"สตอล์กเกอร์" อีกปัญหาเรื้อรังของสังคมเกาหลีใต้ การคุกคามที่ลามไปทั้งศิลปินและคนธรรมดา!

อันยองค่าชาว Dek-D … คนที่ติดตามวงการ K-pop ส่วนใหญ่มักจะได้เสพข่าวหรือเห็นประเด็นสังคมที่ประเทศเกาหลีบ่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างช่วงนี้จะเห็นเลยว่าบ้านเค้าพัฒนาเจริญก้าวหน้าเร็วมากกก มีข่าวติดตั้งเทคโนโลยีหรือออกกฎหมายที่เอื้อผลประโยชน์ให้แก่ประชาชนแทบทุกวัน แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าสังคมเกาหลีมีปัญหาเรื้อรังหลายอย่างที่แอบแฝงอยู่ค่ะ หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของ “สตอล์กเกอร์” หรือการสะกดรอยตามและตามติดใครสักคนแม้กระทั่งในพื้นที่ส่วนตัว พูดเลยว่าแต่ละเคสที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเล็ก  แถมดูจะเป็นปัญหาใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปีเลยทีเดียว

แม้จะไม่ใช่เรื่องที่น่าคุ้นชินเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่าแฟนคลับ K-pop ทุกด้อมคงคุ้นเคยกับพฤติกรรมสะกดรอยตามศิลปินของกลุ่มที่เรียกว่า “ซาแซง” กันเป็นอย่างดี ซาแซงนั้นใช้เรียกกลุ่มแฟนคลับที่คอยตามติดไอดอลไปในทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาในตารางงานหรือเวลาพักผ่อนส่วนตัว บางคนอาจถึงขั้นส่งข้อความหรือโทรหาเบอร์ส่วนตัวของไอดอล ตามไปรอหน้าหอพัก หรือบุกเข้าไปขโมยของใช้ก็มีค่ะ ซึ่งพูดกันตามตรงเรื่องนี้น่ากลัวและน่าอึดอัดใจสุดๆ หลายครั้งที่ซาแซงเหล่านี้สร้างความเดือดร้อนให้กับคนรอบข้างอย่างเพื่อนบ้านของศิลปิน และสร้างความหวาดผวาให้กับตัวไอดอลที่ถูกตามด้วยเช่นกัน

แพดาเฮ
แพดาเฮ

ซึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมานี้เองก็มีข่าวการจับกุมตัวชายวัย 28 ปีคนนึงที่ตามสตอล์กนักร้องและนักแสดงละครเวทีอย่าง “แพดาเฮ” ค่ะ เธอถูกแฟนคลับคนนี้ส่งข้อความบอกรักกว่า 800 ข้อความ และใช้โซเชียลถึง 24 แอคเคานต์โพสต์ข้อความเป็นร้อยๆ ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่แย่ไปกว่านั้นคือเมื่อปีที่แล้วเค้าเริ่มที่จะสะกดรอยตามเธอ ไม่ว่าจะเป็นโรงละครที่เธอแสดง ฮอลล์คอนเสิร์ตที่เธอไปเล่น และยังบอกกับเธอเมื่อเจอกันว่า “ตอนนี้คุณเห็นผมแล้ว” อีกด้วยค่ะ ทำให้เธอรู้สึกเครียดมากๆ ถึงขนาดเคยบอกในไอจีด้วยว่า “มีหลายครั้งที่ฉันรู้สึกสิ้นหวัง เพราะคิดว่าทางเดียวที่จะหยุดความเจ็บปวดนี้ได้ก็คือเมื่อฉันตายเท่านั้น”

แม้เธอจะตัดสินใจรวบรวมหลักฐานแจ้งความจนตำรวจเข้ามาสอบสวนพฤติกรรมสตอล์กเกอร์คนนี้ แต่ระหว่างนั้นเค้าก็ยังส่งข้อความถึงดาเฮว่า “ผมจะถูกลงโทษปรับแค่เล็กน้อยเท่านั้น” ไม่ได้ดูมีท่าทีกลัวหรือตระหนักในสิ่งที่ตัวเองทำเลยแม้แต่น้อย ในที่สุดตำรวจก็เลยออกหมายจับเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วยข้อหาหมิ่นประมาท ข่มขู่ ทำให้เสียชื่อเสียง ทำให้เกิดความเครียด และพยายามแบล็กเมล์ ซึ่งเค้าก็ยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมดนะคะ แต่ไม่วายบอกว่า “ผมไม่รู้ว่านี่เป็นอาชญากรรม ผมทำไปทั้งหมดนี้ก็เพราะแค่รักเธอเท่านั้น” 

"นายอน" วง Twice
"นายอน" วง Twice

“นายอน” สมาชิกจากวง Twice เองก็เป็นอีกคนนึงที่เจอกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ค่ะ เรื่องนี้ดังมากๆ เลยด้วยเพราะฝ่ายสตอล์กเกอร์นั้นเป็นชาวเยอรมันที่ชื่อว่า “จอช” แถมเปิดเผยหน้าตาอย่างชัดเจน เมื่อปลายปี 2019 จอชจงใจขึ้นเครื่องบินจากญี่ปุ่นกลับมาเกาหลีไฟลต์เดียวกับนายอน ในขณะที่อยู่บนเครื่องบินก็เดินไปหาเธอเพื่อมอบจดหมายสารภาพรักให้ แม้เมเนเจอร์ของเธอรีบเข้ามากันเค้าออก แต่จอชก็ยังทิ้งข้อความบนโซเชียลว่าเค้าไม่เข้าใจว่าทำไมเมเนเจอร์ถึงต้องทำแบบนั้น เค้าแค่ต้องการสารภาพรักและคุยกับนายอนเท่านั้น

จอชนำรูปนายอนและตัวเองมาใส่คู่กันและขอร้องให้นายอนติดต่อหาตัวเอง
จอชนำรูปนายอนและตัวเองมาใส่คู่กันและขอร้องให้นายอนติดต่อหาตัวเอง
ข้อความที่จอชขู่ฆ่านายอนหากเธอแอบมีแฟน
ข้อความที่จอชขู่ฆ่านายอนหากเธอแอบมีแฟน

แต่ว่าวีรกรรมของนายจอชไม่ได้มีแค่นั้นค่ะ แอคเคานต์ @twicehugs ในอินสตาแกรมได้ลงภาพแคปข้อความและคลิปเสียงของคนที่คาดว่าเป็นจอช เนื้อหาหลักๆ นั้นเป็นข้อความขู่ฆ่าหากนายอนบังอาจแอบเดตลับหลังเค้า และนั่นเป็นสิ่งปกติที่คนจะทำหากถูกทรยศหักหลัง แต่นายจอชก็ยังบอกว่าต้องการแค่ให้นายอนมีความสุขเท่านั้น เพราะเค้ารักเธอจากใจจริง (ย้อนแย้งมาก อะไรนิ…) 

"วี" สมาชิกจากวง BTS
"วี" สมาชิกจากวง BTS

ซึ่งก็ไม่ใช่แค่ไอดอลหญิงเท่านั้นที่โดนคุกคามและรุกล้ำความเป็นส่วนตัวค่ะ ไอดอลชายก็เจอกับเหตุการณ์นี้เยอะไม่แพ้กันเลย “วี” จากวง BTS เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ใน Vlive (แอปฯ ที่ศิลปินเกาหลีใช้ไลฟ์สดพูดคุยกับแฟนคลับ) ขอร้องให้ซาแซงหยุดตามเค้าได้แล้ว และบอกว่าทั้งวงเคยเจอแฟนคลับติดตามกันแบบน่ากลัวๆ ด้วย

“คุณรู้มั้ยครับว่าเราขึ้นเครื่องบินกันยังไง? เราบินแบบเหมาลำครับ ที่จริงพวกเราก็อยากจะบินในไฟลท์ธรรมดา แต่ว่าเวลาเราเดินทางไม่ว่าจะไฟลท์สั้นหรือยาว แฟนๆ บางคนจะรู้ก่อนว่าเราขึ้นเครื่องบินลำไหน และก็มานั่งข้างๆ หรือข้างหน้าเรา พอแฟนๆ อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวเราเลยไม่ได้พักผ่อนกันมากเท่าที่เราอยากจะพัก มันเลยรู้สึกไม่ค่อยสะดวกครับ แล้วก็พูดกันตามตรงเลย เราไม่อยากให้พวกคุณทำแบบนั้น หยุดเถอะครับ มันน่ากลัวนะ”

ในอดีตเอง “คยูฮยอน” สมาชิกจากวง Super Junior ก็เคยเล่าในรายการนึงว่า เวลาเค้าขึ้นเครื่องบินทีไร ที่นั่งข้างๆ ก็จะเป็นแฟนคลับคนเดิมตลอด จนเค้าต้องหาทางเลี่ยงด้วยการขอแลกที่นั่งกับทีมงานแทน หรือถ้าเป็นแฟนคลับรุ่นเก่าหน่อยก็คงจะเคยเห็นข่าวซาแซงของ “แจจุง” อยู่บ่อยๆ แจจุงเล่าว่าสมัยอยู่วง TVXQ นั้น มีหลายครั้งที่ซาแซงแฟนบุกเข้ามาในห้องนอนระหว่างที่เค้าหลับอยู่ และเค้าก็ตื่นมาเจอแฟนคลับเหล่านี้คร่อมอยู่บนตัวและถูกลวนลาม ครั้งนึงเคยมีซาแซงบุกไปที่หอและถ่ายรูปแจจุงนอนหลับมาโพสต์ลงในเว็บด้วยค่ะ (หลอนมากอันนี้ T _ T)

ภาพของ "แจจุง" ขณะนอนหลับที่ซาแซงแฟนโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต
ภาพของ "แจจุง" ขณะนอนหลับที่ซาแซงแฟนโพสต์ลงในอินเตอร์เน็ต

อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ดาราศิลปินในวงการเท่านั้นที่ประสบกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ คนธรรมดาทั่วไปในเกาหลีเองก็โดนเช่นกันค่ะ แถมเรื่องนี้มีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก อย่างช่วงปีที่แล้วมีคลิปนึงที่กลายเป็นไวรัลในโซเชียลทั่วโลก เป็นคลิปที่ผู้ชายคนนึงตามผู้หญิงมาถึงที่ห้องพัก เค้าแอบหลบรออยู่ที่หลังกำแพงและรอจังหวะที่เธอเปิดประตูห้องเพื่อจะบุกตามเข้าไป แต่โชคดีมากๆ ที่ประตูปิดสนิทลงก่อนที่ชายคนนี้จะเข้าถึงได้ ภายหลังผู้หญิงก็ให้สัมภาษณ์ว่าเธอไม่รู้เลยว่ามีคนตามมา และผู้ชายก็ถูกตำรวจจับกุมเป็นที่เรียบร้อย

แม้เรื่องนี้อาจจะดูไกลตัวเรา แต่ว่ามันใกล้ตัวกว่าที่คิดค่ะ เพราะ vlogger คนไทยที่ชื่อ “จิง” จากช่อง Babyjingko ก็เคยเจอเหตุการณ์นี้เช่นกัน แถมเกิดขึ้นระหว่างที่เธอกำลังอัด vlog เที่ยวเกาหลีอยู่ด้วย ระหว่างที่กำลังเล่าถึงของที่ไปชอปปิงมาอยู่ดีๆ เธอก็บอกว่ามีผู้ชายตามมาได้สักพักแล้ว (นาทีที่ 13.55) แม้สุดท้ายจะกลายเป็นว่าผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาทักเพื่อขอทำความรู้จัก แต่ถ้านึกสภาพตามความเป็นจริงแล้วมันน่ากลัวไม่น้อยเลยค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เดินตามวนไปวนมานั้นต้องการอะไรกันแน่ (แอบรู้สึกว่าคุณเค้าก็ตกใจตอนโดนประชิดตัวเหมือนกันนะคะ สีหน้าเปลี่ยนเลย T _ T)

ในฐานะแฟนคลับที่ติดตามวงการ K-pop มานาน บอกเลยว่าเรื่องสตอล์กเกอร์หรือซาแซงที่เกาหลีนี่มีเยอะมากจริงๆ ค่ะ เป็นปัญหาที่แม้แต่แฟนคลับต่างชาติเองก็เรียกร้องให้บรรดาค่ายของศิลปินจัดการดูแลให้ดีกว่านี้ แล้วสงสัยมั้ยคะว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นเยอะมากๆ? ทำไมเหล่าซาแซงแฟนหรือคนที่มีพฤติกรรมสะกดรอยตามถึงไม่มีท่าทีจะเกรงกลัวเลย แถมดูมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นั่นเป็นเพราะว่าโทษในเรื่องนี้ที่เกาหลีนี้มันเบามากค่ะ อย่างเมื่อปีที่ผ่านมามีคนที่โดนจับด้วยข้อหาสะกดรอยตามถึง 587 คน แต่การลงโทษนั้นเป็นเพียงแค่การปรับเงิน 98,000 วอนเท่านั้น (ประมาณ 2,700 บาท) เนื่องจากกฎหมายปัจจุบันของเกาหลีระบุให้ลงโทษสตอล์กเกอร์ด้วยการปรับเป็นเงินไม่เกิน 100,000 วอน แม้แต่เจ้าหน้าที่เองก็ยังบอกว่ามาตรการคุ้มครองเหยื่อที่ล้มเหลวนั้นทำให้เกิดอาชญากรรมรุนแรงต่อไปได้อีก อย่างเช่นการฆาตกรรมค่ะ 

อย่างไรก็ตามวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงยุติธรรมของเกาหลีได้ประกาศว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการลงโทษสตอล์กเกอร์แล้วเหมือนกันนะคะ โดยจะเปลี่ยนเป็นการลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30 ล้านวอน (ประมาณ 828,000 บาท) แต่ก็ยังไม่มีการแจ้งแน่ชัดค่ะว่าจะเริ่มใช้เมื่อไหร่ ถึงอย่างนั้นก็ดูเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับคนที่ประสบปัญหานี้เลยล่ะค่ะ

เรื่องการสะกดรอยตามนี่บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องเล็กเลยค่ะ ส่วนตัวพี่เองเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ แบบนี้สมัยเป็นนักเรียน ถึงจะโดนตามแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่พูดเลยว่ากลัวจนสติแทบแตก TT _ TT นึกถึงไอดอลหรือคนที่เจอการคุกคามแบบนี้หนักๆ ก็น่าเห็นใจมากจริงๆ ค่ะ  

Sources:https://mottokorea.co.kr/2020/11/25/i-love-her-bae-da-haes-stalker-was-arrested-hundreds-of-bad-comments-over-two-years/https://www.koreaboo.com/news/twice-nayeon-stalker-allegedly-threatens-kill-harm-threats/https://www.youtube.com/watch?v=VrO3HAydEoghttps://www.youtube.com/watch?v=EQf4cBWkqswhttps://twitter.com/realchimmmy/status/1015935883332050944 https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=ezPCCvN-Ndk
 
Photo Credit:https://koreajoongangdaily.joins.com/news/article/article.aspx?aid=3027767https://www.facebook.com/NayeonGoddess/photos/a.574547205989918/2857645734346709/https://www.somagnews.com/v-talks-preparations-btss-new-album/https://aminoapps.com/c/k-pop/page/blog/anti-fans-sasaeng-fans/N1IM_ub46oarzXxpg74dagnBxeV5W

 

พี่เยลลี่
พี่เยลลี่ - Columnist อักษรศาสตร์ เอกมโน โทติ่ง หิวชานมตลอดเวลาและเป็นทาสลูกน้องแมว

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น