หน่วยกล้าวาย นักเขียนที่กล้าเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง! เพราะอยากให้คนรู้จัก 'เกม'

อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้คนที่ไม่เข้าใจเกม
ได้เข้าใจคนที่ชอบเล่นเกมบ้าง 

หน่วยกล้าวาย
 
 
สวัสดีน้องๆ นักอ่านนักเขียนชาวเด็กดีทุกคนค่ะ ถามน้องๆ ก่อนเลยว่ารู้จักกีฬาอีสปอร์ต (E-Sports) กันบ้างไหมเอ่ย? ถ้ายังไม่มั่นใจว่ารู้จัก พี่แนนนี่เพนขออธิบายง่ายๆ เลยว่า เจ้ากีฬาอีสปอร์ตเนี่ย เป็นการเล่มเกมออนไลน์ที่มีการคิด การวางแผน และฝึกซ้อมกันอย่างจริงจังเพื่อแข่งขันหาผู้ชนะนั่นเอง ที่ต้องเล่าให้น้องๆ รู้จักกีฬาอีสปอร์ตกันก่อน ก็เพราะวันนี้ พี่แนนนี่เพนจะพาทุกคนมารู้จักกับนักเขียนสาวคนหนึ่งที่มีฝีมือการเขียนไม่ธรรมดา เธอสามารถเขียนเล่าเรื่องเกมให้คนที่ไม่เล่นเกมอินได้! นักเขียนคนนั้นก็คือ "หน่วยกล้าวาย" เจ้าของผลงาน “เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา” นิยายวายธีมเกมที่ฮอตฮิตติดกระแสจนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ในแฮชแท็ก #ซอโซ่ล่ามธีร์ นั่นเอง 
 
พี่แนนนี่เพนเป็นหนึ่งในแฟนนิยายของหน่วยกล้าวาย แอบชอบภาษาและการเล่าเรื่องของนักเขียนสาวคนนี้มาก เรามาทำความรู้จัก "หน่วยกล้าวาย" และนิยายเรื่อง “เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา” กันเล้ย!
 

 
สวัสดีค่าทุกคน ชื่อมิ้วนะคะ เกิดวันอาทิตย์ ยินดีที่ได้รู้จักจ้า สำหรับนามปากกา “หน่วยกล้าวาย” มีที่มาจาก.. ตอนนั้นยืนล้างจานอยู่แล้วคำว่า ‘หน่วยกล้าตาย’ ก็เข้ามาในหัว ก็เลยคิดว่า เฮ้ย ถ้าเอามาเปลี่ยนเป็นหน่วยกล้าวายมันอาจจะเข้มดีนะ เลยไปปรึกษารุ่นน้องคนหนึ่ง เขาบอก 'พี่ๆ เราว่ามันเหมือนชื่อองค์อะ' นี่ก็แบบใจแป้วละ อยากใช้ชื่อนี้อะ สุดท้ายก็เชื่อความรู้สึกแรกของตัวเองค่ะ
 
ส่วนจุดเริ่มต้นที่มาเขียนนิยายนั้น.. เริ่มมาจากแฟนฟิคเกาหลีค่ะ ตอนนั้นอยากอ่านพล็อตๆ หนึ่ง แต่ไม่มีคนเขียน ก็เลยเปิดเวิร์ดโซโล่เองเลย สภาพก็คือเละเทะเพราะขมวดเรื่องไม่เป็น พล็อตคืออะไรเหรอ ไม่มีโครงเรื่องอะไรทั้งนั้น แข็งแกร่งสุด แบบว่านึกอะไรออกก็เขียนไปเรื่อยเปื่อย เดินเท้าเปล่าท่ามกลางทะเลอันดามันอยู่เป็นปีๆ เลยค่ะ 555555
 
นิยายเรื่อง “เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา” มิ้วได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตในวัยเด็กค่ะ เป็นคนชอบเล่นเกมตั้งแต่ประถมเลย ตั้งแต่เครื่องเกมตลับ เกมบอย ไปจนถึง Play Station 1 พอยุคคอมรุ่งเรืองก็เริ่มเล่นพวกเกมออฟไลน์ (Red Alert / StarCraft / Counter Strike) เล่นกับเพื่อนในร้านเกมจนเกมออนไลน์เข้ามา (Ragnarok Online และอื่น ๆ อีกมากมาย) 
 
ตอนนั้นรู้สึกว่ามันเป็นโลกอีกใบนึงเลยค่ะ ตื่นเต้นมาก ตอนนั้นบ้านไม่ค่อยมีเงิน เลยต้องเก็บค่าขนมไว้เพื่อจ่ายค่าชั่วโมง ติดเกมจนโดนแม่ด่า โดนยายตี แต่ก็ไม่ฟัง ช่วงนั้นเพื่อนชอบไปเที่ยวไหนกันก็ไม่ไปกับเขา ความสุขสิ่งเดียวตอนนั้นคือการเล่นเกมจริง ๆ 
 
จนช่วงมอปลายได้เล่น DotA 1 พี่ๆ ในร้านไม่ยอมให้เล่นด้วย เพราะเกมมันเล่นเป็นทีมห้าคนที่ต้องช่วยเหลือกัน การมีคนกากๆ อยู่ในทีมอาจทำให้แพ้ได้ ตอนนั้นเลยต้องเล่นกับบอทไปก่อน แต่พอฝึกไปสักพักก็ได้เล่นกับพวกพี่ๆ จนมีการสร้างทีม เคยไปแข่งชิงรางวัลเล็กๆ น้อยๆ (5พัน - 1หมื่นบาท) ในจังหวัดแล้วก็เคยชนะมาบ้าง แต่ที่ทำให้จดจำและภูมิใจที่สุดก็คงเป็นการแข่งงาน WCG ปี 2008 ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ตอนนั้นติด 16 ทีมสุดท้าย ถึงจะไปได้ไม่ไกลกว่านั้นแต่ก็มีความสุขมากเลย (นั่งร้องไห้น้ำตาแห้ง)
 
พอคิดว่าจะเขียนนิยายวายจริงๆ จังๆ ก็เลยคิดว่าถ้าเอาประสบการณ์ตรงที่เคยเห็น ที่เคยสัมผัสมาถ่ายทอดให้คนอ่านรู้มันอาจจะดีก็ได้นะ คิดว่าถ้าอยากให้คนอ่านเข้าถึงหรืออินไปกับนิยายได้ คนเขียนอย่างเราต้องเข้าถึงมันให้ได้ก่อน ซึ่งมิ้วก็ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเยอะเหมือนกัน พี่ๆ ที่ยังอยู่ในวงการเกมก็ให้คำปรึกษาดีเลยทีเดียว 
 
เจตนาหนึ่งที่เขียนเรื่องนี้ ก็คืออยากให้คนอ่านรู้ว่าวงการเกมในไทยและต่างประเทศเป็นยังไง ถึงบ้านเราจะยังไม่พีคเท่าฝั่งต่างประเทศที่ถึงขั้นเล่นเป็นอาชีพจริงจัง มีเงินเดือน และค่าตัวแพงแบบที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ที่เขียนไปมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ก็อยากเป็นส่วนเล็กๆ ที่ทำให้คนที่ไม่เข้าใจเกม ได้เข้าใจคนที่ชอบเล่นเกมบ้าง เพราะหลายคนยังคิดว่าการเล่นเกมมันไม่ดี ไร้สาระ และทำให้ชีวิตพัง ซึ่งมันก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่นะคะ คนที่ชีวิตเหลวแหลกเพราะมันก็มี แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนอยู่ดี ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเล่นเกมหรือจะให้เกมเล่นชีวิตเรา
 

 
สำหรับตัวละครหลักในเรื่องอย่าง "พี่ธีร์" กับ "โซ่" ที่นักอ่านพูดถึงกันเยอะ ในมุมมองของมิ้ว คิดว่าหลักๆ อยู่ที่คาแรคเตอร์ประสาทๆ ของพี่ธีร์ซึ่งแทบจะหาความดีไม่ได้เลยนอกจากหน้าตากับความดังของนาง (พูดถึงด้วยความรักล้วนๆ) แล้วก็คาแรคเตอร์นุ่มนิ่มของโซ่ ซึ่งน้องจะเป็นคนมองโลกในแง่ดีเสมอ สำหรับมิ้วแล้ว มิ้วคิดว่าน้องโซ่คือส่วนที่เข้ามาเติมเต็มพี่ธีร์ ถึงเขาจะโตแล้วแต่ยังมีหลายเรื่องที่มองข้ามไป เช่น ความรู้สึกของคนอื่น บางทีก็ได้สติเพราะคำพูดน้องอะไรทำนองนี้ค่ะ
 
ส่วนที่สร้างคาแรคเตอร์ของโซ่ที่เป็นน้องเด๋อ มิ้วอยากเขียนนายเอกแบบสุภาพ ไม่หยาบคาย สารภาพก็ได้ค่ะว่าอยากได้แฟนเด็กแบบนี้ (55555) แล้วก็อยากเขียนอะไรที่มันตรงข้ามกับตัวเองด้วยค่ะ เพราะส่วนตัวเป็นคนนิสัยไปทางพี่ธีร์ ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ก็เลยอยากสร้างตัวละครมาขัดเกลาตัวเองตอนเขียนด้วย ความจริงก็คืออยากดีให้ได้สักส่วนหนึ่งของน้องค่ะ
 
เคล็ดลับเวลาสร้างคาแรคเตอร์เหรอคะ? มิ้วคิดว่าตัวมิ้วตั้งแต่ตอนมัธยมยันวัยเลขสองต้นๆ เป็นเด็กร้านเกมก็เลยมีโอกาสเจอคนหลากหลายประเภทค่ะ บวกกับเพื่อนๆ และคนรู้จักในชีวิตจริงด้วย หลักๆ คือชอบสังเกตคนรอบข้าง ไม่ใช่เพราะใส่ใจหรือเป็นห่วงนะคะ คือชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน (โดนถาดเหลืองฟาดหัวอย่างแรง) จริงๆ คือเพราะเจอคนเยอะเลยหยิบนิสัยที่เห็นมาเขียนเป็นตัวละครค่ะ
 
ฉากในนิยายที่มิ้วเขียนเองประทับใจเอง เป็นฉากแข่งรอบชิงชนะเลิศเลย ตอนนั้นมันชาเลนจ์ตัวเองด้วยว่าจะบรรยายให้คนอ่านอินไปกับเราได้ไหม เพราะสิ่งที่ต้องการก็คือ อยากให้คนอ่านรู้สึกว่ากำลังนั่งอยู่ในฮอลล์นะ สองมือถือกระบองลมเชียร์ทีมไหนทีมหนึ่งอยู่ ฟังเสียงนักพากย์คอยบรรยาย จนถึงตอนที่ทุกคนในทีมเข้ามากอดกัน ตอนนั้นก็รู้สึกดีใจไปกับตัวละครด้วยค่ะ 
 
ถ้าถามมิ้วว่า เสน่ห์ของเรื่องนี้คืออะไร ทำไมคนมาอ่านกันเยอะ มิ้วคิดว่าน่าจะเป็นเพราะมุกตลกไร้สาระหรือเปล่าคะ หรือว่ากระแสปากต่อปากนะ อันนี้มิ้วไม่รู้เลย เพราะถ้าคิดแล้วก็กลัวจะเข้าข้างตัวเองน่ะค่ะ (อีโมหัวเราะน้ำตาแตก)
 
ส่วนภาคต่อนิยายเรื่องเกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา ตอนแรกคิดไว้แค่ว่าจะต่อ #ชอกะเชร์คู่กันต์ ค่ะ เป็นภาคของแหลมที่เป็นตัวเกรียนประจำทีม วางพล็อตไว้แล้วว่าจะเป็นแบบไหน จบยังไง เตรียมมุกไว้ฮุคพอสมควรเลย อยากให้เป็นนิยายที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก เจตนาก็คืออยากให้คนอ่านผ่อนคลายหลังจากใช้ชีวิตมาเหนื่อย ๆ ตลอดทั้งวันแล้ว 
 
ส่วน #ญอผู้หญิงโศกา ภาคของพี่แจ็คนี่ ตอนแรกไม่ได้คิดพล็อตไว้เลยค่ะ แต่น้องสาวมาขอให้เขียนเรื่องนี้ก็เลยไปนอนฝันเอาพล็อตอยู่หลายคืนจนได้เป็นแนวดราม่าค่ะ คือมิ้วจะเป็นคนที่ไม่กล้าเปิดนิยายเรื่องไหนถ้ายังคิดพล็อตไม่จบ กลัวค้างกลางทางด้วย กลัวคนอ่านเสียความรู้สึกด้วยค่ะ 
 

 
ความแตกต่างระหว่างการเขียนแฟนฟิคกับนิยายวาย? มิ้วคิดว่าต่างกันตรงที่จินตนาการด้านคาแรคเตอร์ตัวละครจะมีอิสระกว่าค่ะ ฝั่งแฟนฟิคเกาหลีเราจะมีอิมเมจอยู่แล้วว่าคนนี้ตัวสูงผอมนะ มีตาแบบนั้น มีเสียงแบบนี้ แต่ถ้าเป็นวายไทยคือมิ้วไม่ได้มีภาพในหัวไว้เลยว่าเป็นใคร พอเป็นวายไทยก็จะเป็นฟีลที่แบบว่า เราจะสร้างใครขึ้นมาก็ได้ถึงจะไม่รู้ว่าเขามีหน้าตาแบบไหน อีกอย่างพอเป็นนิยายไทยบรรยากาศก็จะแตกต่างจากเกาหลีด้วยค่ะ รู้สึกว่าพอเป็นภูมิประเทศบ้านเราแล้วแล้วมันแอบเข้าถึงง่ายกว่านิดหนึ่งเพราะสิ่งแวดล้อม หรืออะไรต่าง ๆ เพราะมันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทำให้เข้าถึงง่าย
 
ตอนที่เพิ่งเริ่มเขียนนิยายธีมเกมก็วัดใจเหมือนกันค่ะ ว่าคนไม่เล่นเกมจะอ่านได้ไหม  เพราะกลัวจะบรรยายได้ไม่ดีพอจนคนอ่านไม่เข้าใจ ก็เลยคิดว่าโอเค งั้นบรรยายให้ละเอียดไปเลย ยาวก็ยาว ไม่เป็นไร หน้าที่เราคือการส่งสารให้ผู้รับสารเข้าใจ ไม่ใช่ให้เขาไปเสิร์ชหาในกูเกิ้ลอ่านเอง (เข้มไปอี๊ก) 

ไอเดียส่วนใหญ่ของมิ้วมาจากสิ่งรอบตัวค่ะ อย่างที่บอกว่าเป็นคนชอบสังเกตคนรอบข้าง เวลาออกไปข้างนอกชอบนั่งรถเมล์แล้วมองไปเรื่อย บางทีเห็นคนนั่งหลับก็ได้ไอเดียแล้ว ได้อะไรมาก็รีบจดใส่โทรศัพท์ อันไหนประติดประต่อกับไอเดียเดิมได้ก็เอามารวมกันจนได้เป็นนิยายเรื่องนึงก็มีค่ะ
 
ส่วนเรื่องวางพล็อตไม่ให้ออกนอกทะเล มิ้วไม่ใช่คนขมวดพล็อตเก่งด้วยค่ะ แต่เวลาวางแต่ละทีก็จะวางจุดเริ่ม จุดพีค และตอนจบไว้ก่อน หลังจากนั้นก็เข้าไปเติมระหว่างเรื่อง แบบนี้เซฟมากสำหรับมิ้ว
 
สิ่งที่จำเป็นสำหรับนักเขียน.. ส่วนตัวมิ้วคิดว่า จินตนาการ แรงบันดาลใจ กับไฟที่คอยกระตุ้นทำให้อยากเขียนตอนต่อไปค่ะ ถ้าอย่างหลังไม่มีนี่ยุ่งเลย เพราะต่อให้มีจินตนาการหรือแรงบันดาลใจดี ๆ จากไหน แต่ถ้าขาดไฟไป สองมือก็ทำได้แค่วางไว้บนคีย์บอร์ดเฉยๆ (เข้มจ๊าด) แล้วที่สำคัญอีกอย่างเลยก็คือ อย่าไปลอกใครค่ะ ทำให้มันดีด้วยตัวเองน่าภูมิใจกว่าเยอะเลย เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเองนะ
 

 
มิ้วคิดว่า การเขียนนิยายให้อะไรมิ้วเยอะมากๆ ค่ะ ก่อนอื่นเลย รู้สึกเหมือนเป็นพระเจ้า แล้วนิยายเรื่องหนึ่งคือโลกที่อยู่ในกำมือเรา ใครจะเป็นยังไงคนกำหนดอยู่ตรงนี้ (ดูร้าย) อีกอย่าง ได้ทบทวนตัวเองด้วยค่ะ เวลาตัวละคร A ทำตัวไม่ดีแล้วได้ตัวละคร B คอยแนะนำให้ ตอนนั้นก็คือสอนคนเขียนไปด้วยค่ะ แล้วก็เวลามีคนเข้าถึงโลกที่เราสร้างนี่ มันเป็นอะไรที่มีความสุขจริงๆ ค่ะ 
 
ประโยคที่ว่า 'ความพยายามจะไม่ทรยศเรา' เป็นคติประจำใจของมิ้วเลย เชื่ออย่างนี้มาตลอดเลยค่ะ สำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่าโหทำเป็นเข้ม เพราะคนพยายามแล้วไม่ได้ผลก็มี แต่กับมิ้วมันได้ผลนะ เพราะการสมัครเด็กดีสร้างนิยายเรื่องใหม่ เปิดทวิตเตอร์ใหม่ เปิดเพจในเฟซบุ๊กที่ไม่มีฐานแฟนคลับเดิมเลยมันก็คือความท้าทายอย่างหนึ่ง และความพยายามในวันนั้นมันทำให้คนเข้ามาอ่านนิยายเหล่านี้ได้ 
 
สิ่งที่มิ้วอยากฝากถึงน้องๆ ชาวเด็กดีที่อยากเป็นนักเขียน มิ้วอยากให้ทุกคนสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาเล้ยอย่าไปกลัว อย่าเอาแต่คิดว่าเรากาก ไม่มีคนอ่านงานเราหรอก ฝีมือเรามันใช้ไม่ได้ ห้ามว่าตัวเองแบบนี้เด็ดขาดเลย การเริ่มต้นอาจจะยาก แต่ให้คิดซะว่าตอนนี้ยังไม่มีใครรู้จักเรา ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์เหมือนกัน ดังนั้นกำลังใจแรกให้มาจากตัวเองก่อนเลย เริ่มจากชอบงานเขียนของตัวเองก่อน อย่าโฟกัสเรื่องคอมเมนต์มากเกินไป เพราะบางทีมันอาจทำให้เราจดจ่ออยู่กับตรงนั้นจนหมดสนุกกับการเขียนตอนต่อไปได้ 
 
ส่วนเรื่องภาษา.. เขียนมาเกือบสิบปีแล้วยังไม่สละสลวยเลยค่ะ เมื่อก่อนโศกมากเพราะรู้สึกว่างานเขียนที่ดีคืองานเขียนที่มีภาษาสวย แล้วตัวเองคืออะไร งูๆ ปลาๆ บรรยายแค่ให้อ่านแล้วเข้าใจ แล้วก็คอยรับมือเวลามีคนด่างานเขียนเราให้ได้ค่ะ เคยมีคนบอกว่ามิ้วเขียนงั้นๆ ไม่สนุก แมสมาก แต่เพราะคำพูดหนึ่งของน้องสาวที่ทำให้มั่นใจในตัวเองมากขึ้นก็คือ ‘พี่มิ้ว นิยายเราก็เหมือนฟาสฟู้ดอะ มันไม่ดีต่อสุขภาพหรอก แต่อร่อย’ 
 
ตอนนั้นคิดว่า เออ ทำไมเราต้องอยากหนีความเป็นตัวเองด้วย แมสแล้วมันแย่ตรงไหน เราไม่ได้ทำร้ายใครนะเฮ้ย ทำไมถึงเก็บคำพูดคนไม่กี่คนมาใส่ใจ ขณะที่ยังมีอีกหลายคนชอบงานเขียนเรานะ มันอาจจะไม่ดีที่สุดหรอก แต่ถ้ามันทำให้ตัวเรามีความสุขตอนเขียนได้ และคนอ่านก็ส่งฟีดแบคมาให้อ่านว่าเขาแฮปปี้มาก โอเค แค่นี้พอแล้ว ไป ๆ หาส้มตำกินแล้วหาไอเดียใหม่ ๆ มาจัด
 
สำหรับนักอ่านของมิ้ว.. ทุกคนดีกันมากๆ เลยค่ะ บางคนก็ดีจนงงว่าเราเป็นแค่คนเขียนนิยายเองนะ ทำไมเขาถึงเป็นห่วงเราขนาดนี้ บางคนเมนต์ในหน้าฟิคแล้วก็หวีดในแฮชแท็กทวิตเตอร์ด้วย รู้สึกขอบคุณเขามาก ๆ เลยที่คอยให้กำลังใจกันอยู่ตลอด มิ้วเป็นคนความจำสั้นมากๆ แต่หลังๆ เริ่มคุ้นแล้วนะว่าใครเมนต์/ติดแท็กในทวิตให้บ้าง คือเราอะ อยากบอกพวกเขามาตลอดเลยนะคะ มันคือความในใจที่ไม่ค่อยได้พูดเพราะเป็นคนกากๆ ไม่ชินกับอะไรซึ้งๆ น่ะค่ะ แต่เอาเป็นว่าพรุ่งนี้จะดีหรือร้ายแค่ไหน แต่ขอให้จำไว้ว่ายังไงหมอนทองก็คือทุเรียน โอเคนะ
 
สุดท้ายแล้วฝากผลงานหน่อยน้า.. ถ้าอ่านตั้งแต่ย่อหน้าแรกมาจนถึงตรงนี้ได้ งั้นแสดงว่าคุณสามารถอ่าน #ซอโซ่ล่ามธีร์ #ชอกะเชร์คู่กันต์ #ญอผู้หญิงโศกา ได้แล้วค่ะ (ลุกขึ้นปรบมือทั้งฮอลล์) อยากให้เข้าไปซึมซับความกากของเราผ่านตัวละครและเนื้อเรื่องเหล่านี้นะคะ เราต้องการห้านาทีของคุณ ลองอ่านดูก่อน 
 
ปล. ถ้าอยากตามนิยายเรามีสองช่องทางนะคะ ทวิตเตอร์แอค @Brave2y กับเพจ หน่วยกล้าวาย แต่ความจริงกดตามแค่เด็กดีก็ได้ค่ะ ช่องทางเหล่านั้นมีไว้เพ้อเจ้อและพูดจาเลอะเทอะเท่านั้น (นั่งเหม่อ)
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ตัดจบแบบละครไทย! <3
 

 

คัท! เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยกับตัวตนที่แท้จริงของหน่วยกล้าวาย ถ้าน้องๆ สังเกตให้ดีจะเห็นว่าสไตล์การตอบคำถามของมิ้ว มีความเป็นกันเองและสอดแทรกมุกที่ตลกบ้างไม่ตลกบ้างปนๆ กันไป คำตอบของมิ้วทำให้พี่แนนนี่เพนได้คำตอบแล้วว่า ทำไมนิยายของเธอ "อ่านแล้วถึงอิน!" เพราะมิ้วเป็นนักเขียนที่อินกับทุกอย่างในชีวิตและนำมาต่อยอดในการเขียนนิยายได้ ไม่แปลกใจเลยที่นิยายเรื่อง “เกมเมอร์และน้องเด๋อของเขา” ในนามปากกา "หน่วยกล้าวาย" จะมีกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด เป็นการพิสูจน์ฝีมือการเขียนนิยายกว่าสิบปีของมิ้วว่า ต่อให้เริ่มนับหนึ่งใหม่อีกกี่ครั้งความเป็นตัวเธอก็จะทำให้คนที่อ่านนิยายอินได้แน่นอน!

สุดท้ายก่อนจากกัน พี่แนนนี่เพนขอขอบคุณ "หน่วยกล้าวาย" ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์กันในวันนี้ เชื่อมากๆ ว่าน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคนจะได้เคล็ดลับ และได้แรงบันดาลใจในการเขียนนิยายมากขึ้นแน่นอน! 
 

พี่แนนนี่เพน
 

 
พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

รันเซีย Member 29 ก.ย. 61 18:14 น. 1

อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ ได้แง่คิดอะไรหลายๆ อย่างในการนำไปใช้กับงานเขียนของตัวเอง หลงรัก 'หน่วยกล้าวาย' เลยทีเดียว 555

#ขอบคุณพี่แนนนี่เพนด้วยนะคะสำหรับบทความดีๆ แบบนี้ ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

10 ความคิดเห็น

รันเซีย Member 29 ก.ย. 61 18:14 น. 1

อ่านแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาเลยค่ะ ได้แง่คิดอะไรหลายๆ อย่างในการนำไปใช้กับงานเขียนของตัวเอง หลงรัก 'หน่วยกล้าวาย' เลยทีเดียว 555

#ขอบคุณพี่แนนนี่เพนด้วยนะคะสำหรับบทความดีๆ แบบนี้ ^^

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
MelodyAon Member 29 ก.ย. 61 22:31 น. 4

ตามพี่มิ้วมาตั้งเเต่แฟนฟิคเกาหลี จนมาถึงวายไทย ฮืออออออออออออ ชอบ ชอบที่พี่มิ้วทำให้ทุกอย่างมันออกมาเรียล เรียลไปหมด รักค่าาาาาาา สู้ๆ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Lonelyyeolly Member 30 ก.ย. 61 13:54 น. 6

รักพี่มิ้วเด้อติดตามตั้งแต่ช่วงเขียนฟิค พอรู้ว่าจะเลิกเขียนฟิคคือน้ำตานองหน้าประหนึ่งนางเอกละครโดนกระทำ แต่พอรู้ว่ามาเขียนวายไทยแล้วกรีดร้องเหมือนถูกหวยสามสิบล้านก็มิปาน พออ่านแล้วก็แบบ เหยยคนเราอ่ะสามารถทำให้คนอื่นหลงรักผ่านตัวอักษรได้จริงๆหรอวะ ขนาดเขียนเรื่องเกมที่เราไม่ได้สนใจไม่เคยเข้าใจแต่พอได้อ่านแล้วก็ได้แต่เห้ยยยย พี่มิ้วอย่างเข้มเขียนอะไรก็ชอบไปหมดงงตัวเองมาก ชอบนิยายชอบภาษาพี่มิ้วมาก ตอนนี้กำลังออมเงินเตรียมเอาแหลมมาเลี้ยงดูช่วยบอสอยู่นะคะ รักส์

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด