ว่าด้วยเรื่องตำนานเทพเเห่งความตาย
พระยม กับ ฮาเดส เหมือนต่างอย่างไร
สวัสดีค่ะน้องๆ เด็กดี^^ ในบทความสาระวรรณกรรมวันนี้พี่หวานก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับวรรณคดี วรรณกรรมเรื่องต่างๆ มาฝากเช่นเคย เมื่อก่อนหน้านี้พี่หวานได้ทำบทความเกี่ยวกับขุมนรกในภาพยนตร์เรื่อง Along with god ไปแล้ว หลายคนน่าจะเห็นความเเตกต่างเรื่องความเชื่อและภาพขุมนรกที่ต่างกันของเเต่ละพื้นที่ พี่หวานก็เลยอยากนำเสนอเรื่องราวเทพเเห่งความตายตามความเชื่ออื่นๆ ด้วย เพราะฝั่งตะวันตกตามความเชื่อของกรีกโบราณก็มีเทพฮาเดสเป็นผู้ดูเเลโลกใต้บาดาลซึ่งเป็นที่รวมเหล่าวิญญาณที่ตายเเล้ว ส่วนทางความเชื่อของอินเดียก็มีพระยมเป็นเทพแห่งความตายที่คอยตัดสินดวงวิญญาณของคนตาย วันนี้ก็เลยอยากหยิบมาเขียนในบทความนี้ เพื่อดูว่าทั้งสองนั้นเป็นเทพเเห่งความตายเหมือนหรือต่างกันยังไงบ้าง
เรื่องเล่าเกี่ยวกับพระยม
พี่หวานได้มีโอกาสศึกษาเรื่องราวของพระยมมาบ้างในตอนที่เรียนอยู่ ซึ่งก็พบว่ามีข้อมูลที่หลากหลายไม่เเพ้กำเนิดของเทพอื่นๆ เช่นกัน ตามคัมภีร์ฤคเวทซึ่งถือเป็นคัมภีร์เก่าแก่ที่สุดในบรรดาวรรณคดีสันสกฤตได้กล่าวถึงความเชื่อว่าพระยมทรงเป็นมนุษย์คนเเรกที่ตาย มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ ยมี อีกคนหนึ่ง เหล่านักปราชญ์มีความเชื่อว่านี่คือมนุษย์ชายหญิงคู่เเรกที่ถือกำเนิดขึ้นมาเเละเสียสละความอมตะเพื่อเป็นเทพเเห่งความตาย เนื่องจากพระยมตายเป็นคนเเรก จึงได้รับบทบาทที่สำคัญหลังความตายให้กลายมาเป็นผู้คุมนรก ได้เป็นผู้ปกครองที่จะคอยต้อนรับเหล่าวิญญาณผู้ล่วงลับอยู่ในดินแดนที่ถูกเรียกว่า นรก
เนื่องจากพระยมเป็นที่รู้จักในฐานะเทพเเห่งความตาย ภายหลังจึงมีภาพจินตนาการถึงรูปลักษณ์ของพระยมเอาไว้ว่าต้องเป็นเทพที่น่ากลัว ร่างกายใหญ่โต ผิกายคล้ำ มีนัยน์ตาแดงฉาน เเละมีพาหนะเป็นกระบือตัวใหญ่ สัตว์เลี้ยงของพระยมว่ากันว่าเป็นสุนัขตัวโต มี 4 ตา จมูกกว้าง มีหน้าที่คอยเฝ้าทางเดิน เเละคอยเห่าไล่ต้อนดวงวิญญาณให้รีบไปยังยมโลก ในนรกนั้นยังมีนกฮูกกับนกแสกที่ทำหน้าที่เป็นทูตคอยส่งสาร เป็นสาเหตุให้สัตว์สองตัวนี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังที่เวลามีคนโบราณเห็นนกแสกไปที่ไหนก็จะเชื่อว่าต้องนำความตายมาให้ บ้านใดที่นกแสกบินไปเกาะจึงต้องมีคนตายเเน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีห่านเเละนกยูงเป็นผู้นำดวงวิญญาณที่มีผลบุญดีเดินทางไปตามตะเกียงสู่อาณาจักรของพระยม เเละท้ายที่สุดก็ยังมีเเร้งเเละกาที่มีจงอยปากเป็นเหล็กแหลมคอยทำหน้าที่จิกกัดทำโทษผู้ทำความผิดอีกด้วย
สำหรับรูปลักษณ์ของพระยมนั้นก็ยังมีความเชื่อที่แตกต่างกันไปหลายแบบเเล้วเเต่สถานการณ์ก็มี เช่น คนใดที่ตายโดยประกอบเเต่กรรมดี คือเป็นคนดี เป็นผู้ประเสริฐ มีศีลธรรมก็จะได้พบพระยมในรูปลักษณ์ทั่วไปของเทพผู้ทรงธรรมเเละดวงวิญญาณนั้นจะเป็นดวงวิญญาณที่พระยมจะไปรับด้วยตนเองอีกด้วย เเต่ในทางตรงกันข้ามหากคนที่ตายเป็นคนที่ไม่มีศีลธรรม ประกอบเเต่กรรมชั่วก็จะได้พบพระองค์ในร่างที่น่ากลัว และจะมียมบาลรับใช้ไปรับดวงวิญญาณมาตัดสินโทษ กรณีที่พระยมไปรับดวงวิญญาณผู้ตายที่มีกรรมดีนั้นปรากฏอยู่ไม่มากนัก ที่พอจะคุ้นเคยก็คือตอนที่ลงไปรับดวงวิญญาณของพระสัตยวาน ได้พบนางสาวิตรีผู้เป็นชายาได้ต่อรองจนสามารถคืนชีพดวงวิญญาณนั้นได้ อีกเหตุการณ์หนึ่งคือตอนที่ยุธิษฐิระซึ่งเป็นลูกชายของพระองค์ที่เกิดจากการประทานพรให้นางกุนตีก็เป็นตอนหนึ่งที่พระยมได้ลงมารับดวงวิญญาณของยุธิษฐิระด้วยตนเอง เเสดงให้เห็นว่าถึงเเม้ภาพของพระยมในความรู้สึกของผู้คนส่วนมากจะเป็นเทพเเห่งความตาย เเต่บทบาทของพระยมนั้นยังรู้จักกันดีในชื่อของเทพผู้มีความยุติธรรมอีกด้วย
เนื่องจากพระยมเป็นที่รู้จักในฐานะเทพเเห่งความตาย ภายหลังจึงมีภาพจินตนาการถึงรูปลักษณ์ของพระยมเอาไว้ว่าต้องเป็นเทพที่น่ากลัว ร่างกายใหญ่โต ผิกายคล้ำ มีนัยน์ตาแดงฉาน เเละมีพาหนะเป็นกระบือตัวใหญ่ สัตว์เลี้ยงของพระยมว่ากันว่าเป็นสุนัขตัวโต มี 4 ตา จมูกกว้าง มีหน้าที่คอยเฝ้าทางเดิน เเละคอยเห่าไล่ต้อนดวงวิญญาณให้รีบไปยังยมโลก ในนรกนั้นยังมีนกฮูกกับนกแสกที่ทำหน้าที่เป็นทูตคอยส่งสาร เป็นสาเหตุให้สัตว์สองตัวนี้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังที่เวลามีคนโบราณเห็นนกแสกไปที่ไหนก็จะเชื่อว่าต้องนำความตายมาให้ บ้านใดที่นกแสกบินไปเกาะจึงต้องมีคนตายเเน่นอน นอกจากนี้ก็ยังมีห่านเเละนกยูงเป็นผู้นำดวงวิญญาณที่มีผลบุญดีเดินทางไปตามตะเกียงสู่อาณาจักรของพระยม เเละท้ายที่สุดก็ยังมีเเร้งเเละกาที่มีจงอยปากเป็นเหล็กแหลมคอยทำหน้าที่จิกกัดทำโทษผู้ทำความผิดอีกด้วย
สำหรับรูปลักษณ์ของพระยมนั้นก็ยังมีความเชื่อที่แตกต่างกันไปหลายแบบเเล้วเเต่สถานการณ์ก็มี เช่น คนใดที่ตายโดยประกอบเเต่กรรมดี คือเป็นคนดี เป็นผู้ประเสริฐ มีศีลธรรมก็จะได้พบพระยมในรูปลักษณ์ทั่วไปของเทพผู้ทรงธรรมเเละดวงวิญญาณนั้นจะเป็นดวงวิญญาณที่พระยมจะไปรับด้วยตนเองอีกด้วย เเต่ในทางตรงกันข้ามหากคนที่ตายเป็นคนที่ไม่มีศีลธรรม ประกอบเเต่กรรมชั่วก็จะได้พบพระองค์ในร่างที่น่ากลัว และจะมียมบาลรับใช้ไปรับดวงวิญญาณมาตัดสินโทษ กรณีที่พระยมไปรับดวงวิญญาณผู้ตายที่มีกรรมดีนั้นปรากฏอยู่ไม่มากนัก ที่พอจะคุ้นเคยก็คือตอนที่ลงไปรับดวงวิญญาณของพระสัตยวาน ได้พบนางสาวิตรีผู้เป็นชายาได้ต่อรองจนสามารถคืนชีพดวงวิญญาณนั้นได้ อีกเหตุการณ์หนึ่งคือตอนที่ยุธิษฐิระซึ่งเป็นลูกชายของพระองค์ที่เกิดจากการประทานพรให้นางกุนตีก็เป็นตอนหนึ่งที่พระยมได้ลงมารับดวงวิญญาณของยุธิษฐิระด้วยตนเอง เเสดงให้เห็นว่าถึงเเม้ภาพของพระยมในความรู้สึกของผู้คนส่วนมากจะเป็นเทพเเห่งความตาย เเต่บทบาทของพระยมนั้นยังรู้จักกันดีในชื่อของเทพผู้มีความยุติธรรมอีกด้วย
ความสำคัญในฐานะเทพผู้ยุติธรรม
จากที่ได้หาข้อมูลพบว่าพระยมไม่ได้เป็นเพียงเทพเเห่งความตายที่ดูเเลดินแดนยมโลกเท่านั้น เมื่อทรงเป็นมนุษย์คนเเรกที่ตายได้ตำแหน่งเทพเเห่งความตาย ในการทำหน้าที่ตามฐานะก็คือจะต้องลงโทษตัดสินความผู้ที่กระทำผิด ซึ่งการจะทำอย่างนั้นได้พระยมต้องทราบข้อเท็จจริงทุกอย่างเเละที่สำคัญคือต้องมีความเที่ยงตรงเป็นที่ตั้ง เเม้ว่าผู้คนนั้นจะทำบาปหรือความดีในที่ลับตาก็ไม่สามารถรอดจากสายตาพระยมไปได้จึงจะสามารถตัดสินความผิดได้อย่างยุติธรรม ในวรรณคดีมากมายบทบาทของพระยมในเรื่องของความเที่ยงธรรมนี้เองก็เป็นที่ถูกกล่าวถึงอยู่เสมอ
พี่หวานจะขอยกเหตุการณ์จากเรื่อง มหาภารตะ ที่กล่าวถึงตอนต้นเรื่องในตอนที่นางกุนตีปรึกษากับท้าวปาณฑุว่าจะใช้มนตร์อัญเชิญเทพมาประทานโอรสให้ ท้าวปาณฑุจึงบอกนางกุนตีว่าให้เชิญพระยมซึ่งเป็นเทพเเห่งความยุติธรรมเเละคงไว้ซึ่งความดีมาประทานบุตรให้เถิด เพื่อโอรสจะได้เป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยธรรมะเเละความดี เมื่อพระยมประทานโอรสนามว่ายุธิษฐิระให้เเก่นางกุนตี เมื่อเติบโตมาเป็นกษัตริย์ก็เป็นกษัตริย์ที่มีธรรมะเเละเป็นที่น่าเคารพของผู้คนจริงตามที่ท้าวปาณฑุว่าไว้ทุกประการ ยิ่งเป็นบุตรแห่งพระยมด้วยเเล้วจึงต้องผ่านการทดสอบคุณธรรมหลายต่อหลายครั้ง เเต่ทุกครั้งยุธิษฐิระก็ได้เเสดงความเป็นผู้มีปัญญาเเละเป็นผู้มีธรรมะได้อย่างสมบูรณ์
พี่หวานจะขอยกเหตุการณ์จากเรื่อง มหาภารตะ ที่กล่าวถึงตอนต้นเรื่องในตอนที่นางกุนตีปรึกษากับท้าวปาณฑุว่าจะใช้มนตร์อัญเชิญเทพมาประทานโอรสให้ ท้าวปาณฑุจึงบอกนางกุนตีว่าให้เชิญพระยมซึ่งเป็นเทพเเห่งความยุติธรรมเเละคงไว้ซึ่งความดีมาประทานบุตรให้เถิด เพื่อโอรสจะได้เป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยธรรมะเเละความดี เมื่อพระยมประทานโอรสนามว่ายุธิษฐิระให้เเก่นางกุนตี เมื่อเติบโตมาเป็นกษัตริย์ก็เป็นกษัตริย์ที่มีธรรมะเเละเป็นที่น่าเคารพของผู้คนจริงตามที่ท้าวปาณฑุว่าไว้ทุกประการ ยิ่งเป็นบุตรแห่งพระยมด้วยเเล้วจึงต้องผ่านการทดสอบคุณธรรมหลายต่อหลายครั้ง เเต่ทุกครั้งยุธิษฐิระก็ได้เเสดงความเป็นผู้มีปัญญาเเละเป็นผู้มีธรรมะได้อย่างสมบูรณ์
เหตุการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่พิสูจน์ความมีธรรมะในตัวยุธิษฐิระในฐานะบุตรเเห่งพระยมก็คือตอนท้ายที่สุดเมื่อพี่น้องคนอื่นค่อยๆ ตายจากไปเหลือเพียงยุธิษฐิระเเละสุนัขตัวหนึ่งร่มเดินทางมาด้วยตั้งเเต่ต้น ซึ่งเขาเป็นกษัตริย์ที่ไม่เคยละทิ้่งผู้ภักดีต่อตนเอง เเม้ว่าจะเป็นเเค่สุนัขตัวหนึ่งแต่ก็ร่วมผ่านความทุกข์ยากมาด้วยกันจึงปฏิเสธคำเชิญของพระอินทร์ที่มาเชิญให้ไปสวรรค์ว่าหากไม่สามารถพาสุนัขตัวนั้นไปด้วยได้เขาก็จะไม่ไป โดยเเท้จริงเเล้วพระยมคือผู้แปลงกายมาเป็นสุนัขตนนั้นเพื่อทดสอบจิตใจของยุธิษฐิระนั่นเอง เเละเขาก็ได้แสดงออกเเล้วว่าเขาปฏิบัติต่อทุกชนชั้นไม่ว่าจะคนหรือสัตว์อย่างเท่าเทียมเหมือนอย่างที่พระยมปฏิบัติต่อวิญญาณทุกดวงที่ได้ไปยมโลกนั่นเอง
เเสดงให้เห็นว่าภาพลักษณ์ของพระยมที่ปรากฏในเรื่องมหาภารตะนั้นเป็นภาพของเทพผู้ทรงธรรมมากกว่าจะเป็นเทพที่ดุร้ายน่ากลัว เเต่ถึงอย่างนั้นความเที่ยงตรงของเทพแห่งความตายก็ยังเป็นที่น่ายกย่องเพราะก่อนที่จะสามารถตัดสินผู้อื่นได้ พระองค์ต้องเป็นเทพที่ดำรงไว้ซึ่งความสัตย์จริงเสมอ อย่างในเรื่องนางสาวิตรีที่ได้เจรจาร้องขอชีวิตพระสัตยวาน กรณีนี้พระยมได้ให้คำสัตย์ไปเเล้วว่าจะมอบพรให้นางได้ทุกข้อยกเว้นชีวิตพระสัตยวาน เเต่ด้วยความฉลาดของนางสาวิตรีทำให้สุดท้ายเเล้วพระยมผู้เที่ยงตรงก็ต้องปฏิบัติตามคำพูดของตนเอง โดยการคืนชีวิตพระสัตยวานอีกครั้ง สามารถอ่านเรื่องราวของนางสาวิตรีเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ
ทั้งหมดที่กล่าวไปก็ทำให้เห็นภาพเเละบทบาทของพระยมที่ถูกนับถือในฐานะเทพเเห่งความตายเเล้วใช่มั้ยคะ จริงๆ เเล้วพระองค์ก็ไม่ใช่เทพที่น่ากลัวเพียงเเต่หลายคนยึดติดว่าเมื่อเกี่ยวข้องกับความตายจะต้องมีความโหดร้ายนั่นเองค่ะ การปรากฏตัของพระยมในวรรณคดีเรื่องอื่นๆ ยังมีให้เห็น เเต่เเทบทุกเรื่องก็จะนำเสนอในภาพของเทพแห่งความตายผู้ยุติธรรมเป็นไปในทางเดียวกัน คราวนี้ก็ลองมาดูเรื่องราวฝั่งตะวันตกกันบ้างค่ะ พี่หวานได้ลองไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเทพแห่งความตายฮาเดส(Hades) มาฝากด้วยค่ะ
ตำนานเทพฮาเดส
เทพฮาเดส เป็นเทพผู้ปกครองเเห่งอาณาจักรคนตายตามความเชื่อของชาวกรีกโบราณ ว่ากันว่าฮาเดสเป็นน้องของซุสเเละโพไซดอน เป็นหนึ่งในมหาเทพทั้งสิบสองแห่งโอลิมปัส มีราชินีคือเทพธิดาเพอร์เซโฟเน พี่หวานเชื่อว่าหลายคนคงพอจะทราบตำนานเกี่ยวกับฮาเดสมาบ้างเเล้ว เพราะตำนานปกรณัมกรีกนั้นเป็นเทพที่คนเข้าถึงได้กว้างขวางมากกว่าเทพเจ้าฝั่งอินเดีย ถึงจะมีตำแหน่งเป็นเทพเเห่งความตายเหมือนกันเเต่ภาพลักษณ์กลับเเตกต่างกัน ฮาเดสนั้นเรารู้จักกันในนามของเทพที่มีนิสัยค่อนข้างแปลกแยก เย็นชา เเละโหดร้าย ไม่มีความปรานีใดๆ เเต่ในเเง่ของความยุติธรรมเเละปกครองดินแดนแห่งคนตายนั้นทั้งเทพเจ้าทั้งสององค์ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนกัน เนื่องจากชาวกรีกมีการร้องเพลงเป็นบทสวดสรรเสริญเทพเจ้าเเต่ไม่มีคัมภีร์คำสอนเหมือนศาสนาอื่นๆ ชาวกรีกจึงสร้างรูปปั้นของเทพเจ้าเป็นมนุษย์เพราะมีความคิดว่ามนุษย์เป็นสัตว์สูงส่งเเละน่ายกย่อง ชาวกรีกจะมีการสลักรูปปั้นเทพเจ้าไว้ เมื่อต้องการบูชาก็จะนำของต่างๆ มาถวายและร้องเพลง ส่วนคนที่ต้องการบูชาเทพฮาเดสจะต้องนำแพะดำหรือแกะดำมาเชือดถวายบูชาเนื่องจากเป็นเทพแห่งความตาย ผู้คนจึงมีความคิดว่าต้องถวายสิ่งที่ดำมืดให้เทพฮาเดสพึงพอใจ
หลังจากที่ฮาเดสลงไปอยู่ในดินแดนใต้บาดาลที่ถูกเรียกว่าดินแดนยมโลก ณ ที่แห่งนั้นได้กลายเป็นอาณาจักรของคนตาย ชาวกรีกมีความเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตายไปดงิญญาณจะถูกนำทางไปส่งที่ดินแดนของฮาเดส เพื่อรับคำพิพากษาจากคณะสภาในยมโลกอันประกอบด้วย ไมนอส เเมนธัส เเละเออาคัส
หลังจากที่ฮาเดสลงไปอยู่ในดินแดนใต้บาดาลที่ถูกเรียกว่าดินแดนยมโลก ณ ที่แห่งนั้นได้กลายเป็นอาณาจักรของคนตาย ชาวกรีกมีความเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ตายไปดงิญญาณจะถูกนำทางไปส่งที่ดินแดนของฮาเดส เพื่อรับคำพิพากษาจากคณะสภาในยมโลกอันประกอบด้วย ไมนอส เเมนธัส เเละเออาคัส
โฮเมอร์ ได้กล่าวถึงดินแดนแห่งนี้ไว้ว่าเป็นสถานที่ที่ไม่มีความเเน่นอน ยากจะคาดเดาได้ว่าประกอบด้วยอะไรบ้างรอบตัวเป็นความมืดอย่างหาจุดสิ้นสุดไม่ได้ เป็นสถานที่ที่เหมือนฝันร้ายของเหล่าวิญญาณ เมื่อถูกพาตัวมาที่นี่หากเป็นดวงวิญญาณที่ดีก็จะได้รับรางวัลตอบเเทน เเต่ถ้าเป็นดวงวิญญาณไม่ดีก็จะถูกลงโทษ โดยดวงวิญญาณทั้งหลายจะผ่านเข้ามาทางเเม่น้ำแห่งความวิปโยคที่เต็มไปด้วยการร่ำร้องของวิญญาณคนตาย มีชายชราชื่อ เครอน คอยพายเรือไปส่งยังอีกฝั่ง ซึ่งตรงนั้นจะเป็นประตูสำหรับผ่านไปสู่ทาร์ทารัสหรือก็คือดินแดนส่วนหนึ่งที่โฮเมอร์บรรยายว่าอยู่ลึกลงไปกว่าที่คิด ส่วนดินแดนรอบนอกนั้นเรียกว่าเอเรบัสที่ที่คนตายจะผ่านเข้าไปทันทีเมื่อตาย โดยชาวกรีกมีความเชื่อหนึ่งก็คือเมื่อตายเเล้วจะต้องนำเงินใส่ในปากหรือติดตัวคนตายไปด้วยเพื่อใช้สำหรับจ่ายค่าผ่านทางให้ เครอน ที่คอยพายเรือไปส่งดวงวิญญาณ ว่ากันว่าวิญญาณที่จ่ายค่าผ่านทางเท่านั้นถึงจะสามารถลงไปถึงหน้าประตูทาร์ทารัสซึ่งเป็นทางลงสู่ดินแดนยมโลกได้ ตั้งเเต่หาข้อมูลมาอีกสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันที่พี่หวานพบก็คือดินแดนยมโลกของฮาเดสก็มีสุนัขสามหัวหางมังกร เรียกว่า เซอร์เบอรัส คอยเฝ้าอยู่หน้าประตู โดยมันจะทำหน้าที่ต้อนให้วิญญาณเข้าไป ดวงวิญญาณที่ผ่านเข้าไปเเล้วจะไม่สามารถกลับออกมาได้เหมือนอย่างพระยมที่มีสุนัขสองตัวคอยช่วยทำหน้าที่นี้ เมื่อผ่านมาได้เเล้วเหล่าวิญญาณจะต้องถูกนำทางไปพบกับผู้ตัดสินทั้งสามที่จะคอยตัดสินเเละพิจารณาว่าใครควรได้รับการลงโทษเเละใครควรได้รับรางวัล ถ้าหากเป็นดวงวิญญาณที่ดีก็จะได้นำไปส่งต่อที่ดินแดนเอลิเซียมซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง
ความเเตกต่างอีกอย่างที่พี่หวานพบก็คือฮาเดสทำหน้าที่ปกครองดูแลดินแดนยมโลก เเต่ไม่ได้เป็นผู้ตัดสินว่าดวงวิญญาณดวงไหนจะต้องได้รับโทษอย่างไร หรือควรได้รับรางวัลหรือไม่ เเตกต่างกับทางความเชื่อที่เชื่อว่าพระยมจะเป็นผู้ตัดสินความผิดอย่างเที่ยงตรงให้เหล่าวิญญาณ เหมือนอย่างที่ได้เป็นคนไปรับดวงวิญญาณผู้มีศีลธรรมด้วยตัวเองเเละจะนำไปส่งยังสวรรค์ นอกจากนี้เเล้วในเเง่ของวีรกรรมของฮาเดสที่เป็นที่กล่าวถึงก็คือการไปลักพาตัวเพอร์เซโฟเนมาเป็นราชินีนี่แหละค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะกับเรื่องราวเกี่ยวกับเทพเเห่งความตายทั้งสองแบบที่พี่หวานนำมาฝากกันในวันนี้ อย่างที่บอกว่าความเชื่อนั้นก็เปลี่ยนแปลงเเละเเตกต่างไปตามกาลเวลา ขึ้นอยู่กับผู้คนในเเต่ละพื้นที่ด้วยว่าจะมีความเชื่อแบบไหนบ้าง หวังว่าน้องๆ ที่ผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับเทพทั้งสององค์นี้นะคะ เเล้วพบกันใหม่ค่ะ ^___^
พี่หวาน
ขอบคุณข้อมูลจาก
zongpei
หนังสือปกรณัมปรัมปรา, เอดิธ แฮมิลตัน
http://www.ancientfacts.net
https://classroom.synonym.com/goes-underworld-greek-mythology-13711.html
https://www.greekmythology.com
https://hinduism.stackexchange.com/questions/13959/did-the-story-of-mahabharata-start-and-end-with-a-dog
zongpei
หนังสือปกรณัมปรัมปรา, เอดิธ แฮมิลตัน
http://www.ancientfacts.net
https://classroom.synonym.com/goes-underworld-greek-mythology-13711.html
https://www.greekmythology.com
https://hinduism.stackexchange.com/questions/13959/did-the-story-of-mahabharata-start-and-end-with-a-dog






0 ความคิดเห็น