หลังจากพาสาว ๆ ไปท่องแดนยุทธภพเรื่องสิว ๆ มาแล้ว ในซีรีส์ "คัมภีร์สู้สิว" ตอนสุดท้ายนี้ ก็จะพามาสรุปกันเลยว่าสิวแต่ละแบบควรใช้ยาอะไร เอาว่าเปิดมาจบในคอลัมน์เดียวไปเลย
สิวอุดตัน
1. ใช้ Benzac (Benzyl Peroxide) โดยเริ่มใช้ที่ 2.5% ทาบาง ๆ ก่อนล้างหน้า ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ถ้าแต่งหน้าให้ล้างเครื่องสำอางออกก่อนแล้วค่อยทาค่ะ
2. Retin A (Retinoic Acid) ทาก่อนล้างหน้า ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ถ้าแต่งหน้าให้ล้างเครื่องสำอางออกก่อนแล้วค่อยทาค่ะ ถ้าผิวมันมาก อาจทาบาง ๆ ทิ้งไว้ก่อนนอนได้
3. Differin (Adapalene) ถ้าเป็นคนผิวมันมาก ๆ อาจจะทาบาง ๆ ทุกคืนได้ แต่ถ้าเป็นคนผิวผสมให้ทาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็พอ
2. Retin A (Retinoic Acid) ทาก่อนล้างหน้า ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ถ้าแต่งหน้าให้ล้างเครื่องสำอางออกก่อนแล้วค่อยทาค่ะ ถ้าผิวมันมาก อาจทาบาง ๆ ทิ้งไว้ก่อนนอนได้
3. Differin (Adapalene) ถ้าเป็นคนผิวมันมาก ๆ อาจจะทาบาง ๆ ทุกคืนได้ แต่ถ้าเป็นคนผิวผสมให้ทาอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็พอ
* เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น
** Retin A และ Differin ใช้ได้เฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น เพราะตัวยาไม่ทนต่อแสงแดด อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้
สิวอักเสบ
1. ถ้าเป็นสิวอักเสบระยะแรกแบบไม่มีหัว และมีขนาดไม่ใหญ่มาก ให้รักษาแบบสิวอุดตันโดยการทา Benzac เพราะสิวอักเสบนั้นมีที่มีจากสิวอุดตันนั่นเอง
2. รอจนกว่าสิวจะขึ้นหัวหนอง ใช้คอตตอนบัดค่อยๆ กดจนหัวสิวและหนองหลุดออก จากนั้นแต้ม Clinda M หรือตัวยา Clindamycin ที่หัวสิวเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ยังเหลืออยู่
3. แต่หากสิวอักเสบขึ้นพร้อมกันหลาย ๆ หัว จนเกิดการบวมอักเสบ แนะนำให้ไปฉีดสิวเพื่อไม่ให้อักเสบยืดเยื้อจนเกิดหลุมสิวค่ะ
2. รอจนกว่าสิวจะขึ้นหัวหนอง ใช้คอตตอนบัดค่อยๆ กดจนหัวสิวและหนองหลุดออก จากนั้นแต้ม Clinda M หรือตัวยา Clindamycin ที่หัวสิวเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ยังเหลืออยู่
3. แต่หากสิวอักเสบขึ้นพร้อมกันหลาย ๆ หัว จนเกิดการบวมอักเสบ แนะนำให้ไปฉีดสิวเพื่อไม่ให้อักเสบยืดเยื้อจนเกิดหลุมสิวค่ะ
สิวเสี้ยน
1. ใช้กรดวิตามินเอ วิธีนี้ใช้ได้ในกรณีที่มีสิวเสี้ยนไม่เยอะมาก สาวๆ สามารถใช้ Differin / Retin A หรือยาอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ทาบางๆ ก่อนนอนได้ค่ะ โดยเจ้ากรดวิตามินเอนั้นจะช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน ทำให้สิวเสี้ยนหลุดออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
2. แผ่นลอกสิ้วเสี้ยนอาจจะไม่ใช่ยา แต่ก็ช่วยลดสิวเสี้ยนได้อย่างปลอดภัยค่ะ
2. แผ่นลอกสิ้วเสี้ยนอาจจะไม่ใช่ยา แต่ก็ช่วยลดสิวเสี้ยนได้อย่างปลอดภัยค่ะ
สิวผด
ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ (Steroid) หรือ Protopic/Elidel ซึ่งเป็นยาที่ต้องได้รับจากการสั่งยาของคุณหมอเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วสิวผดสามารถหายเองได้เมื่อผิวเข้าสู่ภาวะปกติค่ะ แต่ถ้าใครเป็นยาวนานมากจนผิดสังเกต ให้ลองปรึกษาเภสัชกรหรือคุณหมอผิวหนังนะคะ ห้ามซื้อใช้เองเด็ดขาด เพราะมีระยะเวลาการใช้ที่จำกัดและมีผลข้างเคียงเยอะค่ะ
สิวสเตอรอยด์
1. ใช้ Benzac (Benzyl Peroxide) ทาก่อนล้างหน้า วิธีใช้เหมือนกับสิวอุดตันค่ะ
2. ทา Clinda M (Clindamycin) หลังจากล้างหน้า แต่ไม่ต้องไปบีบหรือกดออกนะคะ
3. ทาครีมให้ความชุ่มชื้นผิว เนื่องจากตัวยาทั้งสองตัวอาจจะทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ แต่ต้องเลือกครีมบำรุงที่อ่อนโยนกับผิวด้วยค่ะ
2. ทา Clinda M (Clindamycin) หลังจากล้างหน้า แต่ไม่ต้องไปบีบหรือกดออกนะคะ
3. ทาครีมให้ความชุ่มชื้นผิว เนื่องจากตัวยาทั้งสองตัวอาจจะทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ แต่ต้องเลือกครีมบำรุงที่อ่อนโยนกับผิวด้วยค่ะ
นอกจากการทายาทั้งหมดแล้ว พี่โอ๊ตก็ขอสรุปวิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นสิวแบบสั้นๆ แต่ทำได้จริงตามนี้ค่ะ
1. อย่าล้างหน้าจนแห้งตึงเกินไป เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม ล้างแล้วผิวต้องไม่แห้งเอี๊ยด
2. การรักษาสิวมักจะมีตัวยาที่ทำให้ผิวแห้งกว่าปกติ จึงต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นควบคู่ไปด้วย เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาค่ะ
3. การบีบ แคะ แกะสิว อาจจะทำให้สบายใจช่วงแรก แต่แผลเป็นที่ทิ้งไว้จะทำให้หนักใจไปอีกนานค่ะ ถ้าจะกดสิวแนะนำให้ไปคลีนิกเฉพาะทางดีกว่า
4. พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะหรืออากาศร้อนมากๆ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้สิวเพิ่มได้ค่ะ
5. ข้อสุดท้าย พยายามอย่าไปเครียดกับสิวที่มีอยู่ เพราะมันสามารถรักษาให้หายได้ค่ะ และเจ้าความเครียดนี่แหละที่จะไปทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน จนเป็นอีกสาเหตุของการเกิดสิวได้นั่นเอง
2. การรักษาสิวมักจะมีตัวยาที่ทำให้ผิวแห้งกว่าปกติ จึงต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นควบคู่ไปด้วย เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ถ้าไม่แน่ใจให้ปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาค่ะ
3. การบีบ แคะ แกะสิว อาจจะทำให้สบายใจช่วงแรก แต่แผลเป็นที่ทิ้งไว้จะทำให้หนักใจไปอีกนานค่ะ ถ้าจะกดสิวแนะนำให้ไปคลีนิกเฉพาะทางดีกว่า
4. พักผ่อนให้เพียงพอ พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีฝุ่นเยอะหรืออากาศร้อนมากๆ เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้สิวเพิ่มได้ค่ะ
5. ข้อสุดท้าย พยายามอย่าไปเครียดกับสิวที่มีอยู่ เพราะมันสามารถรักษาให้หายได้ค่ะ และเจ้าความเครียดนี่แหละที่จะไปทำให้ฮอร์โมนแปรปรวน จนเป็นอีกสาเหตุของการเกิดสิวได้นั่นเอง
เริ่มรักษาสิวกันตอนนี้บอกเลยว่ายังไม่สายค่ะ เมื่อเรารู้ต้นเหตุและวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ก็จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้น เดี๋ยวนี้ทั้งตัวยาเอง หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวเป็นสิวก็ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพขึ้น และเห็นผลได้ดีกว่าสมัยก่อนมากๆ เพราะฉะนั้นสาวๆ ทุกคนจงมีสติ! เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผิวหรือปัญหาที่มีอยู่นะคะ เอาใจช่วยทุกคนให้หน้าใสไปด้วยกันค่ะ
2 ความคิดเห็น
ผลิตภัณฑ์ต่างๆหาซื้อได้จากที่ไหนบ้างคะ หนูมีสิวอุดตัดสิวเสี้ยนหน้าก็มันทุกๆเช้าแล้วก็มันง่ายด้วยค่ะ
ขอบคุณ