เมื่อเจ้าหญิงดิสนี่ย์ถูกส่งตัวไปเรียนฮอกวอตส์
ใครอยู่บ้านไหนมาดูกัน

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน ถ้าต้องหยิบสองโลกที่พวกเราชอบอย่าง “ดิสนี่ย์” และ “แฮร์รี่ พอตเตอร์” มารวมกัน เราก็แค่จับบรรดาเจ้าหญิงดิสนี่ย์มาอยู่ในบ้านฮอกวอตส์ ฟังดูเป็นอะไรที่น่าสนใจเนอะ ซึ่งทางเว็บไซต์ TheThings ได้ทำการสวมหมวกคัดสรรไว้ที่หัวของบรรดาเจ้าหญิงดิสนี่ย์และคัดสรรเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าใครอยู่บ้านไหน ซึ่งพี่น้ำผึ้งคิดว่าแฟนๆ แฮร์รี่และดิสนี่ย์ต้องชอบมากแน่ๆ เลยอดไม่ได้ที่จะนำมาฝากกันค่ะ 

ถ้าให้เดาก่อนเลื่อนไปดู พี่ว่าส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้านฮัฟเฟิลพัฟแน่ๆ เพราะแต่ละคนล้วนจิตใจดี มีเมตตา รักธรรมชาติ อุทิศตัว ทุ่มเท ซื่อสัตย์และทำงานหนัก! (ไม่ได้ล้อเล่น ลองไปดูดิสนี่ย์ยุคแรกๆ สิ เจ้าหญิงโดนใช้งานเยี่ยงทาส ซินเดอเรลล่างี้ สโนว์ไวท์งี้ พีคๆ นะจ๊ะ) ซึ่งแต่ละคนจะอยู่ฮัฟเฟิลพัฟจริงๆ มั้ย? หรือจะถูกส่งตัวไปบ้านอื่นๆ พี่ว่าเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

 

 

สโนว์ไวท์ : ฮัฟเฟิลพัฟ

แน่นอน สโนว์ไวท์ของเราต้องอยู่บ้านฮัฟเฟิลพัฟ! เธอเป็นผู้หญิงที่มีจิตใจดีและมีแนวโน้มที่จะมองเห็นสิ่งดีๆ ในตัวเพื่อนมนุษย์ ถึงแม้ว่านั่นเกือบจะทำให้เธอหลับตลอดชีวิตก็ตาม (เธอไว้ใจคนแปลกหน้าเกินไปจนกินยอมกินแอปเปิ้ลของราชินีปีศาจ) นอกจากนี้สโนวไวท์ยังทำงานหนัก ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน ทำอาหาร ไม่เว้นแม้แต่ดูแลเหล่าคนแคระทั้ง 7 ด้วย ซึ่งนั่นเป็นลักษณะสำคัญของชาวฮัฟเฟิลพัฟเลย พวกเขามีเมตตา จิตใจดีและทำงานหนัก ความภักดีความอดทนและการมองโลกในแง่ดีของสโนว์ไวท์ดูเหมือนจะเป็นคุณสมบัติของพวกแบดเจอร์ และบางทีความจริงที่ว่าเธอเป็นเพียงแค่เจ้าหญิงดิสนี่ย์ที่อายุน้อยที่สุด (เธออายุประมาณ 14 ปี!!) อาจทำให้เธอดูไร้เดียงสาและเป็นมิตรกับผู้คน ซึ่งนั่นคล้ายๆ กับชาวฮัฟเฟิลพัฟไม่มีผิด ดังนั้นหมวกคัดสรรจึงขอส่งตัวสโนว์ไวท์ไปอยู่บ้านฮัฟเฟิลพัฟเลยจ้า

 

 

ซินเดอเรลล่า : ฮัฟเฟิลพัฟ

นอกจากสโนว์ไวท์แล้ว ซินเดลเรลล่าเองก็มีคุณสมบัติตรงกับสมาชิกบ้านฮัฟเฟิลพัฟเช่นกัน อย่างแรกเลยคือเธอทำงานหนักมากกกกกก ทำทุกสิ่งอย่างในบ้าน ซักผ้า รัดผ้า กวาดบ้าน ตัดหญ้า นี่ไม่รู้ว่าซักบราให้คนที่บ้านด้วยหรือเปล่า แม้ว่าจะเป็นการบังคับของแม่เลี้ยงใจร้ายกับพี่ๆ ใจโหดก็เหอะ  แต่น้องซินคนงามของเราก็ทำโดยไม่ปริปากบ่นเลย ซับแต่เหงื่ออย่างเดียว อย่างไรก็ตาม   เห็นแบบนี้แล้ว ซินเดอเรลล่าดูมีความสุขกับการจัดบ้านให้เรียบร้อย แถมยังร้องเพลงเกี่ยวกับมันด้วย!! นอกจากนี้เธอยังให้ความสำคัญกับการมีน้ำใจต่อผู้คน แม้ว่าเธออาจแสดงความทะเยอทะยานในการอยากเป็นเจ้าหญิงของเจ้าชายชาร์มมิ่ง แต่เธอจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายนั้นได้เลย หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากนางฟ้าอุปถัมภ์และเพื่อนขนปุยของเธอ แล้วก็นั่นแหละ ในซินเดอเรลล่าเวอร์ชั่นดิสนี่ย์ เธอยังให้อภัยผู้หญิงที่ปฏิบัติตัวต่อเธออย่างแย่ๆ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ฮัฟเฟิลพัฟทำ

 

 

อลิซ : เรเวนคลอ

โอเค อลิซอาจไม่ได้เป็นเจ้าหญิงดิสนี่ย์ซะทีเดียว แต่เราจะไม่พูดถึงเธอไม่ได้ เพราะเธอเองก็เป็นส่วนหนึ่งในดิสนี่ย์! แน่นอน  หมวกคัดสรรได้ส่งเธอไปอยู่บ้านเรเวนคลอ อลิซเป็นเด็กที่ไม่ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝันกลางวัน แต่เป็นการอ่านหนังสือต่างหาก ด้วยความที่อลิซอ่านๆๆ แต่หนังสือ จินตนาการเหล่านี้ได้พาเธอไปสู่วันเดอร์แลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ ที่นั่น สาวน้อยอลิซได้ใช้ตรรกะในการพาตัวเองออกมาจากสถานที่น่าสับสน แม้ว่าจะทำผิดพลาดบางขั้นตอนบ้างก็ตาม  ซึ่งความฉลาดและความอยากรู้อยากเห็นนั้นบ่งชี้ถึงความเป็นเรเวนคลออย่างชัดเจน ในภารกิจทดสอบสติปํญญาของเธอ อลิซสามารถแก้ปํญหานั้นได้อย่างทันท่วงที แม้จะมีความประหม่าและกังวลอยู่ก็ตาม แต่ไม่เป็นไรเพราะใครๆ ก็ผิดพลาดได้ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พวกเรเวนคลอไม่ได้ประหม่าหรือตื่นเต้นมากเท่าไหร่เมื่อต้องแก้ปัญหาบางอย่างเพื่อความยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเวทมนตร์

 

 

เจ้าหญิงนิทรา : ฮัฟเฟิลพัฟ

หมวกคัดสรรบอกว่า เจ้าหญิงนิทรา หรือออโรร่า เอาแต่หลับเกือบทั้งเรื่อง มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าจริงๆ แล้วเธอควรอยู่บ้านไหนในฮอกวอตส์ แต่จากสิ่งที่เราเห็นในดิสนี่ย์ เราสามารถสรุปได้ว่าเธอเป็นคนใจดี ขยันและซื่อสัตย์ต่อนางฟ้าทั้งสามที่คอยเลี้ยงดูและปกป้องเธอเป็นอย่างดี ธรรมชาติที่อ่อนโยนและน่ารักของเธอที่มีต่อทุกคนที่อยู่รอบตัวนั้นแสดงให้เห็นเลยว่าเธอคือฮัฟเฟิลพัฟ และเธอก็ยังเป็นคนโรแมนติกด้วย การค้นหาความรักเป็นสิ่งสำคัญสำหรับออโรร่า ดังที่เห็นในเพลง “Once Upon a Dream” ที่มีเนื้อร้องว่า “คุณจะรักฉันทันที เหมือนเช่นที่คุณเคยหลงรักฉันมาแล้วหนหนึ่งในความฝัน” ฟังดูฝันๆ แบบนี้แล้ว เจ้าหญิงนิทราเหมาะกับการเป็นเจ้าหญิงฮัฟเฟิลพัฟมาก!

 

 

แอเรียล : กริฟฟินดอร์

บางครั้งเจ้าหญิงแอเรียลก็ดูเซ่อๆ บ้าง อย่างเช่นไม่รู้ว่าส้อมคืออะไร (นี่ใต้ทะเลเขากินอาหารกันยังไงเหรอ?) แต่เธอก็กล้าหาญมากพอที่จะขึ้นไปเหนือทะเลแล้วส่งเสียงร้องเพลงอันแสนไพเราะ เธอไปหาเออซูล่า แม่มดแห่งท้องทะเล เพื่อทำสัญญาแลกเสียงร้องกับขา แน่นอน การกระทำแบบนี้ดูเหมือนเป็นสิ่งโง่เง่าสำหรับใครบางคน แต่มันก็ฟังดูเหมือนเป็นการกระทำของพวกกริฟฟินดอร์ไม่ใช่เหรอ? ใช่สิ พวกกริฟฟินดอร์น่ะบ้าระห่ำจะตายอยู่แล้ว นึกอยากจะหนีอออกไปตามหาศิลาอาถรรพ์ก็ทำเลย เพราะงั้น ด้วยจิตวิญญาณอันแสนดื้อรั้นและความเต็มใจที่จะต่อสู้กับความปรารถนาของคนอื่นฟังดูเหมือนกับแฮร์รี่ พอตเตอร์ไม่มีผิด! ไม่เพียงแค่นั้น ความภักดีต่อเพื่อนของเธอ ความช่างฝัน ความอยากรู้อยากเห็น และความปรารถนาที่จะเป็นมากกว่าในสิ่งที่เธอเป็นคือคุณสมบัติของชาวกริฟฟินดอร์ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแอเรียลถึงถูกส่งไปอยู่บ้านนี้

 

 

เบลล์ : กริฟฟินดอร์

พี่รู้ว่าหลายคนอาจจะไม่พอใจที่หมวกคัดสรรส่งเบลล์ไปอยู่ในบ้านกริฟฟินดอร์ เพราะเบลล์น่ะรักการอ่าน แถมยังฉลาดเป็นกรดจะตายไป ดังนั้นเธอเหมาะมากๆ กับบ้านเรเวนคลอ แต่ก็นั่นแหละ แค่บางมุมเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วเบลล์เหมือนกับพวกกริฟฟินดอร์มากกว่า เธอเหมือนกับเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่ในกริฟฟินดอร์นั่นแหละ (และเหมาะสมขนาดไหน เนื่องจากเอ็มม่า วัตสันรับบทเป็นเบลล์เวอร์ชั่นภาพยนตร์!)

ทั้งเฮอร์ไมโอนี่และเบลล์อาจจะเป็นเรเวนคลอได้ถ้าพวกเขาชอบอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหน แต่ความกล้าหาญและความตื่นตัวต่างหากที่ทำให้ทั้งคู่เหมาะสมที่จะเป็นศิษย์ของมักกอนนากัลและดัมเบิลดอร์ แค่ดูวิธีการที่เบลล์เสียสละตัวเองเพื่ออิสรภาพของพ่อสิ หรือแม้แต่การปฏิเสธอสูรดุร้ายและพยายามทำให้เขาเชื่อง เห็นได้ชัดว่าเธอกล้าหาญมาก นอกจากนี้เบลล์ไม่ได้อ่านหนังสือแค่เพื่อความรู้เท่านั้น แต่เบลล์อ่านหนังสือเพราะว่ามันจะช่วยพาเธอออกไปจากเมืองเล็กๆ ในฝรั่งเศส ซึ่งความกระหายในการผจญภัยและความกล้าหาญเป็นคุณลักษณะนิสัยที่แท้จริงของชาวกริฟฟินดอร์

 

 

