TO ALL THE BOYS I'VE LOVED BEFORE
เราควรให้โอกาสตัวเองได้รักใครสักคน 


สวัสดีนักอ่านชาวเด็กดีทุกคนค่ะ ก่อนหมดปี 2018.. ถ้าให้น้องๆ นึกถึงหนังรักโรแมนติกคอมเมดี้สักเรื่องที่น่าจะอยู่ในความทรงจำของปีนี้ พี่แนนนี่เพนเชื่อว่าซีรีส์จากเน็ตฟลิกซ์เรื่อง TO ALL THE BOYS I'VE LOVED BEFORE (ชื่อไทยว่า แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก) ต้องเป็นหนึ่งในหนังที่อยู่ในความทรงจำของทุกคนอย่างแน่นอน.. ด้วยความที่หนังได้รับกระแสดีมากๆ จากยอดติดตามดูในเน็ตฟลิกซ์ถึง 80 ล้านคน! และกำลังจะมีภาคต่อในเร็วๆ นี้ พี่.. ในฐานะแฟนคลับคนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ อยากจะแนะนำให้น้องๆ ได้รู้จักหนังเรื่องนี้อีกครั้งผ่านหนังสือต้นฉบับจริงๆ ของเจนนี่ ฮาน ที่ตอนนี้ทางสำนักพิมพ์เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง ได้นำมาแปลไทยให้เราทุกคนได้อ่านกันแบบฟินๆ กันแล้ว และพี่ก็ไม่พลาดที่จะไปสอยหนังสือเล่มนี้มาอ่านตั้งแต่วันแรกๆ ที่สำนักพิมพ์ออกขายเลยจ้า ซึ่งพี่ขอสปอยล์กับน้องๆ ไว้เลยว่า "ฟินยิ่งกว่าในหนังมาก" ชัดเจนเนอะ.. 
 

หนังสือ YA สำหรับวัยรุ่นที่กำลังจะเข้าสู่วัยผู้ใหญ่

แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (TO ALL THE BOYS I'VE LOVED BEFORE) 
เจนนี่ ฮาน เขียน
 ปุณณารมย์ แปล
สำนักพิมพ์ : เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง
 
แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก (TO ALL THE BOYS I'VE LOVED BEFORE) เป็นหนังสือขายดีของ New York Times ที่เหมาะกับวัยรุ่นที่กำลังจะโตเป็นผู้ใหญ่ หรือที่เรารู้จักกันในสไตล์ Coming of age นั่นเอง หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือ YA (Young Adult Literature) หรือ วรรณกรรมเยาวชน ที่เล่าเรื่องราวความรักเพ้อฝันของเด็กสาวที่ชื่อลาร่า จีน กับจดหมายลับที่ถูกส่งออกไปถึงคนที่เธอแอบชอบ ซึ่งดูๆ แล้วพล็อตเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นรักใสๆ ของวัยรุ่นอย่างที่เราคิดนั่นแหละ แต่พอพี่ได้อ่านจริงๆ (แบบไม่อิงหนัง) แล้ว หนังสือเล่มนี้ถือว่าสอดแทรก "การก้าวพ้นวัย" ของวัยรุ่นเอาไว้ได้ดีมากๆ ทั้งยังเข้าถึงคนอ่านทั่วไปได้ง่ายๆ จากการบรรยายว่าเด็กสาวคือ "เด็กธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย" ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเด่นของหนังสือเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ เพราะความธรรมดาๆ ทั่วไปของเด็กสาว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่มากกว่าความโดดเด่นแน่นอน 
 
สำหรับพล็อตของ TO ALL THE BOYS I'VE LOVED BEFORE เริ่มจากการที่นางเอกอย่าง ลาร่า จีน เล่าถึงการเขียนจดหมายรักใส่หมวกแห่งความลับที่มีแต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้ แต่แล้ววันหนึ่งจดหมายลับๆ ของเธอกลับถูกส่งไปหาหนุ่มๆ ที่เธอเคยแอบชอบถึง 5 คน และหนึ่งในสองคนนั้น คนหนึ่งดันเป็นหนุ่มข้างบ้านและแฟนเก่าของพี่สาว ส่วนอีกคนก็เป็นหนุ่มสุดฮอตที่เคยเป็นแฟนเก่าของอดีตเพื่อนสนิท ซึ่งหนุ่มคนที่สองที่ชื่อ "ปีเตอร์" นี่แหละที่เป็นตัวแปรของเรื่องราวทั้งหมดต่อจากนี้ เพราะลาร่าไม่ต้องการให้แฟนเก่าของพี่สาวที่ชื่อจอชรู้ว่าเธอเคยแอบชอบเขา เธอจึงตกลงเป็นแฟนกับปีเตอร์แบบหลอกๆ และที่ปีเตอร์ยอมคบกับคนธรรมดาๆ อย่างลาร่าก็เพราะปีเตอร์ต้องการจบความสัมพันธ์กับแฟนเก่าของเขานั่นเอง จากนั้นเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากมาย คนที่แกล้งเป็นแฟนกันหลอกๆ ได้ใกล้ชิดกัน แน่นอนว่าต้องมีแอบหวั่นไหวกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง งอนกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของความรัก ซึ่งพี่สปอยล์เลยแล้วกันว่าไม่น่าเบื่อแน่นอน เพราะนอกจากความรักของหนุ่มสาวแล้ว ยังมีความรักของเพื่อน พี่น้อง และครอบครัวให้เราได้เราได้เรียนรู้อยู่อีกมาก 
 

 

ลาร่า จีน เขียนจดหมายถึงชายทุกคนที่เธอ "เคย" รัก เพราะเธอไม่กล้าที่จะรัก

ในบทเปิดเรื่องของหนังสือเล่มนี้ เราได้รู้จักลาร่า จีน อย่างถ่องแท้จากการบรรยายในมุมที่เราไม่เคยเห็นในหนังมาก่อน ซึ่งพอพี่ได้อ่านความคิดของลาร่าแล้ว ทำให้พี่เข้าใจเธอในอีกมุมหนึ่งซึ่งแตกต่างจากความเข้าใจในหนังมากๆ เลยค่ะ เริ่มแรกเราเข้าใจว่าลาร่าคือเด็กสาวเพ้อฝันที่แอบชอบผู้ชายหลายคน เป็นภาพลักษณ์ของเด็กสาวที่ชื่นชอบคนอื่นไปทั่ว ไม่มั่นคงกับความรักเอาซะเลย แต่เมื่อเราได้อ่านประโยคหนึ่งในหนังสือที่ลาร่าบอกว่า "เธอเขียนจดหมายขึ้นเพื่อบอกลา เพราะไม่อยากหมกมุ่นกับความรักอีก" จากประโยคนี้แสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วจดหมายที่เธอเขียนเป็นเพียงหนึ่งในความกลัวของเธอเท่านั้น ลาร่ากลัวความรัก กลัวการเริ่มต้น และกลัวการถูกปฏิเสธ พี่มองว่าเธอเป็นเด็กสาวที่กลัวความผิดหวังเท่านั้นเอง เมื่อเทียบกับความเป็นจริงแล้ว ความเพ้อฝันของลาร่ายังมีความเป็นไปได้มากกว่าโลกความจริงเสียอีก เธอกำลังแสดงให้เราเห็นว่าถ้าไม่อยากผิดหวังในความรัก ก็อย่าคิดที่จะเริ่มความสัมพันธ์กับใคร การได้แอบรักใครสักคนจากที่ไกลๆ อาจจะเป็นการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด 
 

 
ถ้าความรักเป็นเหมือนการสิงสู่ จดหมายทั้งหลายของฉันก็เป็นการขับไล่ภูติผีปีศาจ
จดหมายปล่อยฉันให้เป็นอิสระ.. 
- ลาร่า จีน -
 

พิสูจน์ "รักแท้แพ้ใกล้ชิด" ด้วยพล็อตแกล้งเป็นแฟนกันหลอกๆ 

ถ้าเราตัดเรื่องเพ้อฝันออกไป ความคิดของลาร่าที่อยากมองคนที่แอบรักจากที่ไกลๆ ถือเป็นบทพิสูจน์ที่เจนนี่ ฮาน เขียนออกมาได้ดีมากๆ เธอเลือกใช้พล็อตแกล้งคบกันหลอกๆ ของคนสองคนเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าความใกล้ชิดสามารถทำให้คนหวั่นไหวได้ การเปิดโอกาสให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิต คือการเปิดโอกาสให้ตัวเราผูกพันกับคนอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งคนที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของลาร่านั้น มีทั้งพี่สาวที่เติบโตมาด้วยกัน น้องสาวที่มีเรื่องขัดใจกับเธอ เพื่อนสาวที่มีนิสัยแตกต่างกันสุดขั้ว อดีตเพื่อนรักเพื่อนร้าย และผู้ชายที่เธอแอบชอบ ทั้งหมดนี้ล้วนสร้างความผูกพันให้เธอ และส่งผลต่อการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มากมาย ซึ่งพี่ขอเน้นเฉพาะเรื่องราวของพระนางที่เริ่มต้นจากการเป็นแฟนกันหลอกๆ ก็แล้วกัน.. 
 
อย่างที่ได้เขียนบอกไปว่าลาร่าไม่กล้าที่จะรัก เพราะเธอกลัวเสียใจ เมื่อเธอได้มีโอกาสคบกับใครสักคน แม้จะเป็นเพียงเรื่องหลอกๆ แต่การคบกันครั้งนี้ก็ทำให้เธอได้รู้จักใครสักคนในแบบที่เธอไม่เคยคาดหวังมาก่อน ตลอดการแกล้งเป็นแฟนกันหลอกๆ เช่น การไปเดต การได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน ได้ปรับความเข้ากัน ได้รู้จักครอบครัวของอีกฝ่าย สิ่งเหล่านี้ทำให้ลาร่าลืมไปเลยว่าตัวเองเคยปิดกั้นความรู้สึกแบบนี้เอาไว้ เหมือนเธอผิดสัญญากับตัวเองว่าจะไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามา แต่เธอก็พลาดที่คิดว่าการคบกันหลอกๆ จะไม่มีผลอะไรกับชีวิตเธอ ซึ่งนี่ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่า การที่เราเปิดโอกาสให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิต ถือเป็นการเปิดใจของเราไปด้วยเหมือนกัน 
 

 

จากเด็กสาวที่ "กลัวความรัก" สู่เด็กสาวที่ "อยากลองรัก"

และแล้วก็ถึงแก่นสำคัญของเรื่อง! ถ้าเรามองว่าหนังสือเรื่องนี้เป็นนิยายรัก มันก็จะเป็นแค่นิยายรัก แต่ถ้าเรามองว่าหนังสือเรื่องนี้เป็นหนังสือสอนวัยรุ่นให้รัก เราจะได้อะไรที่มากกว่าความรักของหนุ่มสาวแน่นอน เมื่อพี่ลองเทียบเนื้อหาในหนังสือกับหนัง พี่พบว่ามีหลายเหตุการณ์เลยที่ขาดหายไป และมีการเล่าเรื่องที่ต่างไปจากเดิมด้วย เช่น ฉากที่หายไปจากในหนังคือ ฉากเดตของลาร่า กับปีเตอร์ ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่เลยก็ว่าได้ เพราะในฉากนี้ความรู้สึกของทั้งสองคนเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ เป็นตัวตนจริงๆ ของทั้งคู่ที่แสดงออกมาแบบเป็นตัวเองที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เราเห็นว่าลาร่า จีน ไม่ใช่เด็กสาวเพ้อฝันที่หลงรักใครได้ง่ายๆ แต่มีเหตุการณ์ที่ทำให้เธอได้เรียนรู้ และรู้จักเปิดใจให้คนอื่นมากขึ้นเท่านั้นเอง เหมือนดังที่เธอได้บอกไว้ว่า.. 
 

 
นอกจากนี้ถ้าใครเคยดูหนังมาก่อนจะเห็นว่าคิตตี้ (น้องสาวของลาร่า) ส่งจดหมายของลาร่าออกไปเพราะอยากให้ลาร่าได้เจอความรักดีๆ กับผู้ชายสักคน ขณะที่ในหนังสือนั้น คิตตี้ส่งจดหมายออกไปเพราะโกรธลาร่าที่ชอบล้อว่าเธอชอบจอช ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว บทเรียนจากการกระทำของคิตตี้ได้สอนให้เราเห็นความสำคัญของครอบครัวมาเป็นอันดับแรกๆ เช่น ในตอนที่จดหมายถูกส่งออกไป ลาร่ากังวลเรื่องแฟนเก่าของพี่สาวมากจนต้องหาแฟนมาคบกันหลอกๆ และเมื่อเธอรู้ว่าใครส่งจดหมายออกไป เธอก็ให้อภัยน้องสาวของเธอได้ทันที นั่นเพราะเธอได้เรียนรู้จากเรื่องราวทั้งหมดแล้วว่าอะไรสำคัญในชีวิตของเธอ และเธอควรทำอะไรเพื่อตัวเธอบ้าง 
 
ความรักน่ากลัว มันเปลี่ยนแปลง จากไปได้
นั่นคือส่วนที่เสี่ยง ฉันไม่อยากจะกลัวอีกต่อไปแล้ว 
- ลาร่า จีน -
 
ลาร่า กำลังบอกเราทุกคนว่า "เราควรให้โอกาสตัวเองได้รักใครสักคน" ควรเปิดโอกาสมากกว่าปิดกั้นตัวเอง และไม่ควรกลัวที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน.. พี่คิดว่านอกจากมุมมองความรักที่พี่ได้นำเสนอไปในวันนี้ ยังมีความรักของเพื่อน และครอบครัวที่พี่อยากให้น้องๆ ได้ลองอ่านกันดูด้วยตัวเอง เพราะบางครั้งประสบการณ์ที่ต่างกันของเราอาจจะทำให้มีมุมมองในเรื่องต่างๆ แตกต่างกันได้ ซึ่งพี่เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้ ยังมีมุมมองใหม่ๆ อีกมากที่กำลังรอให้ทุกคนไปอ่านเจออยู่.. แล้วพี่จะรออ่านความคิดเห็นของน้องๆ นะคะ อย่าลืมไปอ่านกันล่ะ ^^ 
 
พี่แนนนี่เพน
 
ขอบคุณภาพจาก
NETFLIX
  
Deep Sound แสดงความรู้สึก
พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด