ถ้าไม่อยากเป็นฆาตกรต้องห้ามอ่าน! : ว่ากันว่าหนังสือ 4 เล่มเหล่านี้ถ้าได้อ่านแล้วอาจจะทำให้เรากลายเป็นฆาตกรได้อย่างง่ายดาย!



ถ้าไม่อยากเป็นฆาตกรต้องห้ามอ่าน! 
ว่ากันว่าหนังสือ 4 เล่มเหล่านี้ ถ้าได้อ่านแล้วอาจจะทำให้เรา
กลายเป็นฆาตกรได้อย่างง่ายดาย




สวัสดีน้องๆ นักอ่านชาวเด็กดีทุกคนนะคะ สำหรับบทความในวันนี้พี่ต้องบอกน้องๆ ทุกคนเลยว่าเป็นบทความที่โหดพอสมควร เพราะหนังสือที่เราหยิบมานำเสนอกันนั้นเป็นหนังสือที่ ‘ต้องระวัง’ ต้องระวังในที่นี้ก็คือ ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านให้มากๆ เพราะถ้าเราไม่ใช้วิจารณญาณในการอ่านมันอาจจะทำให้เรากลายเป็นฆาตกรขึ้นมาเลยก็ได้! O M G เอาล่ะ เสียเวลาเกริ่นกันมาตั้งเนิ่นนาน ทีนี้ก็ได้เวลามาอ่านบทความกันแล้ว มาจ้ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าหนังสือที่พี่หยิบมาแนะนำนั้นจะมีเรื่องอะไรกันบ้าง ไปดูกัน!


 

via GIPHY


 
หนังสือนวนิยายเล่มหนึ่งอาจจะคล้ายคลึงหรือตรงกับชีวิตจริงของใครบางคน หนังสือนวนิยายบางเล่มนักเขียนก็ได้หยิบเอาประสบการณ์ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาของตนเองมาสร้างสรรค์เป็นงานเขียน หรืออะไรต่อมิอะไรที่เคยเกิดขึ้นกับประสบการณ์การรับรู้ของคนๆ นั้นมาก่อน มันก็สามารถถูกนำมาแปรสภาพให้เป็นงานเขียนได้เช่นเดียวกัน 
 
ดังนั้นการที่เราอ่านหนังสือนวนิยายกันนั้น มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังนั่งคุยกับเพื่อนใหม่คนหนึ่ง คนที่เราอาจไม่เคยพบหรือเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเขามาก่อน ส่งผลทำให้นักอ่านได้รับประสบการณ์แปลกใหม่ที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตทั้งในแง่ดีและไม่ดีปะปนกันไป บางครั้งนักอ่านก็ไม่ได้คาดหวังที่จะต้องการให้หนังสือเล่มที่พวกเขากำลังอ่านอยู่นั้นส่งผลในด้านที่ไม่ดีกับเขา ซึ่งในความเห็นของพี่นั้นคิดว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการนำไปปรับใช้และการรับรู้ของเรามากกว่าว่าจะทำอย่างไรกับเพื่อนคนใหม่คนนี้กันดี
 
ก็เหมือนกับหนังสือที่เรากำลังจะได้รู้จักกันหลังจากนี้ เพราะมันอาจจะส่งผลทำให้คนอ่านคิดและจินตนาการต่อกันไปไกล อาจจะย่ำแย่ถึงขนาดทำให้คนอ่านเลียนแบบพฤติกรรมของตัวละครจนกลายเป็นฆาตกรได้เลย พี่เลยตัดสินใจนำหนังสือต่างๆ เหล่านั้นมาพูดถึงกันในบทความนี้ พร้อมกับความคิดเห็นจากทั้งตัวนักอ่านเองกับนักจิตวิทยามาเปรียบเทียบให้น้องๆ ได้เห็นภาพกันได้ชัดเจนมากขึ้น ส่วนจะมีอะไร ยังไงบ้างนั้น เราไปติดตามอ่านต่อกันได้เลยจ้า :)



 

1. THE COLLECTOR โดย JOHN FOWLES




ภาพจาก : amazon

 
ผลงาน The Collector เป็นผลงานหนังสือนวนิยายเล่มแรกของ จอห์น โฟว์เลส ที่ตีพิมพ์ออกมาครั้งแรกในปี 1963 โดยจอห์นได้ใช้เวลาในการเขียนหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1960 จนกระทั่งถึงเดือนมีนาคมปี 1962 ซึ่งถือว่าเป็นผลงานหนังสือนวนิยายเล่มแรกในชีวิตการเป็นนักเขียนของจอห์นที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณกรรมยอดนิยมยาวนานหลายสิบปี นอกจากนั้นแล้วนวนิยายเล่มนี้ยังได้กลายเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเป็นภาพยนตร์ในปี 1965 อีกด้วย
 
The Collector เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชายหนุ่มขี้เหงาคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เคร็ก โดยเคร็กนั้นทำอาชีพเป็นเสมียนที่ศาลากลางแห่งหนึ่ง ในเวลาว่างเขามักจะชอบเก็บสะสมผีเสื้อเป็นชีวิตจิตใจ ส่งผลทำให้เขาแทบจะไม่ได้มีทักษะทางสังคมกับใครเลย เพราะวันๆ เขาก็ทำแต่งาน กลับบ้านก็มานั่งง่วนอยู่กับซากผีเสื้อที่ตายไปแล้วอย่างนี้ จนอยู่มาวันหนึ่งเคร็กได้ไปรู้จักกับมิแรนด้า นักเรียนจากโรงเรียนศิลปะคนหนึ่ง โดยเคร็กลุ่มหลงมิแรนด้าเป็นอย่างมาก และเขามักจะคอยติดตาม สอดส่องเธออยู่เสมอจากระยะไกล แต่เขาไม่สามารถเข้าไปทักทายหรือทำความรู้จักเธอได้ เพราะความไม่กล้าเข้าสังคมของเขา
 
จนกระทั่งวันหนึ่งเคร็กเกิดโชคดีได้รับรางวัลชนะเลิศในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลน้ำ เขาเลยตัดสินใจลาออกจากงานก่อนจะหาซื้อบ้านที่อยู่ไกลออกไปทางแถบชนบทเพื่อหลบหนีจากสังคมเดิมๆ แต่แล้วเมื่อเขาแยกตัวออกไปอยู่ตามลำพัง เขาดันเกิดความรู้สึกเหงาและต้องการมิแรนด้าขึ้นมา เคร็กเลยตัดสินใจว่าเขาจะจับเธอให้มาเป็นหนึ่งใน ‘ของสะสม’ ที่เขาเก็บรักษาด้วยความรักและคงไว้ซึ่งความสวยงาม และเมื่อใดที่มิแรนด้ากลายมาเป็นหนึ่งในของสะสมของเขา เขาก็จะสามารถเชยชมและอยู่กับเธอได้ตลอดชั่วชีวิต...


 

Clip

ตัวอย่างภาพยนตร์



 
โดยนวนิยายเรื่องนี้ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับ คริสโตเฟอร์ ไวเดล ฆาตกรต่อเนื่องที่สังหารหญิงสาวจำนวนทั้งสิ้น 8 คน ซึ่งในรายงานการตายของเขาได้มีข้อความระบุเอาไว้ว่า คริสโตเฟอร์ได้ยิงตัวเองตาย แถมที่ข้างๆ ศพของเขายังมีหนังสือเล่มนี้วางตกอยู่ข้างๆ ด้วย ทำให้กลายเป็นว่าคนเลยพากันคิดไปต่างๆ นานาว่าสาเหตุที่ทำให้คริสโตเฟอร์ยิงตัวเองตาย และพฤติกรรมที่ทำให้เขากลายมาเป็นฆาตกรโรคจิตนี้อาจจะมาจากการอ่าน The Collector เล่มนี้อย่างแน่นอน
 
นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงออกเป็นหลายๆ รูปแบบทั้งภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ โดยโฟว์เลสผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงผลงานของเขาว่า หนังสือเล่มนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ ถึงอันตรายจากการประกอบอาชีพในหน่วยงานทางสังคม รวมถึงปัญหาที่เกิดจากคนที่ไม่สามารถจัดการหรือตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้ 



 

2. THE FASHIONABLE ADVENTURES OF JOSHUA CRAIG โดย DAVID GRAHAM PHILLIPS




ภาพจาก : amazon

 
เดวิด เกรแฮม ฟิลลิปส์เป็นนักข่าวที่รู้จักกันดีในฐานะนักเขียนเชิงสืบสวน - สอบสวน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจขนาดใหญ่และการทุจริตของรัฐบาล ด้วยงานที่ต้องติดต่อกับคนหมู่มาก เลยทำให้เขามีเพื่อนสนิทหลายคน ซึ่งบทความงานเขียนของเขาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ได้แก่งานเขียนเรื่อง ‘การกบฏของวุฒิสภา’ ซึ่งเต็มไปด้วยการเปิดเผยเรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับการกระทำผิดของรัฐบาล ซึ่งบทความนี้ได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Cosmopolitan 
 
และสำหรับ The Fashionable Adventures of Joshua Craig เล่มนี้เป็นผลงานการเขียนลำดับที่ 18 ของเดวิด ที่เขาได้หยิบเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาใส่เป็นฉากใหม่ทางการเมือง ที่ฟังดูแล้วมันก็คือนวนิยายที่เรารู้จักกันดีนี่แหละ แต่มันเป็นนวนิยายที่เสียดสีและตีแผ่เหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นได้ดีมากเลยทีเดียว!


 

ภาพจาก : wikipedia

 
ในวันที่ 23 มกราคม ปี 1911 เดวิดได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตัวเขาในระหว่างที่กำลังมุ่งหน้าไปที่พรินซ์ตันคลับ แถมเขายังถูกยิงถึง 6 นัดโดยชายคนหนึ่งที่ทราบภายหลังว่าเป็นบัณฑิตจากฮาร์วาร์ดและลูกชายของตระกูลโกลด์สโบโรช์ที่ยิ่งใหญ่ ที่เขาไม่เพียงแต่อารมณ์เสียที่เดวิดจงใจจะใส่เรื่องราวของพี่สาวของเขาลงไปในนวนิยายของตัวเอง แต่มันยังทำให้คนในตระกูลเสื่อมเสียชื่อเสียงไปกับความต้องการจะ ‘เหน็บ’ ของเขาอีกด้วย หลังจากยิงเดวิดไปถึง 6 นัด ชายคนนั้นก็ได้หันปืนกลับเข้ามาหาตัวเองแล้วพูดในทำนองที่ว่า ‘ฉันจะจบงานของฉันในตอนนี้’ พร้อมกับยิงตัวเองตายตาม
 
โดยนักจิตวิทยาหลายท่านเชื่อกันว่า พฤติกรรมอันสุ่มเสี่ยงของลูกชายตระกูลโกลด์สโบโรช์คนนั้นอาจจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากเนื้อหาในนวนิยายแนวสืบสวนของเดวิดที่ทำให้เกิดเป็นการกระทำอันเลวร้าย โดยที่เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าการกระทำในครั้งนี้จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราเดินไปถามคนในสมัยนี้ เราอาจจะได้รับคำตอบในทำนองเดียวกันว่าไม่มีใครรู้จักลูกชายตระกูลโกลด์สโบโรช์คนนั้นอีกแล้ว



 

3. THE CATCHER IN THE RYE โดย J.D. SALINGER




ภาพจาก : amazon

 
The Catcher In the Rye ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1951 แต่กลับมีการพูดถึงกันจนกระทั่งทุกวันนี้ เพราะได้มีคนให้ความคิดเห็นว่า หนังสือนวนิยายเล่มนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ที่อาจจะทำให้วัยรุ่นจดจำพฤติกรรมของตัวละครไปใช้ในชีวิตจริงก็เป็นได้
 
ถึงแม้ว่านวนิยายเล่มนี้ถูกจัดอยู่ในนวนิยายที่มีเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่อ่าน แถมยังได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ อีกมากมาย แต่เนื้อหานั้นเป็นอะไรที่ใกล้กับคนในช่วงวัยรุ่นมากกว่าวัยผู้ใหญ่อยู่มาก โดยเนื้อเรื่องคร่าวๆ ของนวนิยายเล่มนี้ก็คือ มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นที่ชื่อว่า โฮเดน ที่ถูกขับออกจากโรงเรียนด้วยสาเหตุที่มาจากผลการเรียนที่ไม่ดีถึงไม่ดีมากๆ ของเขา นอกจากผลการเรียนแล้ว สภาพสังคมในโรงเรียนในความคิดของเขานั้นแย่กว่าเกรดที่เขาได้รับอีกต่างหาก เพราะมันเต็มไปด้วยคนปลอมๆ สภาพแวดล้อมก็ปลอมๆ จนทำให้เด็กวัยรุ่นอย่างโฮเดนเกิดความสับสนว่าจริงๆ แล้วเขาเข้ากับสังคมไม่ได้ หรือเป็นที่สังคมต่างหากที่เขากับเขาไม่ได้กันแน่


 

ภาพจาก : johnlennon.com

 
ในวันที่ 8 ธันวาคม ปี 1980 มาร์ก เดวิด แชปแมน ได้ยิง จอห์น เลนนอน จนเสียชีวิตที่ด้านนอกของอพาร์ตเมนต์ที่มีชื่อว่า เดอะดาโกตา ในมหานครนิวยอร์ก โดยมาร์กได้ยิงจอห์น เลนนอนถึง 5 ครั้ง แถมหลังจากที่จอห์น เลนนอนเสียชีวิต มาร์กยังคงอยู่ที่จุดเกิดเหตุ พร้อมกับเปิดอ่านนวนิยายเรื่อง The Catcher In the Rye อีกด้วย!
 
หลังจากตำรวจเข้าจับกุม มาร์กได้กล่าวถ้อยคำซ้ำไปซ้ำมาอยู่หลายครั้งว่านวนิยายเรื่องดังกล่าวคือแถลงการณ์จากเขา จนเมื่อถึงเวลาพิพากษามาร์กได้สารภาพผิดพร้อมกับให้เหตุผลว่าสิ่งที่เขาได้ทำลงไปคือความปรารถนาจากพระเจ้า ผู้พิพากษาได้ตัดสินโทษโดยแทบจะไม่ต้องประเมินสภาพจิตของมาร์กเลยแม้แต่นิดเดียว โดยศาลได้ตัดสินให้มาร์กจำคุกตั้งแต่ 20 ปีถึงตลอดชีวิต แถมมาร์กยังต้องเข้ารับการรักษาสุขภาพจิตและอยู่ในความคุ้มครองจากนักจิตวิทยาอย่างใกล้ชิดอีกด้วย 
 
การฆาตกรรมอันน่าสยดสยองของจอห์น เลนนอน ได้ทำให้แฟนเพลงทั้งหลายของเขาเปลี่ยนความนิยมกันไปในทันที แถมความสัมพันธ์ระหว่างนวนิยายกับเหตุการณ์การฆาตกรรมนี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเคสตัวอย่างที่เห็นภาพได้ดีที่สุดถึงผลกระทบของการอ่านต่อคนที่เป็นนักอ่าน



 

4. RAGE โดย STEPHEN KING




ภาพจาก : wikipedia

 
หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1977 โดยเจ้าพ่อนักเขียนนวนิยายแนวสยองขวัญอย่างสตีเฟ่น คิง ซึ่งในตอนนั้นตีพิมพ์ในนามปากกาที่ชื่อว่า Richard Bachman หนังสือเล่มนี้มีการตีพิมพ์ออกมาแค่ครั้งเดียว และก็ไม่มีการตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งต่อๆ ไปอีก ซึ่งนักอ่านหลายคนลงความเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เขาตัดสินใจแบบนั้น
 
มาว่ากันด้วยเรื่องราวในนวนิยายเล่มนี้กันบ้างดีกว่า RAGE เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชาร์ลีที่มีปากเสียงกับอาจารย์ที่สอนวิชาเคมี จนทำให้เขาถูกไล่ออก ส่งผลทำให้ชาร์ลีไม่พอใจเอามากๆ เลยตัดสินใจหยิบ ‘ปืน’ มากราดยิงบรรดาอาจารย์รวมถึงนักเรียนคนอื่นๆ ในโรงเรียนจนกลายเป็นโศกนาฏกรรมไปในที่สุด!
 
เหตุการณ์ความรุนแรงในหนังสือถือเป็นตัวอย่างสถานการณ์สุดคลาสสิกที่มักจะปรากฏอยู่ในสังคมบ่อยๆ จนทำให้ดูเหมือนว่าสถานการณ์ที่ชาร์ลี ตัวเอกของเรื่องต้องเผชิญกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไปซะเลย แต่ก็มีคดีที่เคยเกิดขึ้นในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ที่มีอยู่หลายคดีที่ดูเชื่อมโยงกับเนื้อหาภายในหนังสือ จนเราไม่แน่ใจเลยว่าสรุปแล้วเรื่องราวในหนังสือนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือกันแน่



 


 
น้องๆ จะเห็นได้ว่าหนังสือนั้นส่งผลกระทบต่อคนที่เป็นนักอ่านจริงๆ ไม่ว่าหนังสือเล่มนั้นจะดีหรือไม่ดี และไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจให้มันส่งผลกระทบต่อเราเองก็ตาม ดังนั้นในสมัยนี้จึงได้มีการกระทำสิ่งที่เรียกว่า ‘แบน’ ขึ้นมา เพราะเจตนาที่ดีที่ไม่อยากให้คนอ่านจดจำภาพของเหตุการณ์หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของตัวละครไปใช้ในชีวิตจริงนั่นเอง ยังไงพี่ก็หวังว่าน้องๆ ทุกคนจะเลือกอ่านหนังสือที่ดี ที่มีคุณค่า และไม่จดจำแบบอย่างที่ไม่ดีในหนังสือไปปฏิบัติกันนะจ๊ะ 

 
พี่นัทตี้ :)


ขอบคุณแหล่งที่มาจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Collector 
https://en.wikipedia.org/wiki/The_Catcher_in_the_Rye 
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81_%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%94_%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%99 
https://en.wikipedia.org/wiki/Rage_(King_novel)
http://www.weirdworm.com/four-books-that-lead-to-murders

 

 
พี่นัทตี้
พี่นัทตี้ - Columnist บุคคลผู้เสพติดการดูหนังแนวสยองขวัญ ที่มีความฝันอยากจะเป็นนักเขียน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ปีศาจหัวโต Member 8 พ.ค. 62 09:04 น. 1

ขอบคุณสำหรับบทความนะฮะ

ชอบอ่านแต่แนวสืบสวน ระทึกขวัญ แต่จริง ๆ ก็เป็นคนมุ้งมิ้งน้า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

3 ความคิดเห็น

ปีศาจหัวโต Member 8 พ.ค. 62 09:04 น. 1

ขอบคุณสำหรับบทความนะฮะ

ชอบอ่านแต่แนวสืบสวน ระทึกขวัญ แต่จริง ๆ ก็เป็นคนมุ้งมิ้งน้า

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด