​แนะนำแรงๆ! 7 เล่มนี้ แฟนคลับอลิซในแดนมหัศจรรย์ต้องอ่านต่อ!

นักเขียนคนนี้ได้สร้างเรื่องราวของ แคทเธอรีน ผู้เลือกไปเปิดร้านเบเกอรี่แทนที่จะรับคำขอแต่งงานของราชาโพแดง เนื้อหาในเรื่องจะเล่าย้อนไปถึงช่วงก่อนหน้าที่อลิซจะเข้าไปผจญภัยในวอนเดอร์แลนด์ แน่นอนว่าราชินีโพแดงไม่พอใจแคทเธอรีน ผู้ปฏิเสธสามีของเธอ ถ้าใครอยากลองอ่านเรื่องแนวๆ รักสามเส้า ที่มีราชินีโพแดงเป็นตัวละครหลัก แนะนำเล่มนี้ 

เนื้อหาเน้นไปที่ : ราชินีโพแดง, แบ็คกราวด์ของวอนเดอร์แลนด์, ประวัติศาสตร์ของวอนเดอร์แลนด์  

 

เรื่องนี้นักเขียนสร้างตัวละครอื่นๆ ขึ้นมา เป็นตัวละครที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องอลิซแต่อย่างใด ทุกคนได้เข้าไปในวอนเดอร์แลนด์โดยบังเอิญ ผ่านการนำของเจ้ากระต่ายขาว และได้ทัวร์วอนเดอร์แลนด์ ได้พบกับเจ้าแมวเชไชร์ ได้พบเหตุการณ์เดียวกับอลิซ นั่นคือ ตัวเล็กลง แน่นอนไม่พลาดที่จะเจอแมดแฮทเทอร์และเจ้ากระต่ายมีนา ที่ชอบนั่งดื่มน้ำชากันทั้งวัน แถมนักเขียนยังเอาปีเตอร์แพนเข้ามาผสมอยู่ในเนื้อเรื่องด้วย เป็นนิยายแนวแฟนตาซีผสมผสานที่จินตนาการแปลกใหม่ คนชอบแนวแฟนตาซีน่าจะปลื้ม 

เนื้อหาเน้นไปที่ : วอนเดอร์แลนด์มีจริงหรือไม่, ใครๆ ก็ไปเยือนได้ใช่ไหม 

 

เมื่อตกลงไปในโพรงกระต่าย อลิซได้ทิ้งโลกแห่งความเป็นจริงและเหตุผลต่างๆ ไว้เบื้องหลัง แต่โลกก็ยังคงหมุนต่อไป หนังสือเรื่องนี้ได้เล่าถึงเหตุการณ์คู่ขนาน ระหว่างช่วงเวลาที่อลิซตกลงไปในโพรงกระต่าย ตัวละครเด่นคือ ลิเดีย พี่สาววัย 15 ของอลิซ เธอกลายมาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ต้องดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง หลังจากแม่เสียชีวิตและน้องสาวก็หายตัวไป เอด้า เพื่อนสนิทของอลิซสืบหาเพื่อนจนพบโพรงกระต่าย และได้ตามอลิซไปยังวอนเดอร์แลนด์ เพื่อนำเพื่อนกลับมา 

เนื้อหาเน้นไปที่ : ช่วงเวลาคู่ขนานของโลกจริงในช่วงเวลาที่อลิซไปอยู่วอนเดอร์แลนด์

 

เป็นการเล่าเรื่องของอลิสส์ ฮาร์ท และบอดี้การ์ดที่ชื่อว่า แฮทเทอร์ แมดิแกน อลิสส์ต้องเจอปัญหา พ่อแม่ถูกฆาตกรรม และเธอเชื่อว่าเป็นฝีมือของป้าเรดด์ (หรือราชินีโพแดง) งานปาร์ตี้น้ำชากลายเป็นปาร์ตี้เลือด แฮทเทอร์ต้องเข้ามาสืบปัญหา และพยายามหาทางนำอลิสส์กลับมาสู่โลกความเป็นจริงให้ได้ เพราะจิตวิญญาณของอลิสส์ล่องลอยไปอยู่ในวอนเดอร์แลนด์เสียแล้ว 

เนื้อหาเน้นไปที่ : การนำพล็อตมาแปลงและเขียนให้เข้ากับโลกปัจจุบัน

 

เนื่องจากลูกสาวคนนี้ดูไม่ปกติ พ่อแม่ก็เลยจับอลิซส่งไปที่ศูนย์รักษาโรคทางจิต แต่ตัวอลิซเองก็ยังเชื่อเรื่องโพรงกระต่ายและการทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้อยู่ เธอเอาแต่เล่าเรื่องของเจ้ากระต่ายขาวซ้ำๆ ทำให้ทุกคนไม่วางใจและไม่ยอมปล่อยเธออกมา อลิซหาทางสื่อสารกับ แมดแฮทเชอร์ผ่านกำแพง และยังพูดถึงแจ๊บเบอร์วอค ศัตรูสุดน่ากลัวของเธอ รวมไปถึงราชินีโพแดงด้วย อลิซในเรื่องนี้ ต้องการแก้แค้นและอยากจะกลับไปวอนเดอร์แลนด์อีกครั้ง แต่เธอจะทำสำเร็จหรือไม่ ต้องตามอ่านในเรื่อง

เนื้อหาเน้นไปที่ : ความคิดของคนรอบข้างเกี่ยวกับการที่อลิซไปวอนเดอร์แลนด์

 

“การลงไปในโพรงกระต่ายหรือเดินทางข้ามผ่านกระจกก็เหมือนการเดินทางสู่อวกาศน่ะแหละ” นักเขียนคนนี้ได้กล่าวไว้ และต่อมาเขาก็ได้เขียนเรื่อง ออโต้เมทอลิซขึ้น โดยเขียนให้เนื้อหาเป็นการผจญภัยที่ทันสมัย อลิซได้นาฬิกาของปู่มา และได้ข้ามเวลาไปยังอนาคต และได้เจอหุ่นยนต์ อลิซต้องไขปริศนาด้วยการหาจิ๊กซอว์ที่หายไปให้เจอ การดำเนินเรื่องค่อนข้างหวือหวา ภาษาวูบวาบ และมีภาพประกอบด้วย 

เนื้อหาเน้นไปที่ : การปรับพล็อตให้ดูทันสมัยและใส่เรื่องจินตนาการเกี่ยวกับ แฟนตาซี ไซไฟ เข้าไปให้อ่านสนุกขึ้น 

 

งานเขียนเรื่องนี้เป็นแนวกราฟิก มีภาพวาดสวยๆ เข้ามาแทรกต่อเนื่องตลอดเรื่อง เล่าถึงตัวลูอิส แครอลล์นักเขียนเจ้าของเรื่อง ประมาณว่าที่มาที่ไปของการเขียนอลิซมาจากไหนอย่างไร โดยได้เขียนถึงอลิซเข้ามาด้วย อารมณ์ให้นักเขียนกับตัวละครได้มาทำความรู้จักกัน ประมาณนั้น 

เนื้อหาเน้นไปที่ : ความสัมพันธ์ของนักเขียนและตัวละครเอกของเขา อลิซในแดนมหัศจรรย์ 

 

จากที่อ่านเรื่องย่อดูแล้ว แอดมินพบว่าน่าสนใจทั้งเจ็ดเรื่องเลยค่ะ จริงๆ นอกจากเจ็ดเรื่องนี้ ก็คิดว่ายังมีผลงานแฟนฟิคของอลิซในแดนมหัศจรรย์อีกมากมายให้เราได้เลือกหามาอ่านกัน ถ้าใครสนใจลองเข้าพวกเว็บที่ขายหนังสือต่างประเทศน่าจะมีอีกหลายเรื่องเลยค่ะ อย่างเรื่องที่แอดมินรู้จักดีและเคยอ่านก็คือ ครั้งหนึ่งนั้นฉันคืออลิซ หรือ Alice I have been แปลโดยสนพ. แพรว เรื่องนี้เล่าถึงตัวอลิซ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ลูอิส แครอลล์สร้างเรื่องอลิซในแดนมหัศจรรย์ขึ้นค่ะ อ่านแล้วได้รู้ประวัติของอลิซเพิ่มขึ้นเยอะมากๆ ถ้าใครสนใจไปลองหามาอ่านกันได้นะคะ 
 

ทีมงานนักเขียนเด็กดี