จัสมิน : สลิธิริน

เช่นเดียวกับสลิธิรินคนอื่นๆ จัสมินเป็นพวกไม่แคร์เวิลด์ เธอปฏิเสธที่จะเป็นเจ้าหญิงแสนเพอร์เฟคท์และนั่งรอคู่ครอง ตรงกันข้าม เธอเลือกที่จะออกไปใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ แม้ว่าจะต้องทิ้งชีวิตอันสะดวกสบายและหรูหราก็ตาม แต่ความทะเยอทะยาน ความเจ้าเล่ห์ และความเฉลียวฉลาดซึ่งเป็นธรรมชาติของเธอได้นำเธอไปสู่เส้นทางแห่งอิสรภาพในการใช้ชิวิต นอกจากนี้เลือดสลิธิรินยังไหลวนเวียนอยู่ในตัวจัสมินอย่างเข้มข้น เห็นได้จากตอนที่เธอจัดการจาฟาร์ด้วยการเย้ายวน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอก็รู้ว่าอะลาดินมองอยู่ด้วย! อันที่จริงเมื่อต้องจัดการคนชั่วร้ายอย่างจาฟาร์ ก็ต้องใช้วิธีแบบสลิธิรินจัดการถึงจะเอาอยู่นั่นแหละ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าความทะเยอทะยานและความเจ้าเลห์ไม่ได้แย่เสมอไป จัสมินสมครวรแล้วที่จะถูกหมวกคัดสรรส่งให้ไปอยู่บ้านสลิธิริน

 

 

โพคาฮอนทัส : กริฟฟินดอร์

หญิงสาวคนนี้ยอมเสี่ยงอันตรายเข้าไปช่วยคนที่เธอรัก ดังนั้นเธอจะไม่เป็นกริฟฟินดอร์ได้ยังไงล่ะ!? เธอมีความกระหายในการผจญภัยและกล้าหาญจนน่าทึ่ง เหมือนเวลาที่เธอประกาศความรักที่เธอมีต่อจอห์น สมิธท่ามกลางเสียงแย้งของผู้คนรอบตัว ทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ ที่เชื่อว่าเขาคือศัตรูนั่นแหละ  โพคาฮอนทัสหัวร้อนและบ้าระห่ำ ซึ่งนั่นเป็นจุดด้อยของชาวกริฟฟินดอร์ แต่เธอก็ทำทุกอย่างด้วยใจที่ดีและรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกหรือผิด นอกจากนี้เธอยังมีความปรารถนาที่จะนำความสงบสุขและความปรองดองกลับคืนสู่หมู่บ้านของเธอ พร้อมกับการทำงานเคียงข้างจอห์น ซึ่งทำให้เรานึกถึงการทำงานของแฮร์รี่ พอตเตอร์และผองเพื่อนที่ร่วมกันวางแผนเพื่อต่อสู้กับความชั่วร้ายของโวลเดอมอร์ เจ๋งมาก สมกับเป็นกริฟฟินดอร์ซะจริง

 

 

มู่หลาน : กริฟฟินดอร์

อีกหนึ่งหญิงสาวสุดเฟียสและเผ็ดยิ่งกว่าใครอื่น ตำแหน่งนักเรียนบ้านกริฟฟินดอร์ตกเป็นของมู่หลานอย่างไม่มีข้อกังขา ข้อแรกเลยก็คือ เธอปลอมตัวเป็นผู้ชายแล้วออกรบเพื่อปกป้องประเทศแทนพ่อ! แถมยังไม่สนใจด้วยว่าจะถูกจับได้ว่าเป็นหญิงสาวจากตระกูลสูงส่งหรือเปล่า แน่นอน หากเธอถูกจับได้ คงหนีไม่พ้นถูกโยนเข้าคุกหรือประหารชีวิตแน่ๆ ฟังดูกล้าหาญและบ้าระห่ำไม่แพ้กริฟฟินดอร์เลย นอกจากนี้เธอยังถูกเตะก้นตอนต่อสู้ด้วย แต่เธอก็ไม่เคยยอมแพ้แม้ว่าตัวเองจะตัวเล็กและผอมแห้งกว่าทหารคนอื่นๆ ก็ตาม นั่นแหละ เหมือนกับกริฟฟินดอร์ไม่มีผิด เพราะงั้นมู่หลานเหมาะกับชาวหัวใจสิงห์มากที่สุดแล้วจ้า

 

 

ราพันเซล : เรเวนคลอ

แน่นอน เธออบอุ่น น่ารัก ภักดีและใจดี แต่ความสามารถในการใช้กระทะบินได้ของเธอนั้นเจ๋งและโดดเด่นกว่าใครเพื่อนในจักรวาลดิสนี่ย์! เมื่อนึกดูดีๆ ราพันเซลก็ไม่ใช่ทั้งกริฟฟินดอร์หรือฮัฟเฟิลพัฟ เธอเป็นเรเวลคลอต่างหาก!  เนื่องจากเวลาส่วนใหญ่ของเธอหมดไปกับการนั่งอยู่บนหอคอยของเธอ ราพันเซลจึงต้องให้ความบันเทิงและการศึกษาแก่ตัวเอง ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเธอมีงานอดิเรกมากมายที่ทำให้เธอดื่มด่ำกับตัวเอง (ส่วนใหญ่เป็นงานศิลปะ ทำขนมปังและเนย) นั่นคือเครื่องปั้นดินเผา วาดภาพ อ่านหนังสือและเล่นหมากรุก แน่นอนว่าอาจเป็นเพราะเธอโดนควบคุมอยู่แทบตลอดเวลา แทนที่เธอจะแหกคุก (หอคอย) เฉกเช่นกริฟฟินดอร์ ปรับปรุงบ้านของตัวเองเช่นฮัฟเฟิลพัฟ หรือวางแผนหนีอย่างละอาดเหมือนพวกสลิธิริน แต่ราพันเซลกับนั่งแช่อยู่กับการอ่านหนังสือหรือวาดภาพ มากกว่าจะออกไปท่องโลกกว้าง สมกับเป็นเรเวนคลอที่สุด

 

 

เอลซ่า : สลิธิริน

สำหรับเอลซ่า​ หมวกคัดสรรมีการลังเลนิดหน่อยว่าจะส่งเธอไปอยู่บ้านไหนดี​ ระหว่าง​เรเวนคลอกับสลิธิริน​ เพราะเอลซ่าเป็นคนฉลาดและ​รู้จักทบทวนตัวเอง​เช่นเดียวกับเรเวนคลอ แต่ดูเหมือนเธอจะมีคุณสมบัตินี้มากกว่าชาวเรเวนคลอคนอื่นๆ​ อยู่หน่อยนะ หมวกเลยขอส่งเอลซ่าให้ไปอยู่สลิธิรินซะเลย สาเหตุน่ะเหรอ   เป็นเพราะว่า    แม้เธอจะรักและเป็นห่วงน้องสาวมากแค่ไหน แต่เธอกลับเป็นคนที่แสดงออกไม่เก่งซะอย่างนั้น​ แถมยังชอบปลีกตัวออกมาจากแอนนา น้องสาวของเธออีกด้วย  เพราะเธอกลัวจะเผลอทำร้ายร่างกายแอนนาด้วยพลังน้ำแข็ง ทำให้ราชินีองค์ใหม่แห่งเอเรนเดลถูกมองว่าเย็นชา ทั้งที่จริงแล้วเธอแค่ไม่อยากให้น้องสาวของเธอเจออันตรายก็เท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ชาวสลิธิรินส่วนใหญ่เองก็เป็น...ภายนอกเย็นชา แต่ในใจก็ยังมีความห่วงใยต่อผู้อื่น ดังนั้นเอลซ่าเหมาะสมมากๆ กับสลิธิริน โดยเฉพาะพลังอันมหาศาลของเธอ

 

เป็นอย่างไรบ้างคะกับเรื่องราวที่พี่น้ำผึ้งนำมาฝากในวันนี้ จากที่เห็นหมวกคัดสรรเลือกแล้ว สังเกตได้ว่าเจ้าหญิงรุ่นเก่ามักอยู่บ้านฮัฟเฟิลพัฟ ส่วนเจ้าหญิงยุคใหม่มักอยู่สลิธิริน ไม่ก็กริฟฟินดอร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเธอมีความกล้าหาญและมีเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้น นับว่าเป็นพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมมาก ลองสังเกตดูง่ายๆ สิ ในช่วงยุคแรกเริ่มของดิสนี่ย์ เจ้าหญิงส่วนใหญ่มักถูกเอาเปรียบและใช้งานหนักเยี่ยงทาส ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่นัก นอกจากรอคอยเจ้าชายมาขอแต่งงาน นิสัยโดดเด่นมักจะเป็นการร้องเพลงกับสัตว์และมีจิตใจดี ขณะที่ดิสนี่ย์ยุคหลังๆ เจ้าหญิงยุคใหม่ดูแลตัวเองได้ มีความกล้าหาญและไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้ชายอีกต่อไป ซึ่งพี่มองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้บ้าง ลองแชร์ให้พี่น้ำผึ้งฟังด้วยนะ รอฟังอยู่จ้า 

พี่น้ำผึ้ง :)

 

ขอบคุณรูปภาพข้อมูลจาก thethings.com