สวัสดีชาว Dek-D ทุกคนค่า มีใครรู้บ้างไหมว่าในโลกของเรามีภาษาที่ใช้สื่อสารกันอยู่มากกว่า 6,500 ภาษา ทว่าจำนวนผู้ใช้ของแต่ละภาษานั้นไม่เท่ากัน บางภาษามีคนพูดเป็นร้อยเป็นพันล้านคน แต่บางภาษากลับมีคนใช้กันไม่ถึงสิบ วันนี้ พี่ปุณ เลยอยากจะพาน้องๆ ไปส่องว่า “7 ภาษาที่คนทั่วโลกใช้สื่อสารกันมากที่สุดในยุคนี้” จะมีภาษาอะไรติดโผบ้าง และแต่ละภาษาจะมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน? เราไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
อันดับ 7
ภาษาเบงกอล Bangla/Bengali
- จำนวนผู้ใช้: 265 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: กลุ่มภาษาอินโด-อารยัน (สาขาย่อยของกลุ่มภาษาอินโด-ยูโรเปียน)
- คำทักทาย: নমস্কার (namaskāra) – สวัสดีครับ / আসসালামু আ’লাইকুম (Āsasālāmu ā’lā'ikuma) – สวัสดีค่ะ
“ภาษาเบงกอล” เป็นภาษาที่นิยมใช้กันมากในประเทศบังกลาเทศและรัฐเบงกอลตะวันตกในประเทศอินเดีย แม้ว่าภาษานี้จะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในประเทศฝั่งตะวันตก แต่เบงกอลก็ถูกจัดให้เป็นภาษาที่มีความสละสลวยสวยงามเป็นอันดับ 2 รองจากภาษาฝรั่งเศส อีกทั้งระบบการเขียนของเบงกอลยังถือเป็นระบบการเขียนที่มีผู้ใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วย
ตัวอักษรเบงกอลมีความน่าสนใจและแปลกตาไปจากตัวอักษรไทยหรืออังกฤษ ในทางสัทศาสตร์ ภาษาเบงกอลมีพยัญชนะ 29 เสียง สระ 4 เสียง และสระนาสิกอีก 7 เสียง ส่วนการเรียงประโยคก็จะเรียงแบบประธาน-กรรม-กริยา ซึ่งถ้าใครคุ้ยเคยกับภาษาสันสกฤตเป็นอย่างดี ก็อาจจะพอเดาศัพท์ในภาษาเบงกอลได้ เพราะศัพท์หลายคำก็มีการยืมหรือใช้รากศัพท์ร่วมกับภาษาสันสกฤตนั่นเอง
อันดับ 6
ภาษาอาหรับ Arabic
- จำนวนผู้ใช้: 274 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: กลุ่มภาษาเซมิติก (สาขาย่อยของตระกูลภาษาแอโฟรเอชิแอติก)
- คำทักทาย: مرحبًا! (mrhbana) – สวัสดีครับ/ค่ะ
นอกจาก “ภาษาอาหรับ” จะใช้กันมากในหมู่ผู้นับถืออิสลามแล้ว ปัจจุบันผู้คนแถบแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางก็นิยมนำมาใช้สื่อสารกันในชีวิตประจำวัน อาหรับถือเป็นภาษาขนาดใหญ่ แบ่งสำเนียงย่อยได้หลายสำเนียงตามถิ่นที่อยู่ของผู้ที่ใช้ โดยคำในแต่ละสำเนียงก็จะออกเสียงเหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง เพราะบางคำก็ถูกยืมมาจากรากศัพท์ในภาษาคลาสสิกคนละภาษา ตัวอย่างเช่น คำว่า “รัก” ในภาษาอาหรับเราสามารถพูดถึงความรักได้ 11 แบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีบริบทการใช้ในสถานการณ์ที่ต่างกันออกไป ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม!
อีกหนึ่งจุดเด่นของภาษานี้อยู่ตรงที่ “การเรียงลำดับคำจากขวาไปซ้าย” ซึ่งก็จะเห็นได้จากเนื้อหาในคัมภีร์อัลกุรอาน ถือเป็นภาษาที่มีความเกี่ยวโยงกับศาสนา แถมยังเป็นแหล่งกำเนิดของคำยืมจำนวนมากในภาษาอังกฤษและภาษาส่วนใหญ่ในยุโรป อย่างคำว่า ‘coffee’ ที่แปลว่ากาแฟ ก็มีที่มาจากคำว่า ‘qahwa’ ในภาษาอาหรับนั่นเอง
อันดับ 5
ภาษาฝรั่งเศส French
- จำนวนผู้ใช้: 280 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: กลุ่มภาษาโรมานซ์
- คำทักทาย: Bonjour (บง ชูร์) – สวัสดี
“ภาษาฝรั่งเศส” เป็นหนึ่งในภาษาที่ถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนและมหาวิทยาลัยจำนวนมากในประเทศไทย เพราะนอกจากภาษานี้จะถูกใช้ในดินแดนโรแมนติกอย่างประเทศฝรั่งเศสแล้ว ผู้คนบางส่วนในประเทศแคนาดา เบลเยี่ยม ลักเซมเบอร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และประเทศในแถบแอฟริกาอย่างมาดากัสการ์และโมร็อกโก ก็ยังพากันใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสารด้วย เรียกว่าเรียนไปภาษาเดียว ไม่ว่าจะเที่ยวประเทศไหนก็เอาตัวรอดได้ไม่ยาก
หลายคนอาจเข้าใจว่าการที่ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสมีตัวอักษรและสระที่เขียนคล้ายกัน นั่นหมายถึงการออกเสียงที่คล้ายกันด้วย แต่ความจริงแล้วทั้งสองภาษามีวิธีการออกเสียงต่างกันอย่างสิ้นเชิง อย่างตัว ‘e’ ในภาษาอังกฤษอ่านออกเสียงว่า /อี/ แต่ในภาษาฝรั่งเศสจะออกเสียงว่า /เออ/ หรืออย่างตัว ‘j’ ที่ในภาษาอังกฤษจะออกเสียงเป็นตัว จ.จาน แต่ในภาษาฝรั่งเศสจะออกเสียงเป็นตัว ฌ.เฌอ นั่นเองค่ะ
10 เหตุผลที่ควรเรียนภาษาฝรั่งเศสอันดับ 4
ภาษาสเปน Spanish
- จำนวนผู้ใช้: 534 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: กลุ่มภาษาโรมานซ์ (สาขาย่อยของกลุ่มภาษาอินโด-ยูโรเปียน)
- คำทักทาย: Hola (โอล่า) – สวัสดี
ปัจจุบัน “ภาษาสเปน” เป็นภาษาที่มีคนเรียนอยู่มากเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งนั่นก็หมายความว่าในอีกไม่ช้าสเปนจะกลายเป็นภาษาที่ผู้คนนำมาพูดมาใช้กันมากยิ่งขึ้นไปอีก และด้วยความที่ภาษานี้มีความคล้ายคลึงกับภาษาอังกฤษทั้งในเรื่องของ “ตัวอักษรและไวยากรณ์หลัก” เหล่า English speakers จึงสามารถเรียนรู้ภาษาสเปนได้ง่ายและรวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการเรียนภาษาอื่น ซึ่งต้องบอกเลยว่าเวลาเรียนเพียง 22 - 24 สัปดาห์ ก็สามารถทำให้เราฟัง พูด อ่าน เขียนสเปนในระดับ ‘Professional proficiency’ หรือระดับที่มีทักษะเชี่ยวชาญด้านภาษาได้เลยล่ะค่ะ
7 เหตุผลที่ควรเรียนภาษาสเปนอันดับ 3
ภาษาฮินดี Hindi
- จำนวนผู้ใช้: 615 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: กลุ่มภาษาอินโด-อารยัน (สาขาย่อยของกลุ่มภาษาอินโด-ยูโรเปียน)
- คำทักทาย: नमस्ते (Namastē) – สวัสดี
‘guru, jungle, karma, yoga, bungalow, cheetah, and avatar’ มีใครคุ้นเคยกับศัพท์ฮินดีเหล่านี้บ้างไหมคะ? ถ้าใครเคยเห็นหรือเคยได้ยินจากที่ไหนก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะคำทั้งหมดนี้ก็มีในภาษาอังกฤษด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากศัพท์ 7 คำด้านบนนี้ “ภาษาฮินดี” ก็ยังเป็นแหล่งกำเนิดของคำในภาษาอังกฤษอีกมากมาย
คำว่า ‘Hindi’ มีที่มาจากคำว่า ‘Hind’ ที่แปลว่า “ดินแดนแห่งแม่น้ำสินธุ” ในภาษาเปอร์เซีย และสำหรับประเทศที่นิยมใช้ภาษานี้ก็จะมีทั้งประเทศฟิจิ มอริเชียส กายอานา และเนปาล อีกทั้งยังถือเป็นภาษาราชการของประเทศอินเดียด้วย
อันดับ 2
ภาษาจีนแมนดาริน Mandarin Chinese
- จำนวนผู้ใช้: 1,117 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: ตระกูลภาษาจีน-ทิเบต
- คำทักทาย: 你好 (หนี ห่าว) – สวัสดี
หลายคนสงสัยว่า “ภาษาจีนแมนดาริน” คือภาษาอะไร? มีความแตกต่างกับภาษาจีนกลางตรงไหน? พี่ก็จะขออธิบายสั้นๆ ว่า “แมนดาริน” มีที่มาจากคำสันสกฤตว่า มนฺตฺริน (มันตริน) และภาษาบาลีว่า “มนตรี” ซึ่งแปลว่าขุนนางที่ปรึกษา โปรตุเกสได้รับคำนี้ผ่านภาษาฮินดีไปเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 16 มันตรินได้กลายเสียงเป็นแมนดาริน และแมนดารินก็ได้กลายเป็นคำที่ชาวตะวันตกใช้เรียกขุนนางและภาษาราชการของจีนในเวลาต่อมา
ภาษาจีนกลาง คือภาษาประจำชาติของประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก จึงไม่น่าแปลกใจที่ภาษานี้จะมีคนใช้สื่อสารกันเป็นจำนวนมาก แต่นอกจากจีนแล้ว ในประเทศไต้หวัน สิงคโปร์ และอเมริกา ภาษาจีนก็ถือเป็นภาษาที่คนใช้กันทั่วไป แต่ด้วยความที่ตัวอักษรจีนเป็นตัวอักษรภาพ การเรียนรู้ จดจำ และการจะนำแต่ละตัวอักษรมาผสมกันเป็นคำ จึงทำได้ยากและมีขั้นตอนที่ซับซ้อนมากกว่าภาษาอื่นๆ ดังนั้นใครที่อยากเรียนภาษาจีนเป็นภาษาที่ 3 ก็ต้องพยายามฝึกคัด ฝึกเขียนตัวจีนกันไว้ให้คล่องเลยล่ะค่ะ
อันดับ 1
ภาษาอังกฤษ English
- จำนวนผู้ใช้: 1,132 ล้านคน
- ตระกูลของภาษา: กลุ่มภาษาเจอร์แมนิก (สาขาย่อยของกลุ่มภาษาอินโด-ยูโรเปียน)
- คำทักทาย: Hello/Hi – สวัสดี
มาถึงภาษาอันดับ 1 ที่มีคนใช้สื่อสารกันมากที่สุดในโลกซึ่งก็คือ “ภาษาอังกฤษ” หลายคนคงพอรู้หรือไม่ก็เดากันได้ว่าภาษาอังกฤษนั้นถูกใช้เป็นภาษาประจำชาติและภาษาราชการในหลายประเทศ อีกทั้งยังเป็นภาษากลางที่นักบินทั่วโลกใช้สื่อสารกันระหว่างอยู่บนน่านฟ้าด้วย
ซึ่งถ้าใครเคยได้เรียนหรืออ่านวรรณคดีมาก็คงจะพอคุ้นหู้คุ้นตากับชื่อเสียงเรียงนามของ ‘วิลเลียม เชกสเปียร์’ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษกันมาบ้างแล้ว แต่นอกจากผลงานด้านการประพันธ์ ชายผู้นี้ยังได้บัญญัติศัพท์ภาษาอังกฤษกว่า 1,700 คำเอาไว้ โดยเขาได้เปลี่ยนคำนามที่มีอยู่ให้เป็นคำกริยา เปลี่ยนคำกริยาให้เป็นคำนาม นำคำหลายคำมาเชื่อมเข้าด้วยกัน และนำ Prefixes & Suffixes มาวางไว้หน้าและหลังคำที่มีอยู่ทั่วไป ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่มีส่วนในการคิดค้นภาษามาให้เราใช้กันในทุกวันนี้เลยก็ว่าได้!
เป็นยังไงกันบ้างคะ? หลังจากที่ได้รู้ว่า 7 ภาษาที่คนทั่วโลกใช้สื่อสารมากที่สุด คือภาษาอะไร มีใครชื่นชอบหรือแอบประทับใจจนอยากตามไปเรียนภาษาไหนกันบ้างไหมเอ่ย? ถ้ามีพี่ก็ขอบอกเลยว่าน้องๆ กำลังมาถูกทาง เพราะอย่างในปัจจุบัน หลายประเทศทั่วโลกก็มีการเชื่อมถึงกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในด้านของการค้า การคมนาคม หรือการศึกษา ดังนั้นยิ่งเราเรียนรู้ทักษะภาษามากขึ้นเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งเป็นประโยชน์กับการใช้ชีวิตและการทำงานของเรามากขึ้นเท่านั้นค่ะ ( ´ ` )ノ
Source:https://blog.busuu.com/most-spoken-languages-in-the-world/
0 ความคิดเห็น