เผย 6 to-do-list ที่นักเขียนทุกคนต้องทำ!
สำหรับอาชีพนักเขียน พื้นฐานสิ่งที่ต้องทำหลักๆ มีแค่เขียน แค่นั้นง่ายๆ แต่เอาเข้าจริงแล้ว จะเขียนตลอดเวลาคงยากมากๆ จะเอาแต่ผลิตผลงานออกมาโดยไม่เติมเชื้อเพลิงเข้าไปเลยคงยาก และสักวันแรงบันดาลใจหรือข้อมูลในตัวก็คงหดหายไปหมดจนได้ และสุดท้ายก็จะเขียนไม่ออก หมดหวังในที่สุด นักเขียนทุกคนควรมีกิจกรรมต่างๆ ที่หลากหลายเพื่อเติมเต็มมันสมองและสร้างสิ่งใหม่ๆ แนวคิดใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ถ้าหากมีพล็อตนิยายอยู่ในหัว เราก็จะสามารถทบทวนเนื้อหา สร้างพล็อตใหม่ๆ ให้น่าสนใจได้ ถ้าไม่มีพล็อตในหัว การหากิจกรรมใหม่ๆ มาทำ จะช่วยให้เราฟื้นฟูพลังของตัวเอง และสามารถคิดอะไรใหม่ๆ ได้ มาค่ะ วันนี้เรามี to do list ที่นักเขียนควรทำมาฝากด้วยกัน 6 ข้อ เชื่อว่าถ้าหากทำได้ครบ ชีวิตการเขียนนิยายจะเต็มไปด้วยแพสชั่นและพลังอย่างแน่นอน
To-do-list 1 : อ่าน
อันนี้ชัดเจนมากและเป็นหน้าที่ของนักเขียนเลยทีเดียว ถ้าอยากเป็นนักเขียนที่ดี ก็ควรจะเป็นนักอ่านไปด้วยพร้อมๆ กัน นักเขียนเก่งๆ ส่วนใหญ่เป็นนักอ่านอยู่แล้ว ยิ่งอ่านมาก เราจะมีคลังคำ มีข้อมูลที่ดีมากมาย เราอ่านเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้เราได้รู้ว่าคนอื่นเขาจัดการกับผลงานอย่างไร สร้างสรรค์งานอย่างไร มีวิธีจัดการข้อมูลแล้วนำมาเล่าเรื่องอย่างไร เมื่อเราได้อ่านมากๆ จะช่วยให้เราเข้าใจว่านักเขียนอื่นๆ เขาทำงานกันอย่างไร และสามารถนำเทคนิคเหล่านั้นมาปรับใช้เป็นผลงานของเราได้ โดยไม่ใช่การลอกเลียนแบบ
เวลาอ่าน ไม่ใช่แค่อ่านเอาเรื่อง แต่ต้องอ่านเพื่อศึกษา ดูกลเม็ดเคล็ดลับ เทคนิควิธีการเขียน ใส่ใจว่านักเขียนแต่ละคนเลือกทางแบบไหน เขียนออกมาแบบไหน ถามตัวเองว่าถ้าเป็นเราล่ะ สถานการณ์แบบนี้เหตุการณ์แบบนี้ เราจะเลือกเขียนออกมาแบบไหน จะหาทางออกแบบไหนให้กับตัวละคร หรือตัวละครของเราจะพูดจาอย่างไร ถ้าเจอสถานการณ์คล้ายๆ กัน นอกจากนี้ ถ้าอยากเป็นนักเขียนจริงๆ ควรอ่านให้หลากหลาย ไม่ใช่อ่านแค่แนวเดียวเดิมๆ ซ้ำๆ ควรต้องอ่านแนวใหม่ๆ เพื่อเพิ่มข้อมูลให้กับตัวเอง ยิ่งอ่านหลากหลายแนวมากเท่าไหร่ ก็จะมีข้อมูลในหัวมากและสามารถเล่าเรื่องได้ในรูปแบบที่หลากหลายด้วย ทุกอย่างนำมาปรับใช้กับผลงานได้หมด อ่านแนวคลาสสิกจะได้เข้าใจว่านักเขียนเมื่อก่อนเขาเขียนแบบไหนอย่างไร อ่านแนวแฟนตาซีจะได้ความคิดสร้างสรรค์และการเขียนถึงฉากต่างๆ อ่านแนวลึกลับก็จะรู้ว่าควรสร้างปมอย่างไร ความเชื่อมโยงของเหตุและผลสำคัญแค่ไหน อ่านแนวรักก็ได้เรื่องสำนวนภาษา การบรรยาย การสร้างตัวละครเป็นต้น
To-do-list 2 :ทดลอง
อยากเป็นนักเขียนอยากให้กล้าที่จะทดลองเขียนอะไรใหม่ๆ ทำอะไรใหม่ๆ ที่ท้าทายตัวเอง จะได้รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร เมื่อได้ทดลองอะไรใหม่ๆ ก็จะดีต่อคุณเอง ช่วยให้คุณได้ฝึกฝนไปด้วย คำแนะนำอย่างแรกเลยคือ ทดลองหาช่วงเวลาทองในการเขียนของตัวเองให้พบ ให้เขียนหลากหลายเวลา เพื่อจะได้ดูว่าเวลาไหนได้คุณภาพที่สุด และทำแล้วออกมาดีที่สุด เมื่อค้นพบช่วงเวลาของตัวเอง ก็สร้างกิจวัตร เขียนในช่วงเวลานั้นๆ ทุกวัน เป็นประจำสม่ำเสมอจนติดเป็นนิสัย แต่ก็อย่าไปยึดติดเพราะคนเราเปลี่ยนกันได้ เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจเผชิญกับหลายๆ อย่างจนทำให้เราเปลี่ยนเวลาได้ ยังไงก็คอยทดลองทดสอบอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ อย่าทำอะไรซ้ำๆ แบบเดิมๆ เพราะอาจจะทำให้งานเขียนของเราซ้ำซากจำเจได้ ทดลองไปเรื่อยๆ ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อให้ตัวเองได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ถ้าหากเขียนนิยายรักแล้วประสบความสำเร็จแล้ว ใครๆ ก็ชื่นชม อาจลองปรับเปลี่ยนเพิ่มพล็อตเข้าไป เป็นรักแฟนตาซี หรือรักดราม่า หรือรักคอมเมดี้ หรือรักสืบสวน ทำอะไรที่ไม่เคยทำ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกตื่นเต้นและเหมือนได้ผจญภัยใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา หรือถ้าปกติเล่าจากมุมมองของบุคคลที่ 1 เขียนว่า ฉัน ผม มาตลอด อาจปรับเป็นแนวมุมมองบุคคลที่ 3 ดูบ้าง ก็จะทำให้เราได้พัฒนาฝีมือไปด้วย หรือถ้าชอบเขียนบทสนทนาเยอะๆ ก็ลองฝึกบรรยาย หรือชอบบรรยายเยอะๆ ก็หัดเขียนบทสนทนา เป็นนักเขียนต้องทดลองไปเรื่อยๆ จะได้เก่งขึ้นในทุกวัน
To-do-list 3 : ตั้งเป้าหมาย (เพื่อกระตุ้นตัวเอง)
ทุกคนต่างอยากมีช่วงเวลาเขียนเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน การทำอะไรสม่ำเสมอจะช่วยให้ทุกอย่างออกมาดี แต่บางทีการทำอะไรซ้ำๆ อาจทำให้รู้สึกเบื่อได้เหมือนกัน ลองถามใจตัวเองว่าต้องการอะไร ใช้ความรู้สึกบ้างในการเขียน จะช่วยให้ผลงานล้ำลึก ลึกซึ้งน่าอ่านมากขึ้น อาจจะตั้งเป้าหมายบางอย่าง ทำอะไรใหม่ๆ สนุกๆ เช่น เขียนมาราธอน ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนไปเลยเช่น วันนี้จะเขียน 2 ชม. เต็ม นั่งเขียนอยู่แบบนั้น หรือตั้งเป้าว่าวันนี้ต้องเขียนให้ได้ 3,000 คำ หรือ 5 หน้า ไม่งั้นไม่หยุด ถ้าทดลองทำอะไรแบบนี้นานๆ ที เช่นเดือนละหนหรืออาทิตย์ละหน ก็จะช่วยกระตุ้นให้รู้สึกตื่นเต้น กระชุ่มกระชวย พูดง่ายๆ มันคือการสร้างเป้าหมายระยะสั้นสอดแทรกในเป้าหมายระยะยาวที่กำหนดเอาไว้ เหมือนเป้าหมายซ้อนเป้าหมาย กดดันตัวเองให้เต็มที่ไปเลย ทำให้เต็มที่ แต่ต้องแน่ใจว่าตัวเองโอเค ไม่ใช่ทำแล้วรู้สึกเบื่อหรือเซ็งเขียนแล้วฝืด ถ้าเป็นแบบนั้นอย่าทำเลย งานอาจจะแย่ได้
ถ้าหากคุณชอบกระตุ้นตัวเอง อาจจะกำหนดไปเลย เช่น วันนี้ 1000 คำ ต่อ 1 ชั่วโมง เขียนแผนกำหนดเอาไว้ให้ชัดและพยายามทำให้สำเร็จครบถ้วนตรงตามเป้าหมาย ถ้าทำสำเร็จอาจให้รางวัลตัวเองด้วยขนม ของหวาน อะไรอร่อยๆ หรือให้ตัวเองได้พักผ่อน ทำอาหาร พาหมาไปเดินเล่น งีบหลับ เป็นต้น อาจจะกำหนดเป็นว่าวันนี้จะเขียนอย่างเดียวห้ามทำอย่างอื่น ถ้าทำสำเร็จทั้งวันครบตามเป้าที่ตั้งไว้ วันอื่นๆ ก็จะได้พักเต็มที่ เป็นต้น
To-do-list 4 : จับผิดนิยายตัวเอง
เป็นเรื่องที่สนุกแต่ก็ทำได้ยากเช่นกัน แน่นอนทุกคนรักนิยายของตัวเอง และเวลาเราเขียนเราก็มั่นใจแน่ใจว่ามันดีแล้ว แต่อย่าลืมว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบได้หรอก คนเรามันก็ต้องพลาดบ้าง แนะนำให้ลองทิ้งระยะในการเขียนไปสักพักแล้วกลับมาอ่านใหม่ และจับผิดให้เต็มที่ไปเลย ทั้งสะกดผิดพลาด เขียนชื่อผิด อาจมีช็อตที่ตัวละครเคยไว้ผมสั้นในหน้าสิบ พอหน้าที่หนึ่งร้อยอ้าวเผลอไปเขียนผมยาว เคยอยู่บ้านเดี่ยว เผลอเขียนเป็นคอนโด เคยผิวขาว มาเขียนตอนหลังเป็นผิวสองสี เป็นต้น คุณต้องรู้จักนิยายของตัวเองทุกซอกทุกมุม เข้าใจการกระทำของตัวละครในทุกๆ อย่าง รู้จักเหมือนที่รู้จักตัวเอง และต้องเข้าใจครบถ้วน จับผิดได้หมด แก้แทนได้หมด การจะทำความเข้าใจได้ คุณต้องจินตนาการและลองสุ่มดูเยอะๆ เช่น คิดเอาว่าถ้าตัวละครของคุณตกไปอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ๆ เขาจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ลองคิดถึงแบ็คกราวด์ของเขาหรือเธอด้วยว่าเขาเป็นคนแบบไหนถึงทำอะไรแบบนี้ได้ เป็นต้น ภูมิหลังของตัวละครก็สำคัญมาก หน้าที่ของคุณคือ จับผิด และสร้างส่วนนี้ให้ชัดเจน เพื่อตอบคำถามคนอ่านให้ได้ว่าเพราะอะไรตัวละครของคุณถึงเป็นแบบนี้ได้ หรือเพราะอะไรสถานการณ์ถึงดำเนินมาแบบนี้ในที่สุด จับผิดให้ครบทุกซอกทุกมุมเลยนะ งานนี้สนุกมากๆ และยากมากๆ เช่นกัน
To-do-list 5 : หาคนอ่าน พื้นที่เผยแพร่นิยาย
จริงอยู่ เวลาเขียนเราเขียนนิยายคนเดียว เขียนร่วมกับคนอื่นไม่ได้ มันเป็นงานที่เราจมอยู่กับหน้ากระดาษหรือหน้าเวิร์ด หัวหูยุ่ง ทำอะไรอยู่คนเดียว แต่เราไม่ได้เขียนนิยายให้ตัวเองอ่าน เราเขียนให้คนอื่นอ่าน และคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แน่นอนว่านักเขียนทุกคนอยากให้คนมาอ่านนิยาย เราก็แนะนำง่ายๆ จากคนใกล้ตัวก่อน ถ้ามีเพื่อนชอบอ่าน หรือคนในครอบครัวก็ได้ เลือกคนที่วิจารณ์เก่งๆ ขอให้พวกเขาช่วยอ่านและแนะนำให้ นอกจากคนเหล่านี้ ถ้าไม่อยากให้พวกเขาอ่านหรือไม่มีคนกลุ่มนี้จริงๆ ก็แนะนำลงนิยายในเว็บนิยายออนไลน์ ซึ่งมีอยู่เยอะมาก คุณจะได้พบกับนักอ่านที่ไม่เคยรู้จัก คนพวกนี้พร้อมจะให้ความเห็นอย่างชัดเจน เปิดใจ และส่วนใหญ่ก็ปราศจากอคติ ถ้าเป็นคนใกล้ชิดอาจจะตอบออมๆ คำ ไม่กล้าพูดตรงๆ นักเขียนทุกคนควรได้ฟังคำวิจารณ์ตรงๆ จากคนอ่าน ยิ่งถ้าเป็นนิยายเรื่องแรก ก็ควรจะได้คำวิจารณ์มากๆ หน่อย จะได้สามารถปรับหรือพัฒนาผลงานได้ดี พยายามหานักอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยิ่งได้ความเห็นมากก็ยิ่งดีต่อตัวเอง
To-do-list 6 : สร้างลายเซ็น
ในฐานะนักเขียน มีคำหนึ่งที่ทุกคนรู้จักดี นั่นคือ “ลายเซ็น” หรือแปลว่าเอกลักษณ์ในการเขียน นักเขียนแต่ละคนมีจุดเด่นไม่เหมือนกัน บางคนสร้างตัวละครเก่ง บางคนบรรยายเก่ง บางคนภาษาดี บางคนก็เขียนพระเอกได้ดี บางคนเขียนนางเอกได้เก่ง บางคนเขียนตัวร้ายได้น่าอ่าน บางคนเก่งเรื่องสร้างพล็อต เป็นต้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จกับอาชีพนี้ แนะนำว่าให้หาจุดเด่นของตัวเองให้พบ เพื่อจะได้ต่อยอดให้มันเด่นขึ้นอีกและอีก และทำให้มันกลายเป็นจุดขายของตัวเองให้ได้ ประมาณว่า นึกถึงนิยายแนวนี้ต้องนึกถึงนักเขียนคนนี้ คำแนะนำอย่างหนึ่งที่เรามอบให้ได้คือ ลายเซ็นไม่ได้สร้างได้ภายในแค่นิยายหนึ่งเรื่อง แต่มันต้องฝึกฝน ต้องเขียนเป็นจำนวนมาก และต้องได้รับการยอมรับจากผู้อ่านด้วย เพราะฉะนั้น คุณคงต้องทุ่มเทกับ to do list ข้อนี้ให้มากๆ เขียนให้มากๆ พยายามให้มากๆ อ่านให้มากๆ และค้นหาตัวตนให้พบ แล้วสักวันหนึ่ง นักอ่านจะรักคุณและไม่ไปจากคุณอีกเลย
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
1 ความคิดเห็น
1.ชอบอ่าน อ่านตั้งแต่แฟนตาซีจ๋า สืบสวน ดราม่า ยันวาย
2.ช่วงดึกนี่แหละ เวลาของมนุษย์ค้างคาว แนวเรื่องได้ลองแน่ ๆ
3.เป้าหมาย...เขียนทุกคืน2ชม. หรือมากกว่านั้นตามฟีล
4.จับผิดตัวเองบ่อยจนย้อนไปด่าตัวเองในอดีต "พล็อตโฮลเยอะอย่างกับโจโจ้ ต้องแก้อีก"
5....no promoteใด ๆ
6.เน้นสร้างตัวละครมากกว่าพล็อต โดยเฉพาะตัวร้าย
ป.ล.แอบภูมิใจเบา ๆ ปั่นงานต่อละ