สวัสดีค่ะทุกคน^^ วันนี้พี่หวานก็มาลองนั่งนึกดูว่าใกล้วันหยุดอีกครั้งก็เลยอยากลองมาดูว่า หยุดปีใหม่นี้ ใครจะไปเขียนนิยายที่ไหนกันบ้าง? เคยได้ยินประโยคนี้มั้ยที่เขาบอกว่า 'Before you write a good plot, you need a good place to write.' ก่อนที่เราจะเขียนพล็อตที่ดีได้ เราต้องมีสถานที่อันเหมาะสมที่จะเขียนซะก่อน ซึ่งนักเขียนเเต่ละคนก็มีความสามารถในการทำงานในสภาพเเวดล้อมที่ต่างกันไป พี่หวานก็เลยลองไปหาข้อมูลดูว่า ถ้าเราเขียนนิยายในสถานที่ต่างกัน เเต่ละที่จะส่งผลอย่างไรกับงานเขียนได้บ้างมาฝากค่ะ

 

สถานที่แรกยอดนิยมที่อยากเเนะนำให้ไปก็คือสวนสาธารณะค่ะ ลองออกไปหาสวนกว้างๆ ที่มีหญ้าเขียวขจี ได้นั่งมองผู้คนเดินผ่านไปมา หรือออกมาทำกิจกรรมต่างๆ มองดูเด็กน้อยที่วิ่งเล่นไปมา เดินชมดอกไม้ที่เรียงรายตามทาง ปล่อยใจให้สบายเเล้วใช้ความอ่อนโยนจาก 'สีเขียว' สร้างจินตนาการในการเขียน เพราะสีเขียวเป็นสีของธรรมชาติเเละสุขภาพ มันเเสดงออกถึงการเติบโตเเละความอุดมสมบูรณ์ เคยสังเกตบ้างมั้ยคะว่าเวลาที่ได้มองอะไรที่เต็มไปด้วยสีเขียว จิตใจจะรู้สึกชุ่มชื่นอย่างน่าประหลาด เพราะสีเขียวเป็นสีที่ถูกิเคราะห์ว่าเหมาะเเก่การช่วยเยียวยาจิตใจ เป็นสีที่มองเเล้วผ่อนคลายเพื่อพักสายตาเเละสร้างความรู้สึกอิสระได้ดีที่สุด

 

 

อย่าเพิ่งคิดว่าสถานที่พลุกพล่านแบบนี้จะช่วยสร้างเเรงบันดาลใจได้ยังไงนะคะ ต้องบอกก่อนเลยว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีสร้างความสัมพันธ์ให้ตัวละคร ลองออกมาเดินเล่นที่ห้างดูสิ โดยเฉาะอย่างยิ่งในวันหยุด ที่นี่เป็นสถานที่่ซึ่งผู้คนจะมารวมตัวกัน เราจึงจะได้เห็นความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ ทั้งคนรักที่จูงมือกันมา เด็กวัยรุ่นที่มากันเป็นกลุ่มใหญ่เเละพูดคุยอย่างสนุกสนาน ผลัดกันถ่ายรูป หรือบางคนก็มาคนเดียว เพราะอย่างนั้นห้างสรรพสินค้าจึงเป็นอีกสถานที่ที่เหมาะเเก่การสังเกตพฤติกรรมของคน เพื่อจะได้นำไปเขียนสร้างตัวละครได้อย่างสมจริงนั่นเองค่ะ

 

 

สมัยนี้ใครเขาเข้าห้องสมุดกันบ้าง แน่นอนว่าก็เหล่านักเขียนนักอ่านหนอนหนังสือทั้งหลาย(รวมทั้งพี่หวานนี่แหละค่ะ ฮ่า...) สถานที่ยอดนิยมสำหรับนักเขียนที่ต้องการเปิดโลกความคิด เมื่อมาที่ห้องสมุดนอกจากจะได้รับความเงียบสงบเเล้วยังมีหนังสือมากมายที่พร้อมจะถูกใช้เป็นหนังสืออ้างอิงได้อีกด้วย อย่างที่เขาบอกว่าก่อนจะเขียนเราต้องเรียนรู้ที่จะอ่านก่อน ห้องสมุดจึงเป็นสถานที่ที่อยากเเนะนำให้เหล่านักเขียนลองมาใช้เวลาอยู่สักพัก อาจจะได้รับเเรงบันดาลใจดีๆ ไปใส่ในนิยายตัวเองก็เป็นได้

 

 

สำหรับร้านหนังสือ เป็นสถานที่ที่เราอยากเเนะนำให้คุณลองมาเพื่อค้นหาเเรงกระตุ้น การเดินเข้าร้านหนังสือจะทำให้เราเห็นว่านิยายประเภทไหนจัดอยู่บนชั้นไหน วางไว้ส่วนไหนของร้าน นอกจากจะได้เห็นผลงานของนักเขียนคนอื่นที่ตีพิมพ์รวมเล่มก่อนเเล้ว สถานที่นี้ยิ่งจะสร้างความรู้สึกให้เรามีกำลังใจในการเขียน ลองจินตนาการดูว่าเราอยากจะเขียนผลงานเเบบไหนออกมาเพื่อที่จะคาดหวังถึงขั้นตอนต่อไปว่าหนังสือเล่มใหม่ที่ได้ขึ้นวางบนชั้นอาจเป็นผลงานของเราก็ได้นะเออ

 

 

สถานที่ต่อมาที่ไม่ต้องลำบากออกไปไหนไกลเลยก็คือสวนในบ้านนั่นเองค่ะ ลองเดินหามุมสงบสักที่ในบริเวณบ้าน นั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรด รับลมเย็นๆ ที่พัดมา หรือบางทีก็อาจจะมีเเสงแดดอ่อนๆ ช่วยเพิ่มความอบอุ่น ทั้งหมดเป็นความสบายใจที่จะช่วยให้เราผ่อนคลาย ยิ่งอยู่ในพื้นที่ที่คุ้นเคยเราจะรู้สึกปลอดภัย เเละมีพลังในการเขียนขึ้นมาอีกเเน่นอน

 

 

หรือถ้าคิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศแบบจริงจัง พี่หวานเเนะนำนี่เลยค่ะ ตีตั๋วไปนั่งชิลๆ ริมทะเลหรือชายหาดสักที่ ปล่อยใจไปกับสายลมเเสงแดด ลองเดินให้คลื่นเล็กๆ พัดเข้าออกกระทบข้อเท้าก็อาจจะทำให้รู้สึกอยากเขียนนิยายสักเรื่องได้ ถ้าสีเขียวช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย สีฟ้าของท้องฟ้าเเละน้ำทะเลก็มีส่วนช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มพูนสติปัญญา เพราะสีฟ้าเป็นสีโทนเย็นที่สร้างความรู้สึกเงียบสงบเเละเยือกเย็น ดังนั้นเเล้วการเปลี่ยนบรรยากาศออกไปเขียนงานที่ชายหาด นอกจากจะได้พักผ่อนเเล้วก็ยังเป็นอีกสถานที่ซึ่งนักเขียนหลายคนน่าจะได้ผลงานดีๆ กลับไปสักชิ้นก็เป็นได้

 

 

สำหรับสถานที่นี่ในประเทศไทยอาจจะหาได้ยากสักหน่อยเพราะบางช่วงเวลาก็ไม่ได้มีนิทรรศการน่าสนใจมาจัดเเสดงให้ได้ชมตลอด เเต่ตอนที่พี่หวานนึกถึงข้อนี้ภาพของหอศิลป์ก็ลอยเข้ามาเลยค่ะ เหมาะแก่คนที่ต้องการสถานที่เงียบๆ เพื่อใช้เวลาอยู่กับตัวเอง สถานที่แบบนี้จะช่วยสร้างความรู้สึกที่แปลกใหม่ไปกับผลงานต่างๆ ของศิลปินท่านอื่นๆ ที่มาเเสดงผลงาน อย่างที่เคยได้ยินมาหลายครั้งว่าการไปเดินชื่นชมผลงานศิลปะอย่างนี้ก็ช่วยยกระดับจิตใจของมนุษย์ได้เหมือนกัน นี่จึงเป็นอีกสถานที่ที่นักเขียนน่าจะลองไปดูสักครั้ง

 

 

อย่างเพิ่งคิดไปถึงร้านบาร์ที่เต็มไปด้วยเสียงดนตรีจังหวะสนุกสนานและแสงไฟวิบวับในห้องมืดๆ ชวนปวดหัวนะคะ สำหรับบาร์ที่พี่หวานอยากจะบอกก็คือร้านนั่งชิลล์ สบายๆ ฟังเพลงเบาๆ ให้จิตใจผ่อนคลาย สถานที่ในข้อนี้อาจจะไม่ได้เหมาะแก่การหอบโน้ตบุ๊กไปนั่งเขียนนิยาย เเต่สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เพิ่มความน่าตื่นตาตื่นใจเหมือนเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ การเข้าไปหาร้านนั่งแบบนี้จะช่วยให้เรารู้สึกสนุกจนอาจได้ฉากเด็ดๆ มาใส่ในนิยายก็ได้ ที่สำคัญก็คือจะได้รู้ว่าเวลาเขียนฉากให้ตัวละครมาสถานที่เเบบนี้จะต้องเจอกับบรรยากาศแบบไหน ก็ช่วยในเรื่องการบรรยายฉากให้สมจริงได้เช่นกัน
 

ข้อนี้พี่หวานไม่ได้เขียนขึ้นมาขำๆ นะคะ เคยเป็นบ้างมั้ยคะจังหวะที่กำลังอาบน้ำ สระผม หรือแปรงฟันอยู่ มักจะมีพล็อตเรื่องดีๆ ขึ้นมาซะได้ พี่หวานเป็นอีกคนที่มักจะเกิดความคิดและพล็อตนิยายใหม่ๆ ระหว่างที่อยู่ในห้องน้ำ นั่นอาจเป็นเพราะช่วงเวลาเรากำลังชำระร่างกายหลังจากเหน็ดเหนื่อยมาตลอดวันทำให้เราผ่อนคลาย หลังจากเปิดน้ำ เสียงน้ำจะทำให้รอบตัวเราเงียบลงเเละเหลือเเต่เสียงน้ำกระทบพื้น เป็นช่วงเวลาเเห่งการมีสมาธิ เเละในตอนนั้นที่เราอาจจะคิดอะไรใหม่ๆ ได้นั่นเอง วันหยุดนี้ถ้าฤดูหนาวมันสั้นเกินไป ลองขังตัวเองอยู่ในห้องน้ำที่เย็นฉ่ำนั้นลองดู ได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงมาบอกพี่หวานต่อด้วยนะคะ ^^

 

 

ใครที่กำลังต้องเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดในช่วงวันหยุดแบบนี้ อย่าลืมหยิบสมุดหรือดินสอติดไปด้วยนะคะ พี่หวานเคยเผชิญมาเเล้วกับการติดแหง็กบนรถทัวร์ 12 ชั่วโมง!! เเต่ช่วงเวลาเหล่านั้นไม่น่าเบื่อเลยค่ะ เพราะพอไม่มีอะไรให้ทำเราจะเริ่มฟุ้งซ่าน เเล้วจินตนาการมากมายก็จะหลั่งไหลออกมา การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถบัส รถทัวร์ หรือรถไฟ จึงเป็นอีกสถานที่ที่สร้างเเรงบันดาลใจดีๆ ให้ได้เหมือนกัน

 

 

ถ้ากำลังเบื่อ ลองมองหาดาดฟ้าที่เงียบสงบเเละปลอดภัยดูสักที่สิ สำหรับสถานที่นี้พี่หวานยังไม่เคยลองขึ้นไปเลยค่ะ เเต่เขาบอกว่าดาดฟ้าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกเป็นอิสระ ยิ่งถ้าขึ้นไปเเล้วได้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบ ก็จะยิ่งทำให้สมองคุณรู้สึกปลอดโปร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากบนดาดฟ้าเป็นฉากยอดนิยมในนิยายหลายเรื่อง การที่นักเขียนพาตัวเองขึ้นไปอยู่ตรงนั้นก็จะทำให้เราเข้าใจความรู้สึกตัวละครเเละสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างสมจริง 

 

 

เพราะผู้ใหญ่หลายคนก็มีเรื่องเล่ามากมายที่น่าสนใจ ตั้งเเต่เด็กจนถึงตอนนี้พี่หวานชอบเวลาได้กลับบ้านต่างจังหวัดมากเลยค่ะ ยิ่งถ้ากลับไปเเล้วได้นั่งฟังผู้เฒ่าผู้แก่คุยกันถึงความหลังจะรู้สึกว่ามันน่าฟังมากๆ เพราะเขาเจอสังคมที่ต่างจากเราหลายอย่าง ยิ่งโลกเปลี่ยนไปอยู่ทุกวันพอได้เห็นมุมมองคนที่อยู่มาทุกยุคสมัยเล่าชีวิตเมื่อก่อนให้ฟัง การเก็บข้อมูลจากเรื่องเล่าก็เป็นอีกทางหนึ่งที่สร้างเเรงบันดาลใจดีๆ ให้เขียนนิยายได้

 

 

มาถึงสถานที่สุดท้ายที่น่าจะเป็นสถานที่โปรดในใจใครหลายคน ไหนขอเสียงนักเขียนที่ชอบเขียนนิยายบนเตียงตัวเองหน่อยเร็ววว >< สถานที่ที่คุ้นเคยที่สุด ปลอดภัย เเละเป็น comfort zone อย่างเเท้จริงก็คือห้องนอนหรือเตียงนอนนั่นเอง ถ้าหากยามหลับเราสามารถฝันถึงเรื่องราวน่าสนุกมากมาย ทำไมยามตื่นเราจะใช้สถานที่เดียวกันนี้สร้างจินตนาการไม่ได้กันล่ะ? เพราะฉะนั้นในวันหยุดแบบนี้ถ้าไม่อยากออกไปข้างนอกก็ลองซุกตัวอยู่ในผ้าห่ม ปล่อยให้ความคิดได้โลดแล่น เผื่อจะเขียนอะไรออกมาได้สักสองสามบรรทัดก็ได้นะคะ(ถ้าไม่หลับไปก่อนน่ะ...)

 

เป็นยังไงบ้างคะกับ 13 สถานที่ที่พี่หวานเรียบเรียงมาให้ เเต่ละที่ก็มีผลต่อตัวคนเเตกต่างกันออกไปหลายอย่างอะเนอะ คงต้องขึ้นอยู่ที่เราเองนี่แหละว่าชอบอยู่ในสภาพเเวดล้อมเเบบไหน เเล้วสถานที่ไหนที่ความคิดจะทำงานได้ดีที่สุด ถ้าใครเลือกได้เเล้วก็ลงมือเขียนนิยายสนุกๆ มาลงได้เลย เเต่ถ้าใครยังมองหาที่ให้ไปอยู่ละก็ ลองเลือกจากลิสต์ในบทความนี้ได้เลยจ้า ขอให้ได้เเรงบันดาลใจดีๆ กลับไปเขียนนิยายกันทุกคนเลยนะคะ ^___^

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
https://www.color-meanings.com/green-color-meaning-the-color-green/
http://www.wiseinkblog.com/