โรงเรียนในฝัน (ร้าย) 8 แห่งจากโลกวรรณกรรม



สวัสดีชาวเด็กดีทุกคนค่ะ ในขณะที่น้องๆ หลายคนกำลังวางแผนเตรียมตัวสำหรับวันเปิดเทอมที่ใกล้จะมาถึง พี่ก็บังเอิ๊ญ.. บังเอิญได้ไปเจอเข้ากับบทความที่น่าสนใจบทความหนึ่ง ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ ‘โรงเรียน’ ซึ่งโรงเรียนที่เรากำลังจะพูดถึงต่อจากนี้ เขาว่ากันว่ามีทั้งเรื่องดีและไม่ดี ไม่รู้ว่าน้องๆ จะเคยเจอเหตุการณ์เดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในโรงเรียนเหล่านี้กันไหม และไม่รู้ว่าบทความของพี่ในวันนี้จะทำให้ความตื่นเต้นในการกลับไปเรียนของน้องๆ เพิ่มขึ้น หรือน้อยลงกัน ถ้างั้นอย่ามัวแต่เสียเวลา เราไปทำความรู้จักกับโรงเรียนเหล่านี้กันดีกว่า…

 


1. โรงเรียนการกุศลจากนวนิยายเรื่อง เจนแอร์





 
ในขณะที่ยังเป็นเด็ก ‘เจน’ เคยถูกส่งให้ไปเรียนที่โรงเรียน Lowood โรงเรียนการกุศลสำหรับเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ซึ่ง ณ สถานที่แห่งนั้น เจน ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น อุณหภูมิของน้ำที่ใช้อาบที่เย็นมาก, ปริมาณของอาหารที่ได้รับสวนทางกับปริมาณงานที่ต้องทำ หรือเมื่อใดก็ตามที่เธอและเพื่อนสนิทถูกรังแก เธอมักจะไม่ได้รับการตัดสินอย่างยุติธรรมเลยสักครั้ง แถมเพื่อนๆ ในห้องของเธอยังถูกสั่งห้ามไม่ให้พูดคุยกับเธอ และยังกล่าวหาว่าเธอเป็นคนขี้โกหกอีกด้วย


 

2. โรงเรียนจากนวนิยายเรื่อง St. Lucy’s Home for Girls Raised by Wolves





 
สำหรับโรงเรียนจากนวนิยายเรื่องนี้ ผู้เรียนไม่จำเป็นที่จะต้องแบ่งแยกความแตกต่างทางเพศเหมือนที่อื่นๆ เพราะมีแต่ผู้หญิงล้วนๆ เลยจ้ะ แต่สำหรับความน่ากลัวที่พบจากนิยายเรื่องนี้ก็คือการเปลี่ยนเด็กผู้หญิงที่ถูกเลี้ยงมาโดยหมาป่ากลุ่มหนึ่ง ให้กลายเป็นเด็กผู้หญิงที่เหมาะสม ซึ่งคำว่าเหมาะสมที่ว่านั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะป่าเถื่อนสำหรับพี่พอสมควร ยกตัวอย่างเช่น การสอนให้เด็กๆ ให้อาหารเป็ด ดูแลเป็ด แต่ท้ายที่สุดแล้วเด็กๆ เหล่านั้นจะต้องจับเป็ดมาฆ่าเพื่อทำเป็นอาหาร และไม่ว่าใครก็ตามที่ปฏิเสธไม่ยอมทำตามกฎที่โรงเรียนได้วางไว้ เด็กๆ เหล่านั้นจะถูกลงโทษอย่างร้ายแรงที่สุด ซึ่งตรงนี้พี่ค่อนข้างจะเห็นความน่าสงสารในสายตาของเด็กๆ เหล่านั้น เพราะเธอถูกเลี้ยงมาโดยสัตว์ แต่วันหนึ่งเธอกลับต้องมาฆ่าพวกมันเพื่อมาทำเป็นอาหาร มันเลยค่อนข้างที่จะโหดร้ายอยู่พอสมควรเลย


