นิยายเด็กดีน่าอ่าน Special: ตื่น นิยายไซไฟแฟนตาซีที่อ่านแล้ว ‘ตื่น’ แน่นอน!


นิยายไซไฟแฟนตาซีที่อ่านแล้ว
‘ตื่น’
แน่นอน!
สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน

          ก่อนอื่นเลยพี่หญิงขอถามกันสักนิดนะคะว่า… แถวนี้มีใครชอบอ่านนิยายไซไฟ แฟนตาซี หรือมีใครกำลังตามหานิยายแนวๆ นี้อ่านอยู่ไหมเอ่ย ถ้ามีก็มาถูกที่แล้วค่ะ เพราะนิยายเรื่อง “ตื่น” ที่พี่หญิงหยิบมาฝากทุกคนในวันนี้นั้น เป็นนิยายแนวไซไฟแฟนตาซีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหุ่นยนต์รบ เวทมนตร์ และอสูรกายกลายพันธุ์ ในเรื่องเดียวกันอีกด้วย! (พีคไปอีก!)

ตื่น
ผู้แต่ง : NetMilk
หมวด : ฟรีสไตล์/วิทยาศาสตร์
จำนวน : 46 ตอน

 


 

คำโปรย
“ว่าง” เด็กหนุ่มธรรมดา ที่บังเอิญพบกับความลับที่ถูกปกปิดไว้โดยทั้งมนุษย์เองและทั้งธรรมชาติและมันทำให้เขาห่างไกลจากคำว่า “คน” ออกไปเรื่อยๆ

แนะนำนิยาย

           เป็นนิยายแนวไซไฟแฟนตาซีที่ดำเนินเรื่องอยู่ในโลกที่สร้างจากจิตนาการของผู้เขียนแถมยังมีเรื่องราวของเวทมนตร์ เทคโนโลยีชีวะภาพ เครื่องจักรและอสูรกายกลายพันธุ์อยู่ในเรื่องเดียวกัน!
           ถ้าใครกำลังเบื่อๆ พล็อตนิยายแนวย้อนมิติ ข้ามภพ หรือนิยายแนวไซไฟแฟนตาซีที่มีโลกของเราเป็นฉากหลังในการดำเนินเรื่องราวแล้วล่ะก็… พี่หญิงขอแนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะ “ตื่น” เป็นนิยายที่เล่าถึงเรื่องราวของดาวเคราะห์ที่มีลักษณะแตกต่างจากโลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันถึงขีดสุด คือ เป็นโลกที่แต่ละด้านจะมีเพียงเวลาเดียวอยู่ตลอด 
ฝั่งหนึ่งเป็นกลางวัน และอีกฝั่งเป็นกลางคืน
           และแต่ละด้านก็มีบรรยากาศที่สุดโต่งกันทั้งคู่ ฝั่งหนึ่งร้อนสุดขีด และอีกฝั่งหนึ่งก็มืดมิดไร้แสงสว่าง!
           (ถ้านึกภาพไม่ออกก็คิดถึงดาวพุธรัวๆ เลยจ้า ที่ฝั่งหันหน้าเข้าหาพระอาทิตย์จะร้อนจัด ส่วนอีกฝั่งจะเย็นเป็นน้ำแข็งแล้วก็มืดสุดๆ เพราะไม่โดนแสง)
           นึกภาพตามแล้ว พี่หญิงเชื่อว่าจะต้องมีคนเริ่มสงสัยกันแล้วใช่ไหมคะว่า… ถ้าดาวเคราะห์ดวงนี้จะมีบรรยากาศที่สุดโต่งเบอร์นี้ แล้วจะมีสิ่งมีชีวิตดำรงอยู่ได้อย่างไร ไม่แข็งเป็นน้ำแข็งหรือเผาไหม้เป็นเถ้าถ่านหรือยังไงกัน!
            คำตอบมันมีอยู่ค่ะ เพราะตัวละครและสิ่งมีชีวิตในดวงดาวดวงนี้ไม่ได้อาศัยอยู่ในฝั่งหนึ่งฝั่งใดน่ะสิคะ แต่อาศัยอยู่ในดินแดนตรงกลางบริเวณที่รอยต่อระหว่างกลางวันและกลางคืนมาเจอกัน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เนี่ยจะมีลักษณะเป็นวงแหวนรอบดวงดาว โดยจะแบ่งที่อยู่อาศัยเป็นสามส่วนคือ
           
            ส่วนที่หนึ่งจะเป็นฝั่งที่มีแสงตลอดเวลาถูกเรียกว่า
“ดินแดนรุ่งอรุณและดินแดนสนธยา” ปกครองโดยเผ่ากิลมที่เป็นเหล่าชีวะจักรกลโลหะมีชีวิต ...ส่วนที่สองจะเป็นดินแดนที่มีแต่ความมืด ถูกเรียกว่า “นครราตรี” ซึ่งเป็นที่อยู่ของเผ่าสุขัล เหล่าสัตว์กลายพันธุ์ในเงามืด และส่วนสุดท้าย ดินแดนส่วนกลางพื้นที่ที่อยู่ระหว่างทั้งสองดินแดน เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ และพระเอกของเรื่องก็มาจากดินแดนส่วนนี้นั่นเองค่ะ
            ซึ่งเนื้อหานิยายในเรื่องนี้ก็จะเล่าถึงชีวิตของ “ว่าง” เด็กมัธยมปลายปี 1 ที่ได้ค้นพบความลับของโลกโดยบังเอิญอย่างไม่คาดคิด จนทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล! แถมเขายังถูกดึงไปข้องเกี่ยวกับเรื่องราวของดินแดนทั้งสองฝั่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวอีกด้วย!
 


เป็นนิยายแนวไซไฟแฟนตาซี
ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมะ

            ปกติ เราอ่านนิยายแนวไซไฟแฟนตาซีแล้ว... เราคาดหวังที่จะเห็นอะไรในนิยายพวกนี้คะ? หวังที่จะเห็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย หรือการต่อสู้ผจญภัยที่คาดไม่ถึงกัน? รู้อะไรไหม… นิยายเรื่องนี้ได้ให้อะไรกับเรามากกว่านั้น เพราะนิยายเรื่องนี้ไม่เพียงนำเสนอเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นคาดไม่ถึงเท่านั้น

            แต่ผู้เขียนยังหยิบเอาแนวคิดเกี่ยวกับธรรมะบางส่วนมาสอดแทรกไปกับการดำเนินเรื่องของตัวละคร ให้ผู้อ่านได้ฉุกคิด สะกิดใจ ถึงสารบางอย่างที่ผู้เขียนพยายามสื่อออกมาผ่านตัวละครอีกด้วย

ตัวอย่างเนื้อหาบางตอนที่ผู้เขียนพยายามสอดแทรกปริศนาธรรมมาไว้ในนิยาย…

           (มนุษย์ คือ เผ่าพันธุ์ที่ยกตัวเองขึ้นสูง และกดผู้อื่นให้ต่ำ… เป็นแนวคิดที่อ่านแล้ว... รู้สึกเจ็บจี๊ดในใจยังไงก็ไม่รู้ เฮ้อ)



เป็นนิยายแนวไซไฟแฟนตาซี
ที่ปมหลักของเรื่องไม่ได้มุ่งเน้นนำเสนอเรื่องราวการต่อสู้สุดระห่ำ หรือเทคโนโลยีอันล้ำลึกแต่เป็นการ “ตื่นรู้” ของตัวเอก

           ตอนแรก... ที่เห็นชื่อนิยายเรื่องนี้ “ตื่น” ก็แอบเดาเรื่องไปต่างๆ นาๆ ว่า “ตื่น” ในที่นี้ของผู้เขียนจะหมายถึงอะไร จะใช่การตื่นของพลังพระเอกหรือเปล่า หรือจะเป็นการตื่นขึ้นของศัตรูอันคาดไม่ถึง แต่พอได้อ่านนิยายเรื่องนี้จนจบ พี่หญิงถึงได้เข้าใจว่า “ตื่น” ของผู้เขียนนี้ไม่ได้เป็นเหมือนที่เราคิด แต่ว่าเป็นการตื่นรู้และเข้าใจในสัจธรรมของการมีชีวิตอยู่ของตัวเอกนั่นเอง

           ซึ่งพี่หญิงขอบอกเลยว่า ใครที่เห็นนิยายเรื่องนี้แฝงไปด้วยแนวคิดปรัชญาๆ และธรรมะมากมายแบบนี้... แล้วจะน่าเบื่อ และปวดหัว อ่านไปก็เครียด ไม่สนุก ขอบอกเลยว่าคิดผิดค่ะ เพราะแต่ละวิธีการที่ผู้เขียนสอดแทรกสิ่งเหล่านี้ลงไป มันทั้งสร้างสรรค์ และแนบเนียน จนสามารถดึงความสนใจให้เราคิดตามได้อย่างคาดไม่ถึงเลย

            สรุปแล้ว ถ้าใครกำลังตามหานิยายแนวไซไฟแฟนตาซีที่ไม่ได้มีดีแค่เทคโนโลยีล้ำสมัย และการผจญภัยสุดตื่นเต้น แต่ยังแฝงไปด้วยแนวคิดปรัชญาที่น่าสนใจด้วยแล้วล่ะก็… พี่หญิงบอกเลยว่า “ตื่น” จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ

สุดท้ายนี้พี่หญิงก็ขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ

พี่หญิง



 

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น