สวัสดีค่ะชาว Dek-D ถ้าใครมีเพื่อนดีๆ คอยสนับสนุนและอยู่เคียงข้างในวันที่สุขและทุกข์ นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่สุดในชีวิตเลยค่ะ แต่ในบางครั้งเราก็ปฏิเสธไม่ได้ที่จะต้องพบเจอกับ ‘เพื่อนรักเพื่อนร้าย' ที่คอยอยู่ข้างๆ เพื่อบั่นทอนความมั่นใจเราลงไปเรื่อยๆ หรือทำร้ายความรู้สึกจนแทบไม่เหลือชิ้นดี
วันนี้พี่โมริจะพาทุกคนไปรู้จักกับคำว่า Frenemy หรือ ศัตรูในคราบเพื่อน รวมถึงวิธีการรับมือถ้าเราต้องเจอกับเพื่อนแบบนี้ ถ้าพร้อมแล้วเลื่อนลงมาอ่านกันเลย!
คำว่า Frenemy ถือกำเนิดขึ้นในปี 1950 เกิดจากการผสมคำศัพท์ระหว่าง ‘friend’ (แปลว่า เพื่อน) + ‘enemy’ (แปลว่า ศัตรู) อธิบายง่ายๆ ก็คือคนที่เป็นมิตรและศัตรูในเวลาเดียวกัน ปากบอกต่อหน้าว่ารักนักรักหนา พร้อมเป็นเพื่อนตาย แต่แท้จริงแล้วลับหลังเป็นศัตที่คอยแทงข้างหลังเราอยู่เสมอ อาจพบในความสัมพันธ์ทั้งเพื่อนสนิทของคุณ เพื่อนในที่ทำงาน รวมถึงในครอบครัวของเราเองก็ได้
เช็กสัญญาณเตือน แบบไหนกันที่เรียกว่า Frenemy ?
1.อิจฉาเวลาคนอื่นประสบความสำเร็จ
เพราะความสำเร็จจากพวกเขาไม่ได้มาจากการพัฒนาตนเอง แต่จะรู้สึกเหนือกว่าต่อเมื่อเห็นคนรอบข้างล้มเหลว และเก็บมาเป็นเรื่องซุบซิบภายในวงสนทนาของพวกเขา
พฤติกรรมที่แสดงออกมา เช่น
- ด้อยค่าความสำเร็จของผู้อื่น พวกเขาจะตอบรับเมื่อผู้อื่นประสบความสำเร็จ เช่น "ได้ที่ 1 เพราะคนนั้นไม่ลงแข่งล่ะสิ" พูดราวกับว่าความสำเร็จของเรามันดูได้มาง่ายๆ แบบนั้น
- ทำดีไม่เคยชม เวลาที่เราประสบความสำเร็จ เพื่อนที่ดีจะยินดีและชื่นชมกับความสำเร็จของเรา แต่คนแบบนี้จะทำแบบตรงกันข้าม
- บ้งปุ๊บเหยียบซ้ำ เมื่อล้มเหลวจะถูกตำหนิ หรือบอกว่าทำได้น้อยกว่าความสามารถที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์กับคุณเป็นคู่แข่งมากกว่าเป็นเพื่อนแท้
2.หาแนวทางในการทำร้าย
ต่อหน้าทำตัวเพื่อรักษามิตรภาพเอาไว้ แต่ข้างในจิตใจลึกๆ เขาต้องการทำร้ายคุณ พวกเขาหาวิธีการต่างๆ เพื่อทำร้ายคนอื่น เช่น
- ชมคนอื่นเพื่อข่ม เป็นการทำร้ายแบบชาญฉลาด โดยการชมเชยคนอื่นเพื่อลดทอนคุณค่าของฝ่ายตรงข้าม ถ้าเพื่อนของคุณกำลังเป็นแบบนี้ แสดงว่านี่ไม่ใช่เพื่อนแท้แล้วนะ
- เอาคำพูดที่ทำร้ายคนอื่นมาเป็นเรื่องตลก พวกเขามักจะพูดจาทำร้ายจิตใจ แล้วบอกว่า "ฉันแค่ล้อเล่น" แต่หารู้ไม่บางครั้งผู้ฟังไม่ได้รู้สึกสนุกกับสิ่งที่คุณพูดด้วย เพราะฉะนั้นนึกถึงใจเขาใจเราด้วย บางเรื่องอาจเป็นเรื่องเล็กสำหรับเรา แต่อาจจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนอื่นก็ได้นะ
- ให้คำชมอย่างไม่จริงใจ การแสดงคำชมที่ดูเหมือนดี แต่ลึกๆ แล้วต้องการทำร้ายเรา เช่น “ทำออกมาได้ดีเลยนะ ถ้าตั้งใจก็ทำได้ไม่เลวนี่" (เหมือนจะดีแต่ก็แอบว่าเราหรือเปล่านะ?)
- วิพากษ์วิจารณ์แบบไม่สร้างสรรค์ พวกเขาพยายามหาวิธีทำให้คุณจมลงไป สิ่งที่เขาทำเหมือนเป็นการสั่งสอน แนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง แต่หารู้ไม่ว่ามันคือเข็มที่ทิ่มแทงเข้าไปในจิตใจของผู้ฟัง
ตัวอย่างจาก Meet The Parents
3.นินทาว่าร้ายลับหลัง
คงไม่มีใครในโลกไม่เคยถูกนินทา แต่ถ้าโดนเพื่อนสนิทมานินทาลับหลัง เราก็คงจะเสียใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ? การทำร้ายชื่อเสียงเป็นอะไรที่ Frenemy โปรดปรานมาก โดยเฉพาะการทำร้ายด้วยการเล่าเรื่องที่คนอื่นพูดถึงเราในแง่ลบให้ฟัง (ถ้าเข้าหูเราเมื่อไหร่ก็คงเจ็บปวดมากแน่ๆ T_T)
เช่น จากหนังเรื่อง Mean Girls
4.แกล้งเมินเฉย ไม่ยินดียินร้ายกับเราเหมือนแต่ก่อน
ยกตัวอย่างเช่น น้องๆ เคยมั้ยเวลาที่เพื่อนไม่กดไลก์ให้แล้วรู้สึกกังวลใจ โดยเฉพาะเวลาที่เราโพสต์เกี่ยวกับความสำเร็จของเรา เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากได้รับกำลังใจหรือคอมเมนต์ดีๆ จากเพื่อนอะเนอะ ปกติก็กดให้ตลอดแล้วทำไมคราวนี้ไม่กดให้ล่ะ ฟังดูเหมือนจะไร้สาระหรือไม่มีเหตุผล แต่ถ้าเรื่องนี้เกิดกับเพื่อนที่เรารักและแคร์มากๆ ก็คงอดคิดไม่ได้ และถ้าถ้าถามแล้วตอบกลับประมาณว่า "อ๋อ ไม่ได้เล่นโซเชียลเลย ยินดีด้วยนะ" (แต่ก็เห็นว่าเล่นอยู่นี่นา) หรือ บางทีเห็นแต่มาคอมเมนต์นอกประเด็น ไม่สร้างสรรค์และทำให้เราดูไม่ดีซะงั้น
อย่างตัวอย่างด้านล่าง เจ้าของโพสต์ลงรูปเพื่อเฉลิมฉลองเว็บไซต์นี้มีผู้เข้าชม 5,000 คนต่อวัน “รู้สึกดีใจกับคุณนะ แต่อาหารดูเหมือนจะทำให้ท้องเสียเลยอ่ะ” แทนที่จะโฟกัสที่เรื่องน่ายินดีแต่กลับมาจับผิดซะงั้น ถ้าเจอแบบนี้บ่อยๆ ก็จัดลิสต์อยู่ในประเภท Frenemy เลยละกัน
5.ไม่ให้คำแนะนำที่ดี
เพื่อนที่ดีเวลามีปัญหา ตกทุกข์ได้ยาก พร้อมให้คำแนะนำดีๆ และช่วยเหลือกันเสมอ แต่คนที่เป็น Frenemy มักจะไม่ทำแบบนั้น และหากได้ยินข่าวในด้านลบของคุณ พวกเขาจะแอบดีใจและจะบอกว่า “เรื่องแค่นี้เอง ฉันเจอหนักกว่าแกอีก” นอกจากเราจะไม่ได้ยินคำแนะนำที่ทำให้เราพัฒนาตัวเองจากคนกลุ่มนี้ แต่กลับได้พลังลบมาแทนที่ เพียงเพราะพวกเขากลัวคนอื่นจะประสบความสำเร็จมากกว่าตัวเอง
เช่น จากหนังเรื่อง Mean Girls
6.ปากอย่างใจอย่าง
เคยเจอไหม? คนที่แกล้งทำเป็นยิ้มและพูดจาดีๆ กับเรา แต่ใจจริงแล้วเขาไม่ได้คิดแบบนั้นเลย เช่นวันนี้น้องๆ ใส่เสื้อลายตารางที่ซื้อมาใหม่และภูมิใจสุดๆ แต่เพื่อนกลับพูดให้เราเสียความมั่นใจซะงั้น เช่น “ใส่เสื้อลายตารางแบบนี้ จะไปตัดอ้อยเหรอจ๊ะ” พร้อมกับหันไปหัวเราะคิกคักกับคนอื่น ถ้าน้องๆ เจอคนแบบนี้ก็เข้าข่าย Frenemy แน่นอนค่ะ
ถ้าเจอเพื่อนแบบนี้จะรับมือยังไง ?
- ใจเย็นๆ ใจร่มๆ พยายามอย่าไปโต้ตอบ หายใจเข้าลึกๆ ไปเดินเล่นหรือทำอะไรก็ได้ที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ (และมีประโยชน์ดีกว่า)
- แม้ว่าเพื่อนจะนินทาเรา แต่ก็อย่าไปนินทากลับลับหลัง เพราะนอกจากไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรแล้ว พฤติกรรมนี้ก็อาจไม่ต่างจากที่เขาทำกับเราก็ได้
- เว้นระยะห่างความสัมพันธ์ เช่น รับสายน้อยลง ตอบข้อความของพวกเขาช้าลง
- จำสิ่งที่เขาทำกับเราไว้ และใช้เหตุการณ์นี้เป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองมากขึ้น
- บางที Frenemy คนนั้นอาจจะกำลังปั่นหัวเราเล่น อย่าเสียเวลาไปเดินตามเกมของเขาเลย
- อย่าไปบอกเขาตรงๆ ว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้ (แต่ถ้ามันแย่นักก็บอกตรงๆ เผื่อว่าเค้าจะคิดได้และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น)
แล้วถ้าคุณเป็นเองล่ะ ?
เราต้องยอมรับตัวเองให้ได้ว่าเรามีอาการแบบนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแต่ละคนมีอารมณ์ที่มืดบอด ถูกกดขี่ รวมถึงสิ่งที่เราคิดว่าเป็นปมด้อยของตัวเอง แต่เราสามารถเอาชนะอารมณ์แบบนี้ได้เพื่อที่เราเองจะไม่เป็น Frenemy ในเรื่องเล่าของคนอื่น
- เปลี่ยนความอิจฉาเป็นแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเอง เราปฏิเสธไม่ได้เวลาเราเห็นใครประสบความสำเร็จ เราอาจจะรู้สึกอิจฉาอยู่ข้างใน แต่อย่าเอาตัวเองไปจมปลักกับความรู้สึกนั้นค่ะ เพราะยิ่งอิจฉา เรายิ่งแพ้!
- ยินดีกับความสำเร็จของผู้อื่นให้เป็น ถ้าเราอยากได้พลังจากบวกจากใคร เราควรให้พลังบวกคนนอื่นก่อนเสมอ สิ่งนี้เราสามารถทำได้ง่ายๆ เริ่มจากให้คำชมดีๆ กับคนรอบข้าง แม้ว่าอาจจะเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ของเขา แต่เราก็สามารถพูดชื่นชมได้ และยังเป็นการกระทำที่บ่งบอกถึงความใส่ใจผู้อื่น แค่นี้ก็สามารถ made my day ใครหลายๆ คนก็ได้นะ
- สร้างทัศนคติที่ดีกับตัวเอง ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จทุกอย่าง ซึ่งเราต้องยอมรับในจุดนี้ให้ได้ และพยายามสร้างพลังบวกให้ตัวเองเข้าไว้ เพราะบางทีการที่เรามี mindset ที่ดี ยึดมั่นในเรื่องดีๆ ก็เหมือนเป็นการดึงดูดคนประเภทเดียวกันเข้ามาหาเราเองค่ะ
- ลดทิฐิของตัวเองลง การตั้งแง่ก่อนไม่ได้ช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แถมยังเป็นอุปสรรคในการพัฒนาตัวเองอีกด้วย
จริงอยู่ที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงคนประเภทนี้ในสังคมได้ แต่อย่างไรก็ตาม เราสามารถรับมือกับคนประเภทนี้ได้ค่ะ พี่เองก็หวังว่าบทความนี้หวังว่าจะทำให้น้องๆ รู้จัก Frenemy มากขึ้น และสามารถนำวิธีรับมือไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองกันนะคะ ^^
1 ความคิดเห็น