คัดมาให้แล้ว 5 นิยายแนว LGBTQ+ ที่คุณต้องอ่านให้ได้ก่อนตาย!


คัดมาให้แล้ว นิยาย LGBTQ+ ที่คุณต้องอ่านให้ได้ก่อนตาย!


สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน เดือนมิถุนายน หรือ Pride month จัดว่าเป็นเดือนสำคัญเพราะเป็นเดือนแห่งการฉลองของ เหล่า LGBTQ (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) ขอเมาธ์นิดนึงก่อนว่า ในช่วงยุค 2000 หนังสือที่เกี่ยวกับชาวสีรุ้งยังไม่เป็นที่แพร่หลายในโลก หรือต่อให้มีหนังสือแนวนี้ ส่วนมากมักเป็นเรื่องราวที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมความรักไม่สมหวัง ซึ่งพี่คิดว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยยุติธรรม เพราะพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ล้วนแล้วแต่สมควรได้รับความรักที่ยิ่งใหญ่

โชคดีที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศได้รับการยอมรับมากขึ้น งานเขียนประเภท LGBTQ ในยุคหลังๆ จึงมีความยุติธรรมและมีความหลากหลาย หากใครที่กำลังมองหานิยายแนวนี้อ่านในเดือน Pride Month แบบนี้ พี่น้ำผึ้งได้รวบรวมหนังสือแนว LGBTQ ที่ต้องอ่านมาให้แล้ว บอกเลยว่าแต่ละเรื่องดีงามและไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้น ตามมาเลยดีกว่า

 


 

Simon VS. the Homo Sapaiens Agenda

เขียน Becky Albertalli

จากนิยาย YA ชื่อดังและคว้ารางวัลมามากมายอย่าง “Simon Vs. the Homo Sapiens Agenda สู่ภาพยนตร์จอแก้วที่เพิ่งเข้าฉายในปีนี้อย่าง “Love, Simon ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทั่วอเมริกา 

เรื่องราวของไซมอน สเปียร์ หนุ่มน้อยหน้าใสวัย 16 ปีที่เป็นเกย์และไม่คิดจะบอกใครแม้แต่คนในครอบครัว ไซมอนก็เหมือนคนทั่วไป เขามีเพื่อนที่ไว้ใจได้และเป็นเกย์เหมือนกัน โดยพวกเขาพูดคุยกันผ่านอีเมล แต่แล้ววันหนึ่งอีเมลทุกฉบับดันตกอยู่ในมือของคนร้ายกาจ ความลับของเขาจึงเสี่ยงต่อการโดนเปิดเผยและกลายเป็นจุดสนใจ พูดง่ายๆ ก็คือไซมอนกำลังถูกมาร์ตินแบล็กเมล์นั่นเอง! ถ้าเขาไม่ยอมยื่นมือเป็นพ่อสื่อ ช่วยมาร์ตินจีบแอ๊บบี้ รสนิยมทางเพศของเขาก็จะกลายเป็นเรื่องต้องเผือกของคนทั้งโรงเรียน เลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือความลับของบลู เพื่อนทางอีเมลของเขาก็จะถูกเปิดเผยอีกด้วย!

ด้วยเรื่องราววุ่นๆ ของกลุ่มเพื่อนสนิท กับอีเมลฉบับแล้วฉบับเล่าของเขากับบลูที่ถูกส่งในทุกๆ วัน จนมันก่อให้เกิดความรู้สึกดีๆ ที่มากกว่าเพื่อน! ทั้งหมดทำให้ชีวิตอันเรียบง่ายในโรงเรียนที่เคยมีของไซมอนเริ่มยุ่งยาก!

ใครกำลังมองหาหนังสืออ่านง่าย อ่านสบาย เนื้อเรื่องไม่เครียด แถมยังทำให้เราเข้าใจกลุ่มเพศที่ มากขึ้น พี่น้ำผึ้งขอแนะนำเรื่องนี้เลยค่ะ มีเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยด้วย ชื่อว่า “อีเมลลับฉบับไซมอน” แล้วมาร่วมลุ้นกันดีกว่าว่าหนุ่มน้อยไซมอนจะกล้าออกจากคอมฟอร์ทโซนและยอมประกาศตัวตนให้โลกรับรู้ว่า “เขาเป็นเกย์” หรือเปล่า!

 


 

Georgia Peaches and Other Forbidden Fruit

เขียน Jaye Robin Brown

ถ้ารัก Love, Simon เชื่อว่าต้องรักเรื่องนี้เหมือนกัน นิยายที่เว็บไซต์รีวิวต่างประเทศชื่อดัง Kirkus กล่าวไว้ว่าเป็นเรื่องราวที่ “อ่อนหวาน เซ็กซี่ และโรแมนติกมากกว่าความรักที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวสองคน ทั้งหมดที่พูดได้เลยก็คือเป็นเรื่องราวที่มีเสน่ห์มาก แม้จะเป็นเรื่องราวความรักของคนธรรมดา”

โจแอนน์ กอร์ดอน เด็กสาวที่เปิดเผยตัวตนว่าตัวเองชอบเพศเดียวกันมีความภาคภูมิใจกับรสนิยมทางเพศของเธอมาก แต่แล้ววันหนึ่งพ่อของเธอจำเป็นต้องแต่งงานใหม่และตัดสินใจย้ายออกจากเมืองแอตแลนตา มุ่งหน้าสู่เมืองที่เป็นอนุรักษ์นิยมและหัวโบราณอย่างเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐจอร์เจีย โดยพ่อของเขาได้ขอร้องให้โจแอนน์ (โจ) ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นั่นคือ... ปิดบังเรื่องรสนิยมทางเพศของเธอ อย่างน้อยก็จนกว่าจะจบไฮสคูล แน่นอนว่าโจตอบรับอย่างไม่เต็มใจ

ถึงอย่างนั้นพ่อของเขาก็เต็มใจรับฟังปัญหาวัยรุ่นของลูก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนและสภาพแวดล้อมที่กดดัน รวมไปถึงปัญหาทางเพศที่น่าอึดอัดของเธอ สำหรับโจแอนน์ ปัญหาเหล่านี้ดูไม่ใช่ปัญหายิ่งใหญ่หรือร้ายแรง เว้นแต่เสียว่า ยิ่งเธอปิดบังตัวเองมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกแย่กับพ่อของเธอมากเท่านั้น แล้วยิ่งเธอได้พบกับมารี่ คาร์ลสัน น้องสาวของเพื่อนร่วมชั้นของเธอที่แสนน่ารักและอ่อนหวาน  เธอก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะปิดบังรสนิยมทางเพศของเธอ

สำหรับนิยายเรื่อง Georgia Peaches and Other Forbidden Fruit ได้รับการโหวตว่าเป็นนิยายสาย LGBTQ ที่ควรค่าแก่การอ่าน การีนตีโดยรางวัล Kirkus Best Book of the Year, Chicago Public Library Best Book of the Year และ A Bustle.com Best Young Adult Book of the Year คว้าไปเลยสามรางวัลรวดแบบนี้ ไม่อ่านไม่ได้แล้วจ้า!

 


 

History Is All You Left Me

เขียน Adam Silvera

กริฟฟินเคยรักธีโอมาก แต่ตอนนี้ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความทรงจำของเขาเพราะธีโอตายไปแล้ว และเขาไม่สามารถมูฟออนได้ ซึ่งเอาจริง เรื่องทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าธีโอไม่ได้ย้ายออกจากบ้านและไปอยู่กับแจ็คสัน มันเป็นความผิดของแจ็คสัน กริฟฟินอยากเกลียดเขา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกลียดแจ็คสันเช่นกัน ในตอนนี้ดูเหมือนชีวิตของกริฟฟินก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันดูเลวร้ายลงเรื่อยๆ เขาเต็มไปด้วยความเศร้าและกลายเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ

ถ้าเพียงแต่กริฟฟินอนุญาต แจ็คสันและเวด เพื่อนสนิทของกริฟฟินอาจอยู่ตรงนี้ข้างๆ เขาเพื่อให้กำลังใจว่าทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี กริฟฟินอาจจะดีขึ้น เว้นแต่เสียว่ามันเป็นกลายเรื่องยากที่จะปล่อยอดีตทิ้งไปเพราะเขายังยึดติดอยู่อย่างนี้ บอกเลยว่าต้องหานิยายเรื่องนี้มาอ่านให้ได้ อ่านแล้วจะประทับใจในเรื่องราวความรักอกหักอันแสนเศร้า ทว่าสวยงามค่ะ

 


 

Aristotle and Dante Discover the Secrets of the Universe

เขียน Benjamin Alire Sáenz

อริสโตเติลเป็นวัยรุ่นขี้โมโห เขามีพี่ชายถูกจำคุกอยู่ในเรือนจำเพราะก่อคดีร้ายแรง ส่วนดันเต้เป็นพวกรู้ดีไปหมดซะทุกเรื่องแถมยังแตกต่างจากอริสโตเติลโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อทั้งสองคนมาพบกันที่สระว่ายน้ำในช่วงฤดูร้อน เรื่องราวของคนเหงาสองคนที่ใช้เวลาร่วมกันจึงเริ่มต้นขึ้น มิตรภาพที่ลึกซึ้งและไม่น่าเป็นไปได้เริ่มผลิบาน จนท้ายที่สุดก็เริ่มเปลี่ยนเป็นอะไรที่มากกว่านั้น

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไปที่เราจะซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างนี้สำหรับอริส แต่ดันเต้ก็แสดงให้เขาเห็นว่า ไม่ว่ามันจะยากลำบากขนาดไหน มันก็ยังมีบางสิ่งในชีวิตที่สำคัญมากกว่าการพยายามตัดสินว่าเรารักเพศไหน หรือตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นใคร

สำหรับ Aristotle and Dante Discover the Secrets of the Universe ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้เริ่มต้นจากการตกหลุมรักกันอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มต้นจากความสัมพันธ์แบบเพื่อน แล้วตลอดทั้งเรื่อง นักอ่านอย่างพวกเราก็ได้ร่วมเติบโตไปกับความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อกัน ก่อนที่จะยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เหมือนอย่างที่เราตระหนักว่าแท้จริงแล้วเราแคร์คนที่เราแอบชอบมากแค่ไหน ใครชอบนิยายแนว Coming of Age และเนื้อเรื่องละมุน ต้องจัดมาอ่านให้ได้แล้วจ้ะ

 


 

Let's Talk About Love

เขียน Claire Kann

อ่านแนวรักเพศเดียวกันมาเยอะแล้ว ขอปิดท้ายที่ความรักฉบับไบสักหน่อย เรื่องราวของสาวน้อยวัยรุ่นผิวสีที่ชอบสวมบูทและเป็นไบอย่าง “อลิซ” เธอมีแพลนใหญ่สำหรับซัมเมอร์นี้ดูรายการทีวีโปรด ออกไปเที่ยวกับเพื่อน และทำงานห้องสมุดเพื่อชดใช้ค่าหนังสือที่ยืมไป แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในแพลนของเธอเลยคือ...แฟนสาวของเธอบอกเลิกหลังจากที่เธอสารภาพว่าเป็นพวกไม่สนใจเรื่องอย่างว่า (asexual)!

แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้พบกับทาคุมิ หนุ่มที่ทำงานอยู่ในห้องสมุดเดียวกับเธอ เขาเป็นผู้ชายอ่อนโยน มีเสน่ห์และทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามีผีเสื้อบินอยู่ในช่องท้องตลอดเวลา แล้วก็นั่นแหละ อลิซต้องตัดสินใจว่ามันคุ้มมั้ยที่จะเสี่ยงเปลี่ยนความสัมพันธ์จากเพื่อน เพราะเธอมีรสนิยมทางเพศที่เขาอาจไม่เข้าใจ

อ่านหนังสือเรื่อง Let's Talk About Love ถ้าเราอยากสัมผัสความรู้สึกของคนที่เป็น Bisexual ว่าเป็นยังไง รวมทั้งยังเป็นหนังสือที่สะท้อนถึงวัยรุ่นชัดเจน อลิซต้องเลือกว่าจะทำตามความฝันของครอบครัว หรือทำตามความปรารถนาและความฝันของตัวเอง เป็นบางสิ่งบางอย่างที่พี่มั่นใจว่าพวกเราส่วนใหญ่รู้สึกเหมือนกันกับอลิซ การเฝ้ามองอลิซที่วิ่งไล่ตามความฝันทำให้เราเองก็รู้สึกอยากทำตามความฝันของเราด้วยเช่นกัน ลองอ่านดูแล้วจะตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้ค่ะ

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับ หนังสือแนว LGBTQ ที่พี่นำมาฝากในวันนี้ แต่ละเล่มล้วนได้รับการันตีด้วยรางวัลต่างๆ และรีวิวที่ยอดเยี่ยม ใครสนใจเรื่องไหนลองไปหาอ่านได้ดูนะคะ บางเล่มมีแปลเป็นภาษาไทยแล้ว บางเล่มก็ยัง แต่รับรองว่าอ่านแล้วจะช่วยเปิดโลกของเราได้แน่นอน แล้วน้องๆ จะรู้ว่า...ความรักไม่เคยขึ้นกับเพศเลยจริงๆ แด่ความรักที่แสนงดงามค่ะทุกคน ^ ^

 

พี่น้ำผึ้ง :)


 


ขอบคุณข้อมูลหนังสือและรูปภาพจาก amazon.com

Deep Sound แสดงความรู้สึก

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

NO.931 Member 20 มิ.ย. 61 08:40 น. 1

เพิ่มให้ครับ!!! ของไทยเรามี 

“Make it right จะเป็นใครถ้าไม่ใช่-” อ่านได้ในเว็บเราครับ 


แล้วก็มี “เดือนเกี้ยวเดือน” ครับ เรื่องนี้ความยาว3เล่ม

วางขายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป


ทั้งสองเรื่องนี้แต่งดีมากครับ ทั้งโครงเรื่องและภาษาที่ใช้

ลองไปอ่านกันดูนะครับบบ

1
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

NO.931 Member 20 มิ.ย. 61 08:40 น. 1

เพิ่มให้ครับ!!! ของไทยเรามี 

“Make it right จะเป็นใครถ้าไม่ใช่-” อ่านได้ในเว็บเราครับ 


แล้วก็มี “เดือนเกี้ยวเดือน” ครับ เรื่องนี้ความยาว3เล่ม

วางขายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป


ทั้งสองเรื่องนี้แต่งดีมากครับ ทั้งโครงเรื่องและภาษาที่ใช้

ลองไปอ่านกันดูนะครับบบ

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด