เมื่อภาษาพัดพา ‘เด็กทุนรัฐบาลจีน’ จากเขตร้อน สู่แดนมังกรโซนที่อุณหภูมิต่ำสุด -30 องศา!

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ใครอยากเรียนต่อประเทศจีนที่สวยและรวยมาก อยู่ใกล้ไทย ค่าครองชีพไม่ไกลกัน และมีทุนหลายประเภทที่ชาวต่างชาติสมัคร โดยที่หลังเรียนจบไม่ต้องใช้ทุน วันนี้เราจะขอพาไปอ่านรีวิวชีวิตเด็กทุนจีนสุดพีคของรุ่นพี่คนไทยที่ได้ทุนรัฐบาลจีน Chinese Scholarship Council (CSC) ไปเรียนสาขาการสอน ณ เมืองฉางชุน ซึ่งอยู่เขตหนาวติดลบสูงสุด 30 องศา!

  • คนจากประเทศเขตร้อนอย่างไทยไปแล้วจะเป็นยังไง?
  • เจอการเรียนและสังคมแบบไหนบ้าง?
  • ได้รู้อะไรสนุกๆ เกี่ยวกับจีนในช่วง 4 ปีนี้?

ในนี้มีรีวิวพร้อมเล่าเกร็ดความรู้ประเทศจีนไว้ตลอดเรื่อง ใครมีข้อสงสัยเรื่องการเรียนต่อจีน หรือทุนใดๆ จดคำถามไว้ แล้วเตรียมมาปรึกษา 1:1 กับทั้งพี่เจี๊ยบ (ทุนรัฐบาลจีน), พี่อู๋ (แพทย์ ม.ฟู่ตั้น) และ พี่ปิง (ที่ปรึกษาการเรียนต่อจีน) ในงานแฟร์ Dek-D’s Study Abroad Fair 7-8 ตุลาคม 2566 นะคะ⁓

. . . . . . . . .

สวัสดี หนีห่าวเด้อจ้าาาาา

สวัสดีค่า ชื่อ “พี่เจี๊ยบ-กชมน กุยสิงห์” นะคะ เรียนจบ ป.ตรี จากเอกภาษาจีน คณะอักษรศาสตร์ ม.ศิลปากร พอเรียนจบก็ออกไปหาประสบการณ์ใช้ชีวิตที่ภาคเหนือประมาณ 2 ปี จนเกิดความคิดว่าควรจะเรียนต่อ เพราะเราจบเรียนภาษามาเพียวๆ ถ้าได้เสริมสกิลเฉพาะทางสักอย่างก็น่าจะช่วยขยายโอกาสการทำงานได้อีกเยอะในอนาคต

ตอนนั้นพี่อายุ 25 ได้เห็นเพื่อนในเอกที่ไปเรียนต่อจีนตามเมืองต่างๆ มาแชร์ข้อมูลกัน เราก็ตัดสินใจว่าจะต่อ ป.โท และขอทุนรัฐบาลจีน CSC ข้อดีคือเป็นทุนเต็มจำนวน + มีเงินเดือนให้ + ไม่ต้องใช้ทุนหลังเรียนจบ + ขั้นตอนสมัครง่าย แต่ถึงจะเป็นทุนฟรีที่เงื่อนไขไม่ซับซ้อนก็ประมาทไม่ได้นะ เตรียมตัวดีๆ เพราะต้องแข่งกับคนทั่วโลก และทุนแต่ละปีก็มีจำนวนจำกัด

. . . . . . . . .

รีวิวสมัครทุน CSC
เลือกสาขายังไงบ้าง?

เราสามารถสมัครทุนนี้ได้ผ่านเว็บไซต์ https://studyinchina.csc.edu.cn/ แนบไฟล์เอกสารส่งทางออนไลน์ได้เลย *ส่วนตัวพี่ไม่ได้ยื่น HSK แต่แนะนำให้เช็กในระเบียบการของปีที่จะสมัครดีๆ เพราะอาจมีเงื่อนไขอื่นเพิ่มเติม ควรอัปเดตข้อมูลการสมัครไว้เรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เสียโอกาส

แล้วในแบบฟอร์มสมัครทุนของปีที่พี่สมัคร (2015) จะมีส่วนที่ให้กรอกหลักสูตร/มหาวิทยาลัยทั้งหมด 3 อันดับ ถ้าติดทุน = ได้ตอบรับเข้าเรียนด้วย ตอนนั้นพี่อยากเป็นล่าม แต่ไม่ได้อยากลงลึกถึงระดับภาษาศาสตร์ (Linguistic) ก็เลยเลือกสาขาแนวการสอนภาษาจีน ผลคืออกหักจาก 2 อันดับแรก คิดว่าจะไม่ได้ทุนแล้วแน่ๆ แต่สุดท้ายมาติดอันดับที่ 3 สาขา Teaching Chinese as a Foreign Language ของ Northeast Normal University (NENU, 东北师范大学)

ถ้าให้แปลชื่อมหา’ลัยตรงตัวเลยก็คือ “มหาวิทยาลัยครุศาสตร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” คำว่า Normal ในมหา’ลัยแปลว่า ครุศาสตร์ เรียนแคมปัสที่เมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน อาจจะไม่ mass เหมือนปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ แต่ก็เป็นมหา’ลัยติดอันดับต้นๆ ของประเทศในสาขาการสอน

สาขาการสอนติดอันดับ 4 ของประเทศ
สาขาการสอนติดอันดับ 4 ของประเทศ
อ้างอิงจาก Shanghai Ranking 2022 (Pedagogy)

. . . . . . . . .

เข้าสู่ช่วงปรับตัวปรับใจ
อากาศลบแค่ไหนก็คิดบวก

ก่อนมาเรียนจีน พี่เคยเห็นเพื่อนไปเรียนต่อสาขาครูที่อีกมหา’ลัยในโซนตงเป่ย เขาโพสต์รูปใส่เสื้อขนเป็ดหนามากกกจนสงสัยเลยว่านั่นกี่องศา สุดท้ายก็ได้คำตอบแบบชัดๆ จากเอกสารแนะนำมหา’ลัยที่เขาส่งมาให้หลังติดทุน

NENU ตั้งอยู่ที่เมืองฉางชุน มณฑลจี๋หลิน และอยู่ในแถบ 东北 dōngběi (ตงเป่ย) หรือตะวันออกเฉียงเหนือของจีน พูดชื่อเมืองฉางชุนคนอาจไม่คุ้น แต่ถ้าบอกว่าเป็นเมืองติดกับ “ฮาร์บิน” คนจะอ๋อกัน เพราะฮาร์บินเป็นเมืองที่จัดการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งและหิมะ แล้วคนไทยก็ได้แชมป์มาต่อเนื่องหลายสมัย ทั้งที่ประเทศไทยไม่มีหิมะ

ทีนี้ เอกสารบอกไว้หมดเลยว่า

“อุณหภูมิในเมืองฉางชุนสูงสุดอยู่ที่ 27-30 องศาเซลเซียส” 

(โอ๊ยสบายยย ใกล้ไทย) แต่พออ่านต่อ 

“ต่ำสุดอยู่ที่ -30 องศา” 

(........) 

ในเอกสารมีแนบภาพมหา’ลัยในเวอร์ชัน 4 ฤดูมาให้ด้วย หน้าหนาวก็คือหิมะอย่างขาว สูงเท่าเข่าเล้ยย

NENU
NENU
NENU
NENU
NENU
NENU

พอเห็นตัวเลขงี้ก็เริ่มว้าวุ่นละ แต่พยายามคิดว่าคนตรงนั้นยังอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้ดิ พอไปถามเพื่อนคนนั้นว่าเตรียมตัว เตรียมของอะไรไปบ้าง เพื่อนบอกชื่อกุ ไม่ต้องขนพวกเสื้อผ้าของใช้ไปหรอก แค่พกของกินที่ชอบและเครื่องปรุงอาหารที่จำเป็นไปก็พอ

เมื่อไปถึงก็พบว่า จริง เตรียมอาหารไปดีกว่า ยิ่งใครมีของโปรดหรือเป็นคนกินยากๆ แล้วพกได้ เอาเลยค่า เพราะแถวนั้นจะอยู่ห่างไกลจากรสชาติอาหารที่เราคุ้นเคย ยิ่งอยู่เมืองทางเหนือยิ่งไกลจากเมืองไทย อาหารนำเข้าจะยิ่งเยอะและราคาแพงมาก ส่วนใครชอบอาหารรสจัดจะอยู่ทางใต้ๆ

ส่วนพวกเสื้อผ้า แนะนำให้มาซื้อที่ตัวเมือง จะได้ของ local อย่างดีและราคาถูกกว่ามาก เทคนิคคือ​​ซื้อเสื้อกันหนาวในหน้าร้อน และซื้อเสื้อหน้าร้อนตอนช่วงหนาว ร้านค้าต่างๆ จะพากันลดกระหน่ำ ทำให้ประหยัดเงินทุนไปได้เยอะมากเลย

แถบตงเป่ยมีที่ไหนบ้าง?

  • มณฑลเฮยหลงเจียง เมืองหลักคือฮาร์บิน
  • มณฑลจี๋หลิน เมืองหลักคือฉางชุนที่พี่ไปเรียนค่ะ คำว่า “ฉางชุน” จะหมายถึงฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนาน แต่ความจริงมีอยู่ 2 เดือนค่ะ บ่ใช่แล้วววว ขัดกับชื่อมาก 5555
  • มณฑลเหลียวหนิง เมืองหลักคือเสิ่นหยาง

ใครที่ได้ทุนมาเรียนแถวนี้ให้เตรียมใจเรื่องอากาศ เพราะเป็นเขตที่หนาวเร็วด้วยสภาพภูมิศาสตร์ อยู่ติดรัสเซีย อุณหภูมิเริ่มติดลบตั้งแต่กันยายน เมืองที่หนาวสุดคือฮาร์บิน (เย็น 8-10 เดือน เกือบทั้งปี) รองลงมาคือฉางชุน (เย็นประมาณ 6 เดือน) มันเย็นถึงขนาดแม่น้ำเหมือนลานสเก็ต ยืนถ่ายรูปได้ไม่จม เพราะกลายเป็นน้ำแข็งไปหมดแล้ว

ที่นี่ยังมีการแข่งขันว่ายน้ำในฤดูหนาว เพราะเขาเชื่อว่า การกระโดดลงไปในน้ำที่อุณหภูมิยิ่งต่ำ จะยิ่งช่วยให้สุขภาพแข็งแรง อึด ทน!! ในปีสุดท้ายพี่มีโอกาสไปร่วมในพิธีเปิดงานแข่งขันนี้ แล้วเคยสัมภาษณ์ออกทีวีท้องถิ่นด้วยนะ // รู้สึกภูมิใจมากกก เป็นตัวแทนประเทศไทย ทั้งที่ภาพจริงมาไม่ถึงครึ่งนาที 5555

. . . . . . . . .

สรุปชีวิตช่วง ป.โท สั้นๆ
เรียนกันประมาณไหน?

มาต่อกันที่เรื่องเรียนค่าา 5555 พี่ได้ทุนปี 2015 เรียนจบปี 2019 ก่อนโควิดเข้าพอดี ด้วยความที่พี่ไม่ได้ยื่น HSK เลยต้องเรียนปรับภาษาก่อน 1 ปี และต้องสอบให้ผ่าน HSK 5 ก่อนขึ้น ป.โท ในขณะที่ทุน CSC ป.โท ครอบคลุม 3 ปี ดังนั้นเราจะต้องตั้งใจเรียนให้เต็มที่ และพี่ก็สอบผ่าน HSK 5 ได้คะแนน 220+ ในเทอมแรกที่เรียนเลย เจ๋งมั้ยล่ะ ;D

ถ่ายกับเพื่อนที่เรียนปรับภาษาด้วยกัน
ถ่ายกับเพื่อนที่เรียนปรับภาษาด้วยกัน

พอเข้าสู่ช่วง ป.โท เราเป็นนักเรียนต่างชาติคนเดียวในรุ่นเลยค่ะ ทั้งหมดมี 7 คน เป็นคนจีนทั้งหมดเลยย แถมมาจากหลายเมือง โดยที่  2 ใน 7 เป็นตัวท็อปที่สอบเข้ามาด้วยคะแนนสูงสุด 2 อันดับแรกของคณะ และเลือกเรียนสาขานี้ค่ะ ต่อมาเราได้เกาะกลุ่มเป็นเพื่อนสนิทกัน 3 คน มีอะไรสงสัยสามารถถามหรือทัก WeChat กันได้ตลอด (เพื่อนและครูน่ารักมากก เป็นปัจจัยรอบข้างที่ช่วยให้เราผ่าน ป.​โทมาได้)

หลายคนอาจสับสนสาขานี้กับสาขาครู จริงๆ “สาขาการสอนภาษาจีนในฐานะภาษาต่างประเทศ”​ ไม่ได้อยู่ในคณะครุศาสตร์ แต่เป็นคณะอักษรฯ ที่เรียนเน้นภาษา ไม่มีสอบสอน ไม่ได้เน้นปั้นครูโดยเฉพาะ จบไปไม่ได้ใบประกอบวิชาชีพครู (สอบเพิ่มทีหลังได้เหมือนคนจบสาขาอื่นๆ) สิ่งที่จะได้เรียนคือหลักการสอนภาษาจีนในคลาสชาวต่างชาติ เช่น Global Language Teaching แต่แรกๆ จะมีบางวิชาที่เรียนร่วมกับเด็กสาขาครูเหมือนกัน เช่น พื้นฐานไวยากรณ์ ประวัติศาสตร์ วิวัฒนาการภาษา ฯลฯ

NENU
NENU
มหา’ลัยพานักศึกษาต่างชาติไปเที่ยวปักกิ่ง (Beijing)
มหา’ลัยพานักศึกษาต่างชาติไปเที่ยวปักกิ่ง (Beijing)
กำแพงเมืองจีนนนนน~
กำแพงเมืองจีนนนนน~

ช่วงที่หนักสุดของ ป.โท คือตอนทำธีสิส

ปกติเราจะกลับบ้านทุกตรุษจีน ซึ่งตรงกับช่วงที่หนาวสุดของปี เมืองเงียบ ไม่ค่อยมีคน และออกไปไหนไม่ได้ แต่ปีสุดท้ายพี่ตัดสินใจไม่กลับเพราะจะปั่นธีสิสให้เสร็จ

ตอนนั้นเสนอหัวข้อที่สนใจไปแล้ว แต่อาจารย์ที่ปรึกษาพี่แนะนำให้ทำหัวข้อเกี่ยวกับไวยากรณ์จีนที่เด็กไทยรู้จักกันน้อย นั่นก็คือ 补语 ค่ะ

你走真快

(Nǐ zǒu zhēn kuài)

= คุณเดินเร็ว/มาก

คำว่า “มาก” ขยายคำว่า “เร็ว” ซึ่งขยายกริยาคำว่า “เดิน” อีกที ถ้าเทียบกับภาษาไทยอาจใกล้เคียงกริยาวิเศษณ์ แต่ก็ไม่ได้ตรง เพราะในภาษาจีนจะต้องมีคำว่า de【得】คั่นก่อนขึ้นบทขยาย ดังนั้นพอไทยไม่มี ตอนทำธีสิสพี่แทบไม่เจอแหล่งอ้างอิง ตอนนั้นพี่ก็ต้องเก็บข้อมูลโดยการทำแบบทดสอบขึ้นมา 1 ชุดเพื่อวัดทักษะการใช้ไวยากรณ์ชนิดนี้ กลุ่มเป้าหมายคือนักศึกษาไทยที่เรียนภาษาจีนระดับ HSK 3-5

ผลที่ได้คือนักศึกษาไทยยังใช้ไวยากรณ์นี้ได้ยังไม่ค่อยดีนัก หากเราเป็นผู้สอน ก็ต้องหาวิธีการสร้างความเข้าใจให้ถูกต้อง รวมถึงนำเทคนิคการสอนที่ได้เรียน ป.โท มาปรับใช้ร่วมด้วย

ความยาก ความสนุก และเสน่ห์ของภาษาจีน

ภาษาอื่นจะมีคนประดิษฐ์ตัวเขียนขึ้นมา แต่ภาษาจีนเริ่มต้นจากการเป็นอักษรภาพมาก่อน และมีวิวัฒนาการหลายพันปี จนกลายเป็นตัวอักษรจีนกลางที่ใช้จนถึงปัจจุบัน โดย “ตัวฮันจา” ของเกาหลี “ตัวคันจิ” ของภาษาญี่ปุ่น ก็ได้รับอิทธิพลมาจากตัวอักษรจีนเต็มๆ ถ้าใครดูซีรีส์เกาหลีย้อนยุคก็จะเห็นว่าเขาเขียนตัวจีนกัน

บทความ: เปิด 4 ความต่างระหว่างฮั่นจื้อ คันจิในญี่ปุ่น และฮันจาในเกาหลี

https://www.dek-d.com/studyabroad/58365 

แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าเทียบกันแง่ไวยากรณ์ พี่ว่าภาษาจีนใกล้เคียงของไทยสุดแล้ว เพราะโครงสร้างประโยคเป็น ประธาน (S.) กริยา (V.) กรรม (O.) เหมือนกัน มีระดับคำบ้างแต่ไม่ได้ละเอียดยิบ อย่างคำว่า 我 Wǒ หว่อ แปลว่า “ฉัน” ผู้พูดผู้ฟังเป็นใครก็ใช้คำนี้ (เหมือนกับ “I” ในภาษาอังกฤษที่ใช้ได้กับทุกบริบท)

แต่ความยากของภาษาจีนจะอยู่ที่ต้องจำตัวอักษรเยอะ ยิ่งไวยากรณ์เสริมคือเยอะมากกก ในช่องว่างระหว่าง S. / V. / O. ต้องเติมด้วยไวยากรณ์และคำประเภทต่างๆ เช่น คำสันธาน คำบุพบท ฯลฯ แต่เรียนแล้วยิ่งสนุก ได้แตกแขนงไปเรื่อยๆ พี่เลยคิดว่าความยากคือเสน่ห์ที่แรงมากๆ ของภาษาจีน

นอกจากนี้จีนมี 56 เผ่า ประชากรมากที่สุดคือ “เผ่าฮั่น” สื่อสารด้วยจีนแมนดาริน (=จีนกลาง) แต่ถ้าคนที่มาจากชนเผ่าอื่นๆ การพูดจะต่างกัน เช่น ปักกิ่งเอะอะม้วนลิ้น ภาคอีสานของจีนหรือ “ตงเป่ย” ฟังแล้วจะ หืมม 5555 แล้วยิ่งไปกว่านั้นคือภาษาตงเป่ยที่ใช้ในเฮยหลงเจียง ฮาร์บิน จี๋หลิน เสิ่นหยาง ฉางชุน ฯลฯ ก็จะมีสำเนียงของตัวเองกันหมด

ในที่สุดก็จบ ป.โทตอนอายุ 29 ปี
เป็นช่วงเวลา 4 ปีที่คุ้มค่าและภูมิใจสุดในชีวิต !

ปัจจุบันพี่เป็น Artwork Quality Control Inspector ในบริษัท Graphic Design สัญชาติสิงคโปร์ และทำงานแบบทางไกล Work Remotely 100% 

หลายคนอาจงงว่างานพี่ตอนนี้ เกี่ยวกับเรื่องสาขาเรียนที่เล่ามาตั้งแต่ต้นหรือเปล่า ขอบอกว่าเกี่ยวเต็มๆ ถึงตอนทำงานเราใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่ถ้าเห็นแบรนด์จีนเราจะรู้ทันที และอ่านออก (ปกติจะเห็นงานดีไซน์ของทุกชาติในเอเชีย) แถมเรายังใช้ภาษาจีนเพื่อคุยงานแบบเจาะลึก เพราะภาษาจีนกลางก็เป็นหนึ่งในภาษาราชการของสิงคโปร์ แค่เวลาเจอหน้าแล้วทักภาษาจีนเพื่อนร่วมงานก็เซอร์ไพรส์แล้ว และยิ่งไปกว่านั้นคือเราสามารถเข้าใจความต้องการของพนักงานที่ประจำอยู่สาขาจีนได้ค่ะ ^ ^

ปิดท้ายด้วย Fun Facts
รวมมิตรเกี่ยวกับความจีนที่ค้นพบ

1. ห้องน้ำ!!

ห้องน้ำที่ประเทศจีนไม่สะอาดจริงไหม? จากที่เจอมาคือ “จริง” แต่ขึ้นอยู่สถานที่ด้วย ในห้างหรือโรงแรมดีๆ ก็มีมาตรฐานของเขา แต่ถ้าในที่สาธารณะ เช่น ไปเที่ยวภูเขาแล้วแวะห้องน้ำกลางทาและเป็นส้วมหลุม ก็มีโอกาสช็อกได้เช่นกันค่า

2. อาหารจีน

ตอนพี่เรียนจะมีโรงอาหาร ทั้งฝั่งเหนือ และฝั่งใต้ ซึ่งจะขายอาหารตามท้องถิ่นเลย ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด สายพาน ตึ๊ดบัตรนักเรียนจ่ายได้เลยไม่ต้องใช้เงินสด มื้อนึงตีเป็นเงินไทยไม่ถึง 20 บาทด้วยซ้ำ

หลังกลับมาก็ยังคงคิดถึงอาหารท้องถิ่นของจีนนะ อย่างพวกบุฟเฟ่ต์สายพานเรารู้สึกติดใจต้นตำรับมากกว่า ถ้าอาหารโซนตงเป่ย รสชาติเค็มนำตามด้วยเผ็ด แต่เผ็ดไม่สู้ทางใต้ค่ะ ถ้าจะเอาโหดๆ เลยคืออาหารเมืองฉงชิ่ง (重庆菜) เผ็ดมาก ! ส่วนใครที่ชอบกินแนวปิ้งย่างหมาล่า 麻辣 ที่จีนเจอได้ทั่วไปเหมือนบรรดาสตรีทฟู้ดของไทยเลย

3. ความรุ่งโรจน์ของอุตสาหกรรมบันเทิง

แต่ละมณฑลในประเทศจีนจะมีสถานีโทรทัศน์เป็นของตัวเอง เช่นสถานี ZRTG: Zhejiang Television (มณฑลเจ้อเจียง 浙江省) ผู้ผลิตรายการ Keep Running (Running Man China) หรือสถานี Hunan Broadcasting System (มณฑลหูหนาน 湖南) เจ้าของรายการวาไรตี้ดัง Call Me by Fire Season 3 ทางช่อง Mango TV

และถ้าใครติดตามจะเห็นว่ามีคนไทยไปดังที่จีนเยอะมากๆ เช่น Sunnee (ซันนี่-เกวลิน), Mimi Lee (มีมี่), เนเน่-พรนับพัน, นาย-กรชิต, แพทริค-ณัฐวรรธ์, แพม-เปมิกา, ไมค์-พิรัชต์ เป็นต้น หรือศิลปินไทย “เจฟ-วรกมล ซาเตอร์” (Jeff Satur) ก็ได้ไปโชว์ความสามารถและความฮอตปรอทแตกสู่สายตาผู้ชมระดับอินเตอร์ในรายการ Call Me Fire Season 3 ด้วยนะคะ ตามไปโดนตกกันได้ที่คลิปและแฮ็ชแท็ก #jeffsatur รวมถึง Instagram jeffsatur และ Weibo https://weibo.com/u/7514553597 กันเลยย

4. มาจีนก็สัมผัสวัฒนธรรมเกาหลีก็ได้

มณฑลจี๋หลินมีเส้นข้ามพรมแดนไปเกาหลีเหนือ โดยเมืองเหยียนจี๋ (延吉) จะตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของมณฑลจี๋หลินค่ะ ที่นั่นจะเจอวัฒนธรรมเกาหลีได้แบบเข้มข้น  เป็นคนเกาหลีที่พูดภาษาจีนด้วยสำเนียงในแบบฉบับของเขาเอง

5. รถไฟใต้ดินที่ฉางชุน สร้างเสร็จ 3 สายใน 4 ปี

ตั้งแต่ไปจีนมา ประทับใจสุดคือเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก + ความทุ่มทุนสร้างของเขา ยิ่งฉางชุนที่พี่ไปเรียน ก็เป็นแหล่งผลิตรถไฟฟ้าส่งออก และเป็นโรงผลิตรถยนต์ท้องถิ่นด้วย ตอนนั้นที่พี่ไปเรียนเมืองฉางชุน รถไฟฟ้าใต้ดินสร้างเสร็จ 3 สายใน 4 ปี หิมะตกก็ไม่แคร์เพราะสร้างใต้ดิน ตอนเรียนเราก็เห็นที่เขากั้นโซนก่อสร้าง แต่ก็ไม่คิดว่าเราได้นั่งทันก่อนจบ

เขาสร้างเร็วแต่ได้มาตรฐานด้วย ไม่ได้สร้างแบบสั่วๆ ค่าเดินทางก็คือถูกจนน่าตกใจ นั่งรถไฟต้นสายถึงปลายสายห่างกันเป็น 10 กิโล ก็จ่ายไม่ถึง 3 หยวน (ประมาณ 15 บาทไทย)

西部快速路, Changchun, China
西部快速路, Changchun, China
Photo by Andreas Felske on Unsplash
Changchun, Jillin
Changchun, Jillin
Photo by Shinzan Murray on Unsplash

6. เซินเจิ้น เป็นเมืองที่เทคโนโลยีโคตรล้ำ

คิดว่าเรื่องที่คนไทยบางคนยังไม่รู้ ก็คือ เมืองเซินเจิ้น (Shenzhen หรือ 深圳) ในมณฑลกวางตุ้ง ที่คนชอบแซวกันว่าเป็นเมือง Copy+Paste แหล่งของก็อป ของจีนแดงต่างๆ จริงๆ แล้วเป็นเมืองที่ทันสมัยและเจริญติด Top5 ของประเทศ การคมนาคมและเศรษฐกิจดีกว่าเซี่ยงไฮ้อีก เหตุผลที่รัฐบาลเน้นพัฒนาเซินเจิ้น เพราะยังมีพื้นที่ว่างให้สร้างสิ่งใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ ในขณะที่เมืองใหญ่อื่นๆ สร้างจนแทบไม่มีที่ว่างแล้ว // จริงอยู่ที่มีแหล่งซื้อขายของมือสอง แต่ก็เป็นที่ตั้งของบริษัทใหญ่อย่าง Tencent แล้วยังมี Walmart (บริษัทค้าปลีกสัญชาติอเมริกา) ด้วยนะ

Shenzhen, China
Shenzhen, China
Photo by Ricardo Wu
Shenzhen, China
Shenzhen, China
Photo by Vincent Chan on Unsplash

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

You're Invited!
พูดคุยกับ "พี่เจี๊ยบ" ได้ที่งานแฟร์ต่อนอก
พิกัดไบเทคบางนา 7-8 ต.ค.66 นี้!

เนื่องจาก “ประเทศจีน” และ “ทุนรัฐบาลจีน” เป็นเป้าหมายที่เนื้อหอมสุดๆ ใครอ่านจบอยากปรึกษาเรื่องการเรียนต่อหรือขอทุน ขอเชิญทุกคนมาเป็นส่วนหนึ่งในงาน Dek-D’s Study Abroad Fair ในวันที่ 7-8 ตุลาคม 2566 ที่ไบเทคบางนา (ฮอลล์ EH98) เข้าร่วมฟรี เพราะเราจะได้รับเกียรติจาก “พี่เจี๊ยบ” มาประจำบูทกับเรา รวมถึง “พี่หมออู๋” นักเรียนแพทย์ ม.ฟู่ตั้น (Fudan University) กับ “พี่ปิง” ที่ปรึกษาด้านการเรียนต่อประเทศจีน ให้น้องๆ ได้ปรึกษาหลายแง่มุมครบในงานเดียวค่า

  • พบกับเอเจนซีชั้นนำมากมาย จากหลากประเทศ หลายสาขาวิชา พร้อมช่วยเหลือเรื่องเรียนต่อตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้น ทั้งเรื่องเอกสาร สมัครเรียนให้ จัดแจงวีซ่า จองที่พัก และความพร้อมด้านต่างๆ ให้บินไปเรียนแบบ Perfect Planning!
  • โปรแกรมบริการ และฐานกิจกรรมมากมาย เพื่อช่วยวางแผนการสมัครเรียนต่อต่างประเทศ
  • โต๊ะปรึกษา 1:1 กับรุ่นพี่นักเรียนไทยที่ได้ทุนสุดฮิต 16 คน ทั้งทุนรัฐบาลเกาหลี, ทุน EGPP (ม.สตรีอีฮวา), ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น, ทุนรัฐบาลไต้หวัน, ทุนรัฐบาลอินเดีย, ทุนรัฐบาลไทย, ทุน Erasmus+, ทุน DAAD, ทุน Franco-Thai, ทุน Chevening ฯลฯ
  • งานนี้จัดพร้อมกับ Dek-D’s TCAS Fair เท่ากับว่ามาครั้งเดียวจะได้ค้นหาตัวเองและหลักสูตรที่ตอบโจทย์ ซึ่งอาจจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศก็ได้
เข้าสู่เว็บไซต์งานแฟร์
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น