กฎหมายแพ่งฯ vs กฎหมายอาญา ต่างกันอย่างไร ออกสอบบ่อย!

กฎหมายใกล้ตัวที่เราคุ้นหูได้ยินกันในชีวิตประจำวัน แถมยังเป็นเรื่องที่ออกสอบบ่อยก็คือ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับกฎหมายอาญา ซึ่งบางคนยังสับสนว่าทั้งสองกฎหมายนี้คล้ายกัน ความจริงแล้วต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยค่ะ วันนี้ คอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ สรุปมาให้ทุกคนแล้วค่ะว่า กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับกฎหมายอาญา ต่างกันอย่างไร? อ่านจบอย่าลืมทำแบบฝึกหัดท้ายบทความกันด้วยนะ

กฎหมายแพ่งฯ vs กฎหมายอาญา ต่างกันอย่างไร ออกสอบบ่อย!
กฎหมายแพ่งฯ vs กฎหมายอาญา ต่างกันอย่างไร ออกสอบบ่อย!

Note : การแบ่งกฎหมายออกเป็นประเภทต่างๆ นิยมทำกันในประเทศที่ใช้ระบบกฎหมายลายลักษณ์อักษร สามารถแบ่งออกเป็นกฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน โดยยึดถือลักษณะของควมสัมพันธ์เป็นเกณฑ์ กล่าวคือ

"กฎหมายมหาชน" เป็นความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับเอกชน  

"กฎหมายเอกชน" เป็นความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกันเอง

ความหมายของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ vs กฎหมายอาญา  

กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คืออะไร?

เป็นกฎหมายเอกชนที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนด้วยกัน เป็นเรื่องที่รัฐไม่เข้ามายุ่งเกี่ยว เพราะไม่มีผลกระทบต่อสังคมส่วนรวม จึงปล่อยให้ประชาชนมีอิสระในการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างกันเองภายใต้กรอบของกฎหมาย และหลักทั่วไปที่ควรทราบเป็นพื้นฐาน  

โดยกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะเกี่ยวข้องกับเรื่องของบุคคล ทรัพย์สิน นิติกรรม สัญญา ครอบครัว และมรดก เป็นต้น ซึ่งมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของเราตั้งแต่เกิดจนตาย อย่างที่บอกไปว่ากฎหมายแพ่งฯ เป็นกฎหมายที่รับรองให้เรามีสภาพบุคคล คือ ให้เราเป็นผู้ที่สามารถใช้สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่างๆ ตามกฎหมายได้  

ทั้งนี้ แต่ละกฎหมายก็จะมีข้อกำหนด และรายละเอียดอื่นๆ ที่ต่างกันออกไป โดยน้องๆ สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายบุคคล กฎหมายทรัพย์สิน กฎหมายนิติกรรม และกฎหมายสัญญา เพิ่มเติมได้ที่ >> สรุป 4 กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในชีวิตประจำวัน

ส่วนกฎหมายครอบครัว และมรดก สามารถอ่านเพิ่มได้ที่ >>  สรุปกฎหมายครอบครัว และมรดก พร้อมตัวอย่างการแบ่งมรดก

กฎหมายอาญา คืออะไร?

เป็นกฎหมายมหาชนที่เกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก เป็นกฎหมายที่บอกลักษณะความผิด องค์ประกอบความผิด และบทลงโทษอย่างชัดเจน โดยกำหนดว่าการกระทำแบบไหนบ้างที่เป็นความผิด ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนก็จะได้รับโทษตามที่กำหนดไว้ ทำให้การตีความกฎหมายอาญาต้องตีความอย่างเคร่งครัด และไม่สามารถใช้บทกฎหมายอื่นมาเทียบเคียงในการปรับได้  

ซึ่งความสำคัญกฎหมายอาญามีไว้เพื่อคุ้มครองผลประโยชน์ของคนส่วนรวม โดยควบคุมไม่ให้บุคคลทำสิ่งที่เป็นอันตรายแก่ผู้อื่นหรือต่อสังคม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม  

โดยน้องๆ สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายอาญาเพิ่มเติมได้ที่ >> สรุปหลักกฎหมายอาญา ออกสอบบ่อย

ลักษณะของคดีแพ่ง และคดีอาญา

ลักษณะคดีแพ่ง

คดีแพ่ง เป็นคดีที่มีการโต้แย้งสิทธิ หน้าที่กันระหว่างบุคคล 2 ฝ่าย  เรียกคดีประเภทนี้ว่า คดีมีข้อพิพาท (มีคู่ความ) เช่น การทำผิดสัญญา ข้อตกลง หรือโต้แย้งกันเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ เช่น ฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย ฟ้องให้จ่ายหนี้ ฯลฯ  

หรือเป็นคดีที่มีการร้องขอต่อศาลให้ศาลรับรองสิทธิบางอย่างให้ เรียกว่า คดีไม่มีข้อพิพาท (ไม่มีคู่ความ) เช่น ขอเป็นผู้จัดการมรดก ขอเป็นผู้ปกครองผู้เยาว์ ฯลฯ ทั้งนี้ถ้ามีคนยื่นขอคัดค้าน จากคดีไม่มีข้อพิพาทก็สามารถกลายเป็นคดีมีข้อพิพาทได้เหมือนกัน

โดยในคดีแพ่งศาลเปิดโอกาสให้คู่กรณีทำการยอมความกันได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะมีคำพิพากษาไปแล้วก็ตาม การยอมความในคดีแพ่ง เรียกว่า สัญญาประนีประนอมยอมความ ซึ่งเป็นข้อตกลงที่จะทำภายใต้คดีความ และมีผู้พิพากษาให้คำพิพากษาบังคับตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคู่กรณีและจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมายด้วย

ตัวอย่างคดีแพ่ง : คดีกู้ยืมเงิน, ฟ้องหย่า, ขอรับรองบุตร, ฟ้องผิดสัญญาซื้อขาย, ร้องขอแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ฯลฯ

ลักษณะคดีอาญา

คดีอาญา เป็นเรื่องการกระทำความผิด หรือฝ่าฝืนกฎหมายที่มีโทษทางอาญา  การดำเนินคดีอาญาจะเป็นไปเพื่อพิสูจน์ความผิดและให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษตามกฎหมายกำหนด เพื่อชดใช้สิ่งที่ได้ทำลงไป โดยคดีอาญาจะถูกแบ่งออกเป็น  

  • ความผิดยอมความไม่ได้ หรืออาญาแผ่นดิน เช่น ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
  • ความผิดที่ยอมความได้ หรือความผิดต่อส่วนตัว เช่น หมิ่นประมาท ยักยอกทรัพย์ สำหรับคดีอาญาอันยอมความได้ ต้องรีบแจ้งความภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องและรู้ตัวคนทำผิด

ตัวอย่างคดีอาญา : ชิงทรัพย์, ปล้นทรัพย์, ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, หมิ่นประมาท, ยักยอกทรัพย์, ลักทรัพย์  

การลงโทษผู้กระทำผิด

โทษทางอาญา

สำหรับโทษทางอาญาจะใช้การบังคับโดยเสมอภาค และมีหลักการคือโทษเป็นอันระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำความผิด หมายความว่า เมื่อผู้กระทำผิดเสียชีวิตก็ไม่ต้องลงโทษเขาแล้วนั่นเองค่ะ โดยรัฐได้กำหนดโทษไว้สำหรับลงโทษผู้กระทำความผิด 5 ประเภท ได้แก่

  1. โทษประหารชีวิต - เป็นโทษสูงสุดตามกฎหมายอาญา จากเดิมใช้วิธียิงเป้า แต่ในปี 2546 รัฐแก้ไขกฎหมายอาญา เปลี่ยนวิธีเป็นการฉีดยา หรือสารพิษเพื่อให้เสียชีวิตแทน
  2. โทษจำคุก - เป็นโทษที่มีการคุมตัวผู้กระทำความผิดไปขังไว้ที่เรือนจำ ตามที่กำหนดเวลาที่ศาลพิพากษา ส่วนจะนานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคดี และดุลพินิจของศาล
  3. โทษกักขัง - เป็นโทษที่เปลี่ยนมาจากโทษจำคุก หากผู้กระทำผิดมีโทษจำคุก และในคดีนั้นศาลสั่งลงโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ก็จะถูกกักตัวไว้ในสถานที่กักขังซึ่งไม่ใช่เรือนจำ แต่เป็นสถานีตำรวจ หรือสถานที่ควบคุมผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน
  4. โทษปรับ - ผู้ที่ได้รับโทษปรับจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่กำหนดไว้ในคำพิพากษาต่อศาล กรณีไม่ชำระค่าปรับภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลพิพากษา ศาลจะยึดทรัพย์สินเพื่อใช้ค่าปรับ
  5. โทษริบทรัพย์สิน - เป็นโทษเบาสุดตามกฎหมายอาญา โดยจะทำการริบทรัพย์สินที่ผู้กระทำผิดได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ทำความผิด หรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการทำความผิด เว้นแต่เป็นทรัพย์สินของผู้อื่นซึ่งไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการทำความผิด โดยทรัพย์สินที่ถูกริบมาจะตกเป็นของรัฐบาล

โทษทางแพ่ง

สำหรับคดีแพ่ง ไม่มีโทษติดคุก หรือกักขังเหมือนคดีอาญา โทษของคดีแพ่ง คือ การชดใช้ค่าเสียหาย (ค่าสินไหมทดแทน), ถูกยึดทรัพย์, ตัดเงินเดือน หรือถูกบังคับให้ทำอะไรบางอย่าง เช่น ย้ายออกจากที่ดิน ย้ายออกจากบ้าน เปิดให้คนอื่นใช้ทางในที่ดิน เป็นต้น กรณีที่ไม่ยอมทำตามที่คำพิพากษาของคดีแพ่งนั้นบอกไว้ ศาลอาจสั่งขังเราจนกว่าเราจะยอมทำก็ได้

ฟ้องคดีแพ่ง - ฟ้องคดีอาญา ต้องทำอย่างไร?

การฟ้องคดีแพ่ง โดยส่วนใหญ่แล้วคู่ความมักต้องไปจ้างทนายความ หรือติดต่อศูนย์ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย เพื่อให้ฟ้องคดีต่อศาลด้วยตนเอง 

ส่วนการฟ้องคดีอาญา ผู้เสียหายจะจ้างทนายความให้ฟ้องศาลเองก็ได้ หรือแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีเพื่อส่งให้อัยการเป็นโจทก์ฟ้องแทนก็ได้ ส่วนจำเลยในคดีอาญา ต้องจ้างทนายความมาช่วยต่อสู้ เว้นแต่ไม่มีเงินจ้างก็สามารถขอทนายความฟรีในชั้นสอบสวนกับชั้นศาลได้  

การพิจารณาคดีแพ่ง และคดีอาญา

สำหรับการพิจารณาคดีแพ่ง และคดีอาญาในศาลตามหลักแล้วต้องพิจารณาโดยเปิดเผย ไม่ใช่เพียงแค่เปิดเผยต่อจำเลย ทนายความ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเปิดเผยการพิจารณาคดีต่อสาธารณชน 

  • ตามประมวลกฎหมายวิธีการพิจารณาความแพ่ง มาตรา 36 ระบุว่า “การพิจารณาคดีจะต้องกระทำในศาลต่อหน้าคู่ความที่มาศาลและโดยเปิดเผย” และ
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 172 ระบุว่า “การพิจารณาและสืบพยานในศาล ให้ทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย เว้นแต่บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น”

ดังนั้น คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี เช่น ประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน ผู้ที่สนใจ ก็สามารถเข้าไปรับฟังการพิจารณาคดีในศาลได้ แต่การเข้าไปนั่งฟังการพิจารณาคดีจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ กติกาที่ศาลวางไว้ ไม่ทำการปั่นป่วน ไม่ขัดขวางการพิจารณา มิเช่นนั้นศาลก็มีอำนาจสั่งให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 33  โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง หรือทั้งสองวิธี ดังนี้ คือ 

  1. ไล่ออกจากบริเวณศาล หรือ
  2. จำคุก หรือปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคดีจะเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปรับฟังพิจารณาได้ เพราะคดีบางประเภทเป็นคดีที่ไม่ควรเปิดเผยข้อเท็จจริงให้คนอื่นทราบ หากเปิดเผยข้อเท็จจริงไปแล้วอาจก่อให้เกิดผลเสียแก่คู่ความโดยรวม ประโยชน์ของทางราชการ หรือประโยชน์ของสาธารณะได้ หรือบางคดีอาจเป็นคดีที่เป็นเรื่องส่วนตัวจริงๆ ไม่ควรจะเปิดเผย เช่น ฟ้องชู้ ฟ้องรับรองบุตร คดีข่มขืน ฯลฯ จากคดีตัวอย่างที่กล่าวไปแน่นอนว่าหากมีการเปิดเผย หรืออนุญาตให้ใครเข้ามาฟังพิจารณคดีก็อาจจะไม่เหมาะสม 

ดังนั้น ในบางคดีศาลก็อาจสั่งให้พิจารณาเป็นการลับ เฉพาะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามที่กำหนดเท่านั้นจึงมีสิทธิอยู่ในห้องพิจารณา แต่ไม่ใช่ว่าทุกคดีจะสามารถขอให้ศาลสั่งพิจารณาเป็นการลับได้ เช่น คดีที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว หรือไม่ได้เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ ศาลจะสั่งให้พิจารณาคดีเป็นการลับโดยหลักไม่สามารถทำได้ เนื่องจากตามหลักแล้วการพิจารณาคดีจะต้องทำโดยเปิดเปย ส่วนการพิจารณาคดีเป็นการลับจะต้องเป็นข้อยกเว้นต้องมีเหตุทางกฎหมาย  

การพิจาณาคดีที่เป็นการลับ ศาลสามารถสั่งห้ามเปิดเผยข้อความ กระบวนพิจารณา  และการดำเนินการต่างๆ ในศาลให้ออกสู่สาธารณะได้ แต่สุดท้ายเมื่อศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้ว คำพิพากษาของศาลสามารถเผยแพร่ได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่ง หรือคดีอาญา ทั้งคำพิพากษาฉบับเต็ม หรือฉบับย่อก็สามารถเผยแพร่ได้ ยกเว้นแต่ในคดีเยาวชนและครอบครัว ในคดีที่ผู้ต้องหา หรือจำเลยเป็นเด็ก ในการพิจารณาคดีอาญาหลักคือต้องพิจารณาโดยการลับ บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องไม่สามารถเข้าห้องพิจารณาได้ และห้ามเผยแพร่รายงานกระบวนพิจารณา คำสั่ง คำพิพากษา รายละเอียดการดำเนินคดีต่างๆ ของศาล เพราะมีจุดประสงค์เพื่อคุ้มครองเด็ก

สรุปความแตกต่างของกฎหมายแพ่งฯ vs กฎหมายอาญา

กฎหมายแพ่งฯ  vs กฎหมายอาญา ออกสอบบ่อย
กฎหมายแพ่งฯ  vs กฎหมายอาญา ออกสอบบ่อย

 

Note : กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับกฎหมายอาญาเป็นเรื่องที่ออกสอบทุกปีค่ะ โดยส่วนใหญ่มักจะถามเกี่ยวกับหลักการต่างๆ ของทั้งสองกฎหมาย รวมถึงยกกรณีตัวอย่างจากคดีต่างๆ มาให้เราพิจารณาว่า จากโจทย์ตรงกับความผิดในข้อใด ซึ่งน้องสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กับกฎหมายอาญา ตามลิงก์ที่พี่แป้งแปะไว้ด้านล่างได้เลย

 

มาทดสอบความรู้กัน!

ทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญากันไปแล้ว มาทดสอบความรู้กันหน่อยดีกว่าค่ะว่าเข้าใจกันจริงหรือเปล่า? วันนี้พี่แป้งมีตัวอย่างแนวข้อสอบวิชาสังคมศึกษามาฝากน้องๆ ถึง 3 ข้อด้วยกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ทำได้เลย!

 

1. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง (แนวข้อสอบวิชาสังคมศึกษา)

1) กฎหมายแพ่งและพาณิชย์เป็นกฎหมายเอกชน

2) โทษประหารชีวิต เป็นโทษสูงสุดตามกฎหมายอาญา

3) การพิจารณาคดีแพ่งและคดีอาญาต้องพิจารณาโดยเปิดเผย

4) คดีประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายถือเป็นคดีแพ่ง

________________________________________

2. โทษของผู้กระทำผิดทางแพ่งคือข้อใด (แนวข้อสอบวิชาสังคมศึกษา)

1) จำคุก

2) กักขัง

3) ริบทรัพย์สิน

4) ชดใช้ค่าเสียหาย

________________________________________

3. ข้อใดเป็นลักษณะสำคัญของกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (แนวข้อสอบวิชาสังคมศึกษา)

1) เป็นกฎหมายชุมชน

2) เป็นกฎหมายเอกชน

3) เป็นกฎหมายมหาชน

4) เป็นกฎหมายระหว่างประเทศ

 

น้องๆ คิดว่าแต่ละข้อตอบอะไรบ้าง ใครรู้คำตอบมาคอมเมนต์ด้านล่างเลย!

 

สำหรับคอลัมน์ ‘รู้ไว้เผื่อออกสอบ’ วิชาสังคมศึกษาฯ บทความต่อไปจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ฝากติดตามกันด้วยนะคะ หรือถ้าน้องๆ มีเรื่องราวน่าสนใจเรื่องไหน ที่อยากให้นำมาเล่า หรือแจกทริคการจำ ก็สามารถคอมเมนต์เอาไว้ด้านล่างได้เลย!

 

 

ข้อมูลจาก  https://www.facebook.com/share/p/15a1UpGH5L/https://champ-lawfirm.com/th/civil-court-case-2/ https://justhat.app/civil-case-vs-criminal-case/ https://www.youtube.com/watch?v=TGviLjAKi9E https://www.drthawip.com/civilprocedurecode/010   

 

พี่แป้ง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น