หลอนหนักมาก 5 เรื่องเล่าสุดประหลาด
แห่งดินแดนหลังม่านเหล็กที่คุณไม่เคยรู้
สวัสดีชาวไรเตอร์ทุกคนค่ะ พบกับพี่น้ำผึ้งอีกแล้วนะคะ เชื่อว่าน้องๆ คงรู้จักประเทศมหาอำนาจ รัสเซีย ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนหลังม่านเหล็ก แถมยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่มีเรื่องราวน่าพิศวงมากมายที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ทั้งตำนานลี้ลับ, UFO วันนี้พี่น้ำผึ้งก็เลยได้โอกาสหยิบยก 10 เรื่องเล่าสุดประหลาดของประเทศรัสเซียนำมาฝากน้องๆ ค่ะ
เมื่อไม่นานมานี้ มีเว็บไซต์จำนวนมากรายงานว่ามีหลุมประหลาดโผล่ขี้นแถบตอนเหนือของไซบีเรีย มีทฤษฎีมากมายที่พยายามอธิบายเรื่องนี้ตั้งแต่มนุษย์ต่างดาวเป็นคนทำหลุมอุกกาบาต, พวกมือบอนสร้างเรื่องปั่นหัวคนอื่น ภาวะโลกร้อน กระทั่งการสะสมของก๊าซธรรมชาติที่อาจกำลังจะระเบิด
จากที่อ่านมา น้องๆ คิดว่าเป็นเพราะอะไรคะ ผู้คนส่วนมากเชื่อว่ามันคือก๊าซธรรมชาติค่ะ เพราะหลังจากที่มีหลุมประหลาดผุดขึ้นมา ชาวบ้านละแวกนั้นก็มักจะเห็นแสงประหลาดและควันลอยขึ้นมา นักวิจัยหลายคนบอกว่า บางทีอาจเป็นเพราะผืนโลกรอบๆ หลุมผลักสารอะไรสักอย่างขึ้นมา
หลุมนี้ลักษณะเป็นรูปทรงกรวย ความลึกราวๆ 100 เมตร ซึ่งก็ทำให้เกิดข้อสงสัยมากมายเลยล่ะค่ะ นักวิจัยคนนึงบอกว่าหลุมนี้ไม่น่าจะทำโดยมนุษย์ แต่ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นจากธรรมชาติเช่นกัน อ้าว ยังไงกันล่ะเนี่ย
หลุมประหลาดนี้ บางคนบอกว่าเกิดขึ้นในปี 2013 แต่ถ้าดูจากอายุพืชที่ขึ้นรอบๆ หลุม ดันพบว่าเกิดก่อนปี ค.ศ. 2013 ซะอีก ทุกวันนี้ยังไม่มีใครหาคำตอบได้เลยค่ะว่าหลุมนี้เกิดขึ้นได้ยังไง

(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://66.media.tumblr.com)
ถ้าฟังชื่อก็ดูเหมือนว่าเป็นแค่รถโบราณสีดำธรรมด๊า ธรรมดาใช่มั้ยล่ะคะ แต่ถ้าคอเรื่องเล่าสยองขวัญจะต้องรู้จักแน่ๆ! ตำนานรถสยองนี้เริ่มขึ้นเมื่อช่วงสงครามเย็น สมัยที่รัสเซียยังเป็นสหภาพโซเวียตอยู่นั่นเองค่ะ
เรื่องเล่ามีอยู่ว่าถ้ารถโวลก้าสีดำขับเข้าไปใกล้ใคร โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง คน ๆ นั้นจะถูกลักพาตัวและหายไปตลอดกาล บ้างเชื่อว่าปีศาจร้ายเป็นคนขับ บ้างก็เชื่อว่าเป็นแผนการของรัฐบาลที่จะลักพาตัวผู้ที่กุมความลับ เพราะว่ารถโวลก้าในสมัยนั้นราคาแพงมากๆ ต้องเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจมากจริงๆ ถึงจะเป็นเจ้าของได้
บางคนก็เชื่อว่าเป็นการลักพาตัวผู้หญิงเพื่อไปให้พวกทหารข่มขืน บางคนก็เชื่อว่าเพื่อฆ่าและนำอวัยวะไปใช้ในโครงการของรัฐบาล แหม น่ากลัวมากๆ เลยนะคะ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะปัจจุบันพบเห็นได้ยากแล้วล่ะค่ะ
.jpg)
(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://strangedaze.doomby.com)
ช่วงฤดูร้อนปี 1996 ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของรัสเซีย หญิงชราสติไม่สมประกอบนามว่าทามาราได้พบเด็กทารกคนนึงในป่า เธอพาเขากลับไปที่อพาร์ทเมนต์และตั้งชื่อเด็กน้อยคนนั้นว่า อเลสเฮนกา แต่ลูกสาวของหญิงชราบอกว่าเด็กทารกคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ เพราะไม่เคยขยับปากเวลากินอาหาร!
ด้วยความสงสัย ลูกสาวของหญิงชราก็เลยพาเพื่อนไปที่อพาร์ทเมนต์อีกครั้ง แต่ว่าคราวนี้เด็กทารกได้เสียชีวิตไปเสียแล้ว พวกเขาเลยส่งเด็กให้ วลาดิเมีย เบนดลิน ตำรวจท้องถิ่นเพื่อตรวจสอบ เบนดลินได้ส่งศพทารกให้นักวิจัยสองท่าน คนแรกคือ Dr. Irina Yermolaeva ที่บอกว่าทารกคนนี้พิการ ส่วนอีกคนคือ Lyubov Romanowa ซึ่งเชื่อว่าทารกคนนี้ไม่ใช่มนุษย์
หลังจากนั้นไม่นาน ทามาราก็เสียชีวิตด้วยอาการประหลาด รายการโทรทัศน์ได้เปิดเผยเทปของเบนดลินขณะที่เขาพูดคนเดียวด้วยล่ะค่ะ แต่น้องๆ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะผลการตรวจสอบล่าสุดพบว่าอเลสเฮนกาเป็นเพียงแค่ตัวอ่อนของมนุษย์เท่านั้นแหละค่ะ

(ขอบคุณรูปภาพจาก : http://www.ancient-origins.net)
บาบ้า ยากา เป็นแม่มดของชาวสลาฟ ชาวรัสเซียบางส่วนเชื่อว่าเธอคือปีศาจร้าย เธออาศัยอยู่ในกระท่อมไม้ที่สร้างอยู่บนเสารูปร่างขาไก่ในป่า เสาแต่ละต้นจะมีหัวกะโหลกเสียบอยู่ รั้วก็ทำมาจากซี่กระดูก และไม่มีใครรู้ว่ากระท่อมนั้นอยู่ไหน แต่ถึงอย่างนั้น แค่เราพูดว่า “หันหลังกลับไปที่ป่า เธออยู่ตรงหน้าฉัน” กระท่อมของบาบ้า ยากาก็จะปรากฏขึ้นมาทันที!
มีผู้คนมากมายต้องการเจอบาบ้า ยากา เพราะตำนานเล่าว่าเธอรู้วิธีที่จะคงความเยาว์วัยไปชั่วนิรันดร์ด้วยยาวิเศษที่มีแค่เธอเท่านั้นที่รู้สูตร บาบ้า ยากาก็เลยเป็นแม่มดที่สาวและอ่อนวัยมากๆ นอกจากนี้ หนึ่งในเพื่อนคนสำคัญของเธอก็คือ Koshchey ผู้เป็นอมตะ
ไม่มีใครรู้ว่ารูปร่างหน้าตาของ Koshchey เป็นยังไง แต่หลาย ๆ คนก็เชื่อว่าน่าจะเป็นกระดูก เพราะคำว่ากระดูกในภาษารัสเซีย คือ Kost นั่นเองค่ะ มันมีความสามารถพิเศษคือสามารถสลายตัวไปกับลมได้ อีกทั้งยังมีเสียงร้องอันน่าขนลุกเมื่ออยู่กับศัตรู แต่มีเสียงไพเราะยามต้องขับกล่อมให้หญิงสาวนอนหลับก่อนจะลักพาตัวไป สิ่งเดียวที่ฆ่า Koshchey ได้คือเข็มวิเศษที่ซ่อนอยู่ใต้มหาสมุทร ซึ่งเข็มนี้จะทำลายเวทมนตร์และสลายวิญญาณของมัน โอ้โห แฟนตาซีมาก ๆ เลยนะคะเนี่ย
พี่น้ำผึ้งเชื่อว่าน้อง ๆ หลายคนคงรู้จักบันทึกของอชิลลีและไกแอน สองพี่น้องตระกูลจูดิคา-คอร์ดิเกลีย ที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ช่วงต้นทศวรรษ 1960 เพราะพวกเขามีความสามารถด้านการดักฟังสัญญาณจนรู้ข้อมูลลับมากมายทั้งเรื่องสงครามอวกาศของรัสเซีย รวมถึงเรื่องผู้หญิงคนแรกที่ได้ไปเยือนอวกาศ