 

3. โรงเรียนประถมจากนวนิยายเรื่อง มาทิลด้า





 
สำหรับโรงเรียนประถมของหนูน้อยมาทิลด้า อัจฉริยะคนนี้ ต้องบอกเลยว่าถึงแม้จะมีเรื่องไม่ดี แต่ในบรรดาเรื่องไม่ดีเหล่านั้น ยังมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่ ยกตัวอย่างเช่น มิสฮันนี่ ผู้รักและเอ็นดูมาทิลด้า ผู้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น มันเลยทำให้มาทิลด้ารู้สึกสบายใจเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับมิสฮันนี่ แต่ทว่าคุณครูใหญ่กลับเป็นอะไรที่สวนทางกับมิสฮันนี่อย่างสิ้นเชิง เพราะเธอเป็นครูใหญ่ที่ชอบบีบบังคับเด็กๆ ทุกคน ให้ปฏิบัติตัวตามแบบที่เธอต้องการ รวมไปถึงวิธีการลงโทษแสนโหด โดยมี ‘แส้หนัง’ เป็นอาวุธที่เธอมักจะใช้ในการขู่ให้เด็กๆ กลัว อีกทั้งวิธีการลงโทษของเธอ ที่เธอมักจะพาตัวของเด็กที่ถูกทำโทษไปขังไว้ในตู้เสื้อผ้าที่มีแต่กลิ่นอับ (แค่จินตนาการภาพตามก็จะอาเจียนแล้ว) ซึ่งตัวละครครูใหญ่ของโรงเรียนคนนี้ก็ได้กลายเป็นคนที่มาทิลด้าชอบน้อยที่สุดในบรรดาคุณครูทั้งหลายในโรงเรียน


 

4. โรงเรียน ‘Moo U’ จากนวนิยายเรื่อง Moo





 
Moo เป็นนวนิยายที่ตีพิมพ์ในปี 1995 ผลงานของเจน สไมล์ลี่ โดยมีฉากเป็นมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Moo U โดยตัวแทนของนักเรียนก็เป็นเหล่าปศุสัตว์ ซึ่งจุดเด่นของนวนิยายเล่มนี้นั้นอยู่ตรงที่เนื้อหาเชิงเหยียด จิกกัดสังคม ออกแนวตลกร้าย ส่วนจะร้ายจริงไหมเรามาตามอ่านต่อกันดีกว่า
 
อย่างที่พี่ได้บอกไปข้างต้นว่า Moo U เป็นเสมือนโรงเรียนเกษตรกรรมขนาดใหญ่ มีผู้ดูแลหรือที่เราเรียกว่าครูใหญ่คือ ดร. ไลโนเอล ผู้ที่เรียกนักเรียนของตัวเองว่าลูกค้า โดยดร. ไลโนเอล ได้อยู่ในระหว่างคิดค้นงานวิจัยบางอย่างของตัวเองโดยอาศัยเหล่านักเรียนของเขาเป็นตัวทดลอง ซึ่งนักอ่านจะได้พบกับตัวละครที่มีความรู้สึกนึกคิดออกแนวบ้าคลั่งในวิชาการ รวมทั้งเรื่องทางการเมือง และการศึกษา ที่เป็นสิ่งที่นวนิยายส่วนใหญ่ไม่กล้าที่จะจับเนื้อหาต่างๆ เหล่านี้มาเล่นกันเท่าไหร่ 


 

5. โรงเรียนจากนวนิยายเรื่อง Nicholas Nickleby





 
หลังจากผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวได้เสียชีวิตลง นิโคลาส ได้เดินทางมุ่งหน้าสู่กรุงลอนดอนเพื่อไปอาศัยอยู่กับผู้เป็นลุง โดยเขาได้ถูกส่งให้ไปช่วยงานที่โรงเรียนแห่งหนึ่งระหว่างพักอาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่ง ณ โรงเรียนแห่งนั้นมันได้กลายเป็นเสมือนฝันร้ายของนิโคลาสเลยก็ว่าได้ เพราะมันได้เต็มไปด้วยการจัดฉากและการหลอกลวง โดยสิ่งที่โรงเรียนทำก็เป็นการนำเด็กที่ครอบครัวไม่ต้องการมาอาศัยรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งโรงเรียนแห่งนั้นจะได้รับค่าจ้างเป็นค่าเลี้ยงดูที่พ่อแม่ของเด็กมอบให้ แต่ถามว่าเด็กๆ เหล่านั้นได้รับการเลี้ยงดูที่ดีไหม พี่ก็ต้องตอบว่าไม่ เพราะเด็กๆ ถูกปล่อยให้อดอยาก ถูกทุบตี และถูกใช้แรงงานอย่างหนัก และหลังจากที่นิโคลาสได้รับรู้ถึงสถานการณ์อันเลวร้ายที่ว่ามานี่แล้ว เขาและเพื่อนอีกคนได้ร่วมมือกันเพื่อที่จะหาทางพาเด็กๆ หนีออกจากโรงเรียนนรกแห่งนี้ โดยหวังว่าจะได้พบกับอิสระอีกครั้งหนึ่ง..


 

6. วิทยาลัยแฮมเดนจากนวนิยายเรื่อง The Secret History





 
สำหรับวิทยาลัยแฮมเดนแห่งนี้ มันได้เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นฆาตกรรมแบบสุดๆ เพราะเราจะได้เดินทางย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะมีเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้น ผ่านตัวละครของ ริชาร์ต พีเพ็น ที่หนีออกจากบ้านและครอบครัวก่อนจะหลบมาอยู่ที่วิทยาลัยแห่งนี้ แถมเขายังได้มารู้จักกับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะพากันทำตัวเสเพลกินเหล้า เมายา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาและเพื่อนกลุ่มนั้นได้ลงมือฆ่าผู้ชายคนหนึ่งไปอย่างไม่ตั้งใจ และเหตุการณ์นั้นก็ได้นำพาความลึกลับซับซ้อนอีกมากมายให้ตามมา ซึ่งมันจะเป็นอะไร เราต้องไปลุ้นกันเอาเองในเรื่องนะจ๊ะ


 

7. โรงเรียนสอนเทนนิสจากนวนิยายเรื่อง Infinite Jest





 
สำหรับโรงเรียนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่ผลิตนักกีฬามากฝีมือมาหลายต่อหลายคน ฟังดูเหมือนจะดูดี ถ้าไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นมาซะก่อน โดยโรงเรียนแห่งนี้ได้มีเป้าหมายในการฝึกนักเรียนให้กลายเป็นนักกีฬาเทนนิสชั้นยอดอย่างที่เราพอจะทราบกัน แต่สิ่งที่นักเรียนเหล่านั้นต้องแลกมา กลับเป็นจิตวิญญาณ เพราะพวกเขาทุกคนถูกฝึกฝนให้จริงจังกับชีวิต ถูกฝึกให้สู้ แต่ไม่ถูกฝึกให้เรียนรู้ว่าถ้าหากวันใดวันหนึ่งเราเกิดพ่ายแพ้ขึ้นมา เราต้องจัดการกับปัญหาต่างๆ เหล่านั้นยังไง จนทำให้ลับหลังการเรียนการสอน นักเรียนทั้งหลายได้ประสบกับความเครียดกันถ้วนหน้า พวกเขาเลยหาทางออกด้วยการชักชวนกันไปเสพยา เพื่อหนีปัญหาชวนเครียด รวมไปถึงความกดดันจากครอบครัวของพวกเขาอีกด้วย


 

8. โรงเรียนต้นแบบจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง Battle Royale





 
เมื่อวิธีการปฏิรูปการศึกษายุคใหม่ นำมาซึ่งเกมที่มีชื่อว่า Battle Royale โดยเกมๆ นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการจะกำราบเด็กเกเร ที่ไม่เชื่อฟังผู้ใหญ่ ไม่เชื่อฟังครูอาจารย์ รวมทั้งความประพฤติอันรุนแรงให้หมดสิ้นไป โดยเด็กๆ ทุกคนจะถูกนำตัวไปปล่อยทิ้งไว้บนเกาะร้าง เพื่อเล่นเกมที่จะสอนให้เด็กๆ แต่ละคนกลับกลายเป็นคนที่ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งความพิเศษนั้นจะอยู่ตรงที่เด็กๆ ทุกคนจะต้องสวมปลอกคอที่ติดตั้งกับตัวระเบิดไว้ ถ้าใครขัดขืนหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทางผู้คุมจะสามารถกดระเบิดได้ทันที โดยเมื่อหนังสือเล่มนี้ถูกตีพิมพ์ครั้งแรกได้ถูกมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะแทนที่จะเป็นการสอนให้เด็กๆ ประพฤติตัวดี มันจะกลับกลายเป็นการสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นกับเด็กคนนั้นๆ แทน แต่สุดท้ายหนังสือการ์ตูนเล่มนี้ก็กลายเป็นหนังสือขายดี แถมยังถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกันมาแล้วอีกด้วย


 

 

เป็นยังไงกันบ้างจ๊ะ แต่ละเรื่องโหดใช่เล่นกันเลยใช่ไหมล่า เชื่อว่าชีวิตจริงคงไม่มีน้องๆ คนไหนต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์เลวร้ายขนาดนี้กันหรอก หรือบางคนอาจจะเคยเจอกันมาบ้าง แต่อาจจะไม่ถึงขั้นนี้ พี่ก็อยากจะบอกน้องๆ เหล่านั้นว่าจงทำทุกวันให้เต็มไปด้วยความสุข ความสบายใจ และตั้งใจเรียนกันเข้าไว้ มีคนพูดกับพี่บ่อยนะสมัยตอนที่เรียนว่าให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้ให้มากๆ เพราะชีวิตเรามีโอกาสแค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียว ซึ่งในตอนนั้นพี่ก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก ออกแนวไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ แต่พอมาถึงจุดๆ หนึ่งเราจะรู้สึกเสียดายและรู้สึกพลาดโอกาสหลายๆ อย่าง ยกตัวอย่างเช่น อยากทำอะไรแต่ก็ไม่ได้ทำ อยากเรียนอะไรก็ไม่ได้เรียน มีโอกาสบางอย่างเข้ามาแต่ก็ไม่คว้าเอาไว้ ดังนั้นพี่เลยอยากให้น้องๆ นึกถึงตัวเองกันไว้ให้มากๆ มีโอกาสอะไรเข้ามาก็อย่าละเลย สร้างมิตรภาพดีๆ ให้เกิดขึ้น เพราะเมื่อวันใดก็ตามที่เราโตขึ้นแล้ว เราจะไม่สามารถเรียกร้องอะไรเหล่านั้นให้กลับคืนมาได้อีกแล้วนะ เป็นกำลังใจให้น้องๆ ทุกคนนะ เยิฟ

 
พี่นัทตี้ :)

 
ขอบคุณแหล่งที่มาและภาพประกอบจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Miss_Trunchbull 
https://en.wikipedia.org/wiki/Moo_(novel) 
https://www.siamzone.com/movie/m/2024 
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81_%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%94 
https://electricliterature.com/
www.goodreads.com 

 
พี่นัทตี้
พี่นัทตี้ - Columnist บุคคลผู้เสพติดการดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

2 ความคิดเห็น

พลอยนิล-อะเมะยูคิ Member 17 ต.ค. 61 21:23 น. 1

เคยเป็นอดีตนักเรียนที่โดนเพื่อนในห้องรังแกค่ะ ชีวิตช่วงนั้นไม่อยากไปเรียนเลย รู้สึกว่าโชคดีที่ผ่านมันมาได้ค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด