7 ข้อที่คนชอบเข้าใจผิดเกี่ยวกับนักเขียน


คุณรู้จักอาชีพนี้หรือยัง 7 ข้อที่คนชอบเข้าใจผิดเกี่ยวกับนักเขียน 
 
สวัสดีค่ะ ชาวนักเขียนเด็กดีทุกคน ไม่ว่าคุณอาชีพไหนก็ตาม มักจะมีความเข้าใจผิดหรือความไม่เข้าใจอยู่แล้ว อาชีพนักเขียนก็เช่นกัน เราเชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะได้รับคำถามหรือข้อสงสัยจากพ่อแม่พี่น้องหรือคนรอบๆ ตัวเกี่ยวกับอาชีพของเราอยู่บ้างไม่มากก็น้อย วันนี้เราเลยรวบรวมมาสรุปให้อ่านกันค่ะ มาดูกันซิว่าตรงใจไหม มีใครเคยโดนทักแบบนี้บ้าง 
 

 
อาชีพนักเขียนจะเริ่มขึ้นก็ต่อเมื่อ   ได้เงินหรือเป็นนักเขียนอาชีพที่มีชื่อเสียง
หลายๆ คนแค่เขียนลงเว็บธรรมดา เวลาคนมาทักหรือมาถาม เราก็มักจะเจื่อนๆ โดยเฉพาะกับคำว่า อ๋อ ลงฟรี ไม่มีรายได้งั้นหรือ จริงๆ แล้ว อาชีพนักเขียนเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เริ่มเขียน เพียงแต่มันเป็นแค่จุดเริ่มต้นบนเส้นทางสายนี้ และถึงแม้จะยังไม่ได้ตีพิมพ์หรือมีชื่อเสียงมากมายอะไรนัก แต่ก็นับได้แล้วล่ะค่ะว่าเราเป็นนักเขียน แค่อาจจะอยู่ในช่วงก้าวสู่ความเป็นนักเขียนอาชีพเท่านั้น
 
หลายคนก็ยังตั้งคำถามเกี่ยวกับนักเขียนที่แท้จริง ในส่วนนี้ การตีพิมพ์ก็สำคัญและมีส่วนสนับสนุนไม่น้อย ไม่ว่าจะพิมพ์กับสนพ. หรือพิมพ์มือ ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพนักเขียนเช่นกัน คำว่า อยากเป็นนักเขียน หรือเกือบจะได้เป็นนักเขียน นักเขียนแต่ไม่ได้ตีพิมพ์ นักเขียนแต่ไม่ได้ เป็นคำที่บั่นทอนความรู้สึก เราไม่อยากให้คิดมาก แต่อยากให้คิดว่าเมื่อตัดสินใจเป็นนักเขียน เท่ากับว่าเราคือนักเขียนแล้ว 
 
เขียนได้วันละมากๆ คือดี แปลว่ามีวินัยการเขียน
ความจริงแล้วแต่ละคนมีวิธีการเขียนที่แตกต่างกัน แต่ไอ้คำที่บอกว่าควรเขียนให้ได้ทุกวันก็อาจกดดันทำให้นักเขียนหลายๆ คนเครียดและไม่สบายใจได้  แน่นอนนักเขียนดังๆ เขียนวันละเยอะๆ และเขียนได้ต่อเนื่องในทุกๆ วัน แต่มันไม่ได้หมายความว่าเราทุกคนต้องทำแบบนั้นได้ ความจริงแล้ว ถ้ารู้จักแบ่งเวลาและเขียนได้จบภายในเวลาที่กำหนดได้ อาจไม่ได้จำเป็นจะต้องเขียนให้ได้ในทุกๆ วันขนาดนั้น ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่วันหนึ่งเขียนได้เท่าไหร่ แต่มันอยู่ที่ว่าเขียนจบเรื่องได้หรือไม่มากกว่า วินัยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เชื่อในการกระทำของตัวเองดีที่สุด นักเขียนบางคนอาจเขียนได้วันละ 8-10 หน้า แต่บางคนอาจจะเขียนวันละแค่ 1-2 หน้าก็ได้ หรือบางคนอาจจะเขียนไม่ได้เลย ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะวางแผนการทำงานยังไง
 
ชีวิตทั้งหมด ต้องอุทิศให้การเขียน
อาชีพนักเขียน ก็ต้องเขียน อันนี้ถูกต้อง แต่เราคิดว่าถ้ายึดมั่นถือมั่นและเครียดมากจนเกินไป มันก็อาจจะส่งผลต่อสภาพจิตใจและความรู้สึกได้ ไม่จำเป็นต้องเครียดกับการเขียนมากขนาดนั้น อย่ากดดันตัวเอง หรือบังคับตัวเองว่า… ถ้าไม่เขียนก็ไม่ใช่นักเขียน ควรแบ่งเวลาการเขียนและทำอย่างอื่นให้เหมาะสม มีเวลาพักบ้างก็ได้ เขียนนิยายด้วย ทำอย่างอื่นด้วย มีชีวิตด้านอื่นด้วยก็ไม่เลวนักหรอกนะ
 
ชีวิตการเขียนมีแผนการชัดเจน ต้องทำตามเป้าหมายถึงจะประสบความสำเร็จ 
หลายๆ คนมองว่า ถ้าอยากจะเป็นนักเขียนที่ประสบความสำเร็จ ก็ต้องมีนิยายขายดี มีเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนเอาไว้ชัดเจนแล้วมุ่งหน้าไปให้ถึงให้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเขียนนิยายไม่ใช่การแข่งขันเอาเกรด และไม่ได้สอบเพื่อวัดระดับ หรือไม่ได้เขียนไปเพื่อให้ชนะรางวัล เราคิดว่ามันเป็นอาชีพที่ใช้ใจ และควรทำอย่างมีความสุขมากกว่าจะคิดแต่ผลลัพธ์ตอนท้าย ความสุขระหว่างการเขียนก็สำคัญเช่นกัน
 
อาชีพนักเขียนฉลาดกว่าคนอื่นๆ  ต้องใช้สมองมากกว่าอาชีพอื่น
เป็นความคิดที่ดูยกย่องเราดีมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอาชีพไหนฉลาดกว่าอาชีพไหน ทุกๆ อาชีพต่างฉลาดในแบบของตัวเอง อาชีพนักเขียนให้ประโยชน์และคุณค่าต่อสังคม และคนเขียนนิยายต้องมีความรอบรู้หลายๆ เรื่อง แต่ในขณะเดียวกันมันไม่ได้หมายความว่าเราเก่งกาจมากกว่าใครหรือมีพรสวรรค์มากกว่าใคร
 
อาชีพนักเขียนเหมาะกับคนขี้เกียจ  เพราะทำงานสบายๆ
หลายๆ คนเชื่อว่าคนเขียนหนังสือไม่ต้องทำอะไรมาก เป็นอาชีพที่นั่งๆ นอนๆ สบายๆ ก็ได้เงิน แค่เขียนๆ พิมพ์ๆ ก็สบายแล้ว แต่จริงๆ แล้ว อาชีพนักเขียนเองก็ต้องใช้ความสามารถหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านภาษา ที่สำคัญต้องการแรงบันดาลใจและการเก็บข้อมูลเพื่อนำมาสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า น่าสนใจ จึงไม่สามารถใช้คำว่าอาชีพของคนขี้เกียจได้ ทุกคนที่เป็นนักเขียนต่างรู้ว่าอาชีพนี้มีข้อดีและข้อด้อยในตัว มีทั้งเรื่องง่ายและยาก เราอาจดูสบายเพราะเป็นอิสระจะเลือกทำงานตอนไหนก็ได้ แต่ถ้าเราไม่มีวินัย ไม่เขียนให้ตรงตามเวลา ไม่ผลิตผลงานเราก็ขาดรายได้เช่นกัน
 
อาชีพนักเขียนเครียดมาก แทบไม่มีเวลาพักผ่อน ไส้แห้งด้วย
อาชีพนักเขียนไม่ได้สบาย แต่ก็ไม่ได้เครียดมากมายขนาดนั้น โดยรวมแล้ว มันเป็นอาชีพที่เหมือนกับอาชีพอื่นๆ นั่นแหละ คือมีทั้งช่วงเวลาดีๆ และช่วงเวลาไม่ดี ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเราคิดเอง หลายคนที่บอกว่าอาชีพนี้ดูเครียดจัง อาจจะยังไม่เข้าใจลักษณะที่แท้จริงของอาชีพนักเขียน แต่ไม่ว่าอย่างไร บทสรุปเราคิดว่าทุกๆ อาชีพต่างมีดีมีไม่ดี และไม่มีอาชีพใดดีกว่ากันแน่นอน
 
ทีมงานนักเขียนเด็กดี 
 
ทีมงาน writer

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

โลกสองด้าน Member 23 ก.ย. 63 14:37 น. 2

ถูกใจเหมือนกันค่ะ ทุกคนจะมีเวลาในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน แต่ถ้ารับผิดชอบกับงานที่ทำก็จะเขียนจบแต่จะมีคนอ่านมากน้อยยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การเป็นนักเขียนทำให้เราได้พัฒนาอะไรอีกเยอะเลยบางอย่างที่เราไม่เคยสนใจก็กลับมาสนใจเพื่อจะเก็บข้อมูลมาไว้ในงานเขียน โปรแกรมบางตัวไม่เคยใช้ก็ต้องมาเรียนรู้การใช้ พอมาเริ่มเขียนถึงได้รู้ว่าเป็นนักเขียนไม่ใช่แค่มีความรู้ในเรื่องเขียนอย่างเดียวแต่ต้องมีความรู้ในด้านอื่นๆอีกมากเลยค่ะ

0
กำลังโหลด
Member 23 ก.ย. 63 00:48 น. 1

ถูกใจบทความนี้มากเลยค่ะ เป็นแรงใจให้เราได้เขียนต่อไปเรื่อยๆ โดยไร้ความกังวล ไม่จำเป็นหรอกว่าจะเขียนมากหรือน้อย หรือเขียนในแต่ละวัน มันขึ้นอยู่ที่เรามากกว่า จะเอาเวลาไหนมาเขียน และไม่จำเป็นต้องกดดันมาเขียนในแต่ละวันได้

0
กำลังโหลด

4 ความคิดเห็น

Member 23 ก.ย. 63 00:48 น. 1

ถูกใจบทความนี้มากเลยค่ะ เป็นแรงใจให้เราได้เขียนต่อไปเรื่อยๆ โดยไร้ความกังวล ไม่จำเป็นหรอกว่าจะเขียนมากหรือน้อย หรือเขียนในแต่ละวัน มันขึ้นอยู่ที่เรามากกว่า จะเอาเวลาไหนมาเขียน และไม่จำเป็นต้องกดดันมาเขียนในแต่ละวันได้

0
กำลังโหลด
โลกสองด้าน Member 23 ก.ย. 63 14:37 น. 2

ถูกใจเหมือนกันค่ะ ทุกคนจะมีเวลาในการใช้ชีวิตที่ต่างกัน แต่ถ้ารับผิดชอบกับงานที่ทำก็จะเขียนจบแต่จะมีคนอ่านมากน้อยยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่การเป็นนักเขียนทำให้เราได้พัฒนาอะไรอีกเยอะเลยบางอย่างที่เราไม่เคยสนใจก็กลับมาสนใจเพื่อจะเก็บข้อมูลมาไว้ในงานเขียน โปรแกรมบางตัวไม่เคยใช้ก็ต้องมาเรียนรู้การใช้ พอมาเริ่มเขียนถึงได้รู้ว่าเป็นนักเขียนไม่ใช่แค่มีความรู้ในเรื่องเขียนอย่างเดียวแต่ต้องมีความรู้ในด้านอื่นๆอีกมากเลยค่ะ

0
กำลังโหลด
เรโกะ จิทาคุ Member 24 ก.ย. 63 17:24 น. 3

1.ไม่

2.ไม่

3......................................ไม่

4.ไม่ มันใช้ใจ

5.อ้าว แล้วคิดว่าหมอไม่ฉลาดรึไง? ความฉลาดวัดใจคนได้ด้วยรึ? ไม่นับทางอารมณ์

6.มั่นใจ?

7.เหรออออออออออออ


นี่เห็นคนที่เป็นนักเขียนที่นำงานมาสร้างรายได้

ไม่มีความตรงกับคุณสมบัติพวกนี้เลยนะ ถ้าตรงคือเข้าใจผิดอย่างมากเลยค่ะ

0
กำลังโหลด
Shadow_J Member 27 ก.ย. 63 16:07 น. 4

เรื่องที่ถูกต้องอย่างนึงคือ นักเขียนทุกคนมีความฝันที่จะเขียนนิยายดีๆ ออกมาให้นักอ่านได้อ่านกัน แต่จะประสบความสำเร็จแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องนึงครับhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-06.png

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด