นิยายแนะนำประจำสัปดาห์

Fighting Land เทรักมัดใจนายนักสู้ 

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน สำหรับใครที่ชอบเรื่องราวความรักโรแมนติกๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแฟนตาซีเข้มข้น แนะนำให้รู้จักกับ “Fighting Land เทรักมัดใจนายนักสู้” ผลงานของ May112 ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกปี 2008 และในปี 2020 นี้ May112 ก็ได้ตัดสินใจหยิบนิยายเรื่องนี้มาปัดฝุ่นรีไรท์เนื้อหาสำนวนใหม่ ก่อนจะเปิดบ้านลงให้อ่านในเด็กดีอีกครั้ง ให้แฟนๆ ได้คลายความคิดถึงที่มีต่อ “เหล่านักสู้” ในดินแดน “ไฟท์ติ้งแลนด์” ดินแดนเสรีที่ให้ความสำคัญกับเหล่านักสู้ผู้แข็งแกร่งเป็นที่สุด!

ซึ่งขอบอกไว้เลยว่าในเวอร์ชั่นปี 2020 นี้ เนื้อหายังคงความสดใสแบบวัยรุ่นไว้ได้ไม่เปลี่ยน ทั้งยังมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น มีการปรับปรุงสำนวน ภาษาให้กลมกล่อมมากกว่าเดิมจนกลายเป็นอีกหนึ่งความลงตัวที่คนชอบอ่านนิยายรักแฟนตาซีไม่ควรพลาด 

วันนี้พี่หญิงจึงตัดสินใจหยิบนิยายเรื่องนี้มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันอีกครั้ง ผ่านเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดินแดนไฟท์ติ้งแลนด์ ที่จะพารู้ทุกคนไปรู้จักดินแดนนักสู้ในนิยายเรื่องนี้กันมากขึ้น ส่วนใครที่เคยอ่านมาแล้ว วันนี้เราจะมาย้อนความหลังถึงอดีต นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปตอนอายุ 14 ปีอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เราเปิดอ่านนิยายเรื่องนี้ครั้งแรกกันเถอะ!

คำโปรย

เมื่อพ่อของ "ไลรา" นำหนังสือโบราณเล่มหนึ่งมาเก็บไว้ที่บ้าน เธอก็ดันทะลึ่งไปขอลองอ่านข้อความในนั้นดู เพียงเพราะอยากอวดภูมิว่าเธอน่ะก็สามารถอ่านภาษาโบราณได้เหมือนแม่ แต่แค่เธอเอ่ยออกมาว่า "อะบราดากาบราลี วาฟีไฟท์ติ้งแลนด์!!!"

ฟุ่บ!

ตัวเธอก็หายวับไปกับตา แล้วจู่ๆ ก็มาโผล่อยู่กลางแท่นพิธีบูชาอะไรสักอย่างที่มีฝูงชนรายล้อมมากมายนี่แทน ทันใดนั้นเสียงของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นบอกให้ทุกคนคำนับ "เทพีไดอานา" ฮะ! อะไรนะ พวกเขาคิดว่าเธอคือเทพีอะไรนั่นเรอะ!

ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนเนี่ย!! เรื่องจะอลวนวุ่นวายขนาดไหนมาตามลุ้นใน "Fighting Land เทรักมัดใจนายนักสู้" เล่มนี้

1.

ดินแดนไฟท์ติ้งแลนด์ คือดินแดนแห่งเหล่านักสู้

“อะบราดากาบราลี วาฟีไฟท์ติ้งแลนด์!!!” 

หลังจาก “ไลรา” อ่านประโยคแปลกๆ ในหนังสือโบราณของพ่อบุญธรรมก็โดนหลุมประหลาดดูดร่างมาปรากฏตัวในดินแดนไฟท์ติ้งแลนด์ ดินแดนแฟนตาซีที่ถึงแม้จะมีเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมไม่ต่างไปจากยุคปัจจุบันของโลกที่เธอจากมาเท่าไหร่ แต่ผู้คนในโลกนี้กลับสามารถใช้เวทมนตร์ได้  ทั้งสิ่งมีชีวิตมศัจรรย์อย่างมังกร แมววิเศษบินได้ที่เธอเคยคิดว่ามีแต่ในเทพนิยายยังมีตัวตนอยู่จริง และที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ ผู้คนในดินแดนแห่งนี้นับถือเหล่านักสู้ที่สุด!   

“พวกเราเชื่อว่ามีเพียงการต่อสู้เท่านั้น ที่ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ทำให้เก่งกาจขึ้นมาเองได้ ” นี่คือสาเหตุที่ “ไลรา” ได้ฟังจาก “ซิบบิล” เพื่อนคนแรกที่เธอได้ทำความรู้จักผ่าน “วัลแคล” นักสู้อับดับหนึ่ง ซิบบิลได้เล่าให้ไลราฟังว่าเพราะทุกวันนี้ชาวไฟท์ติ้งแลนด์ ใช้เวทมนตร์ช่วยทำกิจวัตรประจำวันหรืองานส่วนใหญ่กันอยู่แล้ว จึงมีเวลาว่างเอาไปทุ่มเทกับการฝึกต่อสู้ ด้วยคิดว่าการต่อสู้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ช่วยให้เก่งเองได้ แต่จะต้องลงมือพยายามฝึกฝนด้วยตัวเอง ซึ่งพออ่านแล้วก็อาจกล่าวได้ว่าชาวไฟท์ติ้งแลนด์นับถือผู้มีความมุ่งมั่น อดทน และความพยายามจนสามารถประสบความสำเร็จได้นั่นเองค่ะ 

และความนิยมในด้านการต่อสู้นี้ก็ยังเป็นที่มาของเทศกาล “ไลราไฟท์ติ้ง” เทศกาลการต่อสู้สุดยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นมาในทุกๆ หนึ่งร้อยปีเพื่อเฟ้นหา “นักสู้” ผู้แข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย!

2. 

เหล่านักสู้นับถือเทพเจ้าซีอุส

แม้ชาวไฟท์ติ้งแลนด์จะดูเหมือนผู้ที่ไม่สนใจอะไรนอกจากการต่อสู้ แต่จริงๆ แล้วพวกเขานับถือในเทพเจ้ามากๆ เห็นได้จากในทุกๆ ร้อยปี เมื่อถึงเทศกาลการต่อสู้ ชาวไฟท์ติ้งแลนด์จะมีการจัดพิธีบวงสรวง “เทพซีอุส” หรือเทพซุสในความเชื่อของชาวโรมันที่เราคุ้นเคย เพื่อขอให้พระองค์ประทานของรางวัลให้นักสู้อันดับหนึ่งอยู่เสมอ แม้พวกเขาจะไม่เคยได้รับการตอบรับจากเทพเจ้าที่นับถือมาหลายร้อยปีแล้วก็ตาม

ทำให้ในทันทีที่ “ไลรา” ปรากฏตัวขึ้นมากลางพิธีบวงสรวงก็ถูกทุกคนเข้าใจผิดคิดว่า เธอคือ “เทพีไดอานา”  เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ที่เทพซีอุสเมตตาประทานลงมาเพื่อเป็นรางวัลแก่ผู้ชนะในเทศกาล “ไลราไฟท์ติ้ง”

เมื่อถูกเข้าใจผิดแบบนี้ก็ถึงคราวซวยของไลราน่ะสิ นอกจากเธอจะต้องจากบ้านมาไกลอาศัยอยู่ในดินแดนที่ไม่คุ้นเคยแล้วยังต้องกลายเป็นของรางวัลในผู้ชนะการต่อสู้บ้าบอที่เธอไม่เข้าใจ แถมความเชื่อแปลกๆ เกี่ยวกับเทพของชาวไฟท์ติ้งแลนด์ยังทำให้ไลราใช้ชีวิตได้ลำบากสุดๆ เธอต้องยอมทนกินอาหารตำรับพิสดารที่ถูกปรุงขึ้นเพื่อเทพเจ้าโดยเฉพาะ ต้องพยายามฝึกฝนทักษะการล่าให้สมตำแหน่งเทพีการล่าสัตว์ทั้งๆ เธอไม่กล้าฆ่าแม้แต่มดตัวเล็กๆ งานนี้กว่าทุกอย่างจะลงตัว ไลราต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากไม่น้อยเลยค่ะ 

3.

นักสู้ ย่อมมีความเท่าเทียม

พูดถึงเวทีการต่อสู้ เป็นใครก็ต้องคิดว่าเป็นเวทีที่มีไว้สำหรับชายหนุ่มเลือดร้อนมาวัดฝีมือกัน แต่สำหรับดินแดน “ไฟท์ติ้งแลนด์” เราเปิดกว้างมากกว่านั้นค่ะ เพราะในดินแดนนี้ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นถึงจะเข้าร่วมประลองได้ ผู้หญิงเองก็สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้ในฐานะนักสู้เช่นกัน ในเวทีนี้ไม่มีการแบ่งแยกว่าคุณเป็นเพศไหน ขอเพียงเป็นผู้มีความสามารถก็จะได้การยอมรับจากทุกคน ดูได้จากตำแหน่งนักสู้อับดับสามเลยค่ะ ถึงแม้ “อามีเน่” จะเป็นเพศหญิงแต่เธอก็ได้รับการนับถือชาวไฟท์ติ้งแลนด์ในฐานะนักสู้ผู้มีความสามารถ

และนั่นก็ทำให้งานเข้า “ไลรา” อีกครั้ง เพราะไม่ใช่เพียงแค่หนุ่มๆ เท่านั้นที่หวังชัยชนะ และหวังครอบครองตัวเธอ มีสาวๆ บางส่วนที่มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน ไลราจึงไม่สามารถสนิทสนมกับใครได้มากนัก หากไม่อย่างนั้น เธออาจต้องตกลงไปอยู่ในกองไฟแห่งความหึงหวงของ “วัลแคล” องครักษ์จำเป็น นักสู้อันดับหนึ่งจากเทศกาลครั้งที่ผ่านมา ที่เนียนตีมึนคิดเอาเองว่าไลราเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ทั้งๆ ที่เจ้าตัวยังไม่สามารถคว้าอับดับหนึ่งในงานไลราไฟท์ติ้งที่กำลังจะจัดขึ้นนี้ได้เลย!
 

 

ความสัมพันธ์ของพระนางในเรื่องนี้ดำเนินไปแบบคู่รักคู่กัดค่ะ เริ่มแรกทั้งวัลแคลและไลราต่างไม่ถูกกันทั้งคู่ ไลราไม่พอใจที่วัลแคลเอาแต่พูดจาไม่ดีใส่ ส่วนวัลแคลก็เป็นพวกปากไม่ตรงกับใจ ปากร้ายใจดี แม้จะชอบแกล้งไลราให้ร้องไห้บ่อยๆ แต่เจ้าตัวดูแลอีกฝ่ายได้ดีมาก จนอ่านแล้วก็เผลอแอบหมั่นไส้นิดๆ อยากเห็นตอนหน้าวัลแคลตอนโดนไลราเอาคืนขึ้นมาทันทีเลย ฮ่า

สำหรับใครที่กำลังมองหานิยายรักแฟนตาซีสนุกๆ อ่านง่ายเพลินๆ ไม่เครียด ก็แนะนำให้ลองแวะมาท่องเที่ยวในดินแดนไฟท์ติ้งแลนด์นี้ พร้อมมาเอาใจช่วยความรักระหว่างไลราและวิลแคลให้ทั้งคู่ลงเอยด้วยดีกันเถอะ!