สุขสันต์วันเกิดเว็บ Dek-D อายุครบ 14 ปี ก้าวสู่ปีที่ 15!!! ปี 2014 นี้ Dek-D.com เริ่มต้นปีใหม่ด้วย ความยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะสองบิ๊กบอส “พี่เว็บมาสเตอร์โน้ต” และ“พี่เว็บมาสเตอร์ปอนปอน” ทุ่มงบขนทีมงาน ร่วม 50 ชีวิต ไปทัวร์ฮ่องกงแบบกินอยู่ดีเที่ยวฟรียกออฟฟิศ เรียกว่าฟินส่งท้ายปีสุดๆ

ก่อนไป... ชาวเด็กดีคึกยิ่งกว่าม้าศึก เพราะตั้งแต่รู้ว่าเราจะได้ไป “ฮ่องกง” ด้วยกัน ทีมงานทุกคนก็เฝ้าเช็กสภาพอากาศ แมทช์ชุด เตรียมพร็อบ ทำตารางช็อปปิ้ง เช็กลิสต์ของกินที่ห้ามพลาด ฯลฯ ล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ ไม่ได้เห่อเลยจริงจริ๊ง ฮ่าๆ หลังจากที่คิดว่าวางแผนกันมาดีแล้ว ผลออกมาเป็นอย่างไร ไปดูเลย!

หลังจากตื่นมาแต่งหน้าฉ่ำกันตั้งแต่ไก่โห่ พวกเราก็ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วย สายการบินฮ่องกงแอร์ไลน์
ใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง ไปถึง สนามบินเช็คแลปก๊อก ท่าอากาศยานหลักของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
สาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดใช้เมื่อปี พ.ศ. 2541 แม้ว่าสนามบินเช็คแลปก๊อกจะมีประวัติไม่ยาวนานนัก
แต่ก็เคยได้รับรางวัลท่าอากาศยานยอดเยี่ยมระดับนานาชาติมาหลายครั้ง จนกระทั่งเสียตำแหน่งให้สนามบินชางงี
ประเทศสิงคโปร์ไปเมื่อปี พ.ศ. 2549 นอกจากนี้ ในแต่ละปีสนามบินเช็คแลปก๊อกยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 45 ล้านคน
และน้ำหนักสินค้าอีก 3 ล้านตัน ...
ดูสิว่ามีคนมาเที่ยวฮ่องกงมากมายขนาดไหน!

ที่พักของเราอยู่ในย่านนาธาน ซึ่งย่านนี้เป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของฮ่องกง มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง
โดยเฉพาะเสื้อผ้า แน่นอนว่าเต็มไปด้วยเสื้อผ้ากันหนาวที่ทุกร้านขนออกมาแข่งกันลดราคา
เพราะช่วงที่เราไปอากาศที่ฮ่องกงค่อนข้างเย็นทีเดียว

ที่ “Avenue Of Star” เราคาดหวังว่าจะได้พบกับ “รอยประทับมือของบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นแรงบันดาลใจ
ของโลกฮอลลีวู้ดตะวันออก”
(ตามที่หาข้อมูลมา) แต่พอไปถึง บ้าจริงเชียว! คนเยอะมากกกกก!!! นั่นเพราะว่า
ได้เวลาของโชว์อลังการสะท้านเกาะฮ่องกง “A Symphony of Lights” นั่นเอง

 

ใครๆ ก็แห่ไปชมพร้อมกันในค่ำคืนนี้ โชว์ที่ว่านี้ก็คือ การแสดงมัลติมีเดียสุดตระการตาที่ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊กว่า
เป็นการแสดงแสงและเสียงถาวรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุมพื้นที่อาคารตึกระฟ้าสำคัญต่างๆ ที่ตั้งอยู่สองฝั่งของอ่าววิคตอเรีย
โดยบนดาดฟ้าของตึกเหล่านี้ประดับไปด้วยแสงไฟ ซึ่งเพียงกดสวิตช์ก็จะส่องแสงสว่างตระการตาเป็นสีต่างๆ
แสดงให้เห็นถึงบรรยากาศอันคึกคักของฮ่องกงนั่นเอง ...สวยอลังการจริงๆ พูดเลย!

วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม นี้ คนฮ่องกงนิยมไปสักการะกันเป็นจำนวนมาก โดยมีความเชื่อกันว่า ถ้าหมุนกังหัน 3 รอบ
จะขับไล่สิ่งชั่วร้ายหรือสิ่งไม่เป็นมงคลออกไปและนำแต่สิ่งดี ๆ มาให้
พี่จูนและชาวเด็กดีก็ไปจัดมาแล้วคนละ 3 รอบ
พร้อมกับนำสิ่งดีๆ มาฝากน้องๆ ที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วย ^^

จุดชมวิว เขาวิคตอเรีย หรือ VICTORIA POINT ที่มีความสูง 397 เมตร ที่นี่เราจะได้ดูทิวทัศน์แบบพาโนรามา 360 องศา
ของเกาะฮ่องกง เกาลูน ตลอดจนเกาะใหญ่น้อยในทะเลจีนใต้
...ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแต่ก็ได้วิวสวยๆ มาเพียบเลยล่ะ
แถมอากาศยังดีซะจนอยากจะนั่งเล่นสักครึ่งวัน ฮ่าๆ

อ่าวรีพลัสเบย์ เป็นชายหาดน้ำตื้นที่ชาวฮ่องกงนิยมมาปิกนิกชายทะเล อากาศดี ชายหาดสะอาด บรรยากาศไม่ต่างจากทะเลบ้านเรา
แต่ที่พิเศษกว่าคือ ที่นี่มี เจ้าแม่กวนอิม และเทพเจ้าต่างๆ ก่อสร้างประดิษฐานไว้มากมายตามความเชื่อถือศรัทธา
...เพราะฉะนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทำไมพวกเราแทบไม่ได้เดินเล่นชายหาด มัวแต่ไหว้เทพเจ้าขอพรกันอยู่นั่นเอง อิอิ

เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อยืนยันว่าเรามาถึงฮ่องกงกันแล้วจริงๆ จะพลาดสองสิ่งนี้ไปไม่ได้เด็ดขาด การเดินทางไปสักการะ
พระใหญ่โป่วหลิน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของเกาะฮ่องกงนั้นเราจะต้องนั่ง กระเช้า Ngong ping 360 จากตุงชุงสู่ที่ราบนองปิง

โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที ระหว่างที่อยู่ในกระเช้า นอกจากได้ชมทิวทัศน์ของเกาะลันเตาแบบ 360 องศาแล้ว
ยังได้พบกับสถาปัตยกรรมจีนโบราณของหมู่บ้านนองปิงบนซึ่งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 371 เมตร อีกด้วย ...
เมื่อถึงจุดหมาย
ก็เดินเท้าต่ออีกนิดขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อสักการะองค์พระใหญ่ซึ่งสร้างจากการเชื่อมแผ่นสัมฤทธิ์ถึง 200 แผ่น หนัก 250 ตัน
และสูง 34 เมตร องค์พระหันพระพักตร์ไปยังเนินเขาเบื้องล่างบริเวณทะเลจีนใต้
...สวย สงบ น่าประทับใจสุดๆ แถมอากาศก็เย็นจับใจจริงๆ เลยล่ะค่ะ

หากไม่ตระเวนกินเที่ยวและช็อปปิ้ง ก็เห็นจะเสียโอกาสที่อุตส่าห์ยกพวกมาถึงฮ่องกง อิอิ

ฮ่องกงขึ้นชื่อเรื่องช็อปปิ้งและของกินอร่อยเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว
ดังนั้นไม่ใช่เรื่องยากที่จะตามลายแทงไปหาของอร่อย ปิดท้ายด้วยของฝาก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และของใช้อื่นๆ อีกมากมาย

เรียกว่าขากลับกระเป๋าเดินทางแน่น แต่เดินตัวเบาเพราะเงินหมดกันทุกคน ฮ่าๆ ...ไปดูรูปกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง ^^

แท็กซี่ที่ฮ่องกง

แท็กซี่ที่ฮ่องกงมีการจำกัด จำนวนคนนั่ง โดยจะมีป้าย บอกไว้บนตัวรถ โดยปกติ

จะห้ามนั่งเกิน 5 คน

การเป็นเจ้าของรถยนต์หนึ่งคัน

ที่ฮ่องกงต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก
เพราะนอกจากค่ารถ ค่าน้ำมันแล้ว ยังต้องซื้อประกัน
ซื้อที่จอด และค่าดูแลอื่นๆ อีกด้วย เนื่องจากฮ่องกงมีพื้นที่จำกัด คนที่มีรถยนต์จึงมักเป็นคนที่มีฐานะดี

ตึก อาคาร

และสิ่งปลูกสร้างที่ฮ่องกงมักมีรูปร่างแปลกตา

เพราะคนฮ่องกงเชื่อและเคร่งครัดในเรื่องฮวงจุ้ยมาก

การต่อแถวเดินขึ้น-ลงบันได

จะต้องยืนชิดขวา โดยซ้ายมือจะไว้สำหรับ

ผู้ที่ต้องการความรีบเร่ง

สนามบินเช็คแลปก๊อก

มีกฎในการปิดประตูเครื่องก่อนขึ้นบิน 20 นาที โดยพนักงานก็รักษากฎอย่างเคร่งครัดมาก

ถ้าคุณมาไม่ทันมีสิทธิ์ตกเครื่องแน่นอน

คนฮ่องกงนิยมดื่มชาร้อน

ตามร้านอาหารจึงมักเสิร์ฟชาร้อนแทนน้ำเย็น และแน่นอนว่ามันร้อนมาก ควรระวังก่อนดื่มชา

การรอรถแท็กซี่
หรือรถประจำทาง

ต้องรอในจุดที่กำหนดเท่านั้น ส่วนการขึ้น-ลงก็จะจอดเฉพาะจุด

ที่กำหนดไว้เช่นกัน

ธนบัตรฮ่องกง

แม้จะมีมูลค่าเท่ากันแต่ก็มีหลายลาย เพราะมี

หลายธนาคารที่รับผิดชอบการพิมพ์ และการผลิต

สิ่งที่เหมือนกันอยู่อย่างเดียวคือสีที่จำแนกตามราคา

ฮ่องกงมีอาหารหลากหลาย

หลายเมนูมีราคาสูง แต่จานใหญ่มาก
หากคิดจะสั่งทานของใครของมัน
ระวังจะทานไม่หมด

ย่านการค้าของฮ่องกง

คนฮ่องกงส่วนมากมักพูดหรือฟังภาษาไทยได้
เพราะฉะนั้น อย่าเผลอเม้าท์เจ้าของร้านเข้าล่ะ

พี่จูน
พี่จูน - Columnist บ.ก.บันเทิง/ไลฟ์สไตล์ ใจดีกว่าหน้าตา รักสัตว์ รักเด็ก อยากเป็นนางเอกและนางงาม

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
sayGOOD 2 ธ.ค. 60 19:29 น. 2

เราขอใช้รูปไปลงบล็อกนะ พอดีเราเคยไปแล้วแต่เราเปลี่ยนมือถือรูปเลยหาย พอครูให้ทำบล็อกก็แย่เลย เดี้ยวเราติดเครดิตให้นะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด