โรงน้ำชา ร้านเหล้า เรียวกังและผับบาร์
พัฒนาการที่มีอะไรมากกว่าที่คุณคิด!!
สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีไรเตอร์ทุกคน พบกันอีกครั้งกับพี่หญิง ในวันนี้ มาในหมวด "สาระวรรณกรรม" ซึ่งเป็นบทความที่ให้ประโยชน์แก่นักเขียนทุกคน ให้สามารถนำข้อมูลไปประกอบการเขียนนิยายขอตนได้ค่ะ
ปล.พี่หญิงขอแบ่งยุคตามยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดนะคะ ^^
ยุคแรก ผับบาร์และเครื่องดื่มมึนเมา
สมัยมุโระมะชิ (ค.ศ.1333-1568)

ที่มา http://www.sakayanyc.com/blog/wordpress/wp-content/uploads/2007/10/dainihon-meisan-zue-sake-making.jpg
แรกเริ่มนั้น ประเทศญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมการดื่มชาและการดื่มเหล้ามาจากประเทศจีน โดยทางคณะทูตและการเผยแพร่ศาสนา ระยะแรก ชาและสาเกถูกใช้เพื่อในพิธีกรรมทางศาสนา การดื่มชา เหล้า มีในชนชั้นสูง ขุนนางเท่านั้น ต่อมามีการปลูกใบชาสำหรับชงดื่มกันเองภายในครอบครัว รวมทั้งหมักเหล้าดื่มเองที่เรียกกันว่า “สาเก” และเมื่อความนิยมในการดื่มชาและดื่มสาเกแพร่ขยายในสังคมมากขึ้น จึงทำให้เกิดโรงน้ำชาหรือโรงเหล้าที่จำหน่ายทั้งน้ำชาและสาเกเพื่อตอบสนองต่อความนิยมของชาวญี่ปุ่น โดยสมัยโบราณก่อน ยุคมุโระมะชิ โรงน้ำชากับร้านเหล้าไม่ได้แยกออกจากกัน โรงน้ำชาจึงมีบริการเหล้าแก่คนชั้นสูงหรือพวกนักรบ พอเข้าสู่ยุคมุโระมะชิจึงเริ่มแยกตัวออกจากกัน ก่อให้เกิดเป็น "ซากะยะ" หรือร้านเหล้า กับ "ซายะ" หรือร้านน้ำชา
บทบาทในสังคม
กลุ่มผู้ใช้บริการ
ผู้ให้บริการ

ภาพแสดงการใช้บริการของคนชั้นสูงและการให้บริการของเกอิชา
[**เกอิชา คือผู้ให้บริการ และสร้างความบันเทิงแก่ผู้ชายที่มีอำนาจทั้งหลาย (ไม่ได้เป็นทั้งภรรยาและโสเภณี) คำว่าเก หมายถึง ศิลปะ ในภาษาญี่ปุ่น เกอิชาจะใช้ดนตรี ศิลปะ การขับร้อง หรือการร่ายรำ มาสร้างความบันเทิงแก่ผู้ใช้บริการ คำว่าเกอิชา เป็นชื่อที่คนทั่วไปรู้จัก ทว่าสำหรับคนญี่ปุ่นแล้วส่วนใหญ่จะเรียกว่า "มาอิโกะ" นักร่ายรำ หรือ "เกอิโกะ" ผู้มีศิลปะ]
(ประเทศญี่ปุ่นมีการรับอิทธิพลความเชื่อ "ขงจื้อ" มาจากจีนที่ให้ความสำคัญกับเพศชายมากกว่า นอกจากนี้ในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ผู้หญิงในยุคนั้นที่ยังไม่ออกเรือนห้ามออกจากบ้าน เมื่อแต่งงานไปแล้วก็ให้อยู่แต่ในบ้านสามี)
ยุคที่2 ผับบาร์และเครื่องดื่มมึนเมา
สมัยเอโดะ (ค.ศ.1600-1868)
บทบาทในสังคม
ยุคนี้นอกจากจะใช้ชาและสาเกเพื่อพิธีการทางศาสนาแล้ว ยังมีการดื่มเพื่อเป็นการเข้าสังคมและแสดงถึงฐานะที่ร่ำรวยอีกด้วย ส่วนใหญ่แล้ว โรงน้ำชามักถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงละครคาบูกิ
[คาบูกิ เป็นการแสดงละครการร่ายรำประกอบดนตรีของญี่ปุ่น มีพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นการแสดงที่เข้าถึงประชาชนได้ง่าย ระหว่างการแสดง จะมีจัดแสดงตลกหรือที่เรียกว่า "เคียวเง็น" คั่น เพื่อเป็นผ่อนคลายความตึงเครียดจากการแสดงคาบูกิ ซึ่งระยะแรกนั้นมีผู้แสดงทั้งชายและหญิง (ผู้หญิงที่แสดงส่วนใหญ่ช่วงนั้นทำงานเป็นโสเภณีด้วย) ต่อมารัฐบาลโชกุนจึงมีการออกกฏให้นักแสดงคาบูกิเป็นเพศชายเท่านั้น (นี้อาจเป็นสาเหตุของการเกิดการรักร่วมเพศในญี่ปุ่นก็ได้ ถึงว่ากระแส Yaoi ถึงมาแรง อิอิ)]
กลุ่มผู้ใช้บริการ
เครื่องดื่ม
ยุคที่ 3 ผับบาร์และเครื่องดื่มมึนเมา
สมัยเมจิ (ค.ศ.1868-1912)
เครื่องดื่ม
ยุคที่ 4 ผับบาร์และเครื่องดื่มมึนเมา
สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1912-1989)
ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้เศรษฐกิจของญี่ปุ่นไม่มั่นคง ส่งผลให้ธุรกิจโรงน้ำชาและร้านเหล้าเริ่มซบเซาลงมาก อัตราการใช้บริการโรงน้ำชาลดน้อยลง รัฐบาลมีการควบคุมการขนส่งธัญพืชต่างๆ โดยเฉพาะข้าว กล่าวคือผู้ผลิตต้องส่งไปยังส่วนกลางและรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลเป็นผู้แจกจ่ายให้แก่ประชาชน เนื่องจากข้าวที่ใช้ในการผลิตไม่เพียงพอนี่แหละก็เลยทำให้มีการผลิตเหล้าสาเกขึ้นด้วยการเติมแอลกอฮอล์ผสมเข้าไปด้วย เรียกว่า ซัมไบโซโจซุ นอกจากนี้ยังมีร้านเหล้าขนาดเล็กเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับผู้ใช้บริการอย่างกลุ่มทหาร
เครื่องดื่ม
มีการผลิตเบียร์ยี่ห้อ Asahi, Kirin, และ Sapporo ขึ้นมาขาย

โปสเตอร์โฆษณาเบียร์ Asahi Kirin Sapporo
ยุคที่5 ผับบาร์และเครื่องดื่มมึนเมา
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ค.ศ.1970-1990)
ลักษณะ ผับ บาร์ ในช่วงนี้
ผับ บาร์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แสดงให้เห็นถึงอะไรบ้าง???
ที่เห็นชัดเจนเลย คืออิทธิพลของชาติตะวันตกที่เข้ามาในญี่ปุ่น เห็นได้จากการพัฒนารูปแบบของบาร์ให้เป็นแบบตะวันตกเพราะ มีเก้าอี้โซฟาและเคาน์เตอร์บาร์ รวมทั้งอีกหนึ่งความชัดเจนก็คือการขยายตัวอย่างรวดเร็วของร้านเหล้าและการเกิดขึ้นของร้านคาราโอเกะ นั่นเป็นเพราะความเครียดของคนญี่ปุ่นในยุคนั้นเพิ่มมากขึ้น พื้นที่ร้านเหล้าและร้านคาราโอเกะเลยถูกใช้เป็นที่ปลดปล่อยความเครียด นั่นเองค่ะ
ยุคที่6 ผับบาร์และเครื่องดื่มมึนเมา
(ค.ศ.1990- ปัจจุบัน)
ลักษณะ ผับ บาร์ ในช่วงนี้

Host club คลับสำหรับคุณผู้หญิง
ที่มา https://jonellepatrick.me/2013/04/02/whats-it-like-to-visit-a-host-club/
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในยุคนี้คือ การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมความคิด เช่น มีความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น เห็นได้จากการที่ผู้หญิงสามารถออกไปทำงานนอกบ้านได้ และมีบาร์เฉพาะสำหรับผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น (โฮสต์คลับ พี่หญิงอยากไปจริงๆ ค่ะ อิอิ) อีกทั้งยังมีการยอมรับเพศที่สามมากขึ้น เห็นได้จากบาร์เกย์ที่มีการขยายตัวมากมายในยุคนี้ การเปลี่ยนแปลงทางความคิดและสภาพที่หรูหรามากขึ้นของผับบาร์ แสดงให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่มั่นคงและเป็นระบบ บอกให้รู้ว่าญี่ปุ่นเดินมาถึงจุดสูงสุดแล้ว
ส่งท้าย
พี่หญิงหวังว่าบทความนี้จะจุดประกายความคิดและทำให้น้องๆ ได้ทำความรู้จักผับ บาร์ในด้านอื่นๆ กันมากขึ้นนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีค่ะ
ขอบคุณข้อมูลและเครดิตรูปภาพจาก
http://coolmaterial.com/feature/drinking-denki-bran-the-mysterious-japanese-cocktail-from-the-meiji-era/
http://www.sakayanyc.com/blog/wordpress/wp-content/uploads/2007/10/dainihon-meisan-zue-sake-making.jpg
https://ja.wikipedia.org/wiki/%E3%83%95%E3%82%A1%E3%82%A4%E3%83%AB:Kamiya_bar_at_asakusa_tokyo_at_night.JPG
https://s-media-cache-ak0.pinimg.com
https://www.pinterest.com/daikaya/contemporary-japanese-art/
http://www.moippai.com/blog/2010/01/old-japanese-kirin-and-asahi-posters/
http://www.japan50.com/2015/kamiya-bar-asakusa/
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Beer_in_Japan
https://th.wikipedia.org/wiki/เกอิชา
http://nippon-kichi.jp/article_list.do?kwd=4020
http://www.gnavi.co.jp/th/articles/cuisines/izakaya/
http://www.sessakai.com/skmpepe50.htm
http://www.japaneseprints-london.com/



.jpg)


2 ความคิดเห็น
นั่งดูพวกหนังจีนกำลังภายในแนวย้อนยุคทีไร แอบสงสารพวกเสี่ยวเอ๋อร์ทุกทีเลย
โรงน้ำชาพังตลอด ต้องแอบหลบใต้โต๊ะ
(ตัดฉากมาที่เสี่ยวเอ๋อร์คนหนึ่งนอนชักกระแด่วๆน้ำลายฟูมปากบนพื้นเพราะโดนลูกหลง
พร้อมสั่งเสียกับเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยว่า
"เถ้าแก่ เถ้าแก่เนี้ย พวกท่านช่วยดูแลลูกเมียของข้าด้วย ข้าน้อยขอลาก่อน อ่อก")
ถ้าเป็นพวกหนังบู๊ที่มีพล็อตเรื่องอยู่ในยุคสมัยใหม่
สงสารพวกบาร์เทนเดอร์ พนักงานเสิร์ฟ และลูกค้าคนอื่นๆ
ต้องมีฉากที่พวกพระเอก-นางเอกกับพวกตัวร้ายยิงกันและตบตีกันในผับบาร์
พวกเขาต้องวิ่งหลบหนีลูกกระสุน ฝ่าดงบาทา มือตบ เท้าตบ
ขอบคุณค่ะ กำลังหาข้อมูลโรงน้ำชาของยุคมุโระมะชิอยู่พอดีเลย
>_<