สังคมในปัจจุบันกำลังมีความกังวลและมีข้อข้องใจเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม ซึ่งมีทั้งที่เป็นพืช สัตว์ และจุลินทรีย์ หรือที่เราเรียกกันว่าจี เอ็ม โอ (Genetically Modified Organisms : GMOs) นั่นเอง เราทุกคนกำลังสงสัยกันว่าการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบเป็นจี เอ็ม โอจะมีผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่ อย่างไร ทั้งในแง่ที่เป็นทั้งโทษและประโยชน์ เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่นี้มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่เราทุกคนต้องเรียนรู้และศึกษาทำความรู้จักกับ พืช สัตว์ และจุลินทรีย์ดัดแปลงพันธุกรรมเหล่านี้ เพื่อที่จะได้รับความรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง และมีความเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น
แล้วจี เอ็ม โอ มันคืออะไรกันแน่หล่ะ???
จี เอ็ม โอ (GMOs Genetically Modified Organisms) คือสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงพันธุกรรม เป็นผลผลิตจากการใช้เทคโนโลยีพันธุวิศวกรรม (Genetic Engineering Technology) หรือ เทคนิคการตัดต่อยีน (Gene Recombination Technique) ในพืช สัตว์ หรือจุลินทรีย์ เพื่อให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่จำเพาะเจาะจงตามที่เราต้องการ เช่นมีความต้านทานต่อแมลงศัตรูพืช คงทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรือมีการเพิ่มขึ้นของสารโภชนาการ ชีวโมเลกุลบางชนิด เช่นวิตามิน โปรตีน ไขมัน เป็นต้น
การพิจารณาว่าจี เอ็ม โอ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และ/หรือ สิ่งแวดล้อมนั้นจะต้องผ่านการทดลองหลายด้านเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ เนื่องจากสิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีความหลากหลายทางพันธุกรรมและมีบทบาทในสิ่งแวดล้อมต่างๆกันไป และก่อนที่ผู้ผลิตรายใดจะนำเอาจี เอ็ม โอ หรือผลผลิตจากจี เอ็ม โอแต่ละชนิดออกสู่ผู้บริโภคนั้น จะต้องได้รับการประเมินความปลอดภัยจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ต้องอาศัยผู้ทรงคุณวุฒิในแต่ละสาขาวิชาเพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆมีความปลอดภัยเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ดังนั้นจึงถือได้ว่าผลิตภัณฑ์จี เอ็ม โอ ทุกชนิด ทั้งที่นำมาเป็นอาหาร หรือที่นำมาปลูกเพื่อจำหน่ายในทางพาณิชย์มีความปลอดภัยแล้ว

พืช GMOs
บางคนคิดว่า จี เอ็ม โอ คือสารปนเปื้อน ที่มีอันตราย !!!
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะจี เอ็ม โอ ไม่ใช่สารปนเปื้อนและไม่ใช่สารเคมี แต่จี เอ็ม โอนั้นคือ สิ่งมีชีวิต ที่เป็นผลพวงจากการใช้เทคนิคทางเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของนักวิทยาศาสตร์ที่จะปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณสมบัติตามอย่างที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น การดัดแปรพันธุกรรมของมะเขือเทศให้มีลักษณะการสุกงอมที่ช้าลงกว่าปรกติ การดัดแปลงพันธุกรรมของถั่วเหลืองให้มีไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูงซึ่งให้ประโยชน์ต่อมนุษย์สูง เป็นต้น ดังนั้นการใช้คำว่า ปนเปื้อน ในกรณีนี้จึงไม่ถูกต้อง! เพราะ ปนเปื้อน มีความหมายในลักษณะที่ไม่ต้องการให้มี เช่นไม่ต้องการให้อาหารมีการปนเปิ้อนของสารปรอทหรือสารหนูปนเปื้อนในอาหาร เป็นต้น ดังนั้น น้องๆจำไว้นะครับว่าจีเอ็มโอไม่ใช่สารปนเปื้อนแน่นอน
:: ( S O U R C E : ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ )* ::
20 ความคิดเห็น
ได้ความรู้ดีค่ะ เราก้อเคยคิดอ่าว่าจีเอ็มโออันตราย เหอๆ
ได้ความรู้ดีค่ะ เราก้อเคยคิดอ่าว่าจีเอ็มโออันตราย เหอๆ
เราเพียงแต่ช่วยให้พืชมีการวิวัฒนาการได้เร็วขึ้นโดยการตัดต่อ DNA เท่านั้น