เสียงเหล่านี้ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1960 ซึ่งเป็นระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่รัสเซียส่งนักบินอวกาศไม่ทราบชื่อขึ้นไปบนอวกาศ สองพี่น้องบอกว่าผู้หญิงคนนี้ได้รับภารกิจให้โคจรรอบโลก 17 ครั้ง และเสียงที่ว่าก็ได้บันทึกช่วงสุดท้ายในชีวิตของเธอไว้ได้พอดี โดยในบันทึกเสียงนั้น เธอบ่นว่าอุณหภูมิเพิ่มขึ้นและดูเหมือนเธอกำลังจะชนอะไรสักอย่าง
นี่เป็น 1 ใน 9 บันทึกที่ได้รับการเผยแพร่ และแสดงให้เห็นว่ามีผู้คนมากมายที่สละชีวิตเพื่อให้รัสเซียชนะในสงครามอวกาศครั้งนี้ ซึ่งแน่นอนว่าทางรัสเซียต้องออกมาปฏิเสธ แต่เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1960 TASS ได้รับการบันทึกว่ามีดาวเทียมพุ่งชนโลก และศพของนักบินอวกาศข้างในน่าจะเป็นผู้หญิง อื้อหือ... จะโกหกทั้งที น่าจะเห็นใจคนที่เสียสละเพื่อประเทศหน่อยสิ ToT
เป็นยังไงกันบ้างคะกับเรื่องราวพิศวง ตำนานลี้ลับของดินแดนหลังม่านเหล็ก ส่วนตัวพี่น้ำผึ้งชอบเรื่องบาบ้า ยากา และ Koshchey ผู้เป็นอมตะค่ะ เพราะดูแฟนตาซี ดูน่าสนใจ น่าค้นหาเหมือนนิทานเรื่องหนึ่งเลยค่ะ จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ไม่มีใครหาคำตอบได้ แล้วน้อง ๆ ล่ะคะ ชอบเรื่องไหนกันบ้าง? เพราะอะไร? มาแบ่งปันกันเถอะค่ะ แต่เอ๊ะ... พี่บอกก่อนเลยนะคะว่านี่เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เรื่องราวสุดพิศวงยังมีต่อ พบกันอาทิตย์หน้าค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก


8 ความคิดเห็น
มาต่อเร็วนะค้า รออ่านอยู่ค่ะ
มาต่อเร็วๆ นะค่ะ ><
เป็น Urban Legend ที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ บางเรื่องเพิ่งเคยเห็น
อ่านหนังสือเล่มหนึ่งบอกว่าในรัสเซียมีคนพบกะโหลกยูนิคอร์นและสันนิษฐานว่าน่าจะอาศัยในพื้นที่ลักษณะคล้ายหลุมอุกกาบาศในไซบีเรีย แต่กะโหลกนั้นสูญหายตอนโดนเยอรมันบุก
กูเกิ้ลดูแล้วผิดหวังสุดๆ ปัดโธ่ ยูนิคอร์นอะไรกัน นี่มันแรดชัดๆ
#ไม่เกี่ยวอะไรแค่อยากเล่าเฉยๆ
ของสุดท้ายเคยดูเป็นสารคดี แบบนี้จะมั่นใจได้ยังไงว่าไม่ได้เกิดกับฝั่งพี่กันด้วย การพัฒนาอวกาศต้องแลกมาด้วยชีวิตของผู้มากความสามารถกี่คนแล้ว
น่าเอาไปแต่งนิยายมากกกกก ทั้งรถสีดำ ทั้งแม่มด
Ahhh cyka