อันยองครับน้องๆ ชาว Dek-D ต้องบอกว่าหลายปีมานี้เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น และขยายไปแทบทุกแวดวงโดยเฉพาะธุรกิจ และสำหรับวงการโฆษณาก็เช่นกัน ที่ตอนนี้หลายบริษัทได้สร้าง Virtual Influencer หรืออินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริงขึ้นมา ซึ่งถ้ามองเผินๆ ในโซเชียล เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้แน่ๆ ว่านี่ไม่ใช่มนุษย์!
อย่างเมื่อไม่นานมานี้ที่เกาหลีใต้เอง ก็ได้เปิดตัวอินฟลูฯ สาว AI คนแรกของประเทศ ชื่อว่า ‘Rozy (로지)’ ขึ้นมาเพื่อตอบรับเทรนด์ยุค Metaverse หรือแนวคิดสุดล้ำแห่งโลกอนาคตที่กำลังมาแรงมากๆ ในกลุ่มบริษัทสายเทคโนโลยี รวมถึงนักการตลาดและการโฆษณามากขึ้น
ทำความรู้จัก Metaverse ให้มากขึ้นนักธุรกิจในยุคนี้หลายคนมองว่า อีกไม่นานมนุษย์เสมือนจริงจะสามารถเข้ายึดครองอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีได้ และพวกเขากำลังจะกลายเป็น ‘บลูชิพ (blue chip)’ ทั้งในวงการโฆษณา ไอดอล K-POP และนักแสดงเกาหลี และจะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาจะมีอายุเท่าเดิมตลอดกาล และไม่ถูกจำกัดจากตารางงานที่วุ่นวาย รวมถึงไม่ต้องคอยกังวลกับข่าวฉาวเหมือนกับเหล่าเซเลบริตีที่อาจส่งผลเสียกับแบรนด์ตามมาทีหลัง
Virtual Influencer คนแรกของเกาหลี
“Rozy เป็นหญิงสาววัย 22 ปี ผู้รักแฟชั่น การวิ่ง โยคะ และการท่องเที่ยวรอบโลก
I am the only one. I could be everyone.”
ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักเธอกันให้มากขึ้นดีกว่า ‘Rozy’ มนุษย์เสมือนจริงคนแรกของเกาหลี ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท Sidus Studio X ในเดือนสิงหาคมปี 2020 ซึ่งเดิมทีที่เธอเปิดไอจี ยังไม่มีใครรู้ว่าเธอไม่ใช่คนจริงๆ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ออกมาเผยในช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้วว่า 'ชั้นน่ะเป็น Virtual influencer นะ ไม่มีตัวตนจริงๆ!' ทำให้ชาวเกาหลีหลายคนทึ่งไปเลยทีเดียว เพราะดูจากรูปที่ลงในไอจีแล้วคือเหมือนมนุษย์มากกก
หลังจากที่ความจริงเผยออกมา งานโฆษณาของ Rozy ก็เข้ารัวๆ และความนิยมก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันว่าเธอเซ็นสัญญาแคมเปญใหญ่ๆ ไปแล้วกว่า 10 ตัว แถมมีสปอนเซอร์รวมกว่า 100 ราย และมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้เธอจะกวาดรายได้ไปมากกว่า 1 พันล้านวอนเกาหลี (ประมาณ 854,000 ดอลลาร์ หรือ 28,438,200 ล้านบาท)
Rozy กับงานโฆษณา Shinhan Life Insurance บริษัทประกันภัยของเกาหลี (มียอดวิวเกือบ 10 ล้าน!!!)
อนาคตของ Rozy
แบคซึงยอบ CEO ของ Sidus Studio X เล่าว่า “การสร้างมนุษย์เสมือนนั้นมีประโยชน์สำหรับโฆษณาที่เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้เฉพาะ อย่าง Rozy ลุคของเธอนั้นมาจากชาว Gen MZ (เจเนอเรชัน Millenials และ Gen Z) ซึ่งเป็นเจนที่มีกำลังซื้อสินค้ามากในปัจจุบัน และลุคของเธอนั้นก็ไม่ได้ยืมมาจากบุคคลใดโดยเฉพาะอีกด้วย”
“ตอนนี้บริษัทได้บรรลุผลกำไรตามเป้าหมายจาก Rozy แล้ว แม้ว่าอาจจะยังมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ส่วนใหญ่เธอจะทำได้แค่โพสท่าถ่ายรูปกับสินค้าลงในไอจี ส่วนงานโฆษณาที่เป็นคลิปวิดีโอ หรือ spot สั้นๆ ยังทำได้ไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตามในปีหน้าทางบริษัทวางแผนไว้ว่าจะปล่อยเสียงพูดของ Rozy ออกมา เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานมากขึ้น ทั้งงานแสดงละคร ภาพยนตร์ รวมถึงรายการวาไรตี้ และแน่นอนว่าจะยิ่งตอบโจทย์กับการถ่ายทำแคมเปญโฆษณามากยิ่งขึ้นอีกด้วย”
ทางบริษัทยังบอกอีกว่า การสร้างมนุษย์ AI ขึ้นมานั้นเป็นการปรับตัวเข้ากับเทรนด์ในยุคปัจจุบันและอนาคต แถมลงทุนน้อยแต่กลับได้มาก อีกทั้งทางบริษัทไม่ต้องกังวลเรื่องอื้อฉาว ตารางงาน โลเกชั่นในการถ่ายทำ และที่สำคัญคือ Virtual Influencer แบบ Rozy จะไม่มีวันแก่ด้วย ยิ่งเพิ่มโอกาสในการต่อสัญญาโฆษณาได้นานมากขึ้นไปอีก
ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการซะทีเดียว!
ความจริงแล้วแนวคิด Virtual Influencer นั้นมีมาหลายปีแล้วครับ และ Rozy เองก็ไม่ใช่คนแรกในวงการอินฟลูเอนเซอร์เสมือนจริง ย้อนไปเมื่อปี 2016 ก็มี Miquela Sousa นางแบบสาววัย 19 ปี ลูกครึ่งอเมริกัน-บราซิล ได้เปิดตัวในโซเชียลเช่นกัน ซึ่งตอนนั้นเป็นที่ฮือฮามากๆ หลังจากที่เธอได้เปิดเผยว่าไม่ใช่มนุษย์และไม่มีตัวตนจริงๆ แต่หลังจากนั้นงานโฆษณาก็ตามมาเพียบเลย ปัจจุบันเธอมียอดฟอลในไอจีกว่า 3 ล้านคน และยังเคยติดโผบุคคลทรงอิทธิพลบนอินเทอร์เน็ตในปี 2016 จากนิตยสาร Time ด้วยนะ
เมื่อ K-POP เข้าสู่ Metaverse
หากใครได้ติดตาม K-POP อาจจะเห็นได้ว่าเทรนด์ไอดอล AI เริ่มมาแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจากการเปิดตัวแบบปังสุดๆ ของวง K/DA ตัวละครสาวจากเกม League of Legends ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเกิร์ลกรุปเกาหลี ซึ่งหลังจากพวกเธอเดบิวต์ในปี 2018 เพลง “Pop/Stars.” ก็มียอดวิวพุ่งกระฉูด (อัปเดตต.ค. 467 ล้านวิว) และยังติดชาร์ต Billboard อีกด้วย
แม้ว่าสาวๆ จะไม่มีตัวตนบนโลก แต่เสียงร้องก็มาจากมนุษย์จริงๆ เพราะทางบริษัท Riot Games ได้ขนทัพศิลปินดังๆ จากทั้งเกาหลีและอเมริกา เช่น (G)I-DLE, TWICE, Madison Beer, Jaira Burns มาให้เสียงร้องเป็นตัวแทนของ K/DA นั่นเอง เรียกว่ายิ่งเพิ่มความน่าติดตามมากขึ้นไปอีก เพราะนักร้องแต่ละคนมีชื่อเสียงทั้งนั้น
หรืออย่างในช่วงปีที่ผ่านมากับการเดบิวต์สุดร้อนแรงของสาวๆ วง aespa เกิร์ลกรุปเมทาเวิร์ส จากค่ายชมพู SM Ent. ที่เรียกว่ามีคอนเซ็ปต์สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลง K-POP กับการสร้างโลกทัศน์อาณาจักร KWANGYA ร่วมกับอวาตาร์ที่เรียกกันว่า ‘ae’ ตัวละครที่ใช้เทคโนโลยีโลกเสมือนเข้ามาผูกสตอรี่ร่วมกัน
เริ่มด้วยเพลงเปิดตัวอย่าง 'Black Mamba' และเพิ่มความร้อนแรงไปอีกกับ ‘Next Level’ ซิงเกิลคัมแบคที่ทำให้เกิดไวรัลไปทั่วเกาหลี และล่าสุดกับ ‘Savage’ ที่เป็นกระแสจนทำ Perfect All Kill (กวาดที่ 1 ทุกชาร์ตเพลงเกาหลี) ซึ่งเป็นวงแรกของไอดอลกรุปเจนสี่ที่สามารถทำได้ แถมสาวๆ aespa ก็กวาดพรีเซนเตอร์สินค้านับไม่ถ้วน ยิ่งตอกย้ำความเป็นตัวแทนแห่งเจเนอเรชัน MZ รวมถึงเทรนด์ Metaverse ในยุคที่ดึงสิ่งรอบตัวเข้ามาผูกกับโลกแห่ง Virtual
"หัวใจหลักที่จะทำให้ K-pop กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกคือ 'เทคโนโลยีทางวัฒนธรรม' ซึ่งจากความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมได้สร้างแนวคิดอิสระที่เรียกว่า 'culture technology (CT)' ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ซึ่งเราพยายามที่จะผนึกรวมวัฒนธรรมและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน และผมคิดว่าในอนาคต โปรดิวเซอร์ทุกคนก็จะกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านวัฒนธรรม และวงการบันเทิงในอนาคตก็จะกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยเหล่าคนดังและหุ่นยนต์ที่เริ่มมากจากการเป็น Avatar”
- อีซูมาน ผู้ก่อตั้งบริษัท SM ได้กล่าวกับนักศึกษาของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงของเกาหลี (KAIST) ในงานเซ็นสัญญา MOU สำหรับการทำงานวิจัยโลก Metaverse
ล่าสุดบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่าง Kakao Entertainment และ Metaverse Entertainment บริษัทในเครือของ Netmarble ก็ประกาศเตรียมเดบิวต์เกิร์ลกรุป AI วงใหม่ ว่ากันว่ามีสมาชิก 4 คน พร้อมเขย่าอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีและตีตลาดโกลบอลอีกด้วย น่าจับตามากกก
ส่วนของไทยเองก็ไม่ยอมแพ้ เมื่อเดือนก่อนได้มีการเปิดตัว ‘ไอ ไอรีน’ สาวน้อย Metaverse คนแรกของประเทศ ผลิตโดยบริษัท SIA Bangkok ซึ่งมีความมุ่งเน้นที่จะตีตลาดและให้บริการ Virtual Influencer Agency โดยตอนนี้เธอก็มีงานถ่ายแบบและรีวิวสินค้าเข้ามารัวๆ เลยทีเดียว
ทำความรู้ 'ไอ ไอรีน' ให้มากขึ้น!................
นับว่าเป็นอีกความแปลกใหม่ของวงการโฆษณาและอินฟลูเอนเซอร์มากๆ สุดท้ายเราก็ต้องมารอติดตามกันต่อไปว่า การมาของเทรนด์ Metaverse นี้จะมีทิศทางต่อไปยังไงในอนาคต และเราในฐานะมนุษย์จริงๆ จะปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีเหล่านี้อย่างไรได้บ้าง // น้องๆ Dek-D มีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงก็อย่าลืมคอมเมนต์กันมาได้นะ
1 ความคิดเห็น