
สวัสดีค่ะ สำหรับชาว Dek-D ที่กำลังจะเรียน ป.ตรี ชั้นปีสุดท้ายในปี 2568 วันนี้เรามีข่าวการรับสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับ ‘ทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงฯ’ หรือ ‘ทุน UIS’ ประจำปี 2568 มาฝาก โดยปีนี้มีโควตาให้ถึง 16 ทุนเลยทีเดียว จะเปิดรับสาขาใดบ้าง? รีบไปศึกษารายละเอียดกันเลยค่ะ!
**เนื่องจากทุน ก.พ. มีข้อผูกพันในการรับทุน
ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดอย่างถี่ถ้วนก่อนสมัครนะคะ**
ทุนรัฐบาลเพื่อดึงดูดผู้มีศักยภาพสูงที่กำลังศึกษาในสถาบันการศึกษาในประเทศ (Undergraduate Intelligence Scholarship Program) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘ทุน UiS’ เป็นทุนการศึกษาเต็มจำนวนจากรัฐบาลไทย ที่มอบให้นิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี มีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมด้านกำลังคนภาครัฐด้วยการสรรหาบุคลากรที่มีขีดความสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เข้ารับราชการ
จำนวนโควตา & ช่วงเวลาให้ทุน
สำหรับทุน UiS ประจำปี 2568 มีโควตาให้ทั้งหมด 16 ทุน (จาก 15 หน่วยทุน) โดยแบ่งช่วงเวลาให้ทุนได้ 2 ระยะ ดังนี้
- ระยะที่ 1: ทุนรัฐบาลเพื่อเรียนในชั้นปีสุดท้ายจนจบ ป.ตรี ตามโครงสร้างหลักสูตร โดยใช้ระยะเวลาเรียนไม่เกิน 1 ปี
- ระยะที่ 2: ทุนรัฐบาลเพื่อเรียนต่อระดับ ป.โท ในไทยหรือต่างประเทศ ตามเงื่อนไขที่ ก.พ. กำหนด โดยหลังเรียนจบ ต้องกลับมาปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในส่วนราชการเดิมที่ได้รับการบรรจุ
Note: ตรวจสอบหน่วยทุนที่เปิดรับสมัครได้ในเอกสารแนบท้าย 1 ของประกาศรับสมัคร
ข้อผูกพันในการรับทุน
เมื่อเรียนจบตามระยะเวลาให้ทุนระยะที่ 1
- ผู้รับทุนต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในส่วนราชการที่ ก.พ. กำหนด เป็นเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
- กรณีต้องการจะเปลี่ยนหน่วยงานปฏิบัติราชการชดใช้ทุน จะต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในหน่วยงานที่ ก.พ. กำหนดมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับการบรรจุเข้าปฏิบัติงาน และ ก.พ. ต้องเห็นชอบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
- กรณีที่ผู้รับทุนไม่เข้าปฏิบัติราชการตามสัญญาที่ทำไว้ จะต้องชดใช้เงินทุนทั้งหมดที่ได้รับและเบี้ยปรับอีก 2 เท่าของจำนวนเงินทุนดังกล่าว
- ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ทุนระยะที่ 1 ผู้ได้รับทุนต้องพัฒนาข้อเสนอในการปรับปรุงและพัฒนางาน
เงื่อนไขการให้ทุนระยะที่ 2 เพื่อเรียนต่อระดับ ป.โท
- ผู้รับทุนต้องมีผลการศึกษาระดับ ป.ตรี ตามเกณฑ์ที่ ก.พ. กำหนด
- ผู้รับทุนที่จะเรียนต่อในหลักสูตรที่ใช้ภาษาอังกฤษ ต้องมีคะแนน TOEFL iBT ขั้นต่ำ 79 หรือ IELTS ขั้นต่ำ 6.0
- สำหรับหลักสูตรที่จะเรียนต่อ ผู้รับทุนต้องได้รับการตอบรับเข้าเรียนจากมหาวิทยาลัยแบบไม่มีเงื่อนไข (Unconditional Offer)
