มารู้จักโรงเรียน 6 ประเภทในไทย รู้ไว้ก่อนสมัครเรียน!
การจะก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เติบโตอย่างมั่นคงได้นั้น นอกจากพ่อแม่และครอบครัวจะเป็นรากฐานสำคัญแล้ว “โรงเรียน” ยังเป็นปัจจัยหลักที่มีบทบาทในการหล่อหลอม ขัดเกลา ฝึกฝน เด็กแต่ละคนให้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต คอลัมน์ ‘เรื่องนี้โรงเรียนไม่ได้สอน’ จะมาแนะนำโรงเรียนทั้ง 6 ประเภทในประเทศไทย เพื่อให้พ่อแม่ รวมถึงน้องๆ ได้พิจารณาก่อนตัดสินใจสมัครเรียนกันค่ะ
1. โรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนรัฐบาล คือ โรงเรียนที่จัดตั้งและดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีหลายสังกัด เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.), องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.), สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพม.) ฯลฯ
โรงเรียนรัฐบาลมักเป็นตัวเลือกแรกๆ ของผู้ปกครอง ที่อยากให้ลูกเข้าเรียน ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่สูง และตั้งอยู่ใกล้บ้าน แต่ก็มีการแข่งขันสูง โดยเฉพาะโรงเรียนประจำจังหวัดหรือโรงเรียนชั้นนำของประเทศ
หลักสูตรของโรงเรียนรัฐบาล
- ยึดตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเป็นหลักสูตรแกนกลางมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
- หลักสูตรจะต่างกันตามประเภทห้องเรียน เช่น Gifted, English Program ซึ่งมีให้เลือกในเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ เช่น โรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนชั้นนำที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของประเทศ
- ห้องเรียนพิเศษอย่าง Gifted จะมีเนื้อหาการเรียนที่เข้มข้นกว่าห้องเรียนทั่วไป ส่วน English Program การเรียนการสอนทั้งหมดจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ยกเว้นวิชาภาษาไทย
ค่าเทอมของโรงเรียนรัฐบาล
- สำหรับค่าเทอมโรงเรียนรัฐบาลจะขึ้นอยู่กับชื่อเสียงของโรงเรียน และประเภทห้องเรียน
- บางโรงเรียนไม่มีค่าใช้จ่าย
- ห้องเรียนทั่วไป อยู่ระหว่าง 3,000 – 6,000 บาทต่อปี
- ห้องเรียนพิเศษ เช่น Gifted, English Program ฯลฯ อยู่ระหว่าง 15,000 – 50,000 บาทต่อปี
จุดเด่นของโรงเรียนรัฐบาล
- โรงเรียนรัฐบาลเป็นโรงเรียนที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ
- มีโรงเรียนชั้นนำที่มีการแข่งขันสูงและคุณภาพดีเทียบเท่าเอกชน เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย
- มีกฎระเบียบที่ค่อนข้างเข้มงวด ช่วยฝึกวินัยและความเป็นระเบียบได้
- มีสังคมหลากหลาย เปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้และปรับตัวในสังคมที่หลากหลาย
ข้อสังเกตของโรงเรียนรัฐบาล
- โดยส่วนใหญ่มีนักเรียนจำนวนมาก คือ ประมาณ 40-50 คนต่อครูประจำชั้น 1 ท่าน
- จำนวนทรัพยากร และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียนไม่เพียงพอกับนักเรียน
- โรงเรียนที่มีชื่อเสียงมากจะมีอัตราการแข่งขันสูงในการสอบเข้ามากเช่นกัน ทำให้รับนักเรียนได้จำนวนจำกัด
________________________________________________
2. โรงเรียนเอกชน
โรงเรียนเอกชน เป็นโรงเรียนที่จัดตั้งและดำเนินการโดยบุคคลหรือองค์กรภาคเอกชน ซึ่งการจัดตั้งโรงเรียนเอกชนต้องได้รับการรับรองและควบคุมจากกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้กำกับของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
นอกจากนี้ โรงเรียนเอกชนยังรวมถึงโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนคาทอลิกหรือโรงเรียนคริสต์ซึ่งมีพื้นฐานมาจากศาสนาคริสต์ และมักแยกเป็นโรงเรียนชายล้วน-โรงเรียนหญิงล้วนชัดเจน แต่ไม่ได้บังคับให้นักเรียนนับถือศาสนาคริสต์หรือเปลี่ยนศาสนาแต่อย่างใด
หลักสูตรของโรงเรียนเอกชน
- โรงเรียนเอกชนจะใช้หลักสูตรอิงกระทรวงศึกษาธิการ ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการและวิธีการสอนตามแนวทางของแต่ละโรงเรียน
ค่าเทอมของโรงเรียนเอกชน
- ค่าเทอมของโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนคาทอลิกจะอยู่ในระดับสูง ขึ้นอยู่กับหลักสูตรที่เลือกเรียน
- หลักสูตรปกติทั่วไป อยู่ที่ประมาณ 20,000 – 60,000 บาทต่อปี
- หลักสูตรภาษาอังกฤษ อยู่ระหว่าง 80,000 บาท - 90,000 บาทต่อปี
- บางโรงเรียนมีหลักสูตรกึ่งนานาชาติ ทำให้มีค่าเทอมสูงขึ้นตามมาตรฐานหลักสูตร
จุดเด่นของโรงเรียนเอกชน
- หลักสูตรมีความเข้มข้น และมีทางเลือกหลักสูตรที่หลากหลายกว่าโรงเรียนรัฐบาล
- อุปกรณ์การเรียน และสื่อการสอนทันสมัย
- มีสภาพแวดล้อมที่ดี และปลอดภัย
- ปูพื้นฐานภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน ทำให้เด็กมีภาษาที่สองติดตัว
- มีขนาดชั้นเรียนที่เล็ก ทำให้ครูสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
- โรงเรียนเอกชนและคาทอลิกมีเครือข่ายโรงเรียนที่แข็งแรง เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเซนต์คาเบรียล โรงเรียนอัสสัมชัญ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ฯลฯ
ข้อสังเกตของโรงเรียนเอกชน
- ค่าใช้จ่ายสูงกว่าโรงเรียนรัฐบาล และอาจมีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่ากิจกรรม ค่าหนังสือ ฯลฯ ที่เพิ่มภาระผู้ปกครอง
- บางโรงเรียนอาจมีการจัดสอบคัดเลือกคล้ายกับการสอบเข้าโรงเรียนรัฐบาล เพื่อวัดศักยภาพทางวิชาการ
อ่านรีวิวโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่
ระบบเรียนแบบ Track 'กรุงเทพคริสเตียน' รูปแบบการเรียนที่ช่วยให้เด็กค้นหาตัวเอง สู่คณะที่ชอบ อนาคตที่ใช่ https://www.dek-d.com/education/61958/
________________________________________________
3. โรงเรียนสาธิต
โรงเรียนสาธิต เป็นโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของคณะศึกษาศาสตร์ หรือคณะครุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่ง เช่น สาธิตจุฬาฯ สาธิตมศว สาธิตมธ. ฯลฯ มีทั้งโรงเรียนรัฐบาลและเอกชน ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัยที่อยู่ในสังกัด ใช้เป็นสถานที่ศึกษาวิจัยงานต่างๆ และเป็นสถานที่ฝึกการปฏิบัติงานของนิสิตครูก่อนจะสำเร็จการศึกษา
หลักสูตรของโรงเรียนสาธิต
- การเรียนการสอนยังคงอยู่ภายใต้หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ แต่โรงเรียนสาธิตจะมีอิสระในการพัฒนาหลักสูตรของตัวเองด้วย
ค่าเทอมของโรงเรียนสาธิต
- ค่าเทอมอยู่ในระดับปานกลางถึงสูง ประมาณ 25,000 - 60,000 บาทต่อปี
จุดเด่นของโรงเรียนสาธิต
- อยู่ภายใต้การดูแลของมหาวิทยาลัยต่างๆ
- มีแนวทางการเรียนรู้หลากหลายศาสตร์ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตจริง โดยที่นักเรียนสามารถออกแบบการเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ เช่น สาธิตจุฬาฯ มีวิชาเลือกมากกว่า 100 วิชา
- มีนวัตกรรมการสอนรูปแบบใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้แบบ Active Learning, การเรียนรู้ผ่านโครงงาน (Project-Based Learning)
- ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ และการคิดวิเคราะห์ ไม่เน้นท่องจำอย่างเดียว
- มีวิธีการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่างจากโรงเรียนรัฐบาล เช่น ประเมินผ่านความสามารถ หรือพัฒนาการของตัวผู้เรียน (Competency based) ด้วยการสังเกตการณ์, ถามตอบในห้องเรียน, ทำโปรเจกต์ ฯลฯ
ข้อสังเกตของโรงเรียนสาธิต
- โรงเรียนสาธิตมักรับเด็กเข้าศึกษาจำนวนจำกัด เพื่อประสิทธิภาพในการเรียน
- การแข่งขันสอบเข้าสูงมาก บางแห่งมีอัตราการแข่งขัน 1:20 หรือมากกว่านั้น
- บางโรงเรียนเปิดสอนในระดับมัธยมศึกษาเท่านั้น
อ่านรีวิวโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่
สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ : พื้นที่แห่งเสรีภาพ เพื่อสร้างพลเมืองโลกที่เคารพความต่าง https://www.dek-d.com/education/62121/
________________________________________________
4. โรงเรียนทางเลือก
โรงเรียนทางเลือก คือ โรงเรียนที่มีรูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่แตกต่างจากระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม เน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านการลงมือทำจริง และการตั้งคำถามมากกว่าท่องจำ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเด็กแบบองค์รวม ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสติปัญญา มากกว่าการเน้นเฉพาะผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการหรือการสอบแข่งขัน
หลักสูตรของโรงเรียนทางเลือก
- หลักสูตรของโรงเรียนทางเลือกอยู่ภายใต้กรอบของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ
- โรงเรียนทางเลือกแต่ละโรงเรียนจะมีเอกลักษณ์ และแนวทางการสอนที่หลากหลายขึ้นอยู่กับแนวคิดของโรงเรียนว่าต้องการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างไร เช่น บางโรงเรียนสอนนักเรียนด้วยการทำโปรเจกต์ต่างๆ (Project Approach)
ค่าเทอมของโรงเรียนทางเลือก
- ค่าเทอมของโรงเรียนทางเลือกนี้จะอยู่ระหว่าง 30,000 - 150,000 บาทต่อปี
- บางโรงเรียนมีการเรียนการสอน 2 เทอม แต่บางโรงเรียนอาจมีการเรียนการสอนถึง 3 เทอม
จุดเด่นของโรงเรียนทางเลือก
- การเรียนการสอนไม่เน้นท่องจำ เน้นการเรียนรู้นอกห้องเรียน
- เน้นการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ จากการลงมือปฏิบัติจริง
- เนื้อหาการเรียนการสอนจะมีลักษณะยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนตามความสนใจของเด็ก
- มีการเสริมวิชาที่เป็นทักษะชีวิตที่สามารถนำความรู้ประยุกต์ใช้ได้จริง
ขัอสังเกตของโรงเรียนทางเลือก
- โรงเรียนทางเลือกส่วนใหญ่จะมีค่าเทอมที่สูง รับนักเรียนจำนวนจำกัด
- บางโรงเรียนมีแนวทางเฉพาะที่อาจไม่เหมาะกับเด็กทุกคน
อ่านรีวิวโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่
เพลินพัฒนา : เรียนอย่างมีความสุข และประสบความสำเร็จ https://www.dek-d.com/education/62558/
________________________________________________
5. โรงเรียนสองภาษา
โรงเรียนสองภาษา (Bilingual school) คือ โรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เด็กสามารถเข้าใจเนื้อหาวิชาการในทั้งสองภาษา และสามารถสื่อสารได้ดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
หลักสูตรของโรงเรียนสองภาษา
- ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานของกระทรวงศึกษาธิการ
- โดยแต่ละโรงเรียนจะมีสัดส่วนการสอนเป็นภาษาอังกฤษแตกต่างกันไปตามจำนวนขั้นต่ำที่กระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดไว้
- บางโรงเรียนมีการบูรณาการร่วมกับหลักสูตรต่างประเทศ
ค่าเทอมของโรงเรียนสองภาษา
- ค่าเทอมของโรงเรียนสองภาษา อยู่ระหว่าง 70,000 - 150,000 บาทต่อปี
จุดเด่นของโรงเรียนสองภาษา
- การเรียนการสอนใช้ภาษาไทยควบคู่กับภาษาต่างประเทศ
- เด็กเรียนรู้ด้วยภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ 2 ตั้งแต่เริ่มต้น
- ได้เรียนกับครูเจ้าของภาษา (Native Speaker) โดยตรง
- ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายทั้งไทย และสากล
- บางโรงเรียนมีการสอนภาษาที่ 3 ควบคู่ไปด้วย เช่น ภาษาจีน, ภาษาญี่ปุ่น
ข้อสังเกตของโรงเรียนสองภาษา
- บางโรงเรียนอาจใช้การสื่อสารเป็นภาษาไทยมากกว่าภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น เนื่องจากครูผู้สอนบางท่านอาจไม่ใช่เจ้าของภาษาโดยตรง และนักเรียนส่วนใหญ่เป็นคนไทย
________________________________________________
6. โรงเรียนนานาชาติ
โรงเรียนนานาชาติ เป็นโรงเรียนที่มีการจัดการเรียนการสอนโดยใช้ หลักสูตรต่างประเทศ และใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน โดยมุ่งเน้นให้นักเรียนมีความสามารถทางวิชาการในระดับสากล และสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว
หลักสูตรของโรงเรียนนานาชาติ
- หลักสูตรต่างประเทศ เช่น American Curriculum, British Curriculum, International Baccalaureate (IB) ฯลฯ
ค่าเทอมของโรงเรียนนานาชาติ
- ค่าเทอมอยู่ในระดับที่สูง อยู่ระหว่าง 200,000 - 1,500,000 บาทต่อปี
จุดเด่นของโรงเรียนนานาชาติ
- หลักสูตรมาตรฐานสากล ได้รับการยอมรับทั่วโลก
- อุปกรณ์การเรียนครบครัน สื่อการสอนทันสมัย
- ครูผู้สอนเป็นครูเจ้าของภาษา และมีครูผู้ช่วยเป็นครูไทย แต่ใช้การสื่อสารภาษาอังกฤษเป็นหลัก
- เรียนวันละไม่เกิน 4-5 วิชา เน้นพัฒนาทักษะชีวิต และ Soft Skills
- มีกิจกรรมหลากหลายที่ช่วยส่งเสริมทักษะต่างๆ ตามความสนใจ เช่น กีฬา ดนตรี ศิลปะ ฯลฯ
- นักเรียนต่อห้องเรียนน้อย ประมาณ 15-20 คน ทำให้ครูสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง
- เพิ่มโอกาสเรียนต่อต่างประเทศ
ข้อสังเกตของโรงเรียนนานาชาติ
- วิชาภาษาไทย วัฒนธรรมไทย และประวัติศาสตร์ไทย จะใช้หลักสูตรที่จัดทำขึ้นสำหรับโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งง่ายกว่าหลักสูตรของโรงเรียนไทยในรูปแบบอื่น
อ่านรีวิวโรงเรียนเพิ่มเติมได้ที่
King’s Bangkok: สร้างเด็กให้เติบโตไปใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในสังคม https://www.dek-d.com/education/62260/
จะได้เห็นว่า โรงเรียนแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียที่ความแตกต่างกันในเรื่องของหลักสูตร รูปแบบการเรียนการสอน ค่าเทอม ความเข้มข้นของเนื้อหา สภาพแวดล้อมการเรียนที่แตกต่างกัน ดังนั้น ก่อนที่พ่อแม่หรือน้องๆ จะตัดสินใจเลือกโรงเรียน ควรศึกษาถึงระบบการเรียนของโรงเรียนแต่ละเบบ รวมถึงความพร้อมและความถนัดของผู้เรียน เพื่อเลือกโรงเรียนที่เหมาะสมกับเด็ก และตรงตามความต้องการของพ่อแม่
ข้อมูลจากhttps://www.cututoronline.comhttps://www.rakluke.com/learning-all/education/item/2020-03-21-13-17-33-2.htmlhttps://www.rakluke.com/learning-all/education/item/bilingual-school.htmlhttps://www.amarinbabyandkids.com/school/public-school/https://theactive.thaipbs.or.th/news/20220218https://www.amnuaysilpa.ac.th/th-abouts/thinking-school
0 ความคิดเห็น