The Chosen EP.07 : MelonpangS - ชีวิตสุดพลิกผัน! เห็นโอกาสสร้างรายได้เพราะนักอ่านชี้ช่องทาง

  • “เมฆ” หรือ “MelonpangS” ลาออกจากงานประจำมาทำฟรีแลนซ์เพราะพิษเศรษฐกิจ และเขียนนิยายเป็นงานอดิเรก ก่อนจะตัดสินใจขายนิยายออนไลน์เพราะนักอ่านชี้ให้เห็นช่องทางการหารายได้และยินดีสนับสนุนนักเขียน
  • MelonpangS พิสูจน์ว่าการเขียนนิยายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สามารถทำเป็นอาชีพได้ และยืนยันว่าการขายนิยายไม่เคยทำให้ยอดวิวลดลง
  • นิยายเรื่อง “Q&A :: ทุกคำถามมีคำตอบโดยท่านน้องสาวพระเจ้า” เป็นนิยายแนวโลลิยูริต่างโลกสลับเพศที่ดึงดูดนักอ่านด้วยพล็อตเรื่องที่แตกต่าง และภาพประกอบสุดน่ารักที่นักเขียนตั้งใจคอมมิชชั่นรูปมาใช้ในนิยายเรื่องนี้โดยเฉพาะ

• 

            สวัสดีค่ะน้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน นิยายเรื่อง “Q&A :: ทุกคำถามมีคำตอบโดยท่านน้องสาวพระเจ้า” ผลงานของ “MelonpangS” คือนิยายแฟนตาซีแนวโลลิยูริต่างโลกสลับเพศ ที่นอกจากจะดึงดูดนักอ่านชาวเด็กดีด้วยเนื้อหาที่แตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ แล้ว ภาพประกอบที่นักเขียนตั้งใจคอมมิชชั่นรูปมาใช้ในนิยายเรื่องนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับนักอ่าน และต่อยอดแรงบันดาลใจให้นักเขียนได้ด้วยค่ะ

            “เมฆ” หรือ “MelonpangS” ชายหนุ่มวัย 26 ปี ผู้เขียนนิยายเรื่องนี้บนเว็บเด็กดีเมื่อสองปีก่อน เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นของนิยายเรื่องนี้ว่า หลังจากที่เขาลาออกจากงานประจำมาทำฟรีแลนซ์ รับงานแปลภาษาญี่ปุ่น และช่วยงานที่บ้านเพราะพิษเศรษฐกิจ ชายหนุ่มได้ตัดสินใจกลับมาเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกอีกครั้งเพื่อคลายเครียด โดยที่ไม่เคยนึกมาก่อนว่าในช่วงโควิด - 19 นี้ การเขียนนิยายออนไลน์จะเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ให้เขาได้

            “ผมคิดว่าในช่วงโควิดตอนนี้อ่ะครับ มีใครหลายคนที่ไม่สามารถทำงานปกติได้ ไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ การเขียนนิยายจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่เราทำที่ไหนก็ได้ แล้วสามารถทำอย่างปลอดภัยที่บ้านก็ได้ เพราะงั้นมันจึงเป็นหนึ่งในทางเลือก เป็นหนึ่งในทางเลือกเลยครับที่เราสามารถทำมันเป็นอาชีพ และหาเงินจากงานนี้ได้ครับ
 

            อ่านผลงานของ   MelonpangS

            เมฆเล่าถึงตอนที่เขาเขียนนิยายเรื่อง Q&A :: ทุกคำถามมีคำตอบโดยท่านน้องสาวพระเจ้า ว่าเป้าหมายแรกของเขา คือต้องการเขียนนิยายเพื่อให้คนเข้ามาอ่าน เข้ามาติชมเท่านั้น เขาอยากได้คอมเมนต์จากนักอ่านชาวเด็กดี เพราะอยากรู้ว่าตัวเองเขียนนิยายเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เขาเขียนนิยายลงบนสมุดไปแล้วหลายเรื่อง แต่นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ลงกับเว็บเด็กดี และได้ผลตอบรับดีกว่าที่เขาคาดหวังไว้ 

            ผมเขียนนิยายครั้งแรกตอนอยู่ประถมห้าครับ ผมเขียนลงในกระดาษ แต่ว่าเป็นเรื่องสั้น แล้วก็ไม่ได้ให้ใครอ่านครับ (หัวเราะ) ตั้งแต่ตอนนั้นผมเขียนเยอะมากเลยครับ มีพล็อตอยู่ประมาณ 30-40 กว่าเรื่อง ซึ่งผมเขียนเก็บไว้เรื่องละเกือบ 10 ตอน แล้ววันหนึ่งผมให้เพื่อนผมอ่าน ให้คุณพ่อคุณแม่อ่าน เพื่อนที่สนิทๆ ของผมอ่าน ผมรู้ดีว่าพวกเขายอไปมันไม่ได้อะไร ซึ่งการยอเนื้อเรื่องมันเป็นการทำลายนักเขียน ผมต้องการคำติชมว่ามันมีจุดไหนที่รู้สึกไม่สนุกบ้าง แต่ผมเขียนมาเป็นเวลา 10 ปีผมยังไม่เคยโดนติแม้แต่ครั้งเดียวเลยครับ ซึ่งมันทำให้สงสัยว่า เฮ้ย งานเราดีแล้วจริงๆ เหรอ ทุกคนไม่ได้แกล้งยอเราหรือเปล่า คือผมไม่มีใครมาบอกเลยว่าสำนวนตรงนี้ไม่เข้าใจนะ ตรงนี้มันพูดไม่เห็นภาพ ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว” 

            “จนน้องสาวของผมเขาบอกว่านิยายที่ผมเขียนมันน่าจะเอาไปลงเด็กดีได้นะ ก็เลยเอาไปลงครับ ตอนนั้นก็ประมาณสองปีที่แล้วเองครับ ประมาณต้นเดือนมิถุนายน ผมลงเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยครับ ตอนนั้นพยายามเซฟตัวเองด้วยการคิดว่าคงไม่มีคนอ่าน แต่ว่าหลังจากที่ลงนิยายเรื่องนี้ไปแล้ว เราก็ได้รับคอมเมนต์มาว่า สนุก ก็ดีใจมากครับ นอนไม่หลับเลยครับ (หัวเราะ)”
 

            หากใครลองเข้าไปอ่านนิยายของ MelonpangS จะสังเกตเห็นว่านิยายเรื่องนี้ เป็นนิยายแนวโลลิยูริที่ค่อนข้างแตกต่างจากนิยายเรื่องอื่นๆ ทั้งเรื่องสำนวนการเขียน และการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ทั้งตัวละครนางเอกที่สลับเพศมาจากเพศชาย จนทำให้ความน่ารักของนางเอกกระแทกใจนักอ่านเข้าอย่างจัง สิ่งเหล่านี้เมฆให้ความเห็นว่า มันเป็นความชอบที่เฉพาะกลุ่ม และนักอ่านที่ชอบนิยายแนวนี้จริงๆ เขาก็พร้อมจะไปกับเราจนจบเรื่อง 

            ส่วนตัวผมชอบแนวยูริครับ ความรักระหว่างผู้หญิงและผู้หญิงด้วยกัน อย่างที่รู้กันว่าผู้ชายไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่น่ารัก ในกรณีนี้มันจะเหมือนจิตวิทยาอย่างหนึ่ง พอผู้ชายกลายเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก คุณอาจจะรู้สึกว่ามันน่ารักสุดๆ เลยอ่ะ จริงๆ ผมรู้เรื่องนี้เพราะทุกคอมเมนต์จะบอกว่าน่ารักจังเลย มันค่อนข้างได้ผลนะครับ หลักๆ ของเรื่องเลยคือความรัก ความน่ารักของนางเอก นางเอกเท่ากับผู้ชาย เซตติ้งของผมเนี่ยค่อนข้างเปิดกว้าง ปัญหาเรื่องกำแพงเพศจะไม่มีอยู่เลย ผู้ชายกับผู้ชาย ผู้หญิงกับผู้หญิง ผมโอเคหมด ถือว่าเป็นโลกเวทมนต์อยู่แล้ว”

            แม้ว่านิยายเรื่องนี้จะมียอดวิวเรื่อง นักอ่าน และคอมเมนต์ไม่มากเมื่อเทียบกับนิยายติดท็อปเรื่องอื่นๆ แต่ก้าวเล็กๆ นี้กลับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักเขียนมือใหม่คนหนึ่งมากๆ เลยค่ะ เพราะมันทำให้เมฆได้เจอชุมชนนักอ่านที่ชื่นชอบนิยายแนวเดียวกัน ได้รับคำติชมอย่างที่หวังไว้ตั้งแต่แรก แถมยังมีนักอ่านวาดรูปแฟนอาร์ตให้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย 

            ฟีดแบ็กสำหรับผม ถ้าพูดตรงๆ ผมว่ามันเยอะแล้วครับ นิยายเรื่องอื่นๆ ที่เขาอัปบ่อยๆ มียอดวิวเป็นแสนเป็นล้าน คือเขาลงทุกวัน เขาขยันมากเลยครับ ในฐานะที่ผมเป็นมือใหม่ เขียนเรื่องแรกถือว่าเยอะกว่าที่คิดเยอะเลยครับ คือตอนลงไปเนี่ยไม่คิดว่าจะมียอดวิวถึง 10,000 เลย ตอนนี้ก็เข้าหลัก 60,000 ไปแล้ว แถมคอมเมนต์กับคนติดตามก็เป็นหลักพัน ซึ่งมันดีกว่าที่คิดนะครับ เหมือนฝันเลยครับ ผมไม่คิดว่านิยายของผมจะมียอดวิวถึงหลักแสน แต่ก็ขึ้นมาถึงหกหมื่นนะครับ สุดยอดเลยครับ (หัวเราะ)”

            ส่วนเรื่องรูปประกอบ มีนักอ่านคนหนึ่งวาดภาพประกอบมาให้ครับ แล้วผมชอบงานของเขามาก ผมก็เลยไปติดต่อเขาว่าผมสามารถคอมมิชชั่นเขาได้ไหม เขาก็บอกว่าได้ครับ ผมก็เลยคอมมิชชั่นรูปมาเรื่อยๆ ครับ ผมรู้สึกแฮปปี้พอๆ กับตอนได้คอมเมนต์แรกของนิยายเรื่องนี้เลยครับ (หัวเราะ) ความรู้สึกที่ว่า ตัวละครที่เราคิดอยู่ในหัว และคนอื่นอาจจะเห็นภาพหรือไม่เห็นภาพ ตอนนี้ไม่ได้เป็นภาพแค่ในหัวผมแล้ว ทุกคนได้เห็นภาพเดียวกับที่ผมคิด ผมรู้สึกดีใจมากเลยครับ โห มันว้าวมากครับ ผมขอบคุณคุณนักวาดมากเลยครับ ถ้าเกิดอ่านอยู่ ขอบคุณมากจริงๆ ครับ”
 

            นอกเหนือจากเรื่องฟีดแบ็กที่เมฆเล่าอย่างภาคภูมิใจแล้ว เขายังเล่าย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัดสินใจเปิดขายนิยายบนเว็บเด็กดีด้วยว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากนักอ่านที่ชี้ช่องทางการหารายได้ให้กับเขา และอีกส่วนหนึ่งคือมีนักอ่านเข้ามาคอมเมนต์อยู่เรื่อยๆ ว่าอยากสนับสนุนนิยายเรื่องนี้ จนทำให้เขาตัดสินใจลองขายนิยายในที่สุด

            “นิยายเรื่องนี้เนี่ย ตอนแรกผมแพลนไว้ว่าเป็นนิยายให้อ่านฟรี เพราะผมคิดว่าเรื่องที่ผมเขียนเนี่ยแค่มีคนเข้ามาอ่าน ผมก็มีความสุขแล้ว แต่ประเด็นคือพอเขียนหลายตอนเข้า ก็มีนักอ่านที่เรียกร้องมาว่าไม่ขายเหรอครับ ไม่จัดแพ็คขายเหรอครับ อยากอุดหนุน อยากสนับสนุนอะไรแบบนี้ครับ ตอนแรกผมยังยึดมั่นว่าให้อ่านฟรี ผมก็ยังไม่ขาย แต่พอเพิ่มตอนเยอะเข้า 20 ตอน 30 ตอน นักอ่านหลายคนก็ยังทักมาอยู่เรื่อยๆ ว่า พี่ไม่รวมเล่มขายเหรอคะ ไม่รวมเล่มขายเหรอครับ ถ้าแค่คนสองคนผมก็คงแบบไม่เป็นไร เราแต่งให้คุณอ่านฟรีคุณอ่านไปเถอะ แต่ประเด็นคือมันเริ่มเป็นสามคนสี่คนห้าคนไม่ซ้ำหน้ากันจนกลายเป็นสิบกว่าคน เขาถามว่าไม่ขายเหรอ ผมก็เลย อ่ะ ตัดสินใจ งั้นลองขายดูแล้วกัน”

            “พอเราลงแพ็กขายครั้งแรก ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็มีคนมาซื้อจากเจ็ดคน แปดคน เก้าคน ค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย แล้วมันเป็นความรู้สึกที่แบบว่า เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ครับว่างานของเรามันมีคุณค่ากับคนอื่นมากกว่าที่เราคิดอีก ก็เลยคิดว่าเราน่าจะขายได้ครับ”

            นอกจากนี้ เมฆยังเล่าถึงประสบการณ์หลังเปิดขายนิยายครั้งแรกให้ฟังด้วยว่า ตลอดทั้งวันเขากดเข้าหน้านิยายเพื่อคอยอัปเดตตลอดว่ายอดขายเป็นอย่างไรบ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ตั้งเป้าไว้ตั้งแต่แรกว่าจะต้องขายได้เท่าไหร่ แต่พอมีคนอ่านซื้อนิยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาก็เริ่มคาดหวัง และรู้สึกดีใจที่นักอ่านยินดีสนับสนุนนิยายของเขาเป็นจำนวนมาก 

            “ตอนที่ผมเปิดขายเสร็จแล้ว ตอนนั้นทั้งวันผมก็จะหยิบมือถือเข้าไปดูมายไอดีตัวเอง เข้าไปดูที่คอยน์ของฉัน สรุป แล้วก็ดูรายได้ พอเด้งขึ้นมาปุ๊บ ผมก็ปิดแล้วก็ไปทำอย่างอื่นต่อ ผมเป็นอย่างนี้อยู่ประมาณวัน 6-7 รอบอ่ะครับ (เราก็มีความคาดหวังอยู่เหือนกันนะ?) เพราะว่าเราก็อยากได้เงินอ่ะครับ (หัวเราะ)”

            ทั้งนี้ เมฆได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้วว่า การเปิดขายนิยายไม่ได้ทำให้ยอดวิวนิยายลดลงอย่างที่นักเขียนหลายคนกังวลกันแน่นอน เพราะเขาได้ลองสังเกตมาสักระยะหนึ่งแล้ว พบว่ายอดวิวจะเพิ่มขึ้นเมื่อนิยายมีการอัปเดตมากกว่า 

            “หลังจากที่เปิดขายนิยาย ยอดวิวเพิ่มขึ้นลดลงตามจำนวนตอนที่ผมลงล่าสุดเลยครับ เช่น ถ้าผมลงงานเพิ่มขึ้น แบบวันเว้นวันยอดวิวก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งผมคิดว่ายอดขายไม่ค่อยเกี่ยวเลยครับ ไม่ว่าผมจะขายหรือไม่ขายนักอ่านไม่ลดลงครับผม อย่างเช่น ถ้าผมลงวันเว้นวัน ผมคิดว่าน่าจะมีคนอ่านเพิ่มขึ้น เพราะทุกครั้งที่ผมลงคนจะเข้ามาอ่านเยอะมาก แล้วยอดจะวิวจะพิ่มเห็นได้ชัดเลยครับ” 
 

            โดยหลังจากที่เปิดขายไปได้ไม่นาน เมฆเริ่มมองเห็นว่าการเขียนนิยายออนไลน์สามารถสร้างรายได้ให้จริง โดยเงินก้อนแรกที่เขาได้ เขานำไปใช้คอมมิชชั่นนักวาด เพื่อนำรูปภาพมาประกอบในนิยายให้แฟนๆ นักอ่านได้มีความสุขไปด้วยกัน ซึ่งหลังจากนั้น เขาก็ตั้งใจจะเก็บเงินเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเมฆเริ่มมองว่าการเขียนนิยายออนไลน์สามารถทำเป็นอาชีพได้จริงๆ ถ้าหากว่าเราจริงจัง และตรงต่อเวลามากพอค่ะ

            “ถามว่าอยากเขียนนิยายเป็นอาชีพไหม… ตอบตรงๆ ว่าคิดครับ คิดว่าเรามีความสามารถพอที่จะเขียนเรื่องราวออกมา และเราน่าจะสามารถหาเงินจากมันได้ถ้าเกิดเราจริงจังกับมันครับ ถ้าในกรณีของผมปัจจุบันนะครับ มันเป็นทางหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ได้ครับ เพราะว่ามีคนที่ชอบงานเรา และมีคนที่ซื้องานของเรา เพราะงั้นมันก็เป็นช่องทางหนึ่งที่เราค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถหาเงินจากมันได้ในจุดนี้ครับ”

            “ส่วนตัวแล้ว นักเขียนมืออาชีพสำหรับผม ต้องตรงต่อเวลาครับ แล้วก็ต้องรู้ว่ากำหนดเดดไลน์สำคัญที่สุดครับ เช่น ถ้าคุณสัญญากับนักอ่านว่าจะลงอาทิตย์ละหนึ่งตอน คุณต้องลงให้ได้อาทิตย์ละหนึ่งตอน เพราะในฐานะที่เป็นนักอ่านมาก่อน เวลามีนักเขียนบอกว่าจะลงวันอาทิตย์ ทั้งสัปดาห์ ผมจะรอวันอาทิตย์ทั้งวันเลยครับ เพราะงั้นสิ่งสำคัญสำหรับนักเขียนทุกคนก็คือ ถ้าคุณจะลงเย็นนี้ได้โปรดช่วยลงให้ได้ด้วยครับ” 

            นอกจากนี้ เมฆยังได้ฝากข้อคิดถึงนักเขียนทุกคนที่กำลังเขียนนิยายอยู่ตอนนี้ด้วยว่า การเขียนนิยายสำคัญที่สุดคือ การลงมือทำ 

            “สำหรับคนที่ลังเลว่างานของเราจะมีคนอ่านไหม ผมแนะนำว่าให้ลองลงดูก่อนครับ สิ่งสำคัญของการเขียนนิยายไม่ได้สำคัญที่ว่าจะมีคนอ่านไหม จะดังหรือเปล่า จุดแรกที่ต้องผ่านเลยคือ คุณต้องลงมือเขียนก่อนครับ มีนักเขียนหลายคนที่เขาแต่งเรื่องสนุกมาก คนรู้จักผมเนี่ย แต่เขาไม่ได้ลงมือเขียน และพล็อตที่เขาแต่งมาสนุกๆ ก็อยู่แค่ในความคิดของเขา ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าเสียดายมากครับ ลงมือเขียนนั่นคือจุดเริ่มต้นครับ”
 

            จากเรื่องราวของ “เมฆ” หรือ “MelonpangS” ที่ลาออกจากงานประจำมาทำฟรีแลนซ์ และเริ่มมองเห็นว่าการเขียนนิยายสามารถเป็นอาชีพหนึ่งได้ พี่แนนนี่เพนเชื่อว่าน้องๆ ชาวเด็กดีหลายๆ คนน่าจะมีจุดเริ่มต้นมาเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกเหมือนเมฆกันเป็นจำนวนมาก และเชื่อได้เลยว่าหลายๆ คนไม่ได้มีความคิดอยากขายนิยายออนไลน์กันตั้งแต่เริ่มเขียนกันแน่นอนค่ะ

            แต่ในวันนี้พี่อยากให้ทุกคนได้มองเห็นว่าการเขียนนิยายออนไลน์สามารถเป็นช่องทางหนึ่งที่สร้างกำลังใจ และสร้างรายได้ให้กับเราได้ค่ะ เรื่องราวของเมฆทำให้เราได้เห็นว่ายังมีนักอ่านจำนวนมากที่พร้อมสนับสนุนความฝันการเป็นนักเขียนของเรา ยินดีสนับสนุนผลงานของเรา เพื่อให้เรามีแรงใจมาเขียนนิยายต่อไปได้เรื่อยๆ ซึ่งพี่ชอบคำพูดหนึ่งของเมฆมากที่บอกว่า 

            “งานของเรามีคุณค่ากับคนอื่นมากกว่าที่เราคิดอีก” 

            ซึ่งเขาจะพูดคำนี้ออกมาไม่ได้เลยหากเขาไม่ได้เปิดขายนิยาย และได้เห็นการสนับสนุนจากนักอ่านแบบที่เขาเองก็ไม่เคยคาดหวังมาก่อน 

            หวังว่าเรื่องราวของ “MelonpangS” จะทำให้ชาวเด็กดีได้มองเห็นโอกาสกันมากขึ้นนะคะ มาเริ่มลงมือเขียนนิยาย และศึกษาการขายได้ง่ายๆ ที่นี่เลยค่ะ : bit.ly/writer-howto

พี่แนนนี่เพน
 

            อ่านผลงานของ     MelonpangS

5 เรื่องต้องรู้! เปิดขาย “แพ็กเกจใหม่” อย่างไรไม่ให้เสียสิทธิ์แคมเปญ “ลดราคา”

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น