ไทป์หมา VS ไทป์แมว : คุณเป็นนักเขียนสายไหนกัน

ไทป์หมา VS ไทป์แมว
คุณเป็นนักเขียนสายไหนกัน

 

สวัสดีค่ะชาวนักเขียนเด็กดีทุกคน เคยสงสัยมั้ยคะว่า ทำไมเวลาแต่ละคนเขียนนิยาย ถึงได้มีสไตล์การเขียนที่แตกต่างกันไป? นั่นก็เพราะบุคลิกของเรามีส่วนสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานน่ะสิ! วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันถึง 2 สายพันธุ์นักเขียนสุดคิ้วท์ นั่นก็คือไทป์หมา (Dog Type) กับไทป์แมว (Cat Type) ที่จะช่วยให้พวกเราเข้าใจตัวเองมากขึ้น และนำไปปรับใช้กับการเขียนนิยายให้ปังยิ่งกว่าเดิม!

 

 

ไทป์หมา : พวกเอเนจี้ล้นเหลือ

ไทป์หมาเป็นพวกมีพลังงานล้นเหลือ ร่าเริง ชอบเข้าสังคม ชอบพูดคุย ซื่อสัตย์ และเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์! จุดเด่นของคนไทป์นี้คือ มีความคิดสร้างสรรค์ มักคิดไอเดียใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา และชอบนำเสนอสิ่งแปลกใหม่ๆ ให้นักอ่านได้ตื่นเต้น อีกทั้งยังเป็นไทป์ที่เม้ามอยสนุก เล่าเรื่องได้น่าสนใจและมีชีวิตชีวา คนไทป์หมาถนัดมากๆ กับการทำงานร่วมกับผู้อื่น และเปิดรับความคิดเห็นจากคนรอบข้าง

 

เทคนิคการเขียนสำหรับคนไทป์หมา

ใช้เพื่อนร่วมวงการเพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ

ธรรมชาติที่ชอบเข้าสังคมทำให้คนไทป์หมาเก่งในการทำงานกลุ่ม ซึ่งการแบ่งปันงานเขียนกับคนอื่นๆ ไม่ว่าจะผ่านเวิร์คช็อปนักเขียน หรือทำโปรเจคเขียนร่วมกับนักเขียนคนอื่นๆ จะทำให้คุณได้ประโยชน์เพียบ

  • เข้าร่วมกลุ่มคนรักการเขียน: การเข้ากลุ่มนักเขียนหรือชุมชนออนไลน์จะทำให้คุณได้ฟีดแบ็คที่เป็นประโยชน์ ไอเดียใหม่ๆ และกำลังใจที่จะทำให้คุณเขียนนิยายได้ไม่หยุด การแบ่งปันงานเขียนกับคนอื่นๆ จะช่วยให้เราปรับปรุงไอเดียให้ดีขึ้น และมองเห็นเรื่องราวจากมุมมองที่ต่างออกไป
     
  • เขียนร่วมกันกับนักเขียนคนอื่น: ลองจับคู่กับเพื่อนนักเขียนเพื่อทำโปรเจคร่วมกันสิ นี่แหละคือสิ่งที่นักเขียนไทป์หมาจะชอบ นอกจากจะได้สนทนากับผู้คนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คุณได้ไอเดียใหม่ๆ ในการสร้างนิยายให้สนุกและชวนลุ้นมากกว่าเดิม

ลองทำแบบนี้ดู: หานักเขียนที่สามารถเป็นเพื่อนคู่คิดกับเราได้ แล้วมาช่วยกันคิดไอเดียนิยายสุดคูลด้วยกัน แบ่งงานกันเขียน แล้วก็หมั่นพูดคุยกันเป็นประจำเพื่อดูความคืบหน้า แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และช่วยกันผลักดันให้นิยายไปถึงฝั่งฝัน

 

มีวินัยในการเขียน

นักเขียนไทป์หมาจะทำงานได้ดีมากขึ้นเมื่อมีตารางการทำงานที่ชัดเจน เช่น เขียนตอนไหน เมื่อไหร่ วันละกี่คำ เป็นต้น ซึ่งการสร้างตารางการเขียนที่สม่ำเสมอ จะช่วยให้เรารู้เป้าหมายการเขียนในแต่ละวัน และยังทำให้เราเขียนนิยายไปจนจบได้อย่างง่ายดาย

  • ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: กำหนดเวลาที่เฉพาะเจาะจงเลยสำหรับการเขียน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนคำต่อวัน หรือเขียนให้จบหนึ่งบทภายในสุดสัปดาห์ จะวางเป้าหมายยังไงก็ได้ เอาที่เราถนัด แต่ขอให้ชัดเจนเข้าไว้นะ

ลองทำแบบนี้ดู: สร้างตารางการเขียนรายสัปดาห์ที่มีเป้าหมายแบบเฉพาะ ติดตามความคืบหน้าการเขียนทุกวัน และให้รางวัลกับตัวเองเมื่อบรรลุเป้าหมาย

 

ทำให้ตัวละครของเรามีชีวิตชีวา

เพราะไทป์หมาเป็นพวกชอบเข้าสังคมอยู่แล้ว การสร้างตัวละครที่ดูมีชีวิตชีวาและน่าสนใจก็ไม่ใช่เรื่องยาก ลองใช้ความสามารถในการเข้ากับคนอื่นๆ ได้ดี มาสร้างตัวละครที่ทำให้นักอ่านรู้สึกอินสิ รับรองว่าเรื่องราวจะน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นแน่

  • รู้จักตัวละครให้ดี: นึกภาพว่าตัวละครเป็นเพื่อนสนิท แล้วเราจะรู้เลยว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีความฝันอะไรบ้าง และผ่านอะไรมาบ้าง พยายามคิดให้ลึกไปเลยนะว่า ตัวละครของเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในตลอดเรื่อง
     
  • สร้างบทสนทนาที่สมจริง: สังเกตดูว่าเวลาคนเราคุยกันจริงๆ เขาพูดกันยังไง แล้วนำมาปรับใช้กับตัวละครของเรา แต่ละคนมีวิธีพูดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งบุคลิกของตัวละครส่งผลต่อวิธีการพูดด้วย

ลองทำแบบนี้ดู: เขียนฉากที่ตัวละครสองตัวมีปากเสียงกัน แต่ละคนอยากได้อะไรที่ขัดกัน ลองดูว่าพวกเขาจะพูดอะไรกันบ้าง ทำให้บทสนทนาแสดงออกถึงความรู้สึกและบุคลิกของแต่ละคน แล้วดูว่าการทะเลาะกันครั้งนี้จะทำให้เรื่องราวไปต่อที่จุดไหน

 

 

ไทป์แมว: เงียบๆ สังเกตเก่ง และลึกซึ้ง

คนไทป์แมวมักจะเป็นคนเงียบๆ ชอบอยู่คนเดียว ชอบสังเกตสิ่งรอบตัว และมีโลกส่วนตัวสูง การมองโลกของพวกเขามักลึกซึ้งเหมือนกับผ่านการคิดวิเคราะห์มาเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังถนัดการทำงานคนเดียวและรักอิสระมากๆ ด้วย คนไทป์นี้มักเก่งในการสร้างเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร และชอบให้งานเขียนของตัวเองมีความหมายแฝง

 

เทคนิคการเขียนสำหรับไทป์แมว

หาที่เงียบๆ เขียน

นักเขียนไทป์แมวจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่ออยู่คนเดียว เพราะมันเปิดโอกาสให้คุณได้ดื่มด่ำกับโลกจินตนาการได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีสิ่งรบกวน ใช้ความรักอิสระของคุณพาตัวเองปลีกวิเวกไปหาที่นั่งเขียนนิยายเงียบๆ

  • สร้างมุมเขียนส่วนตัว: ลองออกแบบมุมเขียนนิยายที่สะท้อนสไตล์ของคุณ ให้ความสงบและความเงียบที่คุณต้องการ พื้นที่นี้ควรจะปราศจากสิ่งรบกวน และอาจมีสิ่งของที่สร้างแรงบันดาลใจวางไว้ เช่น หนังสือ ศิลปะ หรือกลิ่นหอมที่ผ่อนคลาย
     
  • หาที่เงียบๆ เขียนคนเดียว: จัดตารางเวลาการเขียนเป็นประจำ โดยในช่วงเวลานั้นคุณสามารถอยู่คนเดียวเพื่อจมกับความคิดและนิยายของคุณได้ ใช้เวลาในการสำรวจไอเดียที่มีอย่างลึกซึ้ง และปล่อยให้จินตนาการของลื่นไหลอย่างเป็นอิสระ

ลองทำแบบนี้ดู: อุทิศหนึ่งวันให้กับการเขียนนิยาย ปิดการแจ้งเตือนทั้งหมด และใช้เวลาทั้งวันในการดื่มด่ำกับนิยายของคุณ

 

ปล่อยจินตนาการและสัญชาตญาณให้เป็นอิสระ

คนไทป์แมวมีจินตนาการที่ค่อนข้างจะล้ำลึกและชอบคิดอะไรแปลกใหม่ ลองใช้สัญชาตญาณของตัวเองในการสร้างเรื่องราวที่ไม่เหมือนใคร และทำให้คนอ่านรู้สึกอินสุดๆ ดูสิ

  • เขียนเรื่องราวที่ซับซ้อน: อย่ากลัวที่จะเขียนเรื่องราวที่ดูลึกซึ้งหรือดูท้าทาย เพราะความสามารถในการคิดวิเคราะห์จะช่วยให้เราถ่ายทอดความรู้สึกและประสบการณ์ที่มีออกมาได้อย่างลึกซึ้ง
     
  • ลองทำอะไรแปลกใหม่: ไม่จำเป็นต้องเขียนเรื่องราวตามสูตรเดิมๆ ลองเปลี่ยนวิธีการเล่าเรื่อง มุมมอง หรือแม้กระทั่งลำดับเหตุการณ์ดูสิ อาจจะได้เรื่องราวที่แปลกใหม่และน่าสนใจก็ได้

ลองทำแบบนี้ดู: เขียนเรื่องสั้นสักเรื่องที่มีพล็อตซับซ้อนหรือท้าทาย แล้วลองเล่าเรื่องในแบบที่ไม่เหมือนใคร ปล่อยให้สัญชาตญาณนำทางเราไปเลย!

 

จัดระเบียบไอเดียให้ดี

แม้ว่าคนไทป์แมวจะให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ แต่พวกเขาก็ชื่นชอบความสะอาดและความเป็นระเบียบทั้งในพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ทำงาน การนำความชอบนี้มาใช้กับการเขียน จะช่วยให้คุณมีระเบียบและมีสมาธิมากขึ้น

  • รักษาพื้นที่ทำงานให้เรียบร้อย: สภาพแวดล้อมที่สะอาดและเป็นระเบียบจะช่วยให้สมองของเราปลอดโปร่ง และลดความเครียด ทำให้เรามีความตั้งใจเขียนได้อย่างเต็มที่ ลองเคลียร์โต๊ะทำงานเป็นประจำดูสิ รับรองว่าจะรู้สึกสงบมากขึ้น
     
  • จัดระเบียบไอเดีย: ลองใช้เครื่องมืออย่าง mind map, outline หรือโน้ตในมือถือ เพื่อจัดเก็บไอเดียและข้อมูลที่เราค้นคว้ามา การจัดระเบียบแบบนี้จะช่วยให้เราใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นิยายของเราออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากขึ้น

ลองทำแบบนี้ดู: ลองใช้เวลาในการจัดระเบียบไอเดียสร้างสรรค์ของเราดู เขียน outline ที่ละเอียด แบ่งหมวดหมู่ข้อมูลที่เราค้นคว้ามา ทำให้โน้ตของเราเข้าถึงง่าย แล้วลองสังเกตดูว่าการจัดระเบียบแบบนี้จะช่วยให้เราเขียนได้ลื่นไหลมากน้อยขึ้นแค่ไหน

 

....................

 

 ไม่ว่าคุณจะเป็นไทป์หมาขี้เล่น หรือไทป์แมวสุดติสต์ ก็ลองหยิบเทคนิคดีๆ วันนี้ไปปรับใช้ และอย่าลืมว่าบุคลิกภาพของคนเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่แบบเดียว เราอาจจะมีทั้งนิสัยที่คล้ายหมาและแมวปนๆ กันไป ซึ่งการรู้จักตัวเองเป็นอย่างดีจะช่วยให้การเขียนนิยายพัฒนาค่ะ ดังนั้นรู้จักสไตล์ตัวเองไว้เยอะๆ แล้วมาสร้างนิยายที่มีคุณภาพกันค่ะ

 หากสนใจเคล็ดลับการเขียนหรืออยากเป็นนักเขียนที่เก่งขึ้น สามารถกดติดตามรวมบทความเด็ดได้ที่ "เปิดคัมภีร์! ส่งต่อเคล็ดลับที่จะทำให้การเขียนนิยายของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย!" เชื่อว่าน่าจะมีเคล็ดลับการเขียนที่ตรงใจทุกคนอยู่แน่ๆ ค่ะ

 

 พี่น้ำผึ้ง : )

 

ขอบคุณรูปภาพจาก unsplash

 

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น