The Chosen EP.01 : จิ้งจอกทิวา - เด็กหนุ่มที่เขียนนิยายส่งตัวเองเรียนตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี!

  • จิ้งจอกทิวา หรือ น้องกร คือ นักเขียน และนักเรียนชั้นม.6 ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะที่ชอบพร้อมเขียนนิยายไปด้วย
  • นิยายของจิ้งจอกทิวาเรื่อง ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? และ อลเวงวิบัติ (Amallo Online) มีจำนวนตอนรวมกันมากถึง 500 ตอน โดยปัจจุบันนิยายเรื่องฟีร์มัวฯ มีให้อ่านแล้ว 2 ภาค และกำลังอยู่ในระหว่างการเขียนภาคสุดท้าย
  • จิ้งจอกทิวาสร้างรายได้ด้วยการขายนิยายออนไลน์บนเว็บเด็กดีเพื่อเป็นเงินเก็บด้านการศึกษา และแบ่งเบาภาระครอบครัว 
     

Clip

จิ้งจอกทิวา เด็กหนุ่มที่เขียนนิยายส่งตัวเองเรียนตั้งแต่อายุเพียง 13 ปี

  • •  

          สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน ขอต้อนรับเดือนสุดท้ายของปี 2019 ด้วยนักเขียนที่เป็น The Chosen คนแรกประจำเดือนธันวาคมกันหน่อย 

          หลายคนอาจสงสัยว่า “The Chosen” คืออะไร? พี่แนนนี่เพนอยากให้ลองอ่านบทสัมภาษณ์ของเราให้จบก่อน แล้วลองทายกันในใจดูค่ะ เชื่อว่าคำตอบของแต่ละคนคงจะไม่เหมือนกัน และเราอยากบอกว่าไม่มีถูกไม่มีผิด ทุกสิ่งที่คุณได้จากบทความสัมภาษณ์นี้ คือความหมายของคำว่า The Chosen ค่ะ

          วันนี้พี่แนนนี่เพนขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ  “น้องกร” หรือที่นักอ่านชาวเด็กดีรู้จักกันในชื่อ “จิ้งจอกทิวา” นักเขียนนิยายรักแฟนตาซีที่ปัจจุบันมีผลงานให้ติดตามกันบนเว็บไซต์เด็กดีเพียงที่เดียวเท่านั้น โดยนิยายเรื่อง “ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!?” ถือเป็นนิยายที่มีพล็อตแนวเกิดใหม่ตามกระแส มีนางเอกเป็นนางร้าย และเป็นเรื่องราวในเกมจีบหนุ่มจีบสาวตามสไตล์ความนิยม ณ ขณะนั้น (นิยายเขียนเมื่อปี 2560) ซึ่งน้องกรก็เป็นหนึ่งในนักอ่านที่ชื่นชอบนิยายแนวนี้ และอยากเขียนนิยายในแบบที่ชอบออกมาบ้าง นี่จึงเป็นก้าวแรกของนักอ่านคนหนึ่งที่อยากผันตัวมาเป็นนักเขียน แม้ตอนนั้นจะมีอายุเพียง 13 ปีก็ตาม 

          ผมเริ่มเขียนนิยายตั้งแต่อายุ 13 ปีครับ ตอนเริ่มอ่านนิยายใหม่ๆ ผมติดนิยายแนวเกมออนไลน์ก่อนครับ แล้วค่อยมาเริ่มอ่านพวกแนวแฟนตาซี รักคอมเมดี้ กำลังภายใน ช่วงนั้นกระแสแนวเกิดใหม่ เกิดใหม่มาเป็นนางร้าย เกมจีบหนุ่มเกมจีบสาวกำลังมา ผมก็เป็นนักอ่านคนหนึ่งที่ชอบอ่านแนวนี้ รู้สึกอยากแต่งเแนวนี้บ้าง แล้ววันนั้นผมไปเดินห้างอยู่ เหลือบไปเห็นวีลแชร์พอดี เลยคิดว่า ถ้าตัวเอกของเราเป็นคนพิการที่ต้องนั่งวีลแชร์ตลอดเวลา มันน่าจะเป็นจุดที่น่าสนใจ เพราะยังไม่ค่อยมีใครทำ ผมเลยอยากเขียนนิยายของตัวเองขึ้นมาครับ
 


 

          น้องกรเขียนนิยายเรื่องแรกบนเว็บเด็กดีคือ นิยายแนวเกมออนไลน์เรื่อง “อลเวงวิบัติ (Amallo Online)” และเปิดให้อ่านฟรีบนเว็บเด็กดีถึง 307 ตอน แต่เพราะนักอ่านให้ความสนใจเรื่อง ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? กันมาก เขาจึงแบ่งเวลามาเขียนฟีร์มัวฯ มากขึ้นจนเรื่องราวดำเนินมาแล้วถึง 2 ภาค โดยปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างแต่งภาค 3 ซึ่งเป็นภาคสุดท้าย และเป็นช่วงปีการศึกษาสุดท้ายของน้องกรก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน

          “ตอนนี้ผมกำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพระปฐมวิทยาลัยครับ เป้าหมายของผมคืออยากเรียนคณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาไทยครับ”

          เมื่อถามว่าน้องกรแบ่งเวลามาเขียนนิยายยังไงบ้าง น้องกรบอกว่าทุกวันที่ไปเรียนเขาจะรีบทำการบ้านในแต่ละวันให้เสร็จในห้องเรียนไปเลย ช่วงเวลาตอนอยู่ที่บ้านจึงเป็นช่วงเขียนนิยายโดยเฉพาะ 

          “ผมจะกำหนดไว้เลยว่าผมจะอัปเฉพาะวันอาทิตย์ เพราะฉะนั้นวันอื่นๆ ผมจะมีเวลาเขียน มันไม่ได้กระทบกับการเรียนผมเลยครับ มันจะมีเวลาให้ไปคิดว่าตรงที่เราแต่งไปแล้ว เราจะปรับปรุงไหม เราจะไปต่อยังไงได้บ้าง”

          นอกจากนี้ น้องกรยังบอกอีกว่าตัวเองเป็นคนช่างเพ้อฝัน ชอบคิดจินตนาการตลอดเวลา เมื่อมีเรื่องอะไรอยากเล่า เขาก็เลือกที่จะเล่าให้ครอบครัวฟังเสมอ 

          การเขียนนิยายมันสนุกมากครับ เพราะว่าเราเริ่มเขียนนิยายจากความที่ไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลย แล้วเราถ่ายทอดจินตนาการออกมา แล้วมันสนุกมาก ตอนที่เราเริ่มต้นเขียนนิยาย เราบอกผู้ปกครองทุกคนเลย ผมบอก “แม่ ผมเริ่มแต่งนิยายของตัวเองแล้วนะ” แล้วก็เอาไปเม้าท์ให้แม่ฟังหน้าห้องน้ำว่าเรื่องนี้เป็นแบบนี้นะ เริ่มจากแนวออนไลน์นี่แหละ แล้วแม่ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ด้วยตอนนั้น แม่เขาก็ยิ้มอย่างเดียวเลยครับ แต่ก็ฟังเราเล่าไปด้วย ดูมีความสุข สนุกไปด้วย แล้วการที่ผมบอกแม่ ทำให้แม่เขาปล่อยให้เรามีเวลาว่างอยู่คนเดียว ระหว่างที่แต่งนิยายก็จะไม่มีใครเข้ามารบกวนเลยครับ”
 


 

          ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ของน้องกรที่ครอบครัวเข้าใจ และสนับสนุนให้ทำในสิ่งที่ชอบได้อย่างเต็มที่ ทว่าหลังจากน้องกรเริ่มเข้าศึกษาในชั้นมัธยมปลาย เขาเริ่มรู้สึกถึงภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มมากขึ้น และได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของนิยายยุคใหม่ที่นักเขียนสามารถสร้างรายได้ด้วยตัวเองได้จากผลงานนิยายออนไลน์ ทำให้น้องกรตัดสินใจลองขายนิยายเรื่อง ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? ที่มียอดวิวกว่าครึ่งล้านบนเว็บเด็กดี 

          “เว็บเด็กดีเป็นคลังนิยายออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นเว็บเดียวที่ผมรู้จักในตอนนั้น ทั้งแต่งนิยาย แล้วก็อ่านนิยายไปด้วย ผมใช้นิยายเรื่องนี้ขายเอารายได้ตอนอยู่มอสี่ครับ แล้วด้วยความที่ว่าเราอยู่มอปลายแล้วค่าใช้จ่ายสูง รายจ่ายก็เยอะ แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะของตัวเอง เราไม่อยากไปรบกวนครอบครัว ช่วงนั้นก็เลยอยากจะหารายได้ให้ตัวเอง ซึ่งทางเด็กดีก็เริ่มมีการเปิดให้ขายช่วงนั้นพอดี เราเลยคิดว่าเราแต่งนิยายอยู่แล้ว เราก็เอานิยายของเรามาขายเอารายได้เลยสิ

          ปัจจุบันนิยายเรื่อง ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? มีจำนวน 120 ตอน เปิดขายแบบแพ็กเกจบนเว็บเด็กดีมาแล้ว 2 ภาค มีนักอ่านติดตามนิยายเรื่องนี้กว่าหนึ่งหมื่นคน และร่วมแสดงความคิดเห็นพูดคุยกันเกี่ยวกับนิยายกว่าห้าพันคอมเมนต์ แม้จะไม่ได้เป็นยอดที่ว้าวมากๆ หรือ ปังทะลุล้าน สำหรับใครหลายๆ คน แต่นักอ่านชาวเด็กดีกลับรอติดตาม และสนับสนุนนิยายเรื่องนี้จนเดินทางมาถึงภาคสุดท้ายกันแล้ว 

          “ตอนแรกๆ ก็กังวลอยู่ครับว่าจะขายได้ไหม แต่หลังจากนั้นผลตอบรับเริ่มดี เราก็เลยขายตั้งแต่ตอนนั้นมา รายได้เดือนแรกก็สองพันกว่าบาทครับ สำหรับเรามันเป็นรายได้ที่เยอะนะ เพราะว่า เมื่อก่อนเราจะแบมือขอครอบครัว ขอพ่อแม่อย่างเดียว แต่เงินก้อนนี้เป็นเงินที่เราหามาเอง แล้วเราไม่ได้เสียทุนทรัพย์อะไรเลย เราแค่ใช้เวลากับจินตนาการของเราในการสร้างผลงานของเราออกมา แล้วผลงานของเราสามารถเอาสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้
 


 

          น้องกรเล่าประสบการณ์ที่สังเกตได้จากการขายนิยายบนเว็บเด็กดีตลอดสองปีให้ฟังอีกว่า รายได้ในแต่ละเดือนที่ได้รับขึ้นอยู่กับฐานแฟนคลับ และการอัปนิยายของเราอีกด้วย บางเดือนได้เยอะก็อาจจะเป็นผลมาจากการอัปนิยายบ่อยๆ ทำให้แฟนคลับเก่าๆ เข้ามาอ่านกัน ส่วนแฟนคลับใหม่ๆ ก็จะเห็นนิยายเราอัปเดต และเข้ามาอ่านตอนก่อนหน้า เพราะฉะนั้นรายได้ที่น้องกรได้รับจากการขายนิยายในแต่ละเดือนจึงไม่เท่ากัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีรายได้จากการขายนิยายทุกเดือน ส่วนจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความขยันในการอัปนิยายด้วยค่ะ  

          นอกจากนี้ คุณแม่น้องกรที่เดินทางมาเด็กดีพร้อมกัน แอบเล่าให้เราฟังว่าน้องกรมักจะเอาเงินที่ได้จากการขายนิยายนำไปซื้ออุปกรณ์การเรียนเป็นส่วนใหญ่ แต่ทุกครั้งที่จะนำเงินไปซื้ออะไร มักจะบอกกับครอบครัวก่อนเสมอ เนื่องจากน้องกรนำรายได้จากการขายนิยายมาเป็นเงินเก็บนั่นเอง

          ส่วนใหญ่จะเป็นเงินเก็บครับ เอาไปเก็บอย่างเดียว ถ้าจะไปใช้อะไรเราก็จะมาบอกครอบครัวก่อน เราได้ทุกเดือน เยอะบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับแฟนคลับของเรา แล้วด้วยความที่ผมเริ่มแต่งนิยายจากความสนุกเฉยๆ เราเริ่มมาขายได้ปีสองปี การที่มีนักอ่านถึงกับยอมเสียเงินที่เขาหามาได้ อาจจะเล็กๆ น้อยๆ เพื่อซื้อนิยายที่เราแต่ง แต่มันเป็นกำลังใจที่ดีมากครับ เพราะว่าเรารู้สึกว่าเขาสนุกกับเราจริงๆ และอยากจะติดตามแม้ว่าจะต้องเสียเงินก็ตาม

          น้องกรเล่าว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เขียนนิยายลงบนเว็บเด็กดี แฟนๆ นักอ่านที่คอยติดตามก็เริ่มเข้ามาคอมเมนต์ติชม เป็นเหมือนครูอีกคนบนโลกออนไลน์ ที่ทำให้น้องกรพัฒนาฝีมือการเขียนมากขึ้น 

          “มันหมือนเราสร้างสินค้าหนึ่งขึ้นมา ถ้าสินค้าเราไม่มีคนดึงดูดก็ไม่มีคนซื้อ นิยายมันอาศัยจินตนาการ กับประสบการณ์ของเราว่าเราจะดึงดูดนักอ่านได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนใหญ่ของผมได้มาจากการอ่าน จากการเริ่มแต่งเองมาหลายปี

          “ช่วงแรกๆ สำนวนภาษาไม่ดีเลย จนค่อยๆ ได้รับคำแนะนำจากแฟนคลับว่าตรงนี้ควรแก้ไขนะ ตรงนี้ควรปรับเปลี่ยนนะ หรืออาจจะมีส่วนที่ผมเข้าใจผิดเกี่ยวกับระบบสังคมในเรื่อง ซึ่งตอนนั้นผมไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย แล้วผมก็เข้ามาแต่ง เลยจะมีคนเข้ามาติ เข้ามาช่วยแก้ไขเยอะ โดยส่วนตัวนักอ่านที่เป็นแฟนคลับของผมน่ารักครับ ผมเอาคำแนะนำติชมจากนักอ่านมาแก้ไขเสมอ มันทำให้เราพัฒนาฝีมือมาเรื่อยๆ แฟนคลับทุกคนของผมจะช่วยติช่วยเสริมว่าตรงส่วนนี้ควรปรับปรุงอะไรยังไงบ้าง เพราะเขาชอบผลงานของเรา และอยากให้ผลงานของเราออกมาดีที่สุดครับ
 


 

          ปัจจุบันนิยายบนโลกออนไลน์ถูกมองว่าเป็นนิยายที่คุณภาพไม่ค่อยได้มาตราฐาน เช่น มีคำผิด หรือมีข้อมูลที่ผิดพลาดไปบ้าง น้องกรได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแต่งนิยายออนไลน์ และการตีพิมพ์เป็นเล่มไว้ว่า

          “การที่เราแต่งนิยายออนไลน์ มันมีความสะดวกทั้งต่อตัวเราเอง และต่อนักอ่าน แต่นักเขียนทุกคนก็คงอยากให้ผลงานของเราได้ตีพิมพ์ มันเป็นความฝันอยู่แล้ว แต่ว่าการแต่งนิยายออนไลน์ก็ใช่ว่าเราจะไม่อยากตีพิมพ์ หรือการที่เราตีพิมพ์ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่อยากเผยแพร่ผลงานของเราให้คนอื่นรู้ในโลกออนไลน์ นิยายตีพิมพ์หลายๆ เรื่องในพักหลังๆ ก็มาจากนิยายออนไลน์ทั้งนั้น แล้วแฟนคลับที่ไปซื้อนิยายเป็นเล่ม ก็เป็นแฟนคลับที่ติดตามนิยายออนไลน์มาก่อน ดังนั้น การได้ตีพิมพ์เป็นเล่มมันคือความฝัน แต่ว่าการได้แต่งนิยายมันเป็นความสุขมากกว่า

          “เดี๋ยวนี้นิยายส่วนใหญ่ที่ตีพิมพ์ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากนิยายออนไลน์ การเขียนนิยายออนไลน์มันเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาฝีมือของใครหลายๆ คน จะบอกว่านิยายออนไลน์ไม่มีคุณภาพ มันก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะทุกคนก็เริ่มมาจากการไม่มีคุณภาพ แล้วค่อยๆ เพิ่มเสริมเติมแต่งประสบการณ์ของตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ ผมเองก็ยังไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ ผมยังมีหลายอย่างที่ต้องแก้ไขและพัฒนาไปเรื่อยๆ ในจุดนี้ก็ต้องขอบคุณนักอ่านที่ยังคอยสนับสนุนอยู่ ผมขอบคุณมากๆ เลยครับ”

          เมื่อถามน้องกรถึงเป้าหมายบนเส้นทางนักเขียนต่อจากนี้ น้องกรเผยว่าจริงๆ แล้วการเขียนนิยายไม่ใช่ความฝันของเขา แต่การเขียนนิยายมันคือความสุข และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว

          “ผมไม่ได้มีเป้าหมายอะไรชัดเจนครับ นอกจากเราสนุก และอยากจะทำมันต่อไปเรื่อยๆ มันเป็นความสุขของเรา พอมาคิดว่ามันเป็นความฝันเหรอ...ก็ไม่ใช่ มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ทำให้เรามีความสุขมากกว่า
 


 

          จิ้งจอกทิวา หรือ น้องกร คือ “The Chosen” ที่ทีมงานเลือกให้เป็นแรงบันดาลใจของทุกคนค่ะ น้องกรเป็นนักเขียนคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และมีวินัยกับตัวเองมากๆ ทั้งเรียนไปด้วยเขียนนิยายไปด้วย จนตอนนี้มีตอนนิยายที่เขียนไปแล้วกว่า 500 ตอน โดยที่ผ่านมา น้องกรฝึกฝนและพัฒนาตัวเองจากคอมเมนต์ติชมของนักอ่านมาตลอด แม้ว่าบางคอมเมนต์จะบั่นทอนกำลังใจไปบ้าง แต่เพราะความเชื่อที่ว่านักอ่านเข้ามาติเพื่อก่อ ทำให้น้องกรนำทุกคำแนะนำมาปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ 

          นอกจากที่เราจะรู้จักนามปากกาจิ้งจอกทิวาในฐานะนักเขียนแล้ว เรายังได้รู้จักเด็กผู้ชายคนหนึ่งในฐานะนักเรียนอีกด้วย ความคิดของน้องกรที่อยากช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว และมีเงินเก็บไว้ใช้จ่ายเพื่อการศึกษา โดยการขายนิยายบนเว็บเด็กดี เป็นความคิดของน้องกรที่ตอนนั้นมีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น และปัจจุบัน รายได้จากการขายนิยายกลายเป็นเงินเก็บ และช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวได้จริง  

          แม้ตอนนี้ผลงานของน้องกรภายใต้นามปากกา “จิ้งจอกทิวา” จะยังมีให้เราได้ติดตามไม่มาก แต่เราเชื่อว่าน้องกร คือ The Chosen ที่สามารถพัฒนาตัวเองบนเส้นทางนักเขียนได้แน่นอน เพราะจากที่ได้พูดคุยกันมา น้องกรมีความสุขมากๆ เมื่อได้เล่าจินตนาการของตัวเองให้เราฟัง แถมคุณแม่ก็ปลื้มมากๆ ที่น้องกรได้ทำในสิ่งที่รัก และอยากช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวอีกด้วย

          ท้ายที่สุดนี้ จิ้งจอกทิวาจึงเป็น The Chosen ที่เราอยากให้เป็นแรงบันดาลใจของทุกคน และหวังว่านักเขียนชาวเด็กดีจะมีความสุข และภาคภูมิใจในสิ่งที่ทำเหมือนดังที่น้องกรได้ฝากถึงนักเขียนชาวเด็กดีทุกคนว่า “การแต่งนิยายมันไม่ใช่เรื่องยาก มันคือจินตนาการของเรา เราถ่ายทอดให้คนอื่นรับรู้ คนอื่นสนุกไปกับเรา เรามีความสุขที่ได้ทำแบบนั้น ต่อให้คุณแต่งเพื่อเอารายได้ มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะก็ได้เงิน อาจจะมากจะน้อยก็ว่ากันไป แต่จุดสำคัญที่สุดคือเราสนุกกับมัน มีคนสนุกกับเรา มีคนรอติดตามผลงานเรา มันเป็นความภาคภูมิใจครับ

พี่แนนนี่เพน
 

5 เรื่องต้องรู้! เปิดขาย “แพ็กเกจใหม่” อย่างไรไม่ให้เสียสิทธิ์แคมเปญ “ลดราคา”

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
โรมมี่ ไงล่ะ Member 19 ธ.ค. 62 00:17 น. 2

ต้องบอกเลยนะว่าคุณกรเนี่ยเขาเป็นไอดอลของผมจริงๆ 5555+ เป็นคนที่ทำให้ผมรักการอ่านเขียนนิยายและสามารถหาเป้าหมายในชีวิตได้ สู้ๆนะคุณกร~https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-05.png

1
กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
โรมมี่ ไงล่ะ Member 19 ธ.ค. 62 00:17 น. 2

ต้องบอกเลยนะว่าคุณกรเนี่ยเขาเป็นไอดอลของผมจริงๆ 5555+ เป็นคนที่ทำให้ผมรักการอ่านเขียนนิยายและสามารถหาเป้าหมายในชีวิตได้ สู้ๆนะคุณกร~https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-05.png

1
กำลังโหลด
กำลังโหลด