How to เขียนเร็ว เขียนไว เขียนได้งาน เขียนได้เงิน!

How to เขียนเร็ว เขียนไว เขียนได้งาน เขียนได้เงิน! 

สวัสดีค่ะ น้องๆ นักเขียนเด็กดีทุกคน ใครที่อยากเร่งสปีดเขียนนิยายให้เร็ว เขียนได้ไว เขียนได้งาน เขียนได้เงิน เหมือนหัวข้อในวันนี้ เรามีเทคนิคดีๆ มาแนะนำให้ลองทำตามกันดูค่ะ แต่ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ‘การเขียนได้เร็ว’ เป็นทักษะที่ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนฝีมือเหมือนกัน เราจะไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองทำ แต่ในครั้งต่อไปเราจะทำได้ดีกว่าเดิมแน่นอน ว่าแล้วก็ไปลองทำตามกันเลย!

#เขียนเร็ว #เขียนไว

1. ตามหา “ชั่วโมงทอง” ให้เจอ!

แม้ว่าการเขียนนิยายจะเป็นเหมือนงานอดิเรก หรืองานฟรีแลนซ์ที่ทำในช่วงเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าหากเราอยาก “เขียนให้ได้งาน” จริงๆ เราต้องรู้จักตัวเองให้ดีก่อนว่า 

• เราชอบสภาพแวดล้อมแบบไหน?
• ช่วงเวลาใดที่เราสามารถเขียนนิยายได้?

เพราะนักเขียนทุกคนมีกิจวัตรประจำวันที่แตกต่างกัน บางคนเขียนงานได้ในช่วงเช้า บางคนเขียนได้ช่วงเที่ยง ส่วนบางคนก็เขียนได้แค่ช่วงดึกๆ เท่านั้น 

ในช่วงแรกเราจึงต้องลองผิดลองถูกเพื่อหา “ชั่วโมงทอง” ของเราให้เจอก่อน จากนั้นลองทำตามซ้ำๆ เพื่อประเมินดูว่าช่วงเวลาไหนเหมาะกับการเขียนนิยายที่สุด

ตัวอย่างเช่น ถ้าเรารู้ว่าตัวเองจะมีสมาธิมากขึ้นในช่วงดึกๆ หลังกินข้าวเย็น อาบน้ำ ทำงานจิปาถะต่างๆ เรียบร้อยแล้ว เราก็กำหนดช่วงเวลาหลังจากนั้นเพื่อมาเขียนนิยายได้ 

2. มีพล็อตหรือโครงร่างคร่าวๆ 

การเขียนเร็วจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าเราเขียนไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าปลายทางของเรื่องมันอยู่ตรงไหน

ยิ่งถ้าเราต้องการเพิ่มความเร็วในการเขียนนิยาย สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเราต้องมี “พล็อต หรือ โครงร่างคร่าวๆ” เอาไว้ก่อนค่ะ  ดังนั้น วางโครงเรื่องไว้ แล้วเล่าพล็อตนิยายออกมาให้จบ อย่างน้อยต้องเห็นภาพรวมคร่าวๆ ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เป็นต้น วิธีนี้ช่วยให้เราเขียนนิยายได้เร็วขึ้น และใช้เวลาในการคิดงานน้อยลง

#เขียนให้ได้งาน

3. เริ่มจากเขียนให้เหมือนเด็ก

วิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราเขียนนิยายได้เร็วขึ้น แถมมีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันเลย ก็คือ การเอาความคิดแบบเด็กๆ มาลองใช้ นั่นเองค่ะ ความหมายคือ เราต้องเขียนออกมาตามที่คิด เล่าออกมาง่ายๆ ไม่ต้องคิดซับซ้อน เมื่อเริ่มลงมือเขียน ให้คิดเพียงว่า เราจะเล่าเรื่องราวในฉากนี้ออกมาอย่างไร ระหว่างที่เขียนอาจจะมีบางคำพูด หรือคำบางคำที่เรานึกไม่ออก หรืออาจจะมีคำที่ดีกว่านี้อยู่ แต่อย่าเพิ่งไปคิดถึงเรื่องยากๆ เหล่านั้น เราแค่ “เว้นว่างไว้” หรือ “ใช้คำอื่นแทนไปก่อน” ทำให้เรื่องราวในความคิดของเราจบลงก่อน แล้วค่อยกลับไปแก้ไขในภายหลังค่ะ

4. เริ่มเขียนจากตอนไหนก็ได้

ไม่มีสูตรตายตัวสำหรับการเขียนนิยายอยู่แล้ว แม้ว่าเราจะไม่ได้เริ่มเขียนจากบทนำ หรือบทแรก แต่เราก็สามารถนำเรื่องราวกลับมาร้อยเรียงเข้าหากันได้ในภายหลัง บางทีเราอาจจะเริ่มเขียนจากตอนจบของเรื่อง เพื่อนำเข้าสู่บทแรก หรือเริ่มเขียนจากฉากที่ชอบเพื่อเป็นไอเดียในการฉากต่อๆ ไปก็ได้ 

ดังนั้น เราสามารถเขียนตอนนิยายตามใจได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นตอนที่เกี่ยวข้องกับพล็อต มีในโครงร่างของเรา หรือถ้าไม่มีส่วนข้องเลย… เราก็อาจจะลำบากในภายหลังได้ แต่ไม่เป็นไร ถ้าชอบก็ลองเขียนออกมาก่อน ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้ไอเดียดีๆ มาต่อยอดในนิยายของเราก็ได้ 

#เขียนให้ได้เงิน

5. กำหนดเดดไลน์ ท้าทายตัวเอง

เพื่อเพิ่มสปีดการเขียนนิยายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราจำเป็นต้องสร้างเป้าหมาย หรือสร้างแรงบันดาลใจที่ท้าทายตัวเองมากขึ้นไปอีกขั้น อย่างการกำหนดเดดไลน์ก็ถือเป็นการท้าทายตัวเองไปอีกก้าวหนึ่ง ยิ่งถ้าเราเขียนนิยายไปด้วย อัปนิยายไปด้วย เราควรบอกกำหนดการอัปนิยายให้นักอ่านได้รับรู้ไว้ด้วย  เพราะประโยชน์จริงๆ ของการเขียนนิยายแบบมีเดดไลน์ คือ

ข้อสุดท้ายนี้ เกิดขึ้นได้จริงแน่นอนค่ะ ถ้าหากเรามีวินัยในการเขียนที่ดี เขียนนิยาย และอัปนิยายอย่างสม่ำเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะยังเขียนนิยายไม่จบ แต่เราก็สามารถหากำลังใจ และสร้างรายได้จากงานเขียนของเราได้ง่ายๆ เพียงแค่เปิดขายนิยายแบบรายตอน  ไม่ต้องรอแต่งจนจบเรื่องหรือจบภาค ก็สามารถเปิดขายเพื่อให้นักอ่านเข้ามาสนับสนุนนิยายของเราได้

พี่แนนนี่เพน