สวัสดีค่า พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากวัยรุ่นเจ๋งๆ ที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และทำกิจกรรมดีๆ เพื่อตัวเองและสังคมค่ะ
ไม่รู้ว่าน้องๆ ถือคติว่า "เรื่องกินคือเรื่องใหญ่!" เหมือนกันมั้ยนะคะ เพราะตอนนี้มองไปทางไหนก็เจอร้านของคาว-หวานแข่งกันเยอะแบบไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว แต่โชคดีที่เรามีตัวช่วยตัดสินใจอย่างคน/เพจที่ช่วยมารีวิวร้านให้ตัดสินใจง่ายขึ้น หนึ่งในนั้นคือ สาวมหา'ลัยคนหนึ่งที่รักทั้งการกินและการถ่ายรูป จนได้มาเปิดเพจที่ตอนนี้มียอดวิวเกือบ 3 แสน! สิ่งสำคัญคือเธอใส่ความจริงใจลงไปเต็มที่ ใช้ความรู้สึกล้วนๆ แบบไม่มีอวยเลยค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปรู้จักเธอกันเลย~
แนะนำตัว
"สวัสดีค่ะ ชื่อ 'มุก' กุลธิดา กันต์พิทยา อายุ 22 ปี เรียนอยู่ปี 4 คณะบริหารฯ ม.เกษตร (บางเขน) ค่ะ เป็นเจ้าของเพจ 'เพนกวิ้นรีวิว GuinHungry' และไอจี 'guinhungry' นิสัยส่วนตัวคือเหมือนจะนิ่ง แต่จริงๆ ถ้าสนิทจะรู้เลยว่าบ้ามากก และเป็นคนคิดแล้วทำเลยค่ะ"
ชื่อเพจนี้...มีที่มาจากท่าเดิน!
"สมัยมัธยมมุกเป็นคนอ้วนค่ะ แล้วเพื่อนก็บอกว่าเราท่าเดินคล้ายๆ นกเพนกวิน เลยกลายเป็นที่มาของชื่อนี้ ส่วนรูปโปรไฟล์เพจปัจจุบัน รุ่นน้องวาดให้ค่ะ ><"
เพนกวินสายกินที่ชอบถ่ายภาพ
"เราเริ่มทำใน IG ก่อนค่ะ ตอนนั้นเรียนอยู่ปี 1 เทอม 2 ถ้านับก็ประมาณ 2 ปีแล้ว ส่วนในเฟซบุ๊กก็ประมาณปีนึง ทุกอย่างเริ่มใหม่หมดเลยค่ะ (ตอนนี้นานๆ ทีจะลงไอจี)"
เธอเล่าจุดเริ่มต้นการเป็นสายรีวิวให้ฟังว่า "เริ่มจากที่เราเป็นคนชอบกิน แถมทางบ้านซึ่งเป็นสายกินก็ชอบพาไปกินอะไรอร่อยๆ ประกอบกับที่เราเองชอบถ่ายภาพลงไอจีด้วย ถ้ากินแล้วชอบจะลงแล้วอธิบายว่าชอบเพราะอะไร พอมีรุ่นพี่คนนึงบอกว่าเราเขียนดีนะ เราเลยคิดอยากทำขึ้นมาจริงๆ ตอนนั้นก็เปิดไอจีใหม่ค่ะ ลงของกินแบบเป็นกิจลักษณะมากขึ้น รวมสิ่งที่เราเคยไปกินมา แยกออกจากชีวิตส่วนตัว ต่างจากไอจีเดิมที่มีทุกอย่าง"
"แรกๆ มุกยังใช้ไอโฟนถ่ายภาพค่ะ แล้วหลังจากนั้นเริ่มหากล้องตัวแรกมาใช้ คือ Fuji แล้วเปลี่ยนเป็น Sony จนปัจจุบันใช้ Canon ระหว่างนั้นเราจะชอบดูรูป ศึกษามุมกล้องจากคนอื่นๆ แต่ว่าเวลาที่ถ่ายรีวิวอาหาร มุกไม่ได้พึ่งทฤษฎีการถ่ายภาพขนาดนั้น แค่ใช้เซนส์ดูว่ามุมนี้มันน่ากินแล้วนะ เอามุมนี้แหละ"
ชอบการรีวิวแบบเรียลไทม์
"มุกจะรีวิวเฉพาะอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ บางครั้งเราอาจเห็นโพสต์ของรุ่นพี่แล้วไปกินตามบ้าง เพราะชอบลองของใหม่ๆ ชอบเดินเล่นด้วย"
เล่าให้ฟังหน่อยย... กว่าจะได้รีวิว 1 โพสต์ ต้องทำอะไรบ้าง? "อย่างแรกต้องดูร้านก่อนค่ะว่ามีอะไรเด็ด มุกจะพยายามเลือกเมนูแนะนำของเขา และไม่ค่อยซีเรียสเรื่องราคา ถ้าพอได้จ่ายได้ก็ลองเลยค่ะ บางทีแชร์เงินแชร์แคลอรี่กับเพื่อน 55555 พออาหารมาเสิร์ฟเราก็ถ่ายภาพกับวิดีโอค่ะ ใช้เวลาไม่นาน เพราะทิ้งไว้นานจะไม่อร่อย ถ้าเป็นไอศกรีมเดี๋ยวจะละลาย"
"มุกชอบรีวิวแบบ real-time ด้วยค่ะ ไม่ชอบสต็อกไว้ เราจะจำได้ว่ารสชาติ ความรู้สึกเป็นยังไง ยิ่งถ้าอันไหนอร่อยมากๆ ชีวิตนี้คงลืมไม่ได้เลยอะ555"
มีแพทเทิร์นในการโพสต์แต่ละครั้งมั้ย? "ไม่ขนาดนั้นค่ะ เราจะเล่าคร่าวๆ ว่าเรามาที่นี่นะ มากินอะไร รสชาติประมาณไหน แล้วแนะนำติชม ปิดท้ายด้วยพิกัดร้าน แต่เราจะไม่ลงรายละเอียดเยอะ เช่น พวกเบอร์ ราคา ฯลฯ เพราะคนที่สนใจสามารถหาข้อมูลต่อยอดจากเราได้อยู่แล้ว"
เสน่ห์อยู่ที่ความเป็นตัวของตัวเอง
ตอนนี้เพจเพนกวิ้นรีวิวมียอดไลก์เกือบ 3 แสนแล้ว โดยเธอเล่าว่าไม่ได้กดโปรเมตโพสต์ตัวเองเลย มีแต่ลูกค้ากด Boost โพสต์โฆษณาของเขาเท่านั้น ...ส่วนตัวมุกคิดว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้ยอดไลก์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ? "อาจเพราะเรารีวิวเหมือนวันแรก มันคงยังเป็นตัวเราอยู่ ภาพที่ออกมาอาจไม่สวยเวอร์อลังการ แต่เรารีวิวในเชิงคนที่ไปกินมาจริงๆ^^"
เคยเครียดจนร้องไห้ เพราะลูกค้าต่อว่าที่ไม่อวย!
เราต่างรู้กันว่าไม่ใช่นักรีวิวทุกคนที่พูดอย่างตรงไปตรงมา บางทีจะมีอวยงานลูกค้าบ้าง ทำให้ชาวเน็ตหลายคนเลือกจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง พูดถึงตรงนี้มุกเล่าว่า "ตั้งแต่เมื่อก่อนที่มุกยังไม่เริ่มรีวิว ก็รู้สึกไม่ชอบเพจอวยอยู่แล้ว มุกรู้สึกว่าทุกอย่างไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ พอเรามาทำเองจะมีติมีวิจารณ์ตามจริง แต่ถ้าไม่อร่อยจริงเราจะเลี่ยงไม่ลง ไม่งั้นจะทำให้ร้านดูลบเกินไป"
แล้วถ้างานนั้นเป็นงานลูกค้าล่ะ? "มาถึงเราจะบอกเค้าก่อนเลยว่า 'เรารีวิวตามจริงนะ ไม่อวย' ถ้าเขาโอเคแล้วต้องรับได้ ส่วนอีกกรณีคือเขาให้เราโฆษณาตรงๆ เราจะแจ้งแค่รายละเอียดที่ลูกค้าให้ แต่ไม่รีวิวเรื่องรสชาติเลย ซึ่งลูกเพจสังเกตได้ง่ายๆ เลยค่ะว่านี่คือโฆษณา"
"มีครั้งนึงที่ลูกค้าให้อวย แต่เราไม่อยากอวย เลยโดนว่า ทำเอาเครียดจนร้องไห้ เกือบเลิกทำเลย ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ ครั้งนั้นคือแย่สุด แต่ครั้งต่อไปก็อย่างที่บอกค่ะ เราจะตกลงกับลูกค้าก่อน"
ส่องคอมเมนต์ลูกเพจเพลินๆ
"ส่วนใหญ่คนที่คอมเมนต์จะแท็กชวนเพื่อนไปกินด้วยกัน ถ้าเราเห็นใครโพสต์เดี่ยวๆ จะเข้าไปคุยกับเขา ส่วนคนที่หาว่าเราอวยก็มี ทั้งที่จริงๆ อาจเป็นเพราะเรารสนิยมต่างจากเขา เช่น พอเราบอกอร่อย ใน 10 คน อาจมีคนเห็นด้วยกับเราแค่ 5-7 คนก็ได้ แต่เคยมีคนทักมาขอบคุณเรา เพราะเขาไปกินตามแล้วบอกชอบมากกก"
พอคนติดตามเยอะขึ้น มีปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นตามมาอีกบ้าง? "อาจมีปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ค่ะ เราได้เจอคนใหม่ๆ ที่อาจไม่ตรง target ซะทีเดียว ทำให้เราต้องศึกษาลูกเพจ ส่วนตัวเราชอบอ่านคอมเมนต์ ฟัง feedback แล้วปรับตัวอยู่แล้ว"
เติบโต & ก้าวออกจาก Comfort zone
มุกได้อะไรจากการสิ่งที่ทำมาตลอดบ้าง? "ชัดที่สุดคือเราพัฒนาเรื่องการวางตัว และการคุยงานกับลูกค้า เวลาเจอปัญหาแล้วรู้ว่าต้องแก้ยังไง"
"ที่ผ่านมาเราได้เจอคนมากขึ้น เป็นเวทีให้เราเดิน คนอื่นได้รู้จักตัวตนของเรา หรือบางทีเรายังไม่รู้จักกัน แต่ชอบเรื่องเดียวกัน ก็สามารถคุยกันได้ บางทีงานยังทำให้เราออกจาก comfort zone ด้วยนะคะ อย่างเวลาให้เขาให้เราไลฟ์ เราไม่เคยทำมาก่อน กลายเป็นได้ลองอะไรใหม่ๆ"
ทิ้งท้ายจากใจเพนกวิน
"มุกไม่อยากให้มองว่าวัยเรียนต้องเรียนอย่างเดียว หรืออย่ามองว่าคนทำงานพาร์ตไทม์จน เพราะเขาเก่งและแบ่งเวลาได้ สำหรับใครที่อยากหาตัวเองให้เจอว่าจะไปเส้นทางไหนดี ให้ถามตัวเองมากกว่าไปตามคนอื่น แล้วเราจะได้เรียนสิ่งนั้นอย่างมีความสุข อย่าแค่เรียนให้จบๆ ค่ะ พยายามตั้งเป้าหมายไว้ แล้วถ้าเราชอบ แล้วทำจนถนัด ขั้นต่อไปให้ลองมองไปถึงการสร้างเงินค่ะ"
(โอยย คุยไปก็หิวไป T_T) ปกติเคยเห็นเพจนี้รีวิวลอยไปมาตามเฟซตลอด ไม่คิดเลยว่าจะได้คุยกับเจ้าของเพจจริงๆ 5555 พออ่านจบพี่หวังว่าน้องๆ จะได้แรงบันดาลใจจากเพนกวินพลังบวกในวันนี้นะคะ พี่คิดว่าเขาเป็นไอดอลเรื่องการมุ่งทำสิ่งที่ตัวเองรัก และไม่เคยทำลายความเชื่อใจของลูกเพจเลย ถ้าไม่เชื่อ แวะไปที่เพจ เพนกวิ้นรีวิว GuinHungry ได้เลยค่ะ~
0 ความคิดเห็น