'แพม' เล่าชีวิตเด็ก ม.ปลายในรั้ว รร.อินเตอร์ที่ญี่ปุ่น & ได้ทุน UWC เรียนหลักสูตร IB ดีต่อใจเดสเนะ !

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ใครกำลังหาข้อมูลทุนเรียนต่อมัธยมปลายที่ต่างประเทศ วันนี้จะพาไปรู้จักอีกโอกาสที่น่าสนใจมากกก นั่นก็คือ United World College (UWC) ทุนจากคณะกรรมการองค์การสหสากลแห่งประเทศไทย (UWC National Committee Thailand) โครงการนี้จะเปิดรับสมัครน้องๆ ที่มีวุฒิ ม.3, กำลังเรียน ม.4 (หรือจบแล้ว) แต่ไม่เกิน ม.6 ไปเปิดประสบการณ์เรียนระดับมัธยมปลายที่ ณ โรงเรียนนานาชาติในเครือ UWC ซึ่งมีแคมปัสในหลายทวีป เช่น เยอรมนี, สิงคโปร์, แทนแซเนีย, ญี่ปุ่น, คอสตาริกา, อเมริกา, เนเธอร์แลนด์ และอื่นๆ รวมถึงในไทยก็มีที่จังหวัดภูเก็ตด้วย ส่วนมูลค่าทุนก็มีตั้งแต่บางส่วนไปจนถึงเต็มจำนวน ขึ้นอยู่กับประเทศ และพิจารณาจากความสามารถร่วมกับฐานะทางการเงินของผู้ปกครอง

บทความสรุปทุน UWC เรียนต่อ ม.ปลาย ในต่างประเทศ ประจำปี 2567 ปิดรับสมัครไปเมื่อ 12 มกราคม 2024 แต่สามารถศึกษาเป็นแนวทางการเตรียมสมัครรอบถัดไปได้ค่ะ  https://www.dek-d.com/studyabroad/63423/  

และเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เราก็ได้เบาะแสมาว่าหนึ่งใน #ทีมฝึกงาน Dek-D รอบมิถุนายน 2024 จากทีมดีไซเนอร์ กำลังเรียน ม.ปลายที่โรงเรียน UWC Isak Japan ซึ่งเป็นแคมปัสประเทศญี่ปุ่นด้วย นั่นก็คือ “น้องแพม- นภัสพร เฟื่องฟูพงศ์” นั่นเองค่ะ แน่นอนว่าเราก็ไปชวนมานั่งจิบชาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง แล้วสรุปกระชับๆ มาฝากน้องๆ ที่สนใจด้วย ตามไปเริ่มกันเลยค่าา~ 

Konnichiwa~ 
ชวนทักทายผู้อ่านทางบ้านกันก่อนค่ะ

สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่า ชื่อ ‘แพม’ นะคะ จบ ม.ต้น English Program จากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ ตอนนี้กำลังเรียน ม.6 ที่โรงเรียนนานาชาติ UWC ISAK Japan หรือ International School of Asia, Karuizawa (ISAK) จังหวัดนากาโน (Nagano) ประเทศญี่ปุ่น ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาแพมบินกลับไทยมาฝึกงานตำแหน่ง Designer กับ Dek-D ค่ะ 

. . . . . .  .

เส้นทางเด็กทุน United World College
เรียน ม.ปลาย รร.อินเตอร์ในต่างประเทศ

**บทสัมภาษณ์นี้อ้างอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวเจ้าของเรื่องเท่านั้น 

ขอเล่าก่อนว่า แพมเองรู้จักทุน UWC จากบทความเว็บ Dek-D  ค่ะ ความน่าสนใจคือเป็นทุนเรียน ม.ปลาย ที่มีประเทศให้เลือกเยอะมากกก มูลค่าทุนมีตั้งแต่บางส่วนไปจนถึงเต็มจำนวน ขึ้นอยู่กับประเทศที่เลือกและกำลังทรัพย์ของผู้ปกครอง 

อย่างญี่ปุ่นที่แพมเลือกเขาเปิดรับเข้าไปเรียน Grade 10 (เทียบเท่า ม.4) แพมมองว่าคงเป็นสภาพแวดล้อมที่เราไม่ต้องเหนื่อยกับการปรับตัวมากเกินไป เพราะเคยเรียนภาษาญี่ปุ่นแบบพอสื่อสารได้  และหากได้รับเลือกเป็นเด็กทุน UWC เราจะได้ไปเรียนหลักสูตรอินเตอร์ International Baccalaureate (IB) ที่สอนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดค่ะ

สมัครยังไงบ้าง?

  1. กรอกใบสมัคร ส่งเอกสาร เขียน Essay วัดความเป็นตัวเรา เช่น เราคิดยังไงกับความเคลื่อนไหว (Movement) ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ถ้ามีโอกาสได้คุยกับผู้ว่าฯ เราอยากบอกอะไรเขา (เช่น ช่วงที่แพมสมัคร มีกระแสเรื่อง #Metoo กับ Black Lives Matter แพมก็ออกความเห็นเรื่องการเมืองเต็มที่เลย) นอกจากนี้ก็มีเล่า Activities / Achivements ไม่จำเป็นต้องอลังการ ประสบการณ์แข่งระดับโรงเรียนก็สะท้อนความเป็นตัวเราได้
     
  2. ในใบสมัครส่วนของผู้ปกครองต้องกรอก จะมีเกี่ยวกับทุน, รายได้, หน้าที่การดูแลสมาชิกในครอบครัว, ค่าใช้จ่ายคงที่ของเรา ฯลฯ ถ้าเรามีข้อจำกัดเขาก็จะพิจารณาว่าจะให้ทุนเราเท่าไหร่ค่ะ ตอนนั้นแพมเองได้ประมาณ 50% จากค่าเทอมจำนวนเต็มที่พอกันกับเรียนอินเตอร์ในไทยเลย
     
  3. ต่อจากข้อเขียนคือสัมภาษณ์ มีทั้งสัมภาษณ์กับครูปกติ (พ่อแม่สัมด้วย) และมีสัมภาษณ์โดยกลุ่มนักเรียน UWC เองค่ะ แพมดูคลิปมาอย่างดีเลยว่าจะทำให้ตัวเองโดดเด่นยังไงบ้าง

จริงๆ ตอนแพมเข้ามาเรียน ก็มีโอกาสได้เข้าชมรมที่มีส่วนร่วมในกระบวนการรับสมัครนักเรียนด้วยค่ะ ทำให้เคยอยู่ทั้งในบทบาท “คนที่กำลังจะมาอยู่ในอนาคต” กับ​ “ผู้เห็นอนาคต” เราจะได้แสดงความคิดเห็น และครูจะนำไปใช้ประกอบพิจารณาการรับเข้าเรียน 

(คิดว่าอะไรคือสิ่งที่เด็ก UWC มีร่วมกัน?) เท่าที่สังเกต แพมว่านักเรียนที่ UWC กล้าแสดงออก กล้าพูดเข้าประเด็นตรงๆ (right to the point) ไม่อ้อมโลก แต่ไม่ใช้คำพูดทำร้ายจิตใจ เวลาที่สัมภาษณ์เขาจะสังเกตว่ามุมมองของเราต่อโลกเป็นยังไงบ้าง จุดยืนมั่นคงและกล้าพูดสิ่งที่คิดแค่ไหน ดังนั้นถ้าให้แนะนำน้องๆ ที่กำลังจะสัมภาษณ์​ก็คือ “ให้เป็นตัวของตัวเอง พูดสั้นๆ ได้ใจความ”

. . . . . .  .

บินตรงสู่แดนอาทิตย์อุทัย
ปรับตัวครั้งใหญ่กับอะไรบ้าง?

  • เรื่องภาษา ตอน ม.ต้น แพมเรียน EP ยื่นคะแนน B2 และ CU-TEP 100 อยู่ในระดับที่สื่อสารและเขียน Essay ได้ แต่จริงๆ ตอนสมัครทุน UWC ไม่ได้กำหนดให้ยื่นเอกสารสอบวัดระดับ แต่เน้นความซื่อสัตย์ ระบุระดับภาษาของเราตามจริง
     
  • เป็นบรรยากาศที่อินเตอร์มาก ไม่มีระบบ Seniority และไม่เจอการเกาะกลุ่มกันเอง เพราะคอนเซ็ปต์ของ UWC คือให้นักเรียนจากหลายประเทศทั่วทุกมุมโลก ได้มาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกัน // ตอนเข้าไปถึง Grade 10 (ม.4) มีประมาณ 40 คน แต่พอขึ้น Grade 11 (ม.5) รวมกับ UWC National Committee มีเพิ่มมารวมเป็นราวๆ 70 คน ในนี้มีเพื่อนคนญี่ปุ่นไม่กี่คนเท่านั้น
     
  • ใน 1 ห้องมีนักเรียนไม่เยอะ และเดินเปลี่ยนคาบเรียนเหมือนเรียนมหา’ลัย แนะนำว่าถ้าพยายามคุยกับเพื่อนเขาก็จะคุยกับเรา หรือเพื่อนบางคนก็ใช้บริการ Language Support ของโรงเรียน ช่วยให้ปรับตัวเรื่องภาษาง่ายขึ้น
     
  • แต่ละเทอมได้อยู่หอกับรูมเมทจากหลายประเทศ ช่น สเปน ญี่ปุ่น อิสราเอล ไทย ฯลฯ อาจมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่เราใช้สื่อสารกันตรงๆ ปรับจูนกันได้ แถมที่หอมีกิจกรรมให้ทำตลอด เช่น แสดงละคร กีฬาสี ร้องเพลง ฯลฯ อาจมีแบ่งทีมตามบ้าน หรือ Shuffle ให้คนได้รู้จักทั่วถึง

. . . . . .  .

รีวิววิชาเรียนหลักสูตร IB
ในรั้ว UWC ISAK Japan

GRADE 10 (≈ม.4)

เจอวิชาบังคับเหมือนกันทุกคน คือ

  • Mathematics ช่วงนี้จะยังเรียนคณิตโดยไม่มีแบ่งระดับ
  • English แบ่งห้องตามระดับ
  • Japanese ก่อนไปแพมสอบ JLPT ได้ระดับ N4 และเขาจัดให้แพมอยู่เป็นห้อง 2 (ระดับกลาง)
  • Humanities มีเรียนคอนเซ็ปต์ สันติภาพ เสรีภาพ ความขัดแย้ง ฯลฯ วิชานี้เป็นสายท่องจำ และต้องเขียน Academic Essay เป็นด้วย ส่วนอีกเทอมจะไปฝั่งเศรษฐศาสตร์มากขึ้น เช่น Tulip Mania, วิกฤตฟองสบู่แตก ฯลฯ ดูว่าระหว่างทางเราได้อะไรไปบ้าง ถ้าทำเรื่องที่สนใจจะทำได้ดีกว่านะ
  • Sciences แบ่งออกเป็นเคมี ชีวะ ฟิสิกส์ แยกกัน  เรียนพื้นฐาน ไม่ได้ลงวิชาการลึกมาก มีการทดลองแบบง่ายๆ ต้องสรุปและทำกราฟออกมา
  • Clubs หรือวิชาชมรม เช่น เทนนิส ท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ฯลฯ เราจะได้ฝึกวินัยและเหมือนได้ทำงานอดิเรกชิลๆ ถ้าชอบอะไรก็ลองได้เลย เป็นโอกาสค้นหาตัวเองที่ดีมากๆ // ตอนนั้นได้เข้าไปชมรมที่ช่วยสกรีนนักเรียนเข้าโรงเรียนค่ะ

เราสามารถไปลงวิชาอื่นเพิ่มได้ และในช่วง Grade 10 ก็จะมีวิชา Leadership เกณฑ์คือผ่าน/ไม่ผ่าน โดนนักเรียนจะต้องเลือกทำ  Project คนละ 1 อย่าง เลือกหัวข้อได้อิสระ

พูดถึง Project แพมเจอคนที่เลือกทำเรื่องเจ๋งๆ เยอะมากกก ทั้งสอนในประเทศ หรือที่ต่างประเทศ บางคนเลือกแนวช่วยเหลือสังคม เช่น สร้างความตระหนักรู้เรื่องสุขอนามัย ให้ความรู้เรื่องประจำเดือนผู้หญิงโดยเฉพาะ จัดกิจกรรมแจกผ้าอนามัยฟรี บางคนเลือกทำ Project ซัปพอร์ตเรื่องการปรับตัวในญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติ ฯลฯ สรุปคือเลือกทำอะไรก็ได้ที่ชอบนั่นแหละ อย่างแพมมีความสุขกับการสอน ก็เลือกทำ Project สอนภาษาอังกฤษที่เราถนัด และไปสอนหลายที่เลยทั้งแถวโรงเรียนและใน Tokyo เพราะตารางเรียนตอน Grade 10 เรายังมีเวลาว่างเยอะค่ะ

ในการทำ Project โรงเรียน UWC จะสนับสนุนทั้งค่าที่พัก ค่าอาหาร และทุก Project ของบได้ เขาจะมีเงินก้อนนึงให้ Grade 10 ไปจัดสรรกันเองในรุ่น เพราะเขาอยากให้ทุกคนตั้งใจทำงานออกมาให้ดีที่สุดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

ทั้งนี้ หลักสูตร IB จะมีโค้ชให้คำปรึกษาเรื่องการเรียน เหมือนเป็นครูแนะแนวส่วนตัว เช่น ถ้าคนนี้อยากเรียนต่อมหา’ลัยหรือทำงานด้านนี้ ควรลงเรียนวิชาอะไรในเทอมไหนบ้าง ฯลฯ เรื่อง Project ก็เหมือนกัน เขาจะแนะนำให้เราทำสิ่งที่ได้ keep contact กับโรงเรียน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจนจับต้องได้ หรืออย่างน้อยได้คอนเน็กชันเผื่อต่อยอดในอนาคต 

Grade 11 (≈ม.5)

**ตอนที่ให้สัมภาษณ์กับ Dek-D เป็นช่วงปิดเทอมเตรียมขึ้น Grade 12 ก็เลยเล่าได้ถึงตรงนี้ค่ะ 555 หลักสูตร IB ช่วง Grade 11 จะมีวิชาให้เลือกเรียนใน 6 กลุ่มดังนี้ (อ้างอิงจาก https://www.th.uwc.org/academiclife)

  • Studies in Language and Literature (การศึกษาภาษาและวรรณคดี)
  • Language Acquisition (ภาษาต่างประเทศ) แพมเลือกลง English (A) กับ Japanese (B)
  • Individuals and Societies (สังคมศาสตร์) แพมลงวิชา Environmental Science เสริมสกิลสังคมให้เราเข้าใจโลกมากขึ้น
  • Sciences (กลุ่มวิทยาศาสตร์) ส่วนตัวชอบชีวะสุดแต่ไปลงฟิสิกส์
  • Mathematics (กลุ่มคณิตศาสตร์)
  • The Arts (ศิลปะ) **สามารถเลือกศึกษาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคมศาสตร์ หรือเลือกเรียนภาษาอื่นแทนศิลปะได้เช่นกันค่ะ

ขอบอกว่าวิชา Art นี่แหละคือที่สุดในใจแพมแล้วค่ะ! เพราะชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็ก เพียงแต่วาดเล่นๆ ไม่จริงจัง และเป้าหมายในตอนแรกคือการเรียนต่อหมอ แต่หลักสูตร IB เราต้องลงวิชาเรียนเป็นกลุ่มๆ และลงวิทย์ได้ตัวเดียว เปิดโอกาสให้แพมได้เบนเข็มไปลง Art ตามที่ชอบ  เริ่มฝึกจริงจังหลังจากนั้น และลงคอร์สสั้นๆ โดยที่ทางบ้านพร้อมสนับสนุนความชอบของเราเต็มที่ 

ตอน Grade 11 แพมเรียนศิลปะกับครูชาวอังกฤษคนนึง สอนดีมาก และเขาเหมือนกับมองขาดว่าใครที่ลงเรียนวิชานี้เพราะสนใจศิลปะจริงๆ (บางคนลงเรียนเพราะจำเป็นต้องเก็บให้ครบ) วิธีวิจารณ์งานก็จะออกมาแตกต่างกันนะคะ แพมรับรู้ทันทีเลยว่านี่แหละคือการติเพื่อก่อ เขาพูดเจนว่าเรายังพัฒนาตรงไหนได้บ้างเพื่อให้ผลงานที่ออกมาสมบูรณ์ขึ้น ซึ่งสุดท้ายแล้วผลงานเราจะไม่ได้มีแค่ Final Product แต่มีการบันทึกการสเก็ตช์เป็น Portfolio เล่าเส้นทางของภาพวาด

ก่อนมาญี่ปุ่น แพมเรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาช่วงนึง (เรียนช่วงแรกๆ ที่เวลายังไม่ทับซ้อนกัน) พบว่าแนวการสอนศิลปะเป็นคนละสไตล์ ทำให้ต้องปรับตัวบ้างค่ะ ที่ UWC จะประเมินผลงานทั้งมิติเรื่องความสวยงาม การใส่ความเป็นตัวเอง ความคิดสร้างสรรค์ ต้องใช้สมองมากขึ้นเพื่อสร้างงานขึ้นมา และมีให้ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ Painting แต่ไม่ได้บังคับว่าจะต้องศึกษาครบทุกยุคขนาดนั้น

. . . . . .  .

#รีวิวญี่ปุ่น

  • โรงเรียน UWC ISAK Japan อยู่ใกล้ป่า เจอน้องกวางกับพี่หมีได้เป็นปกติ ส่วนบรรยากาศในเมืองก็เงียบสงบสุดๆ จนแทบไม่รู้เลยว่าร้านค้าเปิดอยู่นะ 555 แต่ไม่ต้องกังวลว่าชีวิตจะเหือดแห้ง เราสามารถนั่งรถไฟไปเมืองข้างๆ เพื่อเจอบรรยากาศที่คึกคักและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เยอะกว่า 
     
  • ส่วนตัวเจอ Culture Shock เรื่องรถไฟ ซับซ้อนกว่าเพราะมีเส้นทางเยอะ แพมอยู่ญี่ปุ่นมานานแต่ก็ยังแอบมึนตอนจะเดินางไปไหนมาไหน ตัวช่วยคือ Google Map และเพื่อนๆ ที่เดินทางกันแบบช่ำชองสุดๆ~
     
  • ถ้าให้แนะนำสถานที่น่าเที่ยวแนว Leisure ก็คือ “Karuizawa” ในเมือง Kitasaku ไม่ไกลจากจังหวัด Nagano เหมาะกับคนอยากพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติสวยๆ มีเล่นสกี ตั้งแคมป์ และมี outlet ใหญ่ๆ ตั้งอยู่ด้วย

. . . . . .  .

ทำไมการมาเรียนที่ญี่ปุ่น 
ถึงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต?

แพมชอบที่ตัวเองได้เติบโตและพัฒนาไปอีกขั้น เพราะพื้นฐานเดิมค่อนข้างกลัวการออกจาก Comfort Zone แต่ครอบครัวช่วยผลักดันและซัปพอร์ตทุกอย่าง จนทำให้กล้าเปลี่ยนไปลองเส้นทางใหม่ๆ ได้ฝึกตัดสินใจและปรับแก้จากสิ่งเดิมๆ เปิดมุมมองให้กว้างขึ้น

บางช่วงเราอาจรู้สึกเหนื่อย ทำกิจกรรมบางอย่างได้ไม่เต็มที่ เพราะมีเหตุให้เดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างไทยกับญี่ปุ่น แถมภาษาญี่ปุ่นเราก็ยังไม่ได้เข้มข้น แต่แพมค้นพบว่าตัวเองบริหารเวลาและปล่อยวางเก่งขึ้น บางพาร์ตต้องจริงจัง ในขณะที่บางพาร์ตต้องเพลาลง และเวลาผิดหวังอาจไม่มีเวลาให้จมกับความรู้สึกตรงนั้นนาน ได้แต่พยายามตีลังกาหาข้อดีให้เจอ คงไม่เห็นตัวเองในมุมนี้แน่นอนถ้าไม่ได้ไปเรียนที่ UWC ประเทศญี่ปุ่นค่ะ

เว็บไซต์ UWC ISAK Japan
รีวิวจากเด็กทุน UWC อีก 4 ประเทศ!

. . . . . .  .

ปิดท้ายด้วยรีวิวฝึกงาน @ Dek-D
Graphic Designer Internship

แพมเจอบรรยากาศการทำงานที่น่ารักกก อบอุ่น สนุกกว่าภาพออฟฟิศที่จินตนาการไว้ พี่ๆ ทำงานกันเร็วมาก สปีดและคุณภาพแบบมืออาชีพ แต่ละทีมถึงมีคุยเล่นแต่เขาก็ได้งานกัน

ส่วนตำแหน่งที่แพมเข้ามาฝึกคือ “กราฟิกดีไซเนอร์” ทำงาน Digital Art เป็นหลัก ได้เข้าไปช่วยวาดการ์ตูนที่แสดงผลบนแพลตฟอร์มนิยาย Dek-D เช่น ไอเทมที่ผู้อ่านโดเนทให้กับนักเขียน กับวาดน้องส้มๆ ไปใส่แบนเนอร์ เป็นต้น ตอนมาถึงพี่ๆ ก็บรีฟงาน สอนงาน คอยแนะนำว่าควรปรับตรงไหน บางจุดเราก็ไม่ทันสังเกตมาก่อนค่ะ ทำให้รู้ว่ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเรียนรู้อาศัยประสบการณ์ด้วยค่ะ

และนี่คือตัวอย่างผลงานของน้องแพมค่ะ~
(น้องส้มส้มในอากัปกิริยาต่างๆ)
 

น้องส้มส้มถือผัก
น้องส้มส้มถือผัก
น้องส้มส้มตกใจ
น้องส้มส้มตกใจ
น้องส้มส้มตกใจ
น้องส้มส้มตกใจ
พี่กุ๊กไก่
พี่กุ๊กไก่ - Columnist มนุษย์เบ้าหน้าจีน หวีดนักร้องไทย คลั่งไคล้ซีรี่ส์เกาหลี คลุกคลีกับอาหารญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น