เปิดประวัติ 'โฟล์ว' กับเรื่องราวเบื้องหลังช่อดอกไม้สุดอลังการในงาน #MissUniverse

 

        สวัสดีค่ะชาว Dek-D พบกับคอลัมน์ “เด็กพลังบวก Special” ที่จะพาน้องๆ ไปค้นหาแรงบันดาลใจจากไอดอลตัวจริง เจาะลึกชีวิตของผู้มีแพสชันในการทำตามฝัน และสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้สังคมค่ะ
 
        เพิ่งผ่านไปไม่นานสำหรับงานประกวด Miss Universe ที่ปีนี้บ้านเราเป็นเจ้าภาพ นอกจากความงดงามและทัศนคติของนางงามที่สวยสมมงแล้ว อีกสิ่งที่เป็นควันหลงจากเวทีประกวดและมีชาวโซเชียลแชร์ต่อกันเยอะมากกก คือ "ช่อดอกไม้" ที่นางงามถือ เพราะสวยงามแบบไร้ที่ติ และชูเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจน งานนี้เราได้รับเกียรติจากนักจัดดอกไม้เจ้าของผลงานนี้ที่สละเวลามาเล่าเบื้องหลังการทำงานให้ฟัง (บอกเลยว่าได้โจทย์ท้าทายมากกก!!) เท่านั้นยังไม่พอ การพูดคุยทำให้ทราบว่าเจ้าตัวมีประสบการณ์จัดดอกไม้มาก่อนหน้านี้ถึง 12 เวทีด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปรู้จัก 'คุณโฟล์ว' - ปิยวัฒน์ มีไพฑูรย์ เฮดของทีมจัดดอกไม้ครั้งนี้กันเลยดีกว่า ^^
 


Photo Credit: FLOWDESIGN
 

แฟนนางงามที่ฝันอยากทำช่อดอกไม้ให้นางงามถือ!
 
        “เริ่มจากเราเป็นคนชอบดูนางงามอยู่แล้วครับ ภาพจำคือเราชื่นชอบ ‘พี่ปุ๋ย-ภรทิพย์’ (นางงามจักรวาลคนที่ 2 ของประเทศเมื่อปี 2531) ณ ตอนนั้นเรายังเด็กมากกก บวกกับชอบจัดดอกไม้ด้วย เลยฝันเล็กๆ ว่า ถ้าวันนึงเราได้จัดดอกไม้ให้ Miss Universe คงจะดีเนอะ แต่ตอนนั้นผมรู้สึกว่าคงเป็นฝันลมๆ แล้งๆ เพราะเราไม่ได้เกิดมาในสังคมที่หรูหรา”
 
        คุณโฟล์วเล่าจุดเริ่มต้นของความสนใจด้านนี้ให้ฟัง “ผมชอบงานพวกนี้มาตั้งแต่จำความได้เลยครับ สมัยก่อนจะมีพวกวิชาเรียนพวก สปช. สลน. กพอ. แล้วสมัยเด็กคุณยายของปลูกดอกไม้ เราก็แอบไปตัดมาแล้วจัดไว้ตามมุมห้องมุมบ้าน พอเขาจับได้เลยโดนว่าว่าจะตัดไปทำไม มันอยู่ในต้นก็สวยของมันอยู่แล้ว ตอนนั้นเราคิดแค่จัดสนุกๆ เองครับ 5555"
 
        “พอมาช่วง ม.3 - ม.4 หลักๆ ผมจะทำงานร้อยมาลัย เย็บใบตอง แล้วเป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวดงานเย็บปักถักร้อยด้วย จนกระทั่งได้พบครูท่านนึง ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้เป็นแชมป์โลกในงานประกวดของ ‘สมาคมดอกไม้โลก’ ท่านเห็นแววเรา พอเลิกเรียนช่วงเย็น ผมก็ไปเป็นลูกมือให้เขา ช่วยครูเก็บร้านและฝึกจัดดอกไม้ ช่วงนี้ที่เริ่มหันมาฝึกจริงจังเลย เวลามีงานจะตามไปช่วยตลอด”


Photo Credit: FLOWDESIGN

 
บทเรียนที่สอนว่า "การจัดดอกไม้" คือเรื่องละเอียดอ่อน
 
        “สิ่งที่ครูถ่ายทอดให้เราจะเป็นบทเรียนที่สมาคมดอกไม้โลกยอมรับครับ เราได้เรียนทั้งทฤษฎีและฝึกทำจริงเลย ช่วงแรกแอบท้อนะว่าทำไมยากจัง เมื่อก่อนคิดว่าแค่หยิบดอกไม้มาเสียบๆ จับๆ ปักๆ ก็สวยแล้ว แต่จริงๆ มันไม่ใช่ มันละเอียดอ่อนกว่านั้น เช่น ต้องคำนึงเรื่ององค์ประกอบสี สัดส่วน Materials ของดอก ใบ ลายเส้น และต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ใช้ด้วยครับ”

        “ตอนนั้นโฟล์วยังอยู่สระบุรี หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่ กทม. ครับ ช่วงนั้นเราได้รู้จักและเรียนรู้จากเพื่อนครูและรุ่นพี่ฝีมือดีๆ จัดดอกไม้เก่งๆ พอโตขึ้นก็มีสังคม รู้จักผู้ใหญ่ มีคอนเนกชั่นเรื่องงานเข้ามา เราเก็บเกี่ยวตรงนั้นเพื่อสร้างชื่อเสียง” รับงานครั้งแรกตอนไหน? “ปี 1 ครับ ตอนนั้นเป็นงานแต่งงาน ได้ค่าจ้าง 15,000 บาท ดีใจมากกกตอนนั้น เพราะถือเป็นเงินก้อนใหญ่สำหรับเราเลยครับ ^^”


ดอกไม้ที่ใช้ในช่อ Miss Thailand World (2018)
Photo Credit: FLOWDESIGN
 
        “ทีนี้สมัยก่อนที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามาแล้ว โฟล์วก็มีใช้ติดตามเพจเกี่ยวกับนางงาม แล้วก็จับพลัดจับผลูได้มาทำงานวงการนี้ เพราะมีโอกาสรู้จักผู้ใหญ่ครับ เวทีแรกของผมคือการจัดดอกไม้ในงานประกวดนางงามสาวประเภทสองนานาชาติระดับโลก (Miss International Queen) น่าจะปี 2015


Miss Intertional Queen (2015)
Photo Credit: FLOWDESIGN
 
        “หลังจากนั้นในปีเดียวกัน เวที Miss Thailand World ก็ติดต่อมา น่าจะรู้จักจากสื่อโซเชียลที่พูดถึง เพราะทางกองประกวดให้เครดิตเรา เสร็จจากเวทีนั้น ก็มาเป็นเวที Miss Universe Thailand (MUT) ปีแรกที่เริ่มทำคือปีของ ‘น้ำตาล’ จากนั้นทำมาตลอด 3 ปีเลยครับ”


Miss Universe Thailand (2016)
Photo Credit: FLOWDESIGN
 

Miss Universe Thailand (2017)
Photo Credit: FLOWDESIGN


Miss Thailand World (2018)
Photo Credit: FLOWDESIGN
 
        ว่าแต่เราจัดส่วนไหนบ้าง? “ถ้าเป็น Miss Universe โฟล์วได้ทำส่วนของงาน Thai Night ที่นางงามเดินแบบชุดไทยครับ นอกจากนี้ยังได้จัดในอีเวนต์อุ่นไอรัก ส่วนของดอกไม้ที่ติดผมของสาวงามครับ”


 

กว่าจะเป็นช่อดอกไม้สุดอลังการบนมือนางงามปีล่าสุด!
 
        “สำหรับงานในเวที Miss Universe ปีล่าสุดจะยากนิดนึง เพราะต้องผ่านการเห็นชอบทั้งทางผู้จัดฝั่งไทยและผู้จัดฝั่งอเมริกา ตอนนั้นโฟล์วส่งจดหมายแนะนำพร้อมกับ Resume เพื่อนำเสนอประวัติการทำงานว่าเคยผ่านงานจัดดอกไม้ให้เวทีไหนมาบ้าง พอเขาเลือกเราแล้วเราต้องไปพรีเซนต์ให้เขาฟังครั้งแรก”
 
        ...ซึ่งปรากฏว่าสิ่งที่พรีเซนต์ครั้งแรกถูกรื้อทั้งหมด! โฟล์วคิดไว้ตอนแรกว่าอยากใช้ดอกไม้สีขาวล้วน แต่ทางฝั่งอเมริกาบอกอยากได้สีสันสดๆ และโฟล์วจะถนัดงานด้านสากล ทางอเมริการีเควสต์ว่าอยากได้ดอกไม้ไทย โฟล์วต้องรื้อใหม่ 3 รอบ ทางนั้นเขางานละเอียดยิบด้วย เช่น ความยาวของสายดอกรัก เขาให้เราลองยืน แล้วลองวัดดูว่า 30 ซม. ยาวแค่ไหน ยาวพอดีมั้ย นางงามปีนี้ค่าเฉลี่ยความสูงกี่เซนติเมตร ใส่รองเท้าสูงกี่นิ้ว ละเอียดมากกก ไม่เคยทำงานละเอียดขนาดนี้มาก่อน แล้วโจทย์ก็ยากมากด้วย โจทย์ที่ว่าคือ ช่อดอกไม้ทั้งหมด 3 ช่อ แต่ละช่อต้องสีสันสดใส และเป็นคนละสีกัน แล้วเวลายืนเรียงกัน สีของดอกไม้ต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากเรารับบรีฟมาก็เครียดไป 3 วันเลยครับ”


Photo Credit: FLOWDESIGN


ไข่มุกแท้ที่จะเดินเส้นตัดขอบกนกพญานาค
Photo Credit: FLOWDESIGN

 
        เล่าถึงตรงนี้เราขออนุญาตยกข้อความจากเพจ FLOWDESIGN ที่คุณโฟล์วได้อธิบายความหมายของช่อดอกไม้ของนางงามบนเวที Miss Universe ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “พญานาค” ว่า...
 
        "พญานาค คือตำนานความเชื่อของของไทยที่มีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และนาคยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล ในคติความเชื่อของไทย
 
        ฐานรองช่อดอกไม้ : จะถอดแบบจำลองจากอริยาบทของพญานาค โดยการเย็บแบบจากผ้าสีครีม รวมถึงประดับด้วยไข่มุกแท้ โดยการเดินเส้นลายกนกพญานาค
 
        ช่อดอกไม้ : ใช้ดอกกล้วยไม้ไทย ธีมสีสัน(องค์กรต้องการ) จัดวางในรูปแบบสไตล์สากล ห้อยด้วยสายอุบะดอกรักสีขาว แทนการผูกริบบิ้นแบบธรรมดา"
 
        เห็นงานสวยงามอลังการแบบนี้ เราใช้เวลาทำทุกขั้นตอนนานแค่ไหน? เล่าก่อนว่าทีมงานของเรามีประมาณ 6-7 คนครับ ฐานรองช่อใช้เวลาทำ 1-2 สัปดาห์ เพราะตัวฐานรองช่อเป็นรูปพญานาค ทำจากผ้า เราสามารถทำล่วงหน้าไว้ก่อนได้ แต่ส่วนงานดอกไม้สด โฟล์วใช้เวลาเตรียมตัว 3 วันก่อนหน้างาน เพราะดอกไม้สดอยู่นานไม่ได้ แล้วปกติเราจะไม่กังวลเรื่องรูปทรง สัดส่วน ว่านางงามถือแล้วจะสวยมั้ย สัดส่วนพอดีมั้ย เพราะเรามีประสบการณ์กับเวทีนางงามมาตั้ง 12 เวทีแล้ว แต่สิ่งที่กลัวสุดคือเรื่องสี”
 
        เขาอธิบายสิ่งที่กังวลตอนนั้นให้ฟังว่า “ถ้าเป็นดอกไม้ไทยเราจะควบคุมเรื่องความอ่อนความเข้มไม่ได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะไปสั่งแม่ค้าว่าเราอยากได้ดอกไม้สีนั้นสีนี้ เราต้องเสี่ยงดวงซื้อแล้วเอามาแมทช์กันว่าเข้าคู่กันได้มั้ย เราต้องคิดถึงช่อดอกไม้ของตำแหน่งรองด้วยว่าถ้าทั้ง 3 คนยืนเรียงกันจะไปทางเดียวกันรึเปล่า ความยากอยู่ตรงนี้แหละ”


 
        “พอวันงานจริงเรามีโอกาสไปส่งช่อดอกไม้ ทางฝั่งอเมริกาเขาทำหน้าแบบตะลึง แล้วหนึ่งในนั้นจะมีคนนึงที่ละเอียดมากๆ เขาบอกว่า ‘Ohhh! So beautiful!!’  นางมาชมเรา เรานี่เหมือนหลุดไปแล้วอะ โล่งแล้ววว ณ จุดนั้น ฝรั่งมาดูแล้วตาลุก มาลูบงานเรา เรายืนยิ้มมีความสุขมาก ยิ้มปริ่มเหมือนวิญญาณหลุดจากร่างแล้ว หายเหนื่อยเลยครับ แล้วพอวันงานมีสื่อเผยแพร่ออกไป คนไทยก็เริ่มโพสต์เริ่มแชร์ เรารู้สึกเกินคาดมาก ทั้งภูมิใจและดีใจมากๆ ครับ งานนี้ประเมินค่าไม่ได้ เพราะเราชอบนางงามอยู่แล้ว เรามีความสุขเหมือนได้มอบของขวัญให้นางงาม"
 
        นอกจากนี้เขายังเล่าให้ฟังอีกว่า โฟล์วเองจะถนัดสไตล์สากล แต่ชอบเอางานไทยผสมผสานกันเพื่อให้งานไทยดู World Class ขึ้น เพราะงานไทยเป็นงานละเอียดมากๆ ขั้นตอนเยอะ ใช้เวลานาน ต้องมาคัดเลือกกลีบดอกไม้มาร้อยเรียง แต่คนในชาติเองกลับให้ราคาน้อยมาก อย่างพวงมาลัย นั่งร้อยตาเหลือก ขายแค่พวงละ 10-20 บาท ซึ่งโฟล์วอยากยกระดับโดยการหยิบงานไทยมาทำให้สากลที่เราชื่นชอบอยู่แล้ว อยากให้ต่างชาติเห็นความวิจิตรงดงาม และเห็นค่าของงานฝีมือไทยที่ฝรั่งก็ทำแบบเราไม่ได้ เราควรภูมิใจครับ”


Photo Credit: FLOWDESIGN


แจกันดอกไม้ที่ถูกส่งไปห้องรับแขกผู้ร่วมงาน VIP จากฝั่งอเมริกา
Photo Credit: FLOWDESIGN


 
ไม่ว่าจะ “การใช้ชีวิต” หรือ “การจัดดอกไม้” ก็ต้องมีแผนสำรอง
 
        “ช่วงเวลาที่เราสะสมมาตั้งแต่เริ่มทำงานด้านนี้ น่าจะ 15 ปีได้แล้ว เราได้คำแนะนำดีๆ จากเพื่อนๆ พี่ๆ และลูกค้า หรือคำติชม ก็หยิบมาปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และที่สำคัญคืองานจัดดอกไม้ทำให้เราเป็นคนรอบคอบ เพราะปกติเราจะวางแผน 1, 2, 3 ไว้สำรองตลอด ถ้าเผื่อไปดูดอกไม้แล้วไม่มีสีตามที่คิด เราจะใช้สีอื่นแทน ซึ่งสีอื่นที่ว่าก็ต้องเหมาะด้วย เราว่าน่าจะเหมือนกับการใช้ชีวิตที่ต้องมีแผน 1 แผน 2 ตลอด”
 
        “โฟล์วมีความฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าอยากเป็นนักจัดดอกไม้ที่มีคนรู้จัก อยากได้แชมป์ประเทศไทย อยากจัดดอกไม้ให้เวทีนางงามระดับชาติ และอยากจัดให้มิสยูนิเวิร์ส ซึ่ง ณ ตอนนี้โฟล์วก็ได้ทำสิ่งที่ฝันไว้เมื่อนานมาแล้ว งานสายนี้เป็นรายได้หลักที่ทำให้เราอยู่ได้แบบไม่เดือดร้อน และเรารู้สึกภูมิใจด้วยที่แม้ตนจะไม่ได้เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะทางการเงินดีเยี่ยม แต่เราก็สู้เองจนได้ดีเพราะงานนี้เลยครับ”



 
อยากให้ฝันเป็นจริง ต้องวิ่งหาโอกาส
 
        “โฟล์วเชื่อว่าทุกคนมีความฝัน คุณอยากให้สิ่งนั้นเป็นความฝัน หรืออยากทำให้กลายเป็นจริงขึ้นมา ก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา เราต้องวิ่งหาโอกาสด้วย ไม่ใช่แค่รอให้โอกาสวิ่งเข้าหาเราอย่างเดียว เพราะไม่ใช่ทุกคนเกิดมามีทุกอย่างรออยู่พร้อม”


 
        อ่านถึงตรงนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องทึ่งกับเบื้องหลังที่ละเอียดและท้าทายกว่าที่คิด ทาง Dek-D ต้องขอขอบคุณคุณโฟล์วและทีมที่ช่วยให้เสน่ห์ของงานดอกไม้ไทย ส่งกลิ่นหอมไปถึงระดับ World Class และขอแสดงความยินดีที่ความฝันในวัยเด็กเป็นจริงขึ้นมาด้วย! สำหรับใครที่อยากติดตามผลงาน สามารถเข้าไปชมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ FLOWDESIGN นะคะ คุณโฟล์วเล่าว่าเขาเปิดเพจเพื่อเก็บผลงานมาตั้งแต่เฟซบุ๊กเพิ่งก่อตั้งใหม่ๆ เลย และเชื่อเถอะว่าความอลังการของงานจะถูกอัปเดตผ่านหน้าเพจให้เราชื่นชมอีกหลายงานแน่นอน!          
 
อย่าลืมย้อนอ่านเด็กพลังบวกคนก่อนนะคะ ><

'เคอิโงะ ซาโต'
กับการก้าวข้ามกำแพงความกลัวสู่การเป็น 'ซากุระ' ที่สวยงามในตัวเอง!
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด

2 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด