How to เขียนนิยายจากกลางเรื่อง
จริงๆ แล้ว การเขียนนิยายจากช่วงกลางเรื่องนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องและไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่นัก แต่ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากท้าทาย อยากทำอะไรใหม่ๆ รวมไปถึงมีพล็อตตอนต้นและตอนจบที่ชัดเจนแล้ว การลองเขียนจากกลางเรื่อง ก็น่าจะทำให้คุณตื่นเต้นและสนุกสนานได้พอสมควร เหมือนเป็นการเดินทางใหม่ๆ ที่เริ่มจากตรงกลางน่ะแหละ
การเขียนจากกลางเรื่องนั้นอาจไปได้สวยและเจ๋งมาก ตราบใดที่คุณกำหนดวินัยการเขียนให้กับตัวเองและเขียนอย่างสม่ำเสมอ แน่นอนการเขียนจากกลางเรื่องก็เหมือนการวางเดิมพัน เพราะจริงๆ แล้ว ช่วงกลางเรื่องเป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุด แต่ถ้าคุณมาเริ่มจากตรงนี้ จะเรียกความตื่นเต้นให้กับมันได้ คุณมีการบ้านต้องทำมากมาย และอาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติด้วย บางทีคนที่เขียนนิยายแบบเก่าๆ จากบทที่หนึ่งไปบทสุดท้ายมาหลายเรื่อง ถ้าลองใช้วิธีนี้ก็อาจทำให้ดีขึ้น กระตุ้นให้ตื่นเต้นมากขึ้น รวมไปถึงสามารถสร้างตอนจบแบบใหม่ๆ นิยายใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้ เพราะจริงๆ แล้วถ้าเราสร้างช่วงกลางเรื่องให้น่าอ่าน สนุก แตกต่าง ก็จะช่วยให้ตอนต้นและตอนจบ น่าสนใจมากขึ้น ทำให้คนอ่านไม่เบื่อ และอ่านได้ยาวๆ ไม่รู้สึกว่านิยายของเรามีจุดที่น่าเบื่อ
องก์ที่สอง : กลางเรื่อง เขียนยากที่สุด
ตอนเขียนเอ๊าท์ไลน์ อยากให้แบ่งช่วงการเขียนเป็นสามองก์ องก์หนึ่ง ช่วงแรก / เปิดเรื่อง องก์สอง ช่วงกลางเรื่อง และองก์สามช่วงจบเรื่อง ซึ่งแน่นอนว่าองก์ที่สองหรือกลางเรื่องเป็นช่วงที่เขียนได้ยากที่สุด ช่วงแรกจะทำให้เรื่องเคลื่อนไปข้างหน้า และประสบความสำเร็จ แต่ช่วงสอง เป็นช่วงที่จะต้องเล่าเรื่องมากที่สุด และทำให้ปมขึ้นสูงสุด ก่อนจะมาสู่บทสรุปในช่วงท้าย
ช่วงแรก เป็นช่วงทำความรู้จักกับตัวละครและโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ ช่วงจบคือสรุป ดังนั้น ช่วงกลางเรื่องเหมือนการเดินทางน่ะแหละ คุณต้องพาตัวละคนเดินทางไปตามที่ต่างๆ และต้องเล่าเรื่องว่าพวกเขาเจออะไรมาบ้าง ได้เรียนรู้อะไรจากการเดินทางนั้นบ้าง ก็เหมือนในชีวิตจริง ตอนเกิดเราเรียนรู้อะไรสนุกๆ ตอนจบเราเข้าสู่วัยปลายเตรียมลาจาก แต่ช่วงกลางเรื่อง เราจะมีชีวิตอย่างไรแบบไหน มีความรักแบบไหน ทำงานอะไร นั่นแหละคือช่วงที่เราต้องสร้างสรรค์ออกมาให้คนอ่านโดนใจให้ได้ ให้เหมาะสมควรมีความขัดแย้งในตัวเองและคลี่คลายในตอนจบ จนนำไปสู่ตอนจบของตัวเราเองในตอนท้ายเรื่อง ในชีวิตจริง บางคนไม่มีบทสรุป แต่ในนิยายนั้นควรมี คุณไม่ควรเขียนจนเกินเลยแต่ต้องหาทางลงให้เจอ
บางครั้ง ก็เป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องลองสร้างเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวละคร เพื่อให้เนื้อเรื่องมีพัฒนาการ ถ้าปล่อยให้ตัวละครย่ำอยู่กับที่เมื่อไหร่ เมื่อนั้นเรื่องน่าเบื่อแน่นอน คุณคือนจัดการวางแผน สร้างทาง แผ้วทางไปจนถึงตอนจบให้ได้ และระหว่างนั้น คุณคือคนที่ต้องหาสิ่งใหม่ๆ เรื่องราวใหม่ๆ ให้ตัวละครได้พบได้เจอ เพื่อให้เขาหรือเธอได้เรียนรู้ การเล่าเรื่องเป็นหัวใจหลัก เพราะคุณคือคนที่ถือการ์ดเอาไว้ คอยหงายออกมา ให้คนอ่านได้ทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กับตัวละคร จะทำอย่างไรให้คนอ่านอยากรู้ ตื่นเต้น และรอคอย เช่น บทที่ 6 ก. กลับบ้านเร็วกว่าปกติ และพบว่ามีฆาตกรรมในบ้าน เขาทรุดลงไปด้วยความกลัวและเจ็บปวด บทที่ 7-8 ก็จะต้องเขียนถึงเรื่องคนร้าย การสืบหาความจริง ความเครียดที่เกิดขึ้น ย้อนอดีตไปถึงความทรงจำเก่าๆ ทบทวนว่าเพราะอะไรถึงมีเหตุการณ์นี้ จนไปถึงตอนจบว่า เรื่องจะคลี่คลายไปทางไหนกัน
อย่าลืมว่าในขณะที่ตัวละครก้าวเข้าสู่การเดินทางนี้ คนอ่านของคุณก็เช่นกัน พวกเขาจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางอารมณ์ ทำความรู้จักตัวละคร พยายามเล่าเรื่องให้สนุก อย่าทำให้พวกเขาเบื่อจนปิดนิยายของคุณไปก่อนล่ะ
สรุปวิธีการเล่าสั้นๆ ง่ายๆ ก็คือ แม้จะซอยเป็นสามองก์แล้ว ในองก์สอง ก็ควรจะซอยเป็นสามส่วนย่อยอีกครั้ง
- ต่อเนื่องจากองก์หนึ่ง เล่าเรื่องตัวละครต่อ พล็อตย่อยๆ ที่ส่งผลให้ตัวละครทำบางสิ่งบางอย่าง
- การเดินทางของตัวละครไปสู่จุดสูงสุด
- ให้ตัวละครย้อนรำลึกว่าเพราะอะไรถึงเกิดเหตุการณ์นี้ ค้นหาคำตอบ ซึ่งจะส่งผลไปสู่ตอนจบของเรื่อง
นิยายที่ดีเป็นเรื่องของความสมดุล จะทำอย่างไรให้หล่อเลี้ยงความเครียดทางอารมณ์ได้ ขณะเดียวกันก็ผลักดันเรื่องไปข้างหน้า ทำให้คนอ่านเกิดความเข้าใจก่อนโดยไม่ด่วนสรุป เคล็ดลับคือ ไม่เขียนให้สั้นเกินไปหรือยาวเกินไป และจดจำไว้เสมอว่าตัวละครต้องเติบโตไปพร้อมกับคนอ่าน อย่าทำให้คนอ่านเหนื่อยหรือเบื่อ สร้างประสบการณ์ดีๆ สร้างจังหวะการอ่านที่เหมาะสม แล้วนิยายของคุณจะได้รับความรักและการยอมรับ
ทีมงานนักเขียนเด็กดี
1 ความคิดเห็น