อดีตนางเอกขอทวงแค้น
เมื่อ “นางเอก” โดนวิญญาณจากต่างมิติทำร้าย!
 

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน สำหรับนิยายที่พี่หญิงได้หยิบมาพูดคุยกับทุกคนในวันนี้ ขอเม้าก่อนเลยว่าเป็นนิยายจีนโบราณที่พี่แอบติดตามอ่านตั้งแต่ลงให้อ่านในเด็กดี พอได้รูปเล่มมาอยู่ในมือก็อดไม่ได้ที่จะเปิดอ่านในทันที เพราะนักเขียนได้ทิ้งปมไว้ค้างคาเสียเหลือเกินจนอดใจอยากรู้คำตอบของเรื่องราวทั้งหมดไม่ไหว และพอได้อ่านนิยายเรื่องนี้จบลงพี่ก็เลยถือโอกาสมาแชร์ความน่าสนใจของนิยายเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้จักกันค่ะ 

อดีตนางเอกขอทวงแค้น ผลงานของนักเขียนนามปากกา “คลุมพิรุณ”
ตีพิมพ์ในสำนักพิมพ์ดีต่อใจ ก่อนตีพิมพ์เคยลงให้อ่านในเด็กดี และมียอดวิวรวมกว่า 466,807 วิว 

อดีตนางเอกขอทวงแค้น

คำโปรยปก

ในนิยายส่วนมาก ‘ผู้ทะลุมิติ’ จะมาพร้อมด้วยความสามารถอย่างใดอย่างหนึ่ง

บางคนกระทำตามอำเภอใจ เป็นเหตุให้คนในโลกใบนั้นได้รับความเดือดร้อน

อย่างโลกแห่งนี้  ‘กงลี่ซิว’ นางเอกผู้น่าสงสาร นางได้รับผลกระทบจากหญิงสาวที่ทะลุมิติแย่งชิงโชคชะตา 

 นาง…ทำดีมากมาย แต่หญิงผู้นั้นกลับตอบแทนด้วยการทรยศ

วาระสุดท้าย นางยังถูกทำให้ตกอยู่ในสภาพน่าอดสู! 

….

เมื่อสวรรค์มอบโอกาส กงลี่ซิวได้รับชีวิตใหม่ นางไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป
 

 

1. พล็อตนิยายแนวทะลุมิติไปในนิยาย

“อดีตนางเอกขอทวงแค้น” เพียงแค่เห็นชื่อ หลายคนก็คงคาดเดากันได้แล้วใช่ไหมว่าจะต้องมีเนื้อหาเป็นแนวเกิดใหม่ในนิยายแน่ๆ ซึ่งก็ถูกต้องค่ะ นิยายเรื่องนี้มีพล็อตแบบที่ว่าจริงๆ เพียงแต่คนที่หลุดเข้าไปอยู่ในนิยายไม่ใช่ตัวเอกของเรื่อง แต่เป็นวิญญาณดาราสาวจากโลกยุคปัจจุบันที่ตายแล้วฟื้นขึ้นในร่างของ “กงอันฉี” น้องสาวคนละแม่ของ “กงลี่ซิว” ตัวละครผู้รับบทเป็นนางเอกใน “วาสนาใจ” นิยายแนวจีนโบราณที่เธอเคยอ่านในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่

โดย “วาสนาใจ” เป็นนิยายรักที่มีเซตติ้งเป็นโลกยุคจีนโบราณ แต่งโดยนักเขียนในยุคปัจจุบัน เล่าถึงเรื่องราวความรักระหว่าง “กงลี่ซิว” และ “หลี่สุยหยวน” คู่หมั้นผู้เป็นองค์รัชทายาท ทั้งคู่ร่วมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น จนในที่สุดได้ก็ขึ้นเป็นฮองเฮาและฮ่องเต้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

2. เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครดั่งเดิม ไม่ใช่ผู้ทะลุมิติ

ในนิยายแนวทะลุมิติหลายๆ เรื่อง เรามักได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นผ่านมุมมองของ “ผู้ทะลุมิติ” แต่นิยายเรื่องนี้กลับกันค่ะ นักเขียนไม่ได้เล่าเนื้อหาผ่านมุมมอง “กงอันฉี” ตัวละครที่มีวิญญาณจากต่างมิติสวมร่างอยู่ แต่เล่าเรื่องราวผ่านมุมมองของ “กงลี่ซิว” นางเอกในนิยายเรื่องวาสนาใจที่ต้องกลายมาเป็น “อดีตนางเอก” เพราะการกระทำของ “กงอันฉี” ผู้ถือโอกาสใช้ “การล่วงรู้อนาคต” ที่ได้รับมาจากการอ่าน วางแผนช่วงชิงทุกอย่างไปเป็นของตัวเอง

3. เป้าหมายของเรื่องคือการแก้แค้น

เพราะถูกคนที่ไว้ใจทำร้ายจนตาย  วิญญาณของ “กงลี่ซิว” จึงเต็มไปด้วยความแค้น เธอต้องการโอกาสที่จะกลับมาแก้แค้นอีก และคราวนี้สวรรค์ก็เข้าข้างเธอค่ะ หลังจาก “กงลี่ซิว” พลัดหลงเข้าไปในมิติเวลาจนรู้ความจริงทั้งหมด เธอก็ได้รับโอกาสจากเทพแห่งโชคชะตา ได้มาเกิดใหม่ในร่างของ “หมิงลี่” ทาสสาวตระกูลหวัง น้องสาวของ “หมิงลู่” พระรองผู้มีบทบาทสำคัญในนิยายเรื่องวาสนาใจ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา หมิงลี่ก็มุ่งมั่นพัฒนาฝีมือตนเองเพื่อทำตามเป้าหมายที่วางไว้ให้สำเร็จ

4. เสริมความเทพด้วยอาวุธวิเศษ

เห็นว่า “กงลี่ซิว” มาเกิดใหม่เป็น “ทาส” แบบนี้อย่าเพิ่งคิดว่าชีวิตของเธอจะเต็มไปด้วยความยากลำบากนะคะ เพราะเธอมีตัวช่วยดีๆ อย่าง “พู่กันวิเศษ” อาวุธเทพที่ได้รับมาจากเทพแห่งโชคชะตา ที่มีความสามารถใช้พลังผ่าน “อักขระ” กงลี่ซิวจึงสามารถหายตัวหนีห่างจากอันตรายได้ตลอดเวลา ทำให้ถึงแม้เส้นทางชีวิตของเธอจะไม่ราบรื่นสักเท่าไหร่ แต่กงลี่ซิวก็ไม่ประสบเหตุการณ์อันตรายที่จะทำให้เสียชีวิตค่ะ จะมีก็แต่ตอนเผชิญหน้ากับ “กงซุนเพ่ยไป๋” หนึ่งในผู้พิทักษ์ของสำนักดับตะวัน ลาสบอสประจำนิยายวาสนาใจนั่นแหละ ที่กงลี่ซิวหนีไปไหนไปค่อยรอด เพราะท่านลาสบอสดันมองเห็นและควบคุม “พู่กันวิเศษ” ได้เช่นกัน

ตัวอย่างเนื้อหาจากนิยาย

 

หลังจากอ่าน “อดีตนางเอกขอทวงแค้น” จบลง นอกจากประเด็นเรื่องการแก้แค้นแล้ว พี่หญิงรู้สึกว่าเนื้อหาของนิยายเรื่องนี้พยายามบอกให้เราทุกคน “ทบทวน” การกระทำของตัวเองผ่านการดำเนินชีวิตของ “กงลี่ซิว” นะคะ เพราะถึงแม้ว่ากงลี่ซิวจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อแค้นแก้ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอได้ฉุดคิดถึงการกระทำของตัวเองในอดีตที่ยึดมั่นถือมั่นในความดี และยุติธรรมมากเกินไป เอาแต่คอยให้ความช่วยเหลือคนอื่นโดยที่ไม่ได้คำนึงเลยว่า ตัวเองมีกำลังมากพอหรือเปล่า สร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง ต้องตามจัดการเรื่องราวทั้งหมด จนนานวันเข้าก็กลายเป็นความรู้สึกเบื่อหน่าย เอือมระอาในที่สุด 

และมันก็ได้ทำให้ “กงลี่ซิว” ได้รับรู้ถึงบทเรียนของการทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงความพอดี เปรียบเหมือนเวลาเรากินชานม แม้น้ำตาลในชานมจะให้เรากินแล้วสดชื่น แต่ถ้ากินมากๆ เข้าก็จะส่งผลเสียให้เป็นเบาหวานนั่นเองค่ะ

สุดท้ายนี้พี่หญิงขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ

 

พี่หญิง