เอะอะหยิบมือถือ! พาไปรู้จัก "Nomophobia" อาการเสพติดสมาร์ตโฟนของคนยุคดิจิทัล

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคนน~ เรียกได้ว่าทุกวันนี้ ‘โทรศัพท์’ เป็น 1 ในปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตของพวกเราไปซะแล้ว แม้ว่าจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่ถ้าน้องๆ คนไหนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถห่างจากมือถือได้เลย หรือจะกังวลหนักมากถ้าไม่ได้แตะโทรศัพท์ อาจเข้าข่ายอาการ ‘Nomophobia’ หรือ ‘อาการเสพติดมือถือ’ ก็ได้นะคะ

วันนี้พี่บีมบันจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับอาการนี้กันว่าเกิดจากอะไร พร้อมวิธีการป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ พร้อมแล้วก็ตามมาเลยค่าา~

• • • • • • • • •  •

‘Nomophobia’ เป็นคำย่อมาจาก “No mobile phone phobia” (หมายถึง อาการกลัวการขาดมือถือ) ซึ่งมักพบในหมู่วัยรุ่นและวัยทำงาน เกิดจากการที่ติดมือถือมากเกินไปจนกลัวว่าในชีวิตประจำวันจะไม่มีโทรศัพท์ไว้ใช้ จนเครียดและวิตกกังวลอย่างรุนแรงถึงขั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตได้เลยค่ะ

• • • • • • • • •  •

เสพติดมากเกินจนหลอน!

ไม่ใช่ว่าผู้มีอาการ Nomophobia จะกลัวไม่มีมือถือใช้เท่านั้นนะคะ แต่ยังรวมไปถึงการตื่นตระหนกอย่างรุนแรง เมื่อทำโทรศัพท์หายหรือพัง เห็นจำนวนแบตเตอรี่เริ่มลดลง หรือต้องไปอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ เรียกได้ว่าถ้าขาดโทรศัพท์ไปจะรู้สึกกระวนกระวายและไม่มีความสุขไปเลยล่ะค่ะ 

• • • • • • • • •  •

ปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิด Nomophobia?

• ใช้เวลากับโทรศัพท์มากเกินไป โดยเฉพาะกับคนวัยทำงานที่ทำอาชีพที่ต้องใช้มือถือตลอด ตอบไลน์เอย เช็กโซเชียลเอย ก็เลยทำให้กลายเป็นความเคยชินไม่รู้ตัว
• กลัวถูกตัดขาดจากความสัมพันธ์ เพราะทุกวันนี้บนโซเชียลมีเดียจะมีเรื่องราวของเพื่อนคอยอัปเดตอยู่ตลอด ถ้าไม่ได้ติดตามก็กลัวจะทำให้สนิทกันน้อยลงและยิ่งในยุคโควิดแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกห่างเหินกว่าเดิมไปอีกค่ะ TT
• กลัวตามข่าวสารไม่ทันคนอื่น โทรศัพท์เป็นอีกอุปกรณ์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้รวดเร็ว ถ้าขาดไปก็กลัวจะรู้เรื่องไม่ทันชาวบ้านเค้า เช่น อาทิตย์ก่อนชาวทวิตยังเล่นมุก “ฉันเป็นประธานบริษัท” กันอยู่เลย แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็น “เธอก็กลับมาห้ามดิ” ซะงั้น เรียกว่าเทรนด์เปลี่ยนวันต่อวันเลยทีเดียว

• • • • • • • • •  •

อาการแบบไหนถึงจะเข้าข่าย รีบมาเช็กด่วน!

• รู้สึกกังวลและหวาดกลัว เมื่อไม่ได้ใช้โทรศัพท์
• ต้องพกติดตัวตลอด และไม่สามารถ(ทำใจ)ปิดเครื่องได้
• ติดการเล่นโทรศัพท์จนแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในชีวิตจริง
• เช็กโทรศัพท์ตลอดเวลา แม้จะไม่มีใครโทรมาหรือมีข้อความเข้า
• กลัวจะไม่มี Wi-Fi ใช้ หรือเครียดเมื่อต้องถูกตัดขาดจากโลกออนไลน์
• หากทำโทรศัพท์หาย จะรู้สึกตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ถึงขั้นตัวสั่น เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก

อาการนี้ไม่ได้ส่งผลเสียแค่สุขภาพจิตเท่านั้นนะคะ แต่ยังกระทบถึงสุขภาพกายของเราแบบ Full Package อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น ปวดคอ ปวดไหล่ และร้ายแรงถึงขั้นหมอนรองกระดูกเสื่อมได้เลย //น่ากลัวมาก!

• • • • • • • • •  •

ต้องทำยังไงถึงจะดีขึ้น?

อาการนี้ไม่ได้มียารักษาโดยเฉพาะค่ะ หลักๆ คือต้องปรับที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ในเวลาว่างลองเปลี่ยนจากการเล่นโทรศัพท์มาทำกิจกรรมออฟไลน์อื่นๆ บ้าง เช่น วาดรูป ออกกำลังกาย เขียนไดอารี หรือหาหนังสือสักเล่มมาอ่านเพื่อโฟกัสอยู่กับตัวเองก็จะช่วยให้เราห่างไกลจากอาการนี้ได้  

หรือจะลองทำตารางเวลาควบคุมการใช้โทรศัพท์ก็ได้นะคะ เช่น ตั้งกฏว่าเวลา 18.00-19.00 ของทุกวัน เราจะไม่แตะโทรศัพท์เด็ดขาด จากนั้นค่อยๆ เพิ่มเวลาขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความเคยชินในที่สุด! (เป็นการทำ Social Detox นั่นเองค่าา)

• • • • • • • • •  •

แม้ว่าอาการนี้จะฟังดูธรรมดาแต่ก็ส่งผลเสียต่อตัวเรามากๆ เลยใช่ไหมคะ ถ้าน้องๆ คนไหนอ่านแล้วรู้สึกตัวเองเริ่มเข้าข่าย ควรรีบพาตัวเองออกมาจากโลกออนไลน์แล้วหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เพื่อเป็นการป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ^^