้พี่ป๊อบช่วยเล่าให้น้องๆ ชาวเด็กดีฟังหน่อยค่ะว่าเป็นยังไง

Dr.Pop : ครับผม สำหรับหลายคนที่รู้จักผมนะครับ ผมจะเป็นนักเขียนแนวไซไฟแฟนตาซีมาตลอด เป็นวรรณกรรมเยาวชนนะ หลายเล่มเลยทั้ง The White Road, Girls and a Doll, Boys and a Doll, Fate Diary นะครับ คราวนี้เนี่ย ผมได้หันมาจับงานจิตวิทยาเพื่อพัฒนาศักยภาพมนุษย์ เป็นแม่สื่อ How-To นั่นเอง ไปใช้ชีวิตซะ เป็นหนังสือที่รวมความรู้เกี่ยวกับจิตวิทยา การสื่อประสาทที่สามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นได้ ก็คือเป็นมากกว่าที่คุณรู้ว่าคุณจะได้เป็น แล้วก็ทำให้คุณประสบความสำเร็จได้ทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความสัมพันธ์ การงาน การเงิน สุขภาพ การพัฒนาตัวเอง การให้ เรื่องจิตวิญญาณ และเรื่องของสังคมด้วยเช่นกัน หนังสือเล่มนี้เนี่ย มันจะรวบรวมความรู้ระดับลึกของ NLP เลย หลายคนสงสัย NLP คืออะไร What is NLP? นะฮะ 

NLP ถ้าเรียกเป็นภาษาไทยก็คือจิตวิทยาภาษาสื่อประสาทนั่นเอง ซึ่งมันมีกระบวนการในการเข้าไปจูนประสาทของคน ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที คือเราสามารถปลดล็อคเรื่องที่เป็นปัญหากับเขามา 10-20 ปีคือจบเลย หลังๆ มาเนี่ยนะ ช่วงกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมจะดำรงฐานะในตำแหน่งของอาจารย์ของโค้ช ก็คือคุณอาจจะเห็นโค้ชหลายคนมากเลยตอนนี้นะครับ ตอนนี้ผมเป็นอาจารย์ที่สอนโค้ชได้ และผมก็โค้ชให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการโค้ชตัวต่อตัวหรือโค้ชแบบคลาสเรียน ซึ่งเราใช้หลักของ NLP เนี่ยแหละในการปลดล็อคเขา เปลี่ยนชีวิตเขา 

และบางส่วนจากความรู้ที่ผมมีถูกอัดแน่นในหนังสือเล่มนี้แหละครับ แบ่งเป็น 5 chapters ด้วยกัน แต่ละ chapter ก็จะมีทั้งเนื้อหา มีสตอรี่ มีเรื่องราวเพื่อให้ผู้อ่านซึมซับเข้าใจในบทเรียน และก็มีแบบทดสอบเพียบมาก เพราะฉะนั้นหนังสือเล่มนี้เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัยที่อยากจะพัฒนาตัวเอง อยากจะพาตัวเองให้ออกจากจุดที่มันเป็นความทุกข์ วนลูปเดิมๆ หรือจากจุดที่มันทุกข์ซ้ำซากอะ ไม่ประสบความสำเร็จ อะไรอย่างนี้ฮะ ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เจอความทุกข์แบบเดิมๆ มาตลอด อ่านหนังสือเล่มนี้ครับมันจะจบได้เลย สี่ชั่วโมงคุณอ่านจบ คุณก็ไปมีชีวิตซะได้เลย
 

น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ แล้วอะไรคือแรงบันดาลใจให้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาคะ

Dr.Pop : แรงบันดาลใจเนี่ยมันมาจากการที่ผมได้ certified เป็นอาจารย์นะครับ หลังจากที่ certified เป็นอาจารย์โดยจอห์น กรินเดอร์จากประเทศสเปน คือสถาบันเป็นของอังกฤษ แต่เราไปเรียนที่สเปน กว่าจะ certified ได้เนี่ยมันยาก มันยากมาก แล้วพอเราได้วิชามา เรามาช่วยชีวิตคนได้ เรารู้สึกว่ามันน่าจะถ่ายทอดเป็นหนังสือ เพื่อให้คนที่ไม่มีโอกาสมาเรียนกับเราได้มีโอกาสปลดล็อคชีวิตตัวเองได้ หนังสือเล่มนี้มันเข้มข้นทั้งเนื้อหา ทั้งแบบทดสอบ แบบฝึก ถ้าคุณตั้งใจอ่านทุกหน้าจริงๆ อะ  คุณเปลี่ยนชีวิตคุณได้เลยหลังจากอ่านเล่มนี้จบนะครับ 

 

ไปใช้ชีวิตซะ
 

นี่คือแรงบันดาลใจคือเราอยากเห็นคนไทยรู้จักจิตวิทยาภาษาสื่อประสาทหรือ NLP ให้เยอะที่สุด ถ้าเป็นไปได้คือตั้งแต่ประถมคุณรู้จัก มัธยม มหาวิทยาลัยคุณรู้จัก ทั้งชีวิตคุณจะไม่ทุกข์อีกเลย ตลอดชีวิตอะ มันจะมีแต่ความสุข ความสุขมากขึ้น ประสบความสำเร็จมากขึ้น อย่างคนที่มาเรียนกับเรา หลายคนแบบว่าติดหนี้ หลายคนล้มละลาย หรือหลายคนแบบว่าไม่มีกำลังใจจะไปไหนต่อ เราใช้ NLP ในการจูนประสาทเขา เขากลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้หลายล้านได้เลยยังงี้ มันทำให้เรามีแรงบันดาลใจว่าอยากจะสอนสิ่งนี้กับคนไทยให้มากที่สุด เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าคุณอ่านหนังสือเล่มนี้ ถ้าคุณคิดจะอ่าน โปรดอ่านอย่างจริงจังทุกบรรทัด คือตั้งใจอ่าน ตั้งใจทำแบบฝึก แล้วคุณจะเปลี่ยนชีวิตได้ เอาไปทำด้วยครับผม
 

จากการเขียนนิยายแล้วผันไปเป็นโค้ชจิตวิทยา NLP มีอะไรเป็นจุดเปลี่ยนคะ

Dr.Pop : เป็นจุดเปลี่ยนก็เพราะว่าผมอยากจะออกจาก comfort zone เดิม เหมือนกับว่าคือผมอยู่กับอาชีพนักเขียนนิยายมา 14 ปี ผมเคารพอาชีพนี้นะ เพียงแต่ว่ามันก็อยู่มานานแล้วอะ แล้วมันก็ทำอะไรเหมือนๆ เดิมหมด เราก็อยากจะฉีกกรอบออกไปทำอะไรที่ เฮ้ย มันเป็นใจเราอะ คือคนที่เรียน NLP หรือคนที่เป็น Certified Trainer เนี่ยต้องรู้จักฟังใจตัวเองให้ได้ เมื่อฟังใจตัวเองว่ามันอยากให้ทำอะไรต่างๆ เราก็ทำเลย พอเราเริ่มทำปั๊บ เราไปเรียน ไปลอง ไปรู้ แล้วเราลองทำ เอ๊ย มันสนุกว่ะ มันได้ช่วยคนแบบถึงพริกถึงขิงถึงขั้วมากเลยอะ เราก็เลยแฮปปี้มีความสุขอย่างนี้
 

การเขียนหนังสือแนวนี้ต่างจากการเขียนนิยายยังไงคะ

Dr.Pop : ต่างมาก มันง่ายกว่าเพราะมันเป็น fact มันเป็นทฤษฎี มันเป็นจิตวิทยา มันเป็นวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา ซึ่งมันเป็นความ อืม มันเป็นหลักทฤษฏีอยู่แล้วอะครับ มันไม่ต้องมาแต่งอะไรเยอะ มันคือเอาสิ่งที่เราเรียนรู้มาเนี่ย เอามาเขียนได้เลย แต่เราก็ผนวกกับการเขียนนิยายเข้าไปด้วยกับหนังสือเล่มนี้ สำหรับนิยายเนี่ย มันจะเป็นแบบว่าฟิคชั่นเลย มันก็จะเป็นแบบ imagination จินตนาการ เราต้องผูกเรื่องผูกราวอะไรยังงี้ ก็จะมีความซับซ้อนในแบบของมัน แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็คือสนุกทั้งคู่
 

ใช้เวลาเขียนหนังสือเล่มนี้นานมั้ยคะ

Dr.Pop : นานนะฮะ 2 ปี ตอนแรกจะวางแผงตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ก็มาปีนี้ มันใช้เวลาเขียนนานเพราะว่าพี่เขียนหลายรอบ มันละเอียด มันละเอียดมาก ก็คือทุกๆ หน้า ทุกบทมันกลั่นกรองมาเต็มที่อะครับ คือถ้ามันไม่ดีก็ไม่ปล่อย ผมตีกับ บก. สนุกมาก



ผมตีกับ บก. สนุกมาก
 

มีอุปสรรคอะไรมั้ยคะ

Dr.Pop : อุปสรรคหรอ? อุปสรรคเรื่องเวลาเพราะว่าหลังจากมาเป็นโค้ชเนี่ย คือทำงานทุกวัน โค้ชทุกวันครับ บางวันก็ 8 ชั่วโมง 12 ชั่วโมง มันใช้เวลาเยอะแล้วก็เป็นอุปสรรคในการทำงานเขียนนิดนึง คือก็ต้องเคลียร์ช่วงนึงของชีวิตเพื่อเขียนหนังสืออะไรยังงี้ครับ แต่เป็นหนังสือที่ชอบครับก็เลยสนุกมันก็เลยทำให้ดีที่สุด
 

มีคำถามจากนักอ่านมาว่า พี่ป๊อบจะกลับมาเขียนนิยายอีกมั้ยคะ

Dr.Pop : กลับมาเขียนแน่นอนครับ คือ Fate Diary 2 มันจะเสร็จอยู่แล้ว ไม่บอกแล้วกันว่าออกเดือนไหน คือผมเขียนไปพร้อมกันพอดี มันก็เลยจะเสร็จอยู่แล้ว ไม่บอกนะว่าเมื่อไรแต่ไม่ต้องห่วงนะฮะ แฟนๆ ของ Fate Diary แฟนๆ ของ The White Road เดี๋ยวเจอเซอร์ไพรส์
 

ดีเลยนะคะ แล้วพี่ป๊อบคิดว่าการอ่านหนังสือ How-To พัฒนาตนเองนี่สำคัญยังไงคะ

Dr.Pop : มันสำคัญมากเพราะมันยกระดับจิตใจ ยกระดับความคิด ยกระดับจิตวิญญาณของคุณนะครับ อย่าเซ็ตตัวว่ารู้แล้ว อย่าเซ็ตตัวว่ารู้อะไรดีทีสุดในโลกนี้ คนที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่าง เก่งทุกอย่างเนี่ยมันเป็นแบบ... มันเหมือนเซ็ตตัวเองสูง ปิ้ว แล้วก็ร่วงลงมา ถ้าคุณคิดว่าตัวเองสูงสุดแล้วอะ คุณจะร่วงลงไปต่ำมาก เพราะฉะนั้นจงคิดเสมอว่าคุณรู้ประมาณนึง คุณต้องรู้มากกว่านี้ มากกว่านี้ คนฉลาดเนี่ยจะเปิดใจเพื่อให้ได้รู้มากขึ้น แต่คนโง่จะคิดว่าตัวเองรู้อยู่แล้ว ไม่รู้อะไรอีกเลย อันไหนก็ Fxxx your life ไปเลย 

แต่ถ้าอยากจะมีชีวิตที่ดีก็อ่านหนังสือให้เยอะ อย่างขนาดผม certified มาแล้วอะ ผมจะไปเรียนกับอีกหลายคน ผมยังเรียนเยอะขึ้น ผมจะอ่านเยอะขึ้น ความรู้มันไม่มีขีดจำกัด คุณจะมีชีวิตที่ไร้ขีดจำกัดได้ต่อเมื่อคุณเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัดเช่นกัน ดังนั้นคุณก็อ่านไปเลย แต่ถ้าอ่านแล้วไม่ทำ อันนั้นคือทุเรศมากนะครับ เอาความรู้ที่อ่านหนังสือไปทำกับชีวิตจริงด้วย เอาไปใช้ในชีวิตจริง เอาไปสอนคน เอาไปใช้บ่อยๆ ให้มากขึ้น แล้วก็บอกอ่านหนังสือ How-To แล้วไม่ได้ผลก็เพราะสักแต่อ่าน อ่านแล้วไม่ทำ อย่าอ่านเลยครับ เสียดายตังค์

คือถ้าคุณคิดจะอ่านหนังสือสักเล่ม อ่านแล้วก็จดเยอะๆ จดย่อเยอะๆ แล้วก็ไปทำด้วย มันจะทำให้คุณได้ชีวิตที่ดี ได้ผล แต่ถ้าคุณอ่านแล้วไม่ทำอะไรเลยก็อยู่บ้านไปเฉยๆ ไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องไปซื้ออะไร เสียดายตังค์พ่อแม่ เอาเงินไปซื้อมาม่ากินนะครับ ซื้ออย่างอื่นกินไป ถ้าคิดจะอ่านหนังสือ อ่าน จด แล้วไปทำนะ แนะนำ คุณฝึกนิสัยนี้ไว้แล้วคุณจะใช้กับการเรียนได้ ใช้กับการทำงานได้ด้วยนะครับ การอ่านหนังสือต้องอ่านแล้วทำมันถึงจะถูกวิธี อ่านแล้วไม่ทำก็ไม่ต้องอ่าน

 

กล้าที่จะถูกเกลียด หนังสือที่ดร.ป๊อบแนะนำ

 

นอกจากหนังสือ "ไปใช้ชีวิตซะ" พี่ป๊อบมีหนังสือแนวจิตวิทยาเล่มไหนที่แนะนำให้น้องๆ ชาวเด็กดีอ่านคะ

Dr.Pop : ถ้าให้พี่ป๊อบแนะนำหรอ? กล้าที่จะถูกเกลียด แนะนำเพราะมันเป็นหนังสือที่สอนให้คุณเคารพความเป็นตัวเองนะครับ แล้วก็สอนให้คุณมองโลกอย่างแท้จริง คือไม่มองโลกสวนจนเกินไป ไม่มองโลกดาร์คจนเกินไป จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น ชีวิตของคุณเนี่ยมันต้องอยู่กับเรื่องตัวเองเป็นอันดับหนึ่ง แล้วค่อยทำเรื่องคนอื่น มนุษย์มันทุกข์เพราะไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเยอะแต่ไม่รู้เรื่องตัวเอง ถ้าคุณจะยุ่งแต่เรื่องชาวบ้าน มีดราม่ากับแต่เรื่องชาวบ้าน แต่ไม่สนใจชีวิตตัวเอง นั่นคือคุณลืมตัว กล้าที่จะถูกเกลียดมันทำให้คุณโฟกัสกับชีวิตตัวเองมากขึ้น แล้วก็ทำให้คุณเนี่ยกล้าที่จะทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเองแล้วก็โลกมากขึ้น นั่นแหละคือแก่นสารของชีวิต คือการอยู่อย่างเป็นประโยชน์กับตัวเองและคนรอบกาย ทำชีวิตให้ดีเพื่อโลกนี้ นั่นคือสิ่งที่กล้าที่จะถูกเกลียดสอนเรา มันดีจริงๆ นะครับ ผมให้เป็นอันดับหนึ่งในชีวิตเลย
 

สุดท้ายนี้พี่ป๊อบมีอะไรอยากจะฝากถึงน้องๆ ชาวเด็กดีมั้ยคะ

Dr.Pop : ถ้าผมจะฝากคุณ คุณเป็นชาว Dek-D นะ ผมเกิดมาจากเว็บไซต์นี้นะครับ ถ้าไม่มี Dek-D ก็ไม่มีผม ขอบคุณพี่โน้ต ขอบคุณพี่ปอน ขอบคุณพี่อติน ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม เมื่อปี 2544 นะ ผมรู้สึกว่า Dek-D เนี่ยมีส่วนให้ผมมาถึงวันนี้มากและผมซาบซึ้งพระคุณของทุกคนเสมอ 

ชาว Dek-D ฮะ ไม่ว่าคุณจะวัยอะไร ต่อให้คุณจะเด็กขนาดไหนก็ตาม คุณต้องหาตัวเองให้ได้แล้วว่าคุณคือใคร คุณทำอะไรได้ คุณชอบอะไร เลิกตามค่านิยมสังคมได้แล้ว เลิกเป็นปลาทูน่าที่ไปเป็นฝูงอะ แล้วก็ทำอะไรเหมือนกันหมดนะครับ คุณจะ Fxxx your life มาก หาตัวตนให้เจอว่าคุณเกิดมาเพื่อทำอะไร ใจคุณต้องการอะไรแน่ แล้วคุณก็ทำสิ่งนั้นซะ เพราะถ้าคุณได้ทำสิ่งที่มันตรงใจคุณจริงๆ อะ คุณจะสร้างประโยชน์เพื่อตัวเองได้ คุณจะเลี้ยงดูพ่อแม่คุณได้ เลี้ยงดูพี่น้อง เลี้ยงดูครอบครัวคุณได้ แล้วท้ายที่สุดมันจะทำให้คุณสร้างประโยชน์ คุณค่าเพื่อโลกนี้ได้ 

 

ภาพงานเปิดตัวหนังสือไปใช้ชีวิตซะ
 

อย่าใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้ค่าโดยการทำตามคนอื่น แต่ไม่เคารพคุณค่าในชีวิตตัวเองเลย อันนั้นไม่ใช่มนุษย์ ใช้ชีวิตให้เป็นมนุษย์ซะ คือสนุกเต็มที่ Enjoy your life หัวเราะเต็มที่ ยิ้มเต็มที่ อยู่กับชีวิตตัวเองให้เยอะ เอาเวลาที่ไปดราม่ากับชีวิตคนอื่น เอาเวลาด่าว่าวิจารณ์ชาวบ้านเนี่ยมาพัฒนาตัวเองซะ แล้วคุณจะมีชีวิตไปข้างหน้า อย่าเป็นพวกที่ไปถอยหลังโดยการวันๆ เอาอยู่แต่จับผิดชาวบ้าน ด่าว่าคนอื่น ไม่ใช่ชีวิตมนุษย์ที่เจริญแล้ว ชีวิตมนุษย์ที่เจริญแล้วคือชีวิตของคนที่พัฒนาตัวเองอย่าเป็นที่สุดแล้วเผือแผ่คุณค่าให้โลกใบนี้ 

จงเป็นฮีโร่ฮะ ส่งต่อความรัก ส่งต่อกำลังใจ ความเห็นใจ แล้วก็ส่งต่อความช่วยเหลือให้ผู้คน อย่าเป็นเหยื่อที่เรียกร้องความเห็นใจ เรียกร้องกำลังใจหรืออะไรจากชาวบ้านโดยเฉพาะอะ คุณต้องอยู่เพื่อเป็นฮีโร่ของตัวเองและคนทีคุณรักได้ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะฝากคุณ คุณเกิดมาเพื่อเป็นผู้เลือก คุณจะเลือกมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ไปใช้ชีวิตซะ เด็กดี ผมเชื่อในตัวคุณ
 

โอ้โห จบไปแล้วนะคะกับบทสัมภาษณ์จากดร.ป๊อบที่มาพร้อมกับบทบาทใหม่ของเขา พูดเลยว่าพี่ป๊อบตอบคำถามได้ดีมาก ตรงประเด็นมาก และเชื่อว่าน้องๆ ต้องได้ประโยชน์จากการอ่านบทสัมภาษณ์นี้แน่นอนค่ะ อันที่จริงมีบทสัมภาษณ์แบบที่เป็นวิดีโอด้วยนะคะ ซึ่งพี่น้ำผึ้งก็ขอแนะนำให้น้องๆ ฟังค่ะ เพราะว่าน้ำเสียงและแววตาของพี่ป๊อบทรงพลังมาก ฟังแล้วน้องๆ จะต้องได้รับพลังดีๆ กลับไปแน่นอนค่ะ จิ้มได้เลย
 


ส่วนครั้งหน้าพี่จะพาใครมาพบปะพูดคุยกับน้องๆ นั้น รอติดตามเลยค่ะ ^^
 

พี่น้ำผึ้ง :)
 
Deep Sound แสดงความรู้สึก
          
พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น