ลองทำเลย! ‘Dopamine Detox’ วิธีรีเซ็ตความสุขที่มากเกินไป เพื่อเพิ่มจุดโฟกัสให้ดีขึ้น

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ก็ทำให้หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมข้างนอก ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนหันมาเสพคอนเทนต์ทางออนไลน์เพื่อคลายเครียดและหาความสุขให้ตัวเองกันมากขึ้น

แต่เพราะเราสามารถเข้าถึงความสุขเหล่านี้ได้ง่ายกว่าเดิม จึงทำให้ร่างกายหลั่งโดปามีนมากเกินไป จนอาจทำให้สมองและการใช้ชีวิตของเราเกิดความผิดปกติได้ วันนี้ พี่ปุณ เลยอยากมาแนะนำวิธีสร้างสมดุลให้ร่างกายและจิตใจผ่านการทำ ‘Dopamine Detox’ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลย!

Photo credit: Unsplash.com
Photo credit: Unsplash.com

Dopamine คืออะไร?

‘โดปามีน (Dopamine)’ หรือที่เรามักเรียกว่า ‘สารแห่งความสุข’ คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อเป็นสารสื่อสัญญาณเคมี (Chemical messenger) ซึ่งมีหน้าที่ในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาท เพื่อทำให้ร่างกายเกิดการรับรู้ แสดงพฤติกรรมต่างๆ และตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้อย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นด้านอารมณ์ การเรียน การนอน การหาแรงจูงใจ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน

โดยโดปามีนจะเกี่ยวข้องกับความชื่นชอบ ความพึงพอใจ และความปิติยินดี เมื่อทำสิ่งใดแล้วมีความสุข ร่างกายก็จะหลั่งโดปามีนออกมาเพื่อกระตุ้นให้เราทำสิ่งต่างๆ อย่างกระตือรือร้นและมั่นใจยิ่งขึ้นไปอีก แต่ในทางกลับกัน ถ้าร่างกายหลั่งโดปามีนมากหรือน้อยเกินไป ก็จะทำให้เกิดความผิดปกติกับสภาวะจิตใจและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน

นอกจากนี้โดปามีนที่หลั่งออกมายังอาจทำให้เกิดอาการ “เสพติดความสุข” อันเกิดจากสิ่งกระตุ้นรอบตัว ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของคนยุคนี้ เช่น การเล่น TikTok จนหาทางออกจากแอปไม่ได้ (เข้าแอป 2 ทุ่ม ออกจากแอปตี 2 ฮืออT_T) การกินของหวานจนน้ำตาลในเลือดสูง หรือการชอปปิง #ของมันต้องมี จนเงินในบัญชีหมดตั้งแต่ต้นเดือน ซึ่งต้องบอกเลยว่ายิ่งเรามีความสุขกับสิ่งเหล่านี้ง่ายและบ่อยขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งโหยหามันต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

Photo credit: Unsplash.com
Photo credit: Unsplash.com

Dopamine Detox 
พักจากสิ่งเร้า เอาสมดุลกลับคืน!

‘Dopamine Detox’ คือการหยุดพักจากกิจกรรมสร้างความสุขที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งโดปามีน ซึ่งถูกคิดค้นโดย ‘Dr. Cameron Sepah’ ผู้ช่วยศาสตราจารย์คลินิกจิตเวชจาก University of California San Francisco และถึงแม้ว่าวิธีนี้จะยังไม่มีผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัด แต่หลังจากที่เขาได้ศึกษาเกี่ยวกับ ‘Cognitive Behavioral Therapy (CBT)’ หนึ่งในวิธีบำบัดจิตเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและจัดการกับสภาวะอารมณ์ ก็พบว่าการละเว้นจากพฤติกรรมเสพติดความสุขเพียงระยะสั้นๆ จะทำให้สมองทำงานได้ดีขึ้น

Photo credit: Unsplash.com
Photo credit: Unsplash.com

และเพื่อตอกย้ำความมั่นใจ นักวิจัยคนนี้ก็ได้ลองนำ Dopamine Detox มาใช้กับเหล่าผู้บริหารและคนที่ทำงานในสายเทคโนโลยีจนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ “พฤติกรรมที่กระตุ้นการหลั่งสารแห่งความสุขของร่างกาย” โดยแบ่งได้เป็น 6 แบบ ดังนี้

  1. การกินตามอารมณ์ (Emotional eating)
  2. การใช้อินเทอร์เน็ตหรือเล่นเกมมากเกินไป (Excessive Internet usage and Gaming)
  3. การเสพติดการพนันและการชอปปิง (Gambling and shopping)
  4. การดูหนังโป๊และการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง (Porn and Masturbation)
  5. การแสวงหาสิ่งแปลกใหม่ที่น่าตื่นเต้น (Thrill and Novelty seeking)
  6. การใช้สารเสพติดเพื่อความผ่อนคลาย (Recreational drugs)

ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบแล้ว การทำ Dopamine Detox ก็คงเหมือนการกดปุ่ม leave ออกจากโลกที่วุ่นวาย งดกินของอร่อยตามใจปาก งดเสพคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียมากเกินพอดี งดมีเซ็กซ์หรือช่วยตัวเองไประยะหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อรีเซ็ตสมอง หยุดการทำงานของสารสื่อประสาท และปรับระดับโดปามีนในร่างกายให้สมดุล แต่ถ้าใครรู้สึกเบื่อ รู้สึกเหงา ก็ลองฝึกนั่งสมาธิ กำหนดลมหายใจ อย่าปล่อยให้สิ่งเร้ามาหลอกล่อเราได้นะคะ!

Photo credit: Unsplash.com
Photo credit: Unsplash.com

5 ข้อดีจากการทำ ‘Dopamine Detox’

  1. จิตใจสงบนิ่งและมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
  2. ชีวิตมีความสมดุล เป็นระเบียบ และมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น
  3. มองเห็นเป้าหมายในการใช้ชีวิตอย่างชัดเจน ไม่ปล่อยให้ความลุ่มหลงในความสุขมาขัดขวางความสำเร็จได้
  4. แม้ว่าจะไม่ได้ในสิ่งที่ปรารถนา ก็สามารถช่วยให้เราควบคุมและจัดการกับอารมณ์ได้ดีขึ้น เช่น ไม่โกรธ ไม่โมโห หรือไม่หงุดหงิดง่าย
  5. สุขภาพร่างกายแข็งแรง ความดันเลือดต่ำลง ไม่เครียด ไม่กังวล นอนหลับดี สมองมีการทำงานและเรียนรู้อย่างเป็นระบบ

อย่างไรก็ตาม การทำ Dopamine Detox แบบ 100% นั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะโดยปกติแล้ว ร่างกายจะหลั่งโดปามีนออกมาตลอดเวลา ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ทำกิจกรรมใดๆ เลยก็ตาม ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าถ้างดพฤติกรรมที่กล่าวมาข้างต้นแล้วจะทำให้รู้สึกเศร้าหมองหรือทุกข์ใจ แต่ควรระวังไม่ให้ตัวเองเสพติดกิจกรรมสร้างความสุขมากเกินไปจนติดเป็นนิสัย หรือไม่เป็นอันทำอะไรเลยก็พอค่ะ

Photo credit: Unsplash.com
Photo credit: Unsplash.com

เป็นยังไงกันบ้างคะ? มีใครรู้สึกว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในภวังค์ของการ “เสพติดความสุข” อยู่บ้างหรือเปล่า? ถ้ามีพี่ก็ขอแนะนำให้ลองหาเวลาสัก 24 ชั่วโมงเพื่อทำ Dopamine Detox ไม่กินตามใจ ไม่ชอปปิง ไม่เสพคอนเทนต์ ไม่เล่นเกม ไม่ดูทีวี แล้วมาดูกันสิว่าการลด ละ เลิกกิจกรรมที่กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งโดปามีนเกินจำเป็นเหล่านี้ จะช่วยให้น้องๆ มีจุดโฟกัสชีวิตที่ดีขึ้นได้จริงไหม! // ใครลองแล้วก็มารีวิวกันหน่อยน้า~  

Source:https://www.medicalnewstoday.com/articles/dopamine-detox
พี่ปุณ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น