สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอกับ พี่เป้ และ KoreanKori เช่นเคย
ตอนนี้หลายคนคงทยอยสอบกลางภาคกันแล้ว ยังไงเล่นเน็ตแล้วก็อย่าลืม
อ่านหนังสือกันวันละบทสองบทด้วยนะ อิอิ ^^
ตอนนี้หลายคนคงทยอยสอบกลางภาคกันแล้ว ยังไงเล่นเน็ตแล้วก็อย่าลืม
อ่านหนังสือกันวันละบทสองบทด้วยนะ อิอิ ^^
มีน้องๆ หลายคนถามเกี่ยวกับ TOPIK หรือการสอบวัดระดับภาษาเกาหลีมา
เยอะมากๆๆ ช่วงนี้แหละได้โอกาสดีที่จะเขียนถึง เพราะเค้ากำลังจะเปิดรับ
สมัครสอบของปีนี้พอดีเลยค่ะ เอาล่ะ ใครมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการสอบ TOPIK
วันนี้ได้ไขข้อข้องใจแน่นอน!
เยอะมากๆๆ ช่วงนี้แหละได้โอกาสดีที่จะเขียนถึง เพราะเค้ากำลังจะเปิดรับ
สมัครสอบของปีนี้พอดีเลยค่ะ เอาล่ะ ใครมีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับการสอบ TOPIK
วันนี้ได้ไขข้อข้องใจแน่นอน!
TOPIK คืออะไร?
TOPIK ย่อมาจาก Test of Proficiency in Korean (한국어능력시험) หรือ "การสอบวัดระดับภาษาเกาหลี" สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องการเรียนต่อหรือทำงานที่เกาหลี ว่าเรามีความรู้ในภาษาเกาหลีในระดับที่เพียงพอหรือไม่ TOPIK นี่แหละที่เป็นจะตัวบอกได้
เนื้อหาการสอบเป็นยังไงบ้าง?
จะครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะค่ะ คือ ไวยากรณ์ การฟัง การอ่าน การเขียน
- ไวยากรณ์ เป็นคำถามเรื่องไวยากรณ์ค่ะ เช่น เติมคำในช่องว่าง หรือ ถ้าใช้ไวยากรณ์นี้ มีความหมายว่ายังไง หรือ มีตัวเลือกให้เลือก 4 ชอยส์ ชอยส์ไหนผิดไวยากรณ์
- ฟัง จะเป็นการฟังจากการเปิดเครื่องเสียง เป็นประโยคที่มีคนพูด แล้วอาจจะมีภาพให้เลือกว่าเค้าพูดตรงกับภาพไหน หรือคนที่พูดนั้นมีความรู้สึกยังไง เลือกชอยส์และตอบ
- อ่าน เป็นบทความมาให้อ่านหลายๆ บทความ เช่น แล้วมีคำถามบทความละ 3-4 ข้อ
- เขียน ต้องเขียนเรียงความค่ะ จะมีหัวข้อมาให้แล้วเราต้องเขียนตามจำนวนคำที่กำหนด (ประเด็นคือต้องแปลหัวข้อเรียงความให้ออกนะ ไม่งั้นถือว่าจบ 555)
TOPIK แบ่งระดับยังไง?
ข้อสอบ TOPIK มี 3 ระดับค่ะ คือ
- ระดับต้น แบ่งเป็นระดับ 1-2 เป็นระดับง่ายๆ ใครเรียนภาษาเกาหลีมาสักพักก็น่าจะสอบผ่านกันได้ไม่ยาก
- ระดับกลาง แบ่งเป็นระดับ 3-4 เป็นระดับที่คนเรียนวิชาเอกหรือวิชาโทภาษาเกาหลีสอบกัน
- ระดับสูง แบ่งเป็นระดับ 5-6 เป็นระดับที่ยากมากกกกค่ะ คนจะสอบผ่านได้นี่น่าจะระดับอาจารย์สอนภาษาเกาหลีหรือคนจบปริญญาโทจากเกาหลี
การคิดคะแนนของแต่ละระดับว่าจะผ่านระดับไหน คิดยังไง?
สำหรับการคิดคะแนนว่าจะผ่านระดับไหน อาจจะงงกันเล็กน้อย ยกตัวอย่างได้ว่า ถ้าน้องๆ สอบระดับต้น ซึ่งมีระดับ 1-2 นั้น จะมีกำหนดว่า
- หากต้องการสอบผ่านระดับ 1 จะต้องทำคะแนน 4 พาร์ท ทั้งไวยากรณ์ ฟัง อ่าน เขียน ให้ได้อย่างน้อยพาร์ทละ 40 คะแนน(แต่ละพาร์ทมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน) และต้องได้คะแนนรวมทั้งหมดเกิน 60% หรือ 240 คะแนนขึ้นไป
- หากต้องการสอบผ่านระดับ 2 จะต้องทำคะแนน 4 พาร์ท ทั้งไวยากรณ์ ฟัง อ่าน เขียน ให้ได้อย่างน้อยพาร์ทละ 50 คะแนน(แต่ละพาร์ทมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน) และต้องได้คะแนนรวมทั้งหมดเกิน 70% หรือ 280 คะแนนขึ้นไป
ยกตัวอย่างเช่น คิมแทยอน ทำคะแนนรวมได้ 280 คะแนน โดยได้คะแนนพาร์ทไวยากรณ์ 85 การฟัง 85 การอ่าน 70 แต่ดันซวยได้การฟังแค่ 40 คะแนนเท่านั้น ดังนั้นคิมแทยอนจะถือว่าสอบผ่านระดับ 1 นะคะ ไม่ใช่ระดับ 2 ต่อให้คะแนนรวมได้ 280 คะแนนก็เถอะ
หรือบางคนได้ทุกพาร์ท 90 คะแนน ยกเว้นพาร์ทการอ่านที่ดันไปซวยทำไม่ทัน ทำให้คะแนนการอ่านได้แค่ 20 คะแนนเท่านั้น แบบนี้ก็ถือว่าสอบไม่ผ่านระดับไหนเลยค่ะ ซวยมากขอบอกกกกก
สำหรับระดับกลาง (3-4 ) และระดับสูง (5-6) ก็ใช้วิธีคิดคะแนนแบบนี้เช่นเดียวกันค่ะ พอนึกภาพออกแล้วเนาะ
จะสอบข้ามระดับได้มั้ย?
น้องๆ บางคนที่คิดว่าระดับต้นง่ายไป เลยอยากจะข้ามไปสอบระดับกลางเลย ก็สามารถทำได้ค่ะ ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด
ถ้าสอบไม่ผ่าน จะสอบซ้ำในปีหน้าได้มั้ย?
ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา หรือใครเกิดสมัครไว้แล้วขี้เกียจไปสอบในวันจริงก็ไม่เป็นไรค่ะ
อยากชิงทุนเรียนต่อเกาหลี ควรสอบวัดระดับได้ระดับใด?
อย่างที่บอกไปแล้วว่าระดับต้นเป็นระดับที่ค่อนข้างง่าย คนส่วนมากสอบผ่านกัน ดังนั้นถ้าอยากจะดูโดดเด่นกว่าชาวบ้าน พี่คิดว่าควรสอบได้ระดับ 3 ขึ้นไปค่ะ ยิ่งใครได้ระดับ 4 นี่นะ โอ้โห มีโอกาสกว่าคนอื่นมากๆๆๆ เลยค่ะ
สอบเมื่อไหร่?
ในประเทศไทยจะจัดสอบปีละ 1 ครั้งเท่านั้น ย้ำว่าปีละครั้งเท่านั้น พลาดครั้งนี้ต้องรอปีหน้า มีสนามสอบ 2 แห่งคือ
- ในกรุงเทพฯ คือ โรงเรียนนานาชาติเกาหลี แถวหนองจอก
- ในภาคใต้ ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
สำหรับปีนี้จะจัดสอบในวันที่ 20 ตุลาคม 2013 ค่ะ
โดยระดับต้นและระดับสูงจะสอบพร้อมกันคือตั้งแต่ 9.00.12.30 น. ส่วนระดับกลางจะสอบตอน 14.00-17.30 น.
ดังนั้นหลายคนจึงนิยมสมัครสอบทั้งระดับต้นและระดับกลางค่ะ เนื่องจากเวลาสอบไม่ชนกันนั่นเอง
สมัครสอบยังไง?
การสมัครสอบสามารถทำได้หลายวิธีค่ะ
1. ไปสมัครสอบด้วยตนเองที่โรงเรียนนานาชาติเกาหลี (ค่อนข้างไกลสักหน่อย)
2. สำหรับคนที่เรียนภาษาเกาหลีที่โรงเรียนหรือที่คณะ อาจจะไปสมัครสอบที่อาจารย์ได้นะคะ เพราะอาจารย์บางท่านก็จะรวบรวมแล้วไปสมัครให้ทีเดียวค่ะ
3. สำหรับคนที่เรียนภาษาเกาหลีตามโรงเรียนสอนพิเศษ ก็สามารถสมัครกับทางโรงเรียนได้ค่ะ โรงเรียนจะรวบรวมแล้วไปสมัครให้ทีเดียวเหมือนกัน
4. สมัครผ่านบริษัทตัวแทนอื่นๆ ที่ดูแลเรื่องการไปเรียนต่อเกาหลี
5. ส่งเอกสารการสมัครไปยังโรงเรียนนานาชาติเกาหลี
Korean International School of Bangkok 29/19 หมู่ 6 ซอยมิตรไมตรี 28 หนองจอก กรุงเทพฯ 10530
สำหรับปีนี้จะรับสมัครสอบ 1-15 สิงหาคมเท่านั้น
เอกสารที่ใช้ในการสมัครมีอะไรบ้าง?
1. ใบสมัคร ดาวน์โหลดได้ที่นี่ http://kisbangkok.co.kr/?act=board.read&code=21&num=8&id=8
2. รูป 2 ใบ ขนาด 3x4 cm
3. ค่าสมัครระดับละ 700 บาท (หากใครจะสมัครทางไปรษณีย์ ให้ใช้สลิปโอนเงินตามบัญชี ธนาคารกรุงเทพ 217-087284-6 Korea Internation School of Bangkok)
หากใครสมัคร 2 ระดับ ก็ต้องใช้เอกสารแบบนี้ 2 ชุดนะคะ โดยพอสมัครแล้วจะได้รับบัตรประจำตัวผู้สอบไว้เป็นหลักฐานเข้าห้องสอบ
ควรเตรียมตัวอ่านยังไง?
ถ้าสอบระดับต้นไม่ต้องซีเรียสค่ะ มันไม่ยาก(จริงๆ นะ) แต่ถ้าจะสอบระดับกลางขึ้นไป อาจจะต้องติวกันหนักหน่อย เช่น หาซื้อหนังสือเตรียมสอบ TOPIK มาอ่านโดยเฉพาะ ลองเซิร์ชตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือหากมีเพื่อนจะไปเที่ยวเกาหลี ลองฝากเพื่อนซื้อก็ได้ค่ะ
ดาวน์โหลดตัวอย่างข้อสอบเก่าๆ ได้ที่ไหน?
เข้าไปดาวน์โหลดมาลองทำกันได้ที่นี่เลยค่ะ
- ระดับต้น ครั้งที่ 29 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับกลาง ครั้งที่ 29 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับต้น ครั้งที่ 30 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับกลาง ครั้งที่ 30 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับต้น ครั้งที่ 29 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับกลาง ครั้งที่ 29 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับต้น ครั้งที่ 30 ข้อสอบ คลิปเสียง
- ระดับกลาง ครั้งที่ 30 ข้อสอบ คลิปเสียง
ควรระมัดระวังอะไรบ้างในการสอบ?
อันนี้จากประสบการณ์โดยตรงของพี่นะคะ เรื่องที่ต้องระวังคือ
1. ท่องศัพท์เยอะๆ ค่ะ ช่วยได้มากเลย เพราะมันจะชอบมีออกข้อสอบประมาณว่า "ศัพท์คำนี้มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่าอะไร" มีออกเยอะมากๆ เกือบสิบข้อ เช่น
수지는 이번 시험에 합격하지 못해서 후회한다.
(1) 행복하다 (2) 슬프다 (3) 떨리다 (4) 부족하다.
2. พาร์ทการฟัง ต้องลุ้นค่ะว่าเราจะได้นั่งตรงไหนของห้อง จะได้ยินเทปที่เค้าเปิดชัดมั้ย อย่างพี่เคยไปสอบครั้งนึง เทปเสียงแย่มากกกกกก เสียงเป็นทุ้มๆ คือฟังไม่ออกเลยค่ะว่าพูดว่าอะไร ฟังไม่ออกแม้กระทั่งว่าคนพูดเป็นผู้ชายผู้หญิง เจ็บใจมากๆๆๆๆ (ยังโกรธถึงทุกวันนี้)
3. พาร์ทการเขียน ที่ต้องเขียนเรียงความ ควรใช้ดินสอเขียน เวลาลบจะได้ลบแก้ง่ายๆ และพอทำข้อสอบส่วนอื่นเสร็จแล้วยังมีเวลาเหลือ ค่อยกลับมาใช้ปากกาเขียนทับอีกที นอกจากนี้ คนที่อยากลองสอบวัดระดับกลาง เวลาเขียนเรียงความก็ควรใช้ไวยากรณ์ในระดับที่สูงขึ้นให้สมกับที่มันเป็นระดับกลางด้วยค่ะ ไม่ใช่เขียนแต่ประโยคง่ายๆ เพราะคนตรวจข้อสอบเค้าให้คะแนนจากเรื่องไวยากรณ์ด้วย เขียนถูกทุกคำไม่ได้แปลว่าจะได้คะแนนเยอะนะจ๊ะ หัวข้อที่พี่เคยเจอ ระดับต้นก็เช่น ให้เล่าถึงครอบครัว ส่วนระดับกลางเคยเจอว่า ให้เขียนข้อดีข้อเสียของตัวเอง
4. พาร์ทการอ่าน ใครอ่านช้านี่ทำไม่ทันแน่นอน เพราะบทความนึงก็ 5-6 บรรทัดแล้ว แถมมีหลายบทความอีก ดังนั้นถ้าอ่านบรรทัดแรกแล้วรู้สึกแปลไม่ออกแน่นอน ควรข้ามไปอ่านบทความอื่นต่อทันทีเลยค่ะ อย่าเสียเวลาอ่านต่อ เดี๋ยวไม่ทัน
5. ส่วนอุปกรณ์เครื่องเขียนที่จะนำเข้าห้องสอบนั้น ทางสนามสอบจะมีปากกาเมจิกสีดำแจกให้เราใช้ฝนคำตอบที่ถูกต้องค่ะ (เป็นปากกาที่ใช้ดีมากกกก) แต่หากจะแก้ไขเพื่อเปลี่ยนคำตอบ ต้องยกมือขอลิขวิดจากอาจารย์คุมสอบนะคะ รู้สึกว่าลิขวิดทั่วไปจะใช้ไม่ได้
การเดินทางไปสนามสอบ ควรเดินทางยังไง?
ในที่นี้ขอพูดถึงโรงเรียนนานาชาติเกาหลีที่อยู่แถวหนองจอกนะคะ ถือว่าไกลจากตัวเมืองมากๆ แถมข้างทางก็ไม่ค่อยมีบ้านคนด้วย ถ้าเป็นไปได้ควรให้คุณพ่อคุณแม่ไปรับส่งค่ะ เพราะโรงเรียนไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ ไม่มีรถใดๆ หรือรถแท็กซี่ผ่านนะคะ แต่ถ้าใครคิดจะเดินทางไปเอง วิธีที่ดีที่สุดคือนั่งรถไปลงแถวๆ ตลาดมีนบุรี จากนั้นให้ต่อแท็กซี่ไปยังโรงเรียนค่ะ ค่าแท็กซี่จะประมาณ 80-100 บาท นอกจากนี้ ทางโรงเรียนจะมีบริการรถตู้ของโรงเรียนไปส่งผู้สอบหลังจากสอบเสร็จที่ตลาดมีนบุรีด้วยค่ะ พอสอบเสร็จแล้วขอให้รีบมากระโดดขึ้นรถเลย เดี๋ยวรถเต็มแล้วจะอด
TWITTER @PAYDEKD
ภาพประกอบ : http://blog.daum.net/wuliivy/470870 , etoday.co.kr , http://hanmalgeul.kr/
ผลสอบออกเมื่อไหร่?
ตามกำหนดผลสอบจะออก 3 ธันวาคมค่ะ โดยสามารถเช็คผ่านเว็บไซต์ http://www.topik.go.kr/ และหลังจากผล
ออกผ่านเว็บไซต์ไม่เกิน 1 เดือน เราก็จะได้รับผลสอบตัวจริงส่งมาที่บ้านด้วย โดยผลสอบจะเก็บไว้ใช้ได้ 2 ปีค่ะ
ออกผ่านเว็บไซต์ไม่เกิน 1 เดือน เราก็จะได้รับผลสอบตัวจริงส่งมาที่บ้านด้วย โดยผลสอบจะเก็บไว้ใช้ได้ 2 ปีค่ะ
|
TWITTER @PAYDEKD
ภาพประกอบ : http://blog.daum.net/wuliivy/470870 , etoday.co.kr , http://hanmalgeul.kr/
32 ความคิดเห็น
คิดว่าถ้าทำข้อสอบบ่อยๆจะชินกับข้อสอบและทำได้นะคะ
เพราะเท่าที่ครูที่โรงเรียนให้หนูทำคำศัพท์จะค่อนข้างซ้ำกันเยอะอยู่พอสมควร
แอบเสียใจที่เกาหลีมีสอบสองรอบที่ไทยดันให้สอบรอบเดียวซะงั้น TT
ใครจะไปสอบแล้วเจอกันนะคะ :)
จากที่งงมาเป็นนานปี
ใครบ้างจะไม่สนใจ ก็วันนี้เรามีอาเสริมมานำเสนอ ปลอดภัย 100% ผ่านการรับรองจาก อย.ต่างประเทศและ อย.ไทย เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวนี้มี อย. ปลอมอยู่เยอะไป คุณอาจจะยังไม่เชื่อ สามารถโทรเช็คได้เลยค่ะ ผอมแล้วไม่โยโย่ 5 วันเห็นผล ขาว 3วันผิวเริ่มใส 7 วันผิวเริ่มขาว สนใจ คลิก เลยยยhttp://www.slim-sure.com/id.php?id=363
หรือ ติดต่อโดยตรง 089-220-8299 (จอย)
ขอให้มี Korean Kori ไปนานๆนะคะ เฮ้ !!
แปลไม่ออกสักตัวขนาดระดับง่าย 55555
ตอบ (2) 슬프다 >O<
เค้าจะส่งหลักฐานการสมัครกลับมาหรือเปล่าคะ
อยากสอบจัง แต่พื้นฐานตอนนี้นี่คือ 0 เหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียว
ปีหน้าล่ะกัน...