- ผู้ได้รับทุนต้องปฏิบัติราชการชดใช้ทุนในหน่วยงานของรัฐที่ ก.พ. กำหนดเป็นเวลา 2 เท่าของที่ได้รับทุน หากต้องเดินทางไปเรียนต่อก่อนครบกำหนดเวลาชดใช้ทุนระยะที่ 1 สามารถเดินทางไปเรียนต่อก่อนครบกำหนดชดใช้ทุนได้ไม่เกิน 6 เดือน โดยต้องผ่านการเห็นชอบจากต้นสังกัดและสอดคล้องกับเงื่อนไขอื่นๆ ที่ ก.พ. กำหนดด้วย
- ผู้ได้รับทุนต้องพัฒนาข้อเสนอในการปรับปรุงและพัฒนางาน รวมถึงได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการ ภายในระยะเวลา 2 ปี นับจากวันที่บรรจุเข้ารับราชการ (อาจขยายระยะเวลาได้ โดยต้องเสนอให้ ก.พ. พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นกรณีไป)
- ผู้ได้รับทุนต้องได้รับการประเมินผลการปฏิบัติราชการตั้งแต่ระดับ “ดีมาก” ขึ้นไป หรือมีผลคะแนนตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป โดยจะนับถึงวันที่ผู้ได้รับทุนให้ข้อเสนอในการปรับปรุงและพัฒนางาน
- ผู้ได้รับทุนต้องรับทุนระยะที่ 2 เพื่อไปเรียนต่อ ป.โท ตามโครงการที่ส่วนราชการต้นสังกัดและสํานักงาน ก.พ. กําหนด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปีงบประมาณ นับตั้งแต่วันที่เริ่มบรรจุเข้ารับราชการ ทั้งนี้ อาจขยายระยะเวลาได้ โดยต้องเสนอให้ ก.พ. พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นกรณีๆ ไป (ส่วนราชการจะเป็นผู้ประเมินศักยภาพและความเหมาะสมของผู้ได้รับทุนในการศึกษาต่อในหรือต่างประเทศ)
คุณสมบัติผู้สมัครสอบ
- มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้าย 3 ของประกาศรับสมัคร) และมีคุณสมบัติเฉพาะตามที่แต่ละหน่วยทุนกำหนด (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้าย 1 ของประกาศรับสมัคร)
- เป็นผู้ที่จะเรียนชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตร ป.ตรี (ในสาขาวิชาที่แต่ละหน่วยทุนกำหนด) ณ สถาบันการศึกษาในประเทศในปีการศึกษา 2568 เช่น ปัจจุบันเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 (กรณีเป็นหลักสูตร 4 ปี) หรือ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 4 (กรณีเป็นหลักสูตร 5 ปี) เป็นต้น
- *ต้องได้เกรดเฉลี่ยสะสม (GPA) รวมทุกภาคการศึกษาในระดับ ป.ตรี ไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 3.00 (แล้วแต่หน่วยทุน) และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้ว ต้องได้ GPA ตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 2.75 หรือ 3.00 (แล้วแต่หน่วยทุน)
- มีอายุไม่เกิน 25 ปี นับถึงวันปิดรับสมัครสอบ (26 ธ.ค. 67)
- ต้องไม่อยู่ระหว่างการรับทุนที่มีข้อผูกพันในการชดใช้ทุน
- เป็นผู้มีศีลธรรมและความประพฤติดี
Note: *สำหรับผู้ที่มีเกรดเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมา หรือตลอดหลักสูตรไม่เป็นไปตามเกณฑ์ในคุณสมบัติข้อที่ 3 จะต้องมีหนังสือรับรองผลการเรียนจากสถานศึกษามาแสดงว่าเป็นผู้มีผลการเรียนเทียบเท่ากับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ มิเช่นนั้นจะถือว่าไม่มีสิทธิ์สมัครสอบครั้งนี้
วิชาที่ต้องสอบ
ผู้สมัครต้องสอบข้อเขียนตามหลักสูตร ดังนี้
- วิชาภาษาอังกฤษ
- Vocabulary and Expressions
- Error Recognition
- Reading Comprehension
- วิชาความสามารถทั่วไปเชิงวิชาการ: ทดสอบความสามารถในการวิเคราะห์และการใช้เหตุผล (แปลความ ตีความ สรุปความ อ่านจับประเด็นข้อความหรือบทความ แก้ปัญหาข้อมูลเชิงปริมาณ วิเคราะห์หาแนวโน้ม หรือการเปลี่ยนแปลงที่น่าจะเป็นไปได้จากข้อมูล เหตุการณ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง หรือสังคม)
เอกสารที่ต้องยื่นในวันสอบข้อเขียน
- ใบสมัครที่อัปโหลดรูปถ่ายในระบบรับสมัคร โดยต้องลงลายมือชื่อให้ครบถ้วน
- หนังสือรับรองสถานภาพการศึกษาสำหรับใช้สมัครสอบเพื่อรับทุน UiS // ดาวน์โหลดที่นี่
- สำเนาใบแสดงผลการเรียน (Transcript of Records) ทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาถึงภาคการศึกษาที่ 1 ของชั้นปีก่อนปีสุดท้ายตามโครงสร้างหลักสูตรระดับ ป.ตรี จำนวน 1 ชุด
- หนังสือรับรองความประพฤติและกิจกรรมจากอาจารย์ที่ปรึกษา // ดาวน์โหลดที่นี่
- เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุล, หนังสือรับรองผลการเรียน, ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ เป็นต้น
- ใบตรวจสอบเอกสารประกอบการสมัครสอบ ลงลายมือชื่อให้ครบถ้วน
Note:
- สำเนาเอกสารทุกฉบับต้องเขียนรับรอง “สำเนาถูกต้อง” โดยลงชื่อ วันที่ ระบุเลขประจำตัวสอบกำกับไว้มุมด้านขวาของเอกสารทุกฉบับ และบรรจุในซองเอกสารขนาด A4 เขียนชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวสอบ รวมถึงระบุรายการเอกสารลงบนใบตรวจสอบเอกสารประกอบการสมัคร จากนั้นติดไว้ที่หน้าซองเอกสาร และนำมายื่นในวันสอบข้อเขียน
- หากเอกสารไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน อาจพิจารณาให้ขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบตั้งแต่ต้น
วิธีการสมัคร
- ศึกษาประกาศรับสมัครอย่างถี่ถ้วน คลิกที่นี่
- กรอกใบสมัครออนไลน์ทาง https://uis.ocsc.go.th/UISRegisterWeb/
- อัปโหลดไฟล์รูปถ่ายภายในวันที่ 26 ธ.ค. 67 จากนั้นระบบจะแสดง ‘แบบฟอร์มการชำระเงินที่มี QR Code’ เพื่อชำระค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ (ค่าสมัครสอบหน่วยละ 100 บาท และ ค่าธรรมเนียมธนาคาร 30 บาท) ระหว่างวันที่ 2 - 27 ธ.ค. 67 ภายในเวลา 22.00 น. ผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้
- เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในวันและเวลาทำการของธนาคาร **ผู้สมัครต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลในหลักฐานการชำระเงิน หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้รีบติดต่อสาขาที่ชำระเงินทันที
- สแกน QR Code เพื่อชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน “Krungthai Next” หรือ “เป๋าตัง” **โดยต้องเก็บหลักฐานการชำระเงิน (Slip) ไว้เป็นหลักฐานด้วย
Note: การสมัครสอบจะสมบูรณ์เมื่อชำระค่าธรรมเนียมสมัครสอบแล้ว
- ผู้สมัครที่ชำระค่าธรรมเนียมฯ แล้ว จะได้รับเลขประจำตัวสอบ โดยจะกำหนดตามลำดับของการชำระเงิน **ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบสถานะการชำระเงินได้หลังการชำระ 7 วัน
- สามารถสมัครสอบได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
- สามารถสมัครสอบได้คนละ 2 หน่วยทุน
- เมื่อสมัครสอบแล้ว จะไม่สามารถขอเพิ่ม ถอน หรือเปลี่ยนหน่วยทุนที่สมัครสอบได้
- ผู้สมัครต้องตรวจสอบและรับรองว่าตนมีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครสอบ และต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ ให้ถูกต้องครบถ้วน ตรงตามความเป็นจริง หากพบในภายหลังว่า มีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบ หรือมีความผิดพลาดอันเกิดจากผู้สมัครสอบ จะถือว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบตั้งแต่ต้น และจะไม่คืนค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
กำหนดการ
| เปิดรับสมัครสอบทางออนไลน์ | วันนี้ - 26 ธันวาคม 2567 |
| ชำระค่าสมัครสอบ | วันนี้ - 27 ธันวาคม 2567 |
| ประกาศรายชื่อผู้สมัคร & สถานที่สอบ | ภายใน 17 มกราคม 2568 |
| สอบข้อเขียน | 16 กุมภาพันธ์ 2568 |
| ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อรับทุน | ภายใน 18 มีนาคม 2568 |
| กิจกรรมฝึกงาน (6 สัปดาห์) | 13 พฤษภาคม - 20 มิถุนายน 2568 |
| ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบสัมภาษณ์ | 8 กรกฎาคม 2568 |
| กิจกรรมก่อนการประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อรับทุน | 19 กรกฎาคม 2568 |
| สอบสัมภาษณ์ | 20 กรกฎาคม 2568 |
| ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน | 31 กรกฎาคม 2568 |
| ผู้มีสิทธิได้รับทุนรายงานตัวเพื่อยืนยันการรับทุน | แจ้งในประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน |
Note:
- กำหนดการข้างต้นอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
- การสอบข้อเขียน และการประเมินความเหมาะสมของบุคคลเพื่อรับทุน จะดำเนินการที่สนามสอยใน กทม. และ/หรือ ปริมณฑล
ช่องทางติดต่อสอบถาม
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ทาง
- Tel: 02-5471955/ 02-5471907/ 02-5471910/ 02-5471916/ 02-5471330/ 02-5471903 หรือ 08-5472079
[อ่านรีวิวจากพี่นักเรียนทุน]
- เราจะได้เรียน ป.ตรี ปีสุดท้ายฟรี 100% พอจบจะต้องบรรจุเข้าทำงานในส่วนราชการที่ ก.พ. กำหนดเป็นระยะเวลา 2 เท่า (เรียน 1 ปี = ระยะเวลาใช้ทุน 2 ปี) ระหว่างนี้นักเรียนทุนต้องทำข้อเสนอการปรับปรุงและพัฒนางานส่งให้สังกัด
- ช่วงนี้คือโอกาสดีที่จะได้ลองว่าเราชอบและปรับตัวเข้ากับงานราชการได้มั้ย ได้ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและข้อจำกัด ถ้าเกิดเรารู้สึกโอเค เห็นโอกาสที่จะได้ทำบางอย่าง รู้ว่าจะเรียนต่อ ป.โท สาขาไหน เพื่อผลักดันนโยบายด้านไหนในหน่วยงานราชการ เราก็สามารถขอรับทุนต่อได้ครับ (ต้องลิสต์สาขาและมหาวิทยาลัยให้ผู้บังคับบัญชาอนุมัติ) หรือถ้ารู้สึกไม่คลิก ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ไปต่อ พอใช้ทุนระยะแรกหมดเราสามารถลาออก และขอไม่รับทุนระยะที่ 2 ได้ครับ
'พี่นิคกี้-เจษฎา บ่อทรัพย์' นักเรียนทุน UiS เรียนต่อ ป.โท สาขา MSc Systems, Control and Robotics ที่ KTH Royal Institute of Technology
...................
สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"
ติดตามทุนต่อนอกง่ายๆ กับ Dek-D
- Website: www.dek-d.com/studyabroad
- X: @tornokandcourse
- IG: @tornokandcourse
- Facebook: Study Abroad เรียนต่อนอก by Dek-D
- Facebook: Study Guide ไปเรียนต่อนอกกันเถอะ
- TikTok: @tornokandcourse
0 ความคิดเห็น