อาชีพนักเขียนให้เราได้ระบายความฝัน ความคิด จินตนาการ
ได้สร้างตัวตนในแบบที่เราอยากจะเป็นแต่ไม่สามารถเป็นได้ 

 

NRI_07042538 

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน นิยายแนวกลับมาใช้ชีวิตใหม่ ถือเป็นแนวนิยายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งย้อนเวลากลับไปอดีต และข้ามเวลาไปอนาคต ไม่ว่าจะเกิดใหม่แบบไหนก็ขอให้ตัวละครของเราได้ใช้ชีวิตอีกครั้งเถอะนะ! เพราะการได้เห็นตัวละครได้รับโอกาสใช้ชีวิตอีกครั้ง เราในฐานะนักอ่านก็เหมือนได้รับโอกาสไปด้วยเช่นกัน 

ซึ่งในช่วงที่นิยายแนวเกิดใหม่กำลังเป็นที่นิยมอยู่นั้น นักอ่านชาวเด็กดีน่าจะรู้จักนิยายเรื่อง ดีไซน์เนอร์เกิดใหม่, ซุปตาร์เกิดใหม่ และนิยายเรื่องย้อนเวลาเริ่มรัก ที่เขียนโดย NRI_07042538 นักเขียนสาวเจ้าของนามปากกาแปลกๆ ที่กว่าจะคิดขึ้นมาได้ว่าต้องเปลี่ยนนามปากกา นิยายของเธอก็เขียนจบ และได้รับความนิยมไปแล้วอย่างล้นหลาม ในวันนี้พี่แนนนี่เพนจึงไม่พลาดที่จะพาเธอมาพูดคุยกับน้องๆ ถึงแนวนิยายที่เธอเขียน ที่มาของเธอ และนามปากกาแปลกๆ ที่หลายคนสงสัยว่ามาจากอะไรบ้าง.. ถ้าพร้อมกันแล้ว เรามาคุยกับเธอกันเลยค่ะ 

01 นามปากกา NRI_07042538 คือใคร?

สวัสดีเพื่อน ๆ พี่ ๆ และน้อง ๆ ชาวเด็กดีค่ะ ชื่อนุ่นนะคะ อายุ 24 ปี เจ้าของนามปากกาที่ดูแปลก ๆ ว่า NRI_07042538 ค่ะ ผลงานที่จบไปแล้วมีเรื่องซุปตาร์เกิดใหม่ ย้อนเวลาเริ่มรักและดีไซน์เนอร์เกิดใหม่ค่ะ 

นามปากกาแปลกๆ นี้มีที่มายังไงคะ?

อันนี้อาจจะฟังดูเป็นความมักง่ายนิดหน่อยนะคะ คือนุ่นเป็นคนตั้งชื่อไม่ค่อยเก่งค่ะ ขอย้อนไปตอนแรกที่สมัครไอดีของเว็บเด็กดีค่ะ ก็คือคิดแค่จะเอาไว้อ่านนิยายอย่างเดียวค่ะ ไม่ได้คิดถึงว่าจะเป็นนามปากกาอะไรเลย จนกระทั่งมาแต่งนิยายแล้วก็ลืมเรื่องนามปากกาไปเลย จนแต่งนิยายเรื่องที่สองถึงนึกขึ้นได้ แต่คิดว่าแฟนคลับจากนิยายเรื่องเก่าคงจะคุ้นกับนามปากกานี้ไปแล้วเลยไม่เปลี่ยนค่ะ ส่วนที่มาก็เป็นอักษรตัวแรกของชื่อเล่น ชื่อจริง นามสกุลแล้วตามด้วยวันเดือนปีเกิดค่ะ แหะ ดูเป็นคนง่าย ๆ ใช่ไหมคะ

02 อาชีพนักเขียน - รายได้, ความฝัน, ตัวตน

จำได้ว่านิยายเรื่องแรกที่แต่งเป็นแนว อดีต ปัจจุบัน อนาคต เป็นนิยายชายหญิงค่ะ ตอนที่เริ่มแต่งกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ เทอมที่สอง คือช่วงนั้นว่างมาก เดือนหนึ่งเข้ามหาวิทยาลัยแค่ครั้งสองครั้งเพราะมีวิชาเรียนแค่วิชาเดียว ด้วยความว่างเราก็เลยหาอะไรทำแก้เบื่อ บวกกับเพื่อนยุให้เขียนก็เลย เอ้า เขียนก็เขียน จนเขียนเรื่อยๆ มาถึงปัจจุบันค่ะ..

แล้วตอนแรกเราไม่ได้มองว่าเราเขียนนิยายเพื่อที่จะทำเป็นอาชีพ เราเขียนนิยายเพราะเราชอบอ่าน เราเขียนเพราะเราอยากเขียน และเขียนในสิ่งที่อยากอ่าน แต่เมื่อได้มาลองเขียนจริง ๆ และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเราก็พบว่าโอเค การเขียนนิยายสามารถเป็นอาชีพ ๆ หนึ่งของเราได้นะ เรามีรายได้ ค่าขนม ค่ากาแฟจากงานเขียนตรงนี้ แต่นอกเหนือจากเรื่องของเงิน เราพบว่าอาชีพนักเขียนให้อะไรกับเราหลายอย่างเลยค่ะ ได้ระบายความฝัน ความคิด จินตนาการ ได้สร้างตัวตนในแบบที่เราอยากจะเป็นแต่ไม่สามารถเป็นได้ 

และที่ทำให้เรายิ้มได้ และยังมุ่งมั่นที่จะเขียนนิยายต่อไป ก็เพราะมีนักอ่านที่ติดตามผลงานของเรา ได้แรงบันดาลใจ มีความสุข และมีรอยยิ้มจากงานเขียนของเรา ถือเป็นเกียรติกับนักเขียนอย่างเรามากเลยค่ะ 

เป้าหมายสูงสุดบนเส้นทางนักเขียนเป็นอย่างไรคะ?

อืม เป็นเป้าหมายที่กำลังพยายามทำให้เป็นความจริงอยู่ค่ะ เราอยากมีร้านหนังสือที่มุมหนึ่งของร้าน และมีผลงานของเราวางอยู่ค่ะ

03 เขียนนิยายพร้อมกันหลายเรื่อง!?

เรื่องเขียนนิยาย ถ้านับจริง ๆ เราเขียนทีละเรื่องค่ะ เป็นคนที่เขียนพร้อมกันหลาย ๆ เรื่องไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้ก็พยายามที่จะเขียนหลายเรื่องพร้อมกันค่ะ อย่างตอนนี้ก็มีนิยายที่เปิดเรื่องมาแล้วห้าเรื่อง เขียนหลัก ๆ หนึ่งเรื่อง กำลังรีไรท์อยู่หนึ่งเรื่อง ส่วนที่เหลือก็จะเขียนตอนที่เขียนนิยายเรื่องหลักต่อไม่ได้ค่ะ ส่วนเรื่องแบ่งเวลาเขียนนิยาย เราไม่ได้มีการแบ่งแบบชัดเจนค่ะ อาศัยว่าว่างก็เขียน แต่จะพยายามเขียนทุก ๆ วันค่ะ เพราะว่าถ้าทิ้งระยะห่างหลายวันเราจะเขียนต่อได้ยาก อารมณ์ของเรื่องจะไม่ค่อยลื่นไหลค่ะ

เคยเขียนแล้วตันไหม? 

น่าจะไม่เคยนะคะ ส่วนมากจะมีปัญหาเรื่องไม่เชื่อในตัวละครของเรามากกว่าค่ะ และอีกปัญหาหนึ่งก็คือเราไม่สามารถวางพล็อตนิยายแบบละเอียด ๆ ได้ มีเรื่องหนึ่งที่เราวางพล็อตอย่างละเอียดไว้ทั้งเรื่อง สุดท้ายเรากับพบว่าเราไปต่อไม่ได้จนต้องรีไรท์ใหม่ทั้ง ๆ ที่ยังเขียนไม่จบค่ะ เอ๊ะ หรืออย่างนี้ก็เรียกว่าตันคะ ฮา ไม่แน่ใจค่ะ

04 เขียนนิยายให้จบง่ายๆ แค่คิดถึงนักอ่าน

ความจริงนิยายแต่ละเรื่องที่เราเขียน ไม่มีเรื่องไหนที่มั่นใจว่าจะเขียนจบเลยค่ะ แต่ว่าเราก็เขียนของเราไปเรื่อย ๆ พยายามเขียนเท่าที่ไหว ถ้ารู้สึกว่าล้าเกินไปก็พักไปทำอย่างอื่น จนเมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วก็กลับมาแต่งต่อค่ะ แล้วที่จริงก็มีอีกเรื่องนะคะ ให้คิดถึงนักอ่านที่กำลังรออ่านนิยายของเราอยู่ค่ะ พอคิดถึงตรงนี้เราก็มีกำลังใจมาเขียนต่อเรื่อย ๆ จนพบว่า อ้าว จบแล้วนี่ ฮ่า ๆๆ 

05 เป็นทั้งนักอ่านและนักเขียนบน Dek-D 

เราว่าเว็บเด็กดีมีกลุ่มนักอ่านที่หลากหลายแนวค่ะ เคยเจอว่ามีนักอ่านคนหนึ่งอ่านไปเกือบครึ่งเรื่องแล้วเพิ่งพบว่าเป็นนิยายวาย เราก็แบบ เอ๊ะ ไม่ใช่ว่ารู้ตั้งแต่บทแรกของเรื่องแล้วเหรอคะ ฮา สุดท้ายเราไม่รู้ว่าเขาอ่านต่อจนจบหรือว่าหยุดแค่นั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนก็รู้สึกขอบคุณมาก ๆ ค่ะที่อ่านนิยายของเรา ส่วนเรื่องทำไมถึงแต่งนิยายลงเว็บเด็กดี เพราะเราใช้งานเว็บเด็กดี อ่านนิยายในเว็บเด็กดีมาหลายปี จนวันหนึ่งอยากจะเป็นนักเขียนนิยายเองก็เลยเลือกลงนิยายที่เว็บเด็กดีค่ะ

นิยายสามเรื่องที่ลงขายในเว็บเด็กดีได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดีค่ะ การจัดการ เรื่องรายได้ ยอดขายก็ตรวจสอบได้ง่าย เรียกว่าตรวจสอบได้ตลอดเวลา ส่วนที่ว่าทำไมถึงลงขายกับเว็บเด็กดี ตอนนั้นเห็นว่าดีกว่าทิ้งไว้เฉยๆ เพิ่มมูลค่าให้ผลงานของเราบ้างก็น่าจะดี และอีกอย่างผลงานของเราก็ลงที่เว็บเด็กดีอยู่แล้ว เลยตัดสินใจที่จะติดเหรียญเป็นแพ็กเกจขายค่ะ ส่วนเรื่องระบบขาย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้นักอ่านเลือกที่จะซื้อนิยายในอีกรูปแบบหนึ่งได้ มีความสะดวกในการซื้อ และราคาไม่แพงค่ะ เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สร้างรายได้ให้นักเขียนค่ะ 

06 ดีไซน์เนอร์เกิดใหม่ได้ไอเดียมาจากคำว่า “หมดแพชชั่น” 

เหตุผลที่เราเขียนนิยายที่มีธีมเรื่องค่อนข้างใกล้เคียงกัน เป็นเพราะเราชอบค่ะ ชอบอ่านนิยายแบบนี้ เราก็เลยเขียนนิยายในแบบที่เราอยากอ่าน อีกส่วนหนึ่งก็คือช่วงนี้เราค่อนข้างจะอินในเรื่องของวงการบันเทิง (K-POP) ค่ะ นิยายที่เขียนจบเรื่องแรก แรงบันดาลใจก็มาจากการได้ก้าวไปเป็นแฟนคลับไอดอลเกาหลีคนหนึ่งค่ะ

อย่างไอเดียเรื่องดีไซน์เนอร์เกิดใหม่จริง ๆ มาแค่แวบเดียวเลยค่ะ เราหยิบยกคำพูดที่ว่า “หมดแพชชั่น” มา เราได้ไอเดียมาจากประโยคนั้นประโยคเดียวเลย อาจจะฟังดูแปลก ๆ ที่ว่าตัวเรื่อง และชื่อเรื่องจะสื่อถึงนายเอกที่มุ่งมั่นจะเป็นดีไซน์เนอร์ แต่จุดเริ่มต้นของเรื่องจริง ๆ คือประโยคที่ว่าหมดแพชชั่น และเราสร้างพระเอกขึ้นมาก่อนค่ะ คุณมาคัสที่เป็นช่างภาพ หมดแพชชั่นในการถ่ายภาพ หลังจากนั้นเราก็หาว่าใครกันนะที่จะเหมาะสมกับคุณช่างภาพของเรา หากถามว่าเมื่อพูดถึงช่างภาพแล้วจะนึกถึงอะไร เราว่าต้องมีไม่น้อยเลยที่จะนึกถึงนางแบบ นายแบบ เราเองก็เช่นกัน แต่ว่าในเมื่อคุณช่างภาพของเราหมดแพชชั่นในการถ่ายรูปไปแล้ว การที่จะได้แพชชั่นกลับมาเพราะนายแบบคนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ดูจะธรรมดามากเกินไปหน่อย ดังนั้นผู้ที่เราเลือกมาให้คู่กับช่างภาพของเราก็เลยเป็นดีไซน์เนอร์ผู้จัดจ้านอย่าง อคิราห์ค่ะ และหากจะให้เป็นดีไซน์เนอร์ธรรมดา ๆ มันก็จะไม่ใช่แนวทางของเรา ดังนั้นเรื่องราวจึงออกมาในแบบที่หลาย ๆ คนได้อ่านไปค่ะ

07 "ชีวิตเดียวของคนเราบางครั้งมันไม่พอ"

ที่ตัวละครของเรามักจะเลือกทางเดินชีวิตที่ดีขึ้นเสมอ เพราะเรารู้สึกว่าชีวิตเดียวของคนเราบางครั้งมันไม่พอ ตัวเราเองมีบ่อยครั้งมากเลยที่อยากจะย้อนเวลากลับไป แต่ความเป็นจริงคือทำไม่ได้ ในเมื่อความเป็นจริงมันทำไม่ได้อย่างนั้นเราก็ไปทำในจินตนาการของเราแล้วกัน ทุกตัวละครที่เราสร้างมาเพื่อดำเนินเรื่องล้วนแล้วแต่เป็นคนในแบบที่เราอยากจะเป็นค่ะ อย่างอคิราภ์จากเรื่องดีไซน์เนอร์เกิดใหม่ เราอยากจะเป็นให้ได้อย่างนั้น อยากจะเก่ง อยากจะกล้าให้ได้อย่างนั้น และที่ทำให้เราดีใจมากก็คือมีนักอ่านที่ได้แรงบันดาลใจจากนิยายเรื่องนี้ นำบางจุดไปปรับใช้ในชีวิตของเขาเอง อย่างเช่นเรื่องที่เขามุ่งมั่นจะลดน้ำหนักค่ะ

08 กลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครั้งเพื่อ!?

เสน่ห์ของนิยายแนวกลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง คือ ไม่ว่าจะเกิดในร่างที่ลำบากยากเย็น ชีวิตเหมือนดาวพระศุกร์ขนาดไหน แต่สุดท้ายเขาก็จะพลิกกลับมาผงาดได้ เพราะความแมรี่ซูในตัวเอง ฮา จริง ๆ อีกหนึ่งเสน่ห์ที่เราคิดว่ามีในนิยายแนวนี้ก็คือ เราจะได้เห็นพัฒนาการของตัวละครค่ะว่าเมื่อมีบทเรียนจากชีวิตที่แล้ว เมื่อมีข้อได้เปรียบจากความทรงจำที่ติดตัวมาด้วย ตัวละครจะสามารถใช้ข้อได้เปรียบ ใช้บทเรียนที่เคยได้รับมาใช้พัฒนาชีวิตตัวเองยังไง

แล้วนักเขียนอยากย้อนเวลากลับไปช่วงไหน?

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เหรอคะ อยากย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอนุบาลเลยค่ะ พกความจำในตอนนี้กลับไปด้วย โอ้ ว้าว การเป็นอัจฉริยะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว ฮ่า ๆๆ

9 “ดีไซน์เนอร์เกิดใหม่” กับแรงบันดาลใจเชิงบวก

มีนักอ่านหลายคนเลยที่มาบอกเราว่าได้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตจากการอ่านนิยายของเรา บางคนพยายามลดน้ำหนักมาตลอดแต่ไม่ได้ผลจนท้อ แต่พอมาอ่านนิยายของเราก็มีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมาใหม่ บางคนบอกว่าอ่านแล้วความคิดเปลี่ยน มีมุมมองใหม่ๆ เราขอยกตัวอย่างประโยคหนึ่งในนิยายเรื่องนี้นะคะว่า "ทุกคนมีมุมที่ดูดีของตัวเองอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะหาเจอหรือเปล่าก็เท่านั้น" ประโยคอาจจะไม่เป๊ะเท่าไหร่ แต่ความหมายไม่ไกลเกินนี้แน่นอนค่ะ เราหวังว่าจากข้อความนี้จะทำให้คนอ่านที่กำลังน้อยเนื้อต่ำใจในเรื่องรูปร่างหน้าตาของตัวเองมีความคิดบวกขึ้นมาบ้าง เราทุกคนมีข้อดีอยู่ในตัวแน่ ๆ หามันให้เจอและทำให้มันเป็นจุดเด่นของเราให้ได้ค่ะ

10 ถนัดเขียนแนวไหนก็ทำแนวนั้นให้เป็นจุดแข็งไปเลย! 

แพลนเรื่องใหม่.. จริง ๆ มีที่เปิดเรื่องไว้แล้วค่ะ เป็นแนวใหม่ถ้าไม่นับว่ายังเป็นนิยายวายเหมือนเดิมก็จะเป็นธีมเรื่องแนวมหาวิทยาลัยปกติค่ะ แต่ว่าเพราะไม่ใช่แนวที่ถนัดเลยทำให้เขียนได้ค่อนข้างช้า ตอนแรกกลัวมาก ๆ ว่านักอ่านจะเบื่อนิยายแนวเดิม ๆ ที่เราเขียนแต่คิดอีกทีในเมื่อเราถนัดแนวนี้ก็มุ่งมั่นในแนวนี้แล้วทำให้เป็นจุดแข็งของเราไปเลยดีกว่าค่ะ

11 "เพราะมีพวกคุณ ถึงได้มีเราในวันนี้"

ผลตอบรับจากนักอ่านชาวเด็กดีถือว่าดีเกินคาดมาก ๆ ค่ะ ดีกว่าที่คาดคิดเอาไว้มาก ๆ ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่สนับสนุนในผลงานของเรา ไม่ว่าจะเป็นคนที่ตามมาตั้งแต่ผลงานเรื่องแรก หรือเพิ่งจะมาตาม รวมถึงคนที่จะมาตามหลังจากนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลย ขอบคุณทุกกำลังใจ ขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกคำติชมและคำแนะนำ เพราะมีพวกคุณถึงได้มีเราในวันนี้ อยู่เป็นกำลังใจให้เราได้พัฒนาฝีมือไปเรื่อย ๆ นะคะ

12 ถึงนักเขียน - ความพยายามไม่เคยทอดทิ้งใคร

ถึงนักเขียนที่กำลังพยายามอยู่บนเส้นทางนักเขียนนะคะ เราเชื่อว่าความพยายามไม่เคยทอดทิ้งใคร ขอแค่เราไม่ละทิ้งเส้นทางแห่งความฝันนั้นของเราไปก่อน มันอาจจะเห็นผลช้าไปบ้างจนทำให้รู้สึกท้อบ้าง แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเราจะได้รางวัลจากความพยายามของเราแน่นอนค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนและมาพยายามเดินบนเส้นทางนักเขียนไปด้วยกันนะคะ

ฝากผลงานกับชาวเด็กดีได้เลย! 

สุดท้ายก็ขอฝากผลงานเขียนของเราด้วยนะคะ จบไปแล้วสามเรื่อง มีเรื่อง ดีไซน์เนอร์เกิดใหม่ซุปตาร์เกิดใหม่ , ย้อนเวลาเริ่มรัก และอีกหนึ่งเรื่องที่กำลังเขียนอยู่ เรื่อง DON’T TOUCH ME มือผมคุณห้ามจับ แวะเข้าไปเป็นกำลังใจให้กันบ้างนะคะ

เขียนไปเรื่อยๆ พอนิยายจบก็เขียนเรื่องใหม่ จบแล้วก็เขียนเรื่องใหม่ ทำแบบนี้วนๆ ไป นิยายของเราก็จะได้รับการติดตามมากขึ้นแน่นอน ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ พี่สังเกตจากการสัมภาษณ์มาค่ะ เชื่อมั่นว่าการเขียนนิยายให้จบ เป็นอีกหนึ่งความเชื่อมั่นที่การันตีให้นักอ่านได้ว่านิยายเรื่องต่อไปของเราจะจบ และน่าสนใจมากขึ้นแน่นอน เหมือนดังที่นิยายของ NRI_07042538 ได้รับฟีดแบ็กที่ดีจากนักอ่านอยู่เสมอ เชื่อว่านักอ่านและนักเขียนที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์นี้ จะต้องอยากอ่านนิยายของเธอ และอยากลองเขียนนิยายให้จบขึ้นมาบ้างล่ะ 

พี่แนนนนี่เพน

5 เรื่องต้องรู้! เปิดขาย “แพ็กเกจใหม่” อย่างไรไม่ให้เสียสิทธิ์แคมเปญ “ลดราคา”